ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 109+110 แม่สามีร้ายกาจกับลูกสะใภ้ไม่รักดี!/การทะเลาะเบาะแว้ง
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 109+110 แม่สามีร้ายกาจกับลูกสะใภ้ไม่รักดี!/การทะเลาะเบาะแว้ง
บทที่ 109 แม่สามีร้ายกาจกับลูกสะใภ้ไม่รักดี!
เมื่ออวิ๋นหมิงเซียวเห็นแม่ตัวเองร้องไห้ เขาก็ชักเริ่มรำคาญ “ท่านแม่หยุดร้องไห้ได้ไหม? ตอนนี้สภาพท่านดูไม่ได้เลย!”
“หมิงเซียว…!!! ฮือ ๆๆๆๆ กลับมาหาแม่เถอะ!!!” ฮูหยินอวิ๋นยังคงคร่ำครวญ
ทันใดนั้นเฉียวฮุ่ยก็เดินเข้ามาแล้วตะโกนเรียกสามีตัวเอง อวิ๋นหมิงเซียวจึงรีบเข้าไปในห้องอย่างว่าง่าย ราวกับสุนัขที่เชื่อฟังเจ้าของ
หลังจากอวิ๋นหมิงเซียวจากไป ดวงตาของฮูหยินอวิ๋นก็เบิกกว้าง ลูกชายของนางไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน มันเกิดอะไรขึ้น?!
ฮูหยินอวิ๋นตระหนักได้ว่านังเฉียวฮุ่ยได้ควบคุมลูกชายของนางแล้ว นางจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้!
หญิงชรายกมือขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตาที่เต็มไปน้ำตาและน้ำมูก ก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปทำความสะอาดตัวเองพร้อมกับแต่งหน้าอีกครั้ง
ทางด้านหนึ่ง เฉียวฮุ่ยเหลือบมองอวิ๋นหมิงเซียวอย่างเย็นชาและถามว่า “ทำไมแม่ของเจ้าถึงรั้งเจ้าไว้?”
”นางแค่ร้องไห้สะอึกสะอื้น และบ่นว่าอวิ๋นซิ่วชิงโหดร้ายกับนางแค่ไหน?” อวิ๋นหมิงเซียวยืนข้างเฉียวฮุ่ยและทำท่าประจบประแจงภรรยา
”สมควรแล้ว” เฉียวฮุ่ยกล่าวขณะนั่งบนเก้าอี้ไม้ด้วยท่าทีสบาย ๆ นางเหลือบมองอวิ๋นหมิงเซียวอย่างเย็นชา “เจ้าออกไปได้แล้ว ข้าเหนื่อยและอยากจะนอนพัก แล้วเฝ้าหน้าประตูให้ข้า อย่าปล่อยให้แม่ของเจ้ามาปลุกข้าล่ะ!”
”เอาล่ะ เจ้าไปนอนเถอะ ข้าจะอยู่ตรงนั้นกับเจ้า” การถูกเฉียวฮุ่ยดุไม่ได้ทำให้อวิ๋นหมิงเซียวรำคาญ เขากลับรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ดี…
เฉียวฮุ่ยลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปที่เตียงพร้อมกับถอดรองเท้าแล้วหลับไป
ส่วนอวิ๋นหมิงเซียวยืนอยู่นอกห้องอย่างเงียบ ๆ เพื่อเฝ้าหน้าประตูให้เฉียวฮุ่ย
ฮูหยินอวิ๋นแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสที่สุดเพื่อเตรียมจะไปปะทะกับเฉียวฮุ่ย แต่เมื่อนางมาถึง กลับเห็นลูกชายของนางยืนอยู่ที่หน้าประตู
ฮูหยินอวิ๋นเดินฉับ ๆ ไปหาเขาด้วยความโกรธ แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร ปากของนางกลับถูกมือของลูกชายปิดไว้เสียก่อน
นางดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง และพูดด้วยเสียงอู้อี้ว่า “เจ้าทำอะไรอยู่?! ปล่อยข้า! เฉียวฮุ่ยอยู่ไหน?!”
