ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 189+190 เจ้าจะขโมยโฉนดที่ดินมาให้ข้าได้หรือไม่/ชายหญิงต่างกันตรงไหนหรือ?
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 189+190 เจ้าจะขโมยโฉนดที่ดินมาให้ข้าได้หรือไม่/ชายหญิงต่างกันตรงไหนหรือ?
บทที่ 189 เจ้าจะขโมยโฉนดที่ดินมาให้ข้าได้หรือไม่?
“ช่วยงั้นหรือ? ทำไมข้าจะต้องช่วยเขาอีกเล่า? หากข้าช่วยเขาอีกครั้ง เขาก็จะต้องก่อเรื่องและมาให้ข้าช่วยต่อไปเรื่อย ๆ! และต่อไปเขาก็จะกระด้างกระเดื่องกับข้า เจ้าไปพักผ่อนเถอะเสี่ยวเถา ปล่อยให้พวกเขาแม่ลูกร้องไห้อยู่ข้างนอกนั่นแหละ! ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา! เขาตายไปจากชีวิตข้านานแล้ว!”
เฉียวฮุ่ยยังคงพักอยู่ที่ตระกูลอวิ๋น ไม่ใช่เพราะนางรู้สึกผูกพันต่อคนโง่อย่างอวิ๋นหมิงเซียว แต่เป็นเพราะทรัพย์สินสุดท้ายของตระกูลอวิ๋นซึ่งเป็นคฤหาสน์ของบรรพบุรุษ
แม้ว่าเฉียวฮุ่ยจะเป็นที่รักของเศรษฐีหวัง แต่นางก็ไม่ได้โง่ นางรู้ว่าความงามของนางย่อมมีวันโรยรา ดังนั้นนางต้องเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของนางให้เร็วที่สุด
แม่ของนางไม่สามารถช่วยได้ สิ่งเดียวที่นางคิดได้คือคฤหาสน์บรรพบุรุษของตระกูลอวิ๋นหลังนี้ นางจะต้องหาทางเอามันมาเป็นของตัวเองให้ได้!
เสี่ยวเถาตอบรับอย่างเชื่อฟัง
ณ บริเวณนอกประตูคฤหาสน์ตระกูลอวิ๋น ชายคนหนึ่งที่มีไฝดำเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงจากไปต่อหน้าต่อตา เขาก็โกรธจัดจนเตะเข้าที่ท้องของอวิ๋นหมิงเซียว
อวิ๋นหมิงเซียวซึ่งยังคงหมดสติอยู่ก็ตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
ทันทีที่อวิ๋นหมิงเซียวลืมตาขึ้น เขาก็เห็นชายคนหนึ่งที่มีไฝสีเข้มบนใบหน้า จากนั้นก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสบนร่างกายของตัวเอง และจำได้ว่าเขาเล่นการพนันด้วยเงินที่เฉียวฮุ่ยมอบให้ แต่เขาก็ไม่ชนะและไม่ได้เงินมาสักเหรียญเดียว จนในที่สุดเขาก็เป็นหนี้อีกสิบตำลึง ในเมื่อไม่มีเงินจ่ายก็ถูกทุบตี!
”โอ้ ตื่นเถอะ ได้เวลาตื่นนอนแล้ว! บอกข้าทีว่าเจ้าจะจ่ายคืนเงินได้อย่างไร?” ชายไฝดำมองลงมาและเห็นอวิ๋นหมิงเซียวตื่นขึ้นมาแล้ว เขาจึงถามอีกฝ่ายที่นอนหมดสภาพด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เมื่ออวิ๋นหมิงเซียวได้ยินเสียงของชายไฝดำ เขาก็ถึงกับตัวสั่น แม้ว่าอีกฝ่ายจะผอมและดูอ่อนแอ แต่เขาก็โหดร้ายและวิปริตเป็นอย่างยิ่ง อวิ๋นหมิงเซียวยังจำได้ดีว่าเขาเจ็บตัวอย่างไรมาบ้าง!
