ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 11 ความดี
บทที่ 11 ความดี
หลู่ชีฉางถูกอวิ๋นซิ่วชิงพูดแทงใจดำจนเขาเถียงไม่ออก แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยให้นางหญิงอวดดีคนนี้ดูหมิ่นตนกับมารดาได้อีกต่อไป หลู่ชีฉางจึงหันไปหาแม่เฒ่าหลู่ที่กำลังตกตะลึงแล้วรีบขยิบตาส่งสัญญาณ
แม่เฒ่าหลู่ไม่เคยคิดมาก่อนว่า อวิ๋นซิ่วชิงจะกล้าสั่งให้นางกับลูกชายคุกเข่าขอโทษต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้าน
นางจำได้ว่าอวิ๋นซิ่วชิงที่นางรู้จักเป็นเพียงหญิงที่ทั้งโง่และอัปลักษณ์ ดังนั้นนางกับหลู่ชีฉางจึงกล้ามาเสนอหน้าที่นี่เพื่อกลั่นแกล้งคนตระกูลอวิ๋นและคิดแผนการปอกลอกเอาเงิน!
“ท่านผู้ใหญ่บ้านอย่าไปฟังนาง! ท่านรู้หรือไม่ว่าหลู่ชีฉางลูกชายข้าเป็นถึงบัณฑิต และต่อไปเขาจะมีชื่อเสียงในอนาคตเพราะกำลังจะสอบจอหงวน!”
แม่เฒ่าหลู่จ้องอวิ๋นซิ่วชิงด้วยแววตากินเลือดกินเนื้อ แม้พวกนางอาจจะพลาดท่าเสียแผนในวันนี้ แต่ก็จะไม่มีวันยอมปล่อยให้ลูกชายของนางยอมคุกเข่าขอโทษนางหญิงโคมเขียวอัปลักษณ์ตรงหน้า
ทันทีที่นางพูดจบ อวิ๋นซิ่วชิงก็เข้าใจในทันทีว่าแม่เฒ่าหลู่หมายถึงอะไร
เห็นได้ชัดว่าแม่เฒ่าหลู่กำลังข่มขู่ผู้ใหญ่บ้านทางอ้อม นางจึงเหยียดยิ้มก่อนจะตอบโต้แม่เฒ่าหลู่กลับไปบ้าง
“ใช่ หลู่ชีฉางจะสอบจอหงวนในอนาคต แต่ถ้าเขาสอบได้ตำแหน่งจอหงวนเป็นขุนนางขึ้นมา เขาก็จะต้องลืมตัว ไม่มีวันเห็นหัวใครอยู่แล้ว แล้วท่านก็ได้เห็นสิ่งที่เขาทำกับข้าและตระกูลของข้าแล้วนี่ หากท่านไม่ให้ความยุติธรรมกับข้าตั้งแต่ตอนนี้แล้วปล่อยเขาไป ต่อไปเขาจะต้องจัดการท่านแน่ ๆ!”
ท่านผู้ใหญ่บ้านขมวดคิ้ว เขาดูมีท่าทีลังเลอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขากำลังทำให้หลู่ชีฉางขุ่นเคืองและรู้สึกอับอายขายขี้หน้า และหากอนาคตข้างหน้า หลู่ชีฉางได้เป็นจอหงวนและตระกูลหลู่มีหน้ามีตาขึ้นมา ตัวเขาอาจเดือดร้อนได้
แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่อวิ๋นซิ่วชิงพูด ท่านผู้ใหญ่บ้านก็เริ่มคิดได้ ถ้าหากปล่อยไปและไม่ยอมคืนความยุติธรรมให้ครอบครัวสกุลอวิ๋น ต่อไปหากหลู่ชีฉางได้เป็นจอหงวน ชายคนนี้ต้องเล่นงานเขาแน่ ๆ!
ไม่ว่าทางใด ตระกูลหลู่ก็อาจเล่นงานเขาในภายภาคหน้า ดังนั้นก็ควรลงโทษพวกเขาเสียตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า!
ทว่าแม่เฒ่าหลู่ไม่ใช่คนโง่ นางดูออกทันทีว่าหญิงสาวตั้งใจจะยั่วยุพวกนาง และยังยืนกรานให้ผู้เฒ่าลงโทษพวกนางเป็นการแก้แค้น “อวิ๋นซิ่วชิง! เจ้าอย่าหลอกลวงคนอื่นให้มันมากนัก!”