”ท่านแม่เงียบนะ!” ขณะที่อวิ๋นหมิงเซียวพูด เขาจับมือนางและกลับไปที่ห้องของเขา
หลังจากปิดประตูลง เขาก็ยืนอยู่หน้าประตู ฮูหยินอวิ๋นยังคงเคาะประตูและถามว่า “หมิงเซียว นี่มันเกิดอะไรขึ้น? บอกข้ามาสิว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เจ้าคิด เจ้ายอมเฉียวฮุ่ยมากกว่ายอมแม่ได้อย่างไร?! บอกข้ามาซิว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?!”
“ท่านแม่เงียบสักที! อย่าสร้างปัญหาให้ข้า!!” พูดจบ อวิ๋นหมิงเซียวก็ยืนอยู่หน้าประตูอย่างสงบเสงี่ยมอีกครั้ง
ไม่ว่าฮูหยินอวิ๋นจะเกลี้ยกล่อมลูกชายอย่างไร เขาก็ไม่ยอมเปิดประตู
1 ชั่วยาม*[1] ต่อมา เฉียวฮุ่ยก็ตื่นขึ้นจากการหลับอันแสนสบาย ก่อนจะร้องเรียกอวิ๋นหมิงเซียวแล้วเดินออกจากห้อง
ฮูหยินอวิ๋นรีบออกจากห้องตัวเองและไปที่ห้องของเฉียวฮุ่ย ทันทีที่เห็นนาง ฮูหยินอวิ๋นก็รีบเข้ามากระชากผมอีกฝ่าย!
“บอกข้ามา! เจ้าทำอะไรลูกชายข้า?! วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้า!!!” ฮูหยินอวิ๋นแผดเสียงสาปแช่งและดึงทึ้งผมเฉียวฮุ่ย
เฉียวฮุ่ยพยายามอย่างเต็มที่ที่จะต่อต้าน และพูดกับอวิ๋นหมิงเซียวว่า “หมิงเซียว กำจัดนังแก่บ้าคนนี้ไปให้พ้นหูพ้นตาข้า! ไม่งั้นเจ้าลำบากแน่!!!”
เมื่อมองดูหญิงทั้งสองรุมทึ้งกันไปมา อวิ๋นหมิงเซียวก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ชีวิตของอวิ๋นหมิงเซียวในตอนนี้อยู่ในมือของเฉียวฮุ่ย ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นเท่านั้น แต่ตัวเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ดังนั้นจึงตัดสินใจวิ่งไปที่ห้องของท่านพ่อเพื่อขอความช่วยเหลือ!
ก่อนที่เขาจะเข้าไปในห้องของพ่อ เขาตะโกนขึ้นว่า “ท่านพ่อ! ท่านพ่อ!”
อวิ๋นซิ่วชิงถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงของเขา นางแน่ใจว่าเป็นอวิ๋นหมิงเซียวที่ร้องเรียกพ่อของนาง
หญิงสาวจึงรีบลุกจากเตียงและวิ่งไปที่ห้องของผู้เป็นพ่อ
เมื่อพ่อเฒ่าอวิ๋นกำลังคิดจะทำอาหารให้อวิ๋นซิ่วชิงในครัว ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนของอวิ๋นหมิงเซียว
พ่อเฒ่าอวิ๋นเดินออกจากครัวด้วยความมึนงง ครั้นเห็นอวิ๋นหมิงเซียววิ่งมาหา ชายชราก็ขมวดคิ้วและพูดเบา ๆ ว่า “ไม่ต้องตะโกนก็ได้ มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านพ่อ! ท่านแม่กับเฉียวฮุ่ยกำลังทะเลาะกัน ข้าห้ามพวกนางไม่ได้เลย!” อวิ๋นหมิงเซียววิ่งไปหาพ่อด้วยความกระวนกระวาย
พ่อเฒ่าอวิ๋นขมวดคิ้วและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็รีบเดินไปที่ลานตามที่อวิ๋นหมิงเซียวนำไป แต่ทันทีที่ออกจากลานบ้าน เขาก็พบอวิ๋นซิ่วชิง
อวิ๋นซิ่วชิงเหลือบมองอวิ๋นหมิงเซียวและถามพ่อเฒ่าอวิ๋นว่า “ท่านพ่อ ท่านกำลังจะไปไหน?”