”พี่ชาย ข้าจะจ่ายคืนให้เจ้า ข้าจะตอบแทนเจ้า!” อวิ๋นหมิงเซียวคว้าแขนเสื้อชายคนนั้น และอ้อนวอนเขาทั้งน้ำมูกและน้ำตาที่ไหลพราก
ชายไฝดำมองอวิ๋นหมิงเซียวด้วยความขยะแขยง “ข้าบอกเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่จ่ายคืนวันนี้ ข้าจะทำลายกระดูกของเจ้าทีละชิ้น ๆ แล้วรวมเข้าด้วยกันอีกครั้ง”
อวิ๋นหมิงเซียวรู้ว่าอีกฝ่ายสามารถทำในสิ่งที่พูดได้ เขาไม่ต้องการถูกทรมานเช่นนั้น
ทันใดนั้นอวิ๋นหมิงเซียวก็หันมาเห็นฮูหยินอวิ๋นที่กำลังร้องไห้
อวิ๋นหมิงเซียวรีบตะโกนว่า “ท่านแม่! ท่านแม่! ได้โปรดช่วยข้าด้วย! ข้าจะไม่เล่นการพนันอีกต่อไปแล้ว!! ท่านแม่! ท่านต้องช่วยข้า!”
เมื่อฮูหยินอวิ๋นได้ยินเสียงร้องของลูกชายที่ถูกเตะโดยชายไฝดำ หัวใจของนางก็เจ็บปวด “แม่จะช่วยเจ้า แม่จะช่วยเจ้าให้ได้ในวันนี้!!”
”เดี๋ยวก่อนนะ ข้าจะไปเอาเงินมา” ฮูหยินอวิ๋นจึงลุกขึ้นและวิ่งกลับเข้าไปในคฤหาสน์ นางวิ่งตรงไปที่ห้องของเฉียวฮุ่ย
ทันทีที่นางเข้าไปในห้องของเฉียวฮุ่ย นางก็ล้มลงและคุกเข่าลงข้างเตียง
เฉียวฮุ่ยกำลังจะเข้านอนก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงของฮูหยินอวิ๋น แต่ก่อนที่นางจะได้พูดอะไร นางก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของหญิงชรา
”เฉียวฮุ่ย ข้าขอร้องเจ้า ได้โปรดช่วยลูกชายของข้าด้วยเถิด! ข้าจะเป็นวัวและม้าสำหรับเจ้า! เจ้าสามารถทำอะไรก็ได้ ตราบใดที่เจ้าสามารถช่วยเขาได้ หรือเจ้าจะเอาชีวิตของข้าไปก็ได้ ขอแค่ช่วยหมิงเซียว! ฮือ ๆๆๆ!”
ฮูหยินอวิ๋นกำลังลากชุดของเฉียวฮุ่ยเหมือนฟางช่วยชีวิต และนางจะไม่มีวันปล่อยมือไป
เฉียวฮุ่ยลุกขึ้นนั่งกลอกตา พลางเลิกคิ้วขึ้นถาม “ไม่ว่าข้าต้องการให้เจ้าทำอะไร? เจ้าก็จะทำให้ข้างั้นหรือ?”
หญิงชราพยักหน้าทันที “ใช่ ตราบใดที่เจ้าสามารถช่วยหมิงเซียวได้”
”ข้าอยากให้เจ้าไปที่ห้องของพ่อเฒ่าอวิ๋น และขโมยโฉนดที่ดินของคฤหาสน์หลังนี้มาให้ข้า เจ้าจะทำมันได้หรือไม่?” เฉียวฮุ่ยผลักหน้าอกของฮูหยินอวิ๋นและพูดเบา ๆ
”ข้าจะทำ ข้าจะไปขโมยมันมาให้เจ้า ตราบเท่าที่เจ้าช่วยหมิงเซียวลูกชายของข้าได้!” ฮูหยินอวิ๋นรีบตอบตกลงโดยไม่ทันคิดให้ถี่ถ้วน
”นางเฒ่า เจ้าจะต้องรักษาสัจจะ ข้าจะช่วยลูกชายของเจ้าให้รอด” เฉียวฮุ่ยลุกขึ้นปรบมือและเดินออกไป
เมื่อเฉียวฮุ่ยมาถึงประตู ชายไฝดำก็เงยหน้าขึ้นมองและถามขึ้นว่า “นี่คือคนที่รับผิดชอบใช่หรือไม่?”