หลี่ฟู่หลานที่ยืนอยู่ข้างหลังฝูงชนที่ต่างมาห้อมล้อมมุงดูเรื่องตลกระหว่างอวิ๋นซิ่วชิงและแม่ลูกตระกูลหลู่อย่างมีความสุขและสะใจ หลู่ชีฉางเป็นชายรูปงาม และนางเคยตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น แต่แล้วนางก็ต้องเศร้าไปหลายวันเพราะหลู่ชีฉางกลับไปเลือกนางอวิ๋นซิ่วชิงและไม่เคยเห็นนางอยู่ในสายตาเลย
แต่ในเวลานี้ นางก็ได้เห็นบุรุษที่นางเคยแอบตกหลุมรักอย่างชัดเจน รวมไปถึงศัตรูหัวใจอีกด้วย
ธาตุแท้และนิสัยของหลู่ชีฉางนั้นไม่มีดีสมกับหน้าตาเลยสักนิด แล้วไหนจะตัวอวิ๋นซิ่วชิงที่ทั้งอ้วนและหน้าตาอัปลักษณ์ จะมีดีก็แค่ฐานะที่ร่ำรวยเท่านั้น แล้วยิ่งหลี่ฟู่หลานหันมามองดูตัวนางเองที่มีรูปโฉมงดงามทว่ายากจน มันก็ทำให้นางรู้สึกไม่ค่อยชอบอวิ๋นซิ่วชิงเช่นกัน
และจากเหตุการณ์ตรงหน้านี้ มันยิ่งทำให้หลี่ฟู่หลานรู้ว่าที่แท้หลู่ชีฉางเลือกนางอวิ๋นซิ่วชิงเพราะเงิน!
เมื่อรู้เช่นนี้ มันทำให้หลี่ฟู่หลานรู้สึกมีความสุขและสะใจมาก
“ชิงเหนียง ที่เจ้าทำมันไม่มากเกินไปหน่อยหรือ? หลู่ชีฉางเป็นบัณฑิตเพียงคนเดียวในหมู่บ้านของเรานะ”
แม้นางจะมีความสุขที่เห็นสีหน้าโกรธเคืองของหลู่ชีฉาง แต่เมื่อหันไปมองอวิ๋นซิ่วชิงที่ยังคงมีสายตาที่เย็นชาและดูว่างเปล่าอย่างไร้ความรู้สึก นางก็ชักเริ่มรู้สึกไม่สะใจมากพอ
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงเห็นว่าท่านผู้ใหญ่บ้านดูผ่อนคลายแล้ว นางก็หันไปตามเสียงแหลมที่เรียกนางด้วยความรำคาญ ก่อนจะค้นพบว่าเจ้าของเสียงคือหญิงงามที่มีรูปร่างผอมบางอ้อนแอ้น
นางพยายามฟื้นความทรงจำของตัวเองจากเจ้าของร่างคนก่อน…รู้สึกว่านางจะชื่อ หลี่ฟู่หลาน ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลหลี่ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับนางทางทิศตะวันออกใช่หรือไม่? และรู้สึกว่าหญิงคนนี้จะอิจฉานางตั้งแต่ยังเด็กเลย
“นึกว่าใครที่ไหน? ที่แท้ก็เป็นหลี่ฟู่หลานคนงามนี่เอง หากแม่นางหลี่กล่าวช่วยหลู่ชีฉางเช่นนั้น เจ้าคงกำลังจะบอกข้าว่าข้าเป็นผู้หญิงไร้ค่าและสมควรโดนกระทำอย่างไรก็ได้ใช่หรือไม่? หรือเจ้าต้องการจะรับโทษแทนเขาโดยการไปยืนอยู่บนสะพานตรงทางเข้าหมู่บ้านแล้วป่าวประกาศว่า สิ่งที่หลู่ชีฉางทำไปนั้นถูกต้อง และจะไม่ปล่อยให้เขาขอโทษข้าใช่หรือไม่?”
ทันทีที่นึกความทรงจำขึ้นมาได้ อวิ๋นซิ่วชิงก็รู้ได้ทันทีว่าหลี่ฟู่หลานเป็นคนเช่นไร?
ผูเว่ยชางก็หัวเราะขบขัน มันเป็นครั้งแรกที่บุรุษอย่างเขาได้พบเจอผู้หญิงที่น่าสนใจเช่นนี้
เดิมทีชายหนุ่มกำลังจะจากไป แต่ตอนนี้เขากลับสนใจที่จะหยุดดูว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะจัดการคนปลิ้นปล้อนเหล่านี้อย่างไร?
หลี่ฟู่หลานก็ไม่คิดเลยว่านางหญิงอัปลักษณ์ตรงหน้าจะทำให้นางต้องอับอายขายขี้หน้าต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้าน ใบหน้างามของนางแดงก่ำด้วยความโกรธ ก่อนจะมีน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมา
คนงามเมื่อร้องไห้ แน่นอนว่าใครพบเห็นต่างก็รู้สึกสงสารและรักใคร่ทั้งนั้น อวิ๋นซิ่วชิงที่เห็นภาพนี้ก็ต้องถอนหายใจ…
ความงามย่อมมีประโยชน์เสมอไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยใด!
………………………………………………………………………………………………………………………..