[1] 2 ชั่วโมง
…
บทที่ 110 การทะเลาะเบาะแว้ง
พ่อเฒ่าอวิ๋นอธิบายให้ลูกสาวฟังว่า “ชิงเหนียง แม่ของเจ้าและเฉียวฮุ่ยกำลังทะเลาะกัน อวิ๋นหมิงเซียวมาขอให้ข้าช่วยไปห้ามพวกเขา”
อวิ๋นซิ่วชิงขมวดคิ้วพลางเหลือบมองพ่อเฒ่าอวิ๋นและอวิ๋นหมิงเซียวด้วยสายตาหวาดระแวง “ท่านพ่อ แต่ข้าเป็นห่วงท่าน ให้ข้าไปด้วย”
“นี่เจ้าทำท่าแบบนั้นหมายความว่าอย่างไร?! คิดว่าข้าจะหลอกทำร้ายท่านพ่องั้นหรือ?!” อวิ๋นหมิงเซียวเห็นท่าทางหวาดระแวงของน้องสาวก็โกรธขึ้นมา
อวิ๋นซิ่วชิงตั้งท่าจะเถียงกลับ แต่พ่อเฒ่าอวิ๋นห้ามไว้ เขาหันหลังกลับและพูดกับอวิ๋นหมิงเซียวว่า “เจ้าจะไปไหม?”
”ไปกันเถอะ! รีบไปเถอะ!”
เมื่อทั้งสามคนมาถึงห้องของเฉียวฮุ่ยก็เห็นพวกนางกำลังทะเลาะกันอย่างรุนแรง ทั้งสองคนมีเลือดออกตามใบหน้าและร่างกาย ผมพวกนางร่วงหล่นลงพื้น ไม่รู้ว่าใครดึงของใครออกมา
เมื่อมองลงไปที่เส้นผมบนพื้น อวิ๋นซิ่วชิงก็แอบรู้สึกเจ็บศีรษะขึ้นมาทันที
“เจ้าเป่าหูยุแยงอะไรลูกชายข้า?! ข้าจะฆ่าเจ้า!!! นังสารเลว!!” ฮูหยินอวิ๋นยังคงด่าทอสาปแช่งอดีตสะใภ้ไม่รักดี
แน่นอนว่าเฉียวฮุ่ยเองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน “นังเฒ่าหน้าเหม็น! เจ้าสิสารเลว! ต่อให้วันนี้เจ้าตาย ข้าจะไม่ให้หมิงเซียวซื้อโลงศพให้เจ้า!
นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อเฒ่าอวิ๋นเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ เขาต้องการแยกทั้งสองออกจากกัน แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
ครั้นมองไปที่เล็บยาว ๆ ของฮูหยินอวิ๋นและเฉียวฮุ่ย อวิ๋นซิ่วชิงก็ขมวดคิ้ว หากนางเข้าไปแยก นางอาจจะได้แผลกลับมาแทนเสียมากกว่า
ในเวลานี้ อวิ๋นหมิงเซียวได้แต่คุกเข่าลงต่อหน้าฮูหยินอวิ๋นและเฉียวฮุ่ย เขาวิตกกังวลมากจนไม่สามารถทำอะไรได้
อวิ๋นหมิงเซียวแทบจะขอร้องท่านพ่อ “ได้โปรดช่วยข้าด้วย!”
แต่อวิ๋นซิ่วชิงกลับกดแขนพ่อตัวเองและพูดว่า “ท่านพ่ออยู่เฉย ๆ”
ทันทีที่นางพูดจบ นางก็วิ่งออกจากห้องไปที่ครัวเพื่อหยิบถังไม้เปล่าไปยังสวนหลังบ้านเพื่อตักน้ำเย็นจากบ่อน้ำ
อวิ๋นซิ่วชิงนำน้ำเย็นมาที่ห้องของเฉียวฮุ่ย ฮูหยินอวิ๋นและเฉียวฮุ่ยยังไม่ยอมแยกจากกัน นางจึงยกถังสาดน้ำเย็นใส่ทั้งสองคน!
ฮูหยินอวิ๋นและเฉียวฮุ่ยคล้ายกับถูกแช่แข็ง พวกนางยอมหยุดตีกัน
อวิ๋นซิ่วชิงโยนถังออกไปและพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าจบหรือยัง?”