เฉียวฮุ่ยกระซิบคำหนึ่งออกมา และชายไฝดำก็มีสีหน้าหวานเชื่อมทันที
นางโบกมือให้ชายร่างใหญ่สี่คนพาชายไฝดำกลับไป
ชายไฝดำและชาวบ้านที่มามุงดูแยกย้ายกันไปแล้ว ในขณะที่ฮูหยินอวิ๋นและอวิ๋นหมิงเซียวเริ่มร้องไห้
…
บทที่ 190 ชายหญิงต่างกันตรงไหนหรือ?
เฉียวฮุ่ยไปหาฮูหยินอวิ๋นและพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “อย่าลืมสิ่งที่เจ้าสัญญากับข้า หากเจ้าไม่รักษาสัจจะ ข้าจะปล่อยให้คนเหล่านั้นกลับมา ข้าเพิ่งบอกว่าข้าจะคืนเงินให้พวกเขาภายในสิบวัน หากข้าไม่คืนเงิน หลังจากสิบวันพวกเขาจะมาเอาตัวอวิ๋นหมิงเซียวไปใช้แรงงาน เมื่อเขาทำงานชดใช้มากพอแล้วถึงจะได้กลับมา”
ฮูหยินอวิ๋นจับอวิ๋นหมิงเซียวไว้แน่น นางจะไม่มีวันปล่อยให้ลูกชายของนางไปที่นั่น
”ข้าบอกว่าข้าจะไปขโมยมันมาให้เจ้า” เฉียวฮุ่ยพ่นลมอย่างเย็นชา และกลับไปที่ห้อง
บัดนี้อวิ๋นซิ่วชิงยังคงอยู่กับผูเว่ยชาง กระทั่งมาถึงริมแม่น้ำในหมู่บ้าน
ผูเว่ยชางตระหนักได้ว่ายังคงจับมือของอวิ๋นซิ่วชิงอยู่ ใบหูของเขาร้อนขึ้น และเขาก็รีบปล่อยมือหญิงสาวอย่างรวดเร็ว “ข้าขอโทษ”
อวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้รู้สึกอะไรมากหากผู้ชายและผู้หญิงจะจับมือกัน แต่เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของผูเว่ยชาง มันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมา “ไม่เป็นไรหรอก”
หลังจากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็นั่งลงบนหิน มองเงาตัวเองที่สะท้อนอยู่ในแม่น้ำ
หญิงสาวยกมือขึ้นและสัมผัสใบหน้าของตัวเอง นางผอมลงกว่าตอนที่นางทะลุมิติเข้ามาใหม่ ๆ นางเคยมีตาเล็กตี่จนแทบมองไม่เห็นดวงตา แต่ตอนนี้ดวงตากลับโตขึ้น ใบหน้าเดิมของนางที่เคยบานแป้นเหมือนซาลาเปายักษ์ บัดนี้ก็ดูเล็กลงไปมาก
ผูเว่ยชางไม่รู้จะปลอบโยนอวิ๋นซิ่วชิงได้อย่างไร เขาแค่นั่งลงข้าง ๆ นางและขมวดคิ้ว ” ชิงเหนียง ข้าจะไม่ยอมให้พวกเขาเอาตัวเจ้าไป”
หลังจากที่ได้ยินประโยคนั้น นางก็ถามผูเว่ยชางว่า “ผูเว่ยชาง ตัวข้าดูแย่มากหรือ?”
ผูเว่ยชางมองใบหน้าขาวผ่องของอวิ๋นซิ่วชิงแล้วส่ายหัว “ใครพูดอย่างนั้น? เจ้าดูดีมาก”
หลังจากฟังคำตอบของอีกฝ่ายแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็ยิ้มออกมา “ข้าพยายามเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองทุกอย่าง แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่า ไม่ว่าข้าจะเป็นอย่างไรและเก่งกาจสักเพียงไหน แม่ของข้าก็ยังรักแต่พี่ชายซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวในบ้าน และไม่เคยไยดีหรือเห็นความดีในตัวข้าที่เป็นลูกสาว ข้าประหลาดใจนัก ชายหญิงมันต่างกันตรงไหนหรือ?”