พ่อเฒ่าอวิ๋นและอวิ๋นหมิงเซียวตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าการแยกทั้งสองคนมันจะง่ายดายเช่นนี้
”ท่านพ่อ ไปกันเถอะ” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าว และกำลังจะพยุงพ่อของนางออกไป
”พวกเจ้ายังไปไม่ได้!” ฮูหยินอวิ๋นรีบไปหาพ่อเฒ่าอวิ๋น และคว้าชายเสื้อของเขา
ตอนนี้ฮูหยินอวิ๋นตระหนักได้ว่านางต้องพึ่งพาสามีของนางเพื่อช่วยลูกชายของตัวเอง
”ปล่อยพวกเราไปเถอะ พ่อของข้าและข้าจะไม่มีส่วนร่วมในเรื่องบ้า ๆ ของเจ้า” อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างไร้อารมณ์
ฮูหยินอวิ๋นไม่สนใจอวิ๋นซิ่วชิง นางมองพ่อเฒ่าอวิ๋นด้วยสายตาอ้อนวอน น้ำตาไหลของนางรินไหลพลางพูดขึ้นว่า “ไอ้แก่ ข้าไม่รู้ว่าอะไรทำให้ลูกชายของเราหมกมุ่นอยู่กับนางมากจนเขาเอาใจและเคารพนางเสียยิ่งกว่าบรรพบุรุษจนแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าข้าเป็นแม่ ฮือ ๆๆๆๆ”
พ่อเฒ่าอวิ๋นผิดหวังในตัวนาง ตอนนี้เขาได้ยินคำพูดของนางแล้ว เขาไม่รู้ว่านางกำลังพูดความจริงหรือไม่? เพราะแต่ไหนแต่ไร ภรรยาตัวเองก็โกหกตลบตะแลงเก่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว…
“ก็ดีแล้วนี่ที่ลูกชายของเราดีกับภรรยาของเขา สมควรแล้ว” พ่อเฒ่าอวิ๋นไม่อยากยุ่งเรื่องฮูหยินอวิ๋นและลูกชายตัวเอง เขาพูดอย่างไร้อารมณ์ระคนเบื่อหน่าย ก่อนจะจากไปพร้อมอวิ๋นซิ่วชิง
เมื่อเห็นว่าพ่อเฒ่าอวิ๋นไม่สนใจนาง ฮูหยินอวิ๋นก็จากไปโดยตะโกนทิ้งท้ายว่า “ไอ้แก่!!! แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ!!”
เมื่อพ่อเฒ่าอวิ๋นได้ยินประโยคเหล่านี้ เขาก็นึกเสียใจที่แต่งงานกับนาง
เขาไม่น่าเลือกภรรยาผิดเลย…
หลังจากที่พ่อเฒ่าอวิ๋นจากไป เฉียวฮุ่ยก็จ้องมองฮูหยินอวิ๋นและเยาะเย้ยขึ้นว่า “สมน้ำหน้า! นังเฒ่าหน้าเหม็น!”
ครั้นฮูหยินอวิ๋นได้ยินสิ่งที่เฉียวฮุ่ยพูด ขาของนางที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าก็ชะงัก ก่อนจะหันมาเตรียมที่จะโต้เถียงกับอีกฝ่าย
ทว่าอวิ๋นหมิงเซียวรีบหยุดแม่ตัวเองไว้ เมื่อฮูหยินอวิ๋นถูกอวิ๋นหมิงเซียวลากออกไป นางจึงเห็นรอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้าของเฉียวฮุ่ย
แท้จริงแล้วหลังจากเฉียวฮุ่ยออกจากบ้านในวันนั้น นางก็ตรงกลับไปที่บ้านแม่ของตัวเอง
นางจางคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ นางคิดจะให้เฉียวฮุ่ยแต่งงานใหม่กับครอบครัวที่ร่ำรวยยิ่งกว่าเดิม นางผิดหวังในตัวอวิ๋นหมิงเซียวอยู่แล้ว และไม่ต้องการให้ลูกสาวตัวเองต้องมีชีวิตที่ตกระกำลำบาก ดังนั้นจึงพอใจที่ลูกสาวตัดสินใจเช่นนี้