”ไม่มีอะไรเลวร้าย จะผู้ชายหรือผู้หญิงย่อมไม่มีอะไรที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเจ้า เจ้ามีดีกว่าอวิ๋นหมิงเซียวมากนัก”
ผูเว่ยชางรักอวิ๋นซิ่วชิง
เขานึกอยากจะกอดและปลอบโยนนาง
อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ “เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าอิจฉาอวิ๋นหมิงเซียวมากแค่ไหน ไม่ว่าเขาจะสร้างปัญหามากเท่าไหร่ก็มีคนพร้อมให้โอกาสและปกป้องเขา ท่านแม่ของข้าไม่เคยดุด่าอะไรเขาเลย”
”ไม่มีอะไรให้น่าอิจฉา หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้า พ่อเฒ่าอวิ๋นก็จะดูแลและพร้อมจะปกป้องเจ้าด้วย อย่าโกรธเลย พ่อเฒ่าอวิ๋นดีกว่าฮูหยินอวิ๋นมาก บางทีอวิ๋นหมิงเซียวอาจเป็นฝ่ายอิจฉาเจ้าก็เป็นได้”
ผูเว่ยชางตบไหล่หญิงสาวอย่างใจเย็น
แม้ว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะไม่ได้เป็นลูกสาวที่แท้จริงของฮูหยินอวิ๋นเพราะนางได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในตระกูลนี้ แต่นางก็ยังคงมีรู้สึกโกรธเมื่อฮูหยินอวิ๋นประกาศต่อหน้าคนจำนวนมากว่านางต้องการขายลูกสาวเพื่อชำระหนี้ให้ลูกชาย
นางโกรธที่ทะลุมิติมาเกิดใหม่แล้วยังต้องมีแม่ที่ใจร้ายใจดำ เลือกที่จะขายลูกสาวในไส้ออกไปโดยไม่ลังเลเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อวิ๋นซิ่วชิงได้พยายามทำใจให้เย็นลงบ้างแล้ว ความโกรธที่สะสมอยู่ในใจของนางค่อย ๆ หายไปกับสายลม
ผูเว่ยชางพูดถูก ฮูหยินอวิ๋นมีอะไรดีกัน? นางเป็นเพียงหญิงชราที่แก่เพราะกินข้าว แถมยังไร้สาระและไม่มีสมอง นางจะเทียบเท่าพ่อเฒ่าอวิ๋นได้อย่างไร? พ่อเฒ่าอวิ๋นอยู่เคียงข้างนาง ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วที่ชีวิตนี้นางไม่จำเป็นที่จะต้องการฮูหยินอวิ๋น
อวิ๋นซิ่วชิงสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะผ่อนลมหายใจหดหู่ที่เหลือของนางออกมา “ตกลงผูเว่ยชาง ข้าจะไม่โกรธอีกต่อไป ตอนนี้เจ้ากลับไปเถอะ”
ผูเว่ยชางได้แต่ตกตะลึง ก่อนหน้านี้หญิงสาวถอนหายใจด้วยความเศร้าสลดหดหู่ แต่มาตอนนี้นางจะฟื้นจากความหดหู่มาได้อย่างไร?
อวิ๋นซิ่วชิงลุกขึ้นยืนและจัดเสื้อผ้าของตัวเอง ทันทีที่เงยหน้าขึ้น นางก็เห็นผูเว่ยชางยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม
หญิงสาวพูดติดตลกว่า “ทำไมเจ้าถึงยังนั่งอยู่ที่นั่นอยู่ได้? มันเริ่มมืดแล้วนะ เจ้าจะค้างคืนที่นี่หรือ?”
”ตอนนี้เจ้าสบายดีไหม? เจ้ายังโกรธอยู่หรือเปล่า?” ผูเว่ยชางถามสงสัยเพราะกลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะยังหลงเหลือความเครียดในใจของนางและทำร้ายร่างกายตัวเอง
”ไม่เป็นไร มีอะไรที่น่ารำคาญเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว? ถูกของเจ้า ข้ายังมีท่านพ่ออยู่ ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ข้าสบายดีจริง ๆ ข้าไม่รู้สึกแย่แล้ว!”
อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม