ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 372 น้ำแกงเนื้อแกะใส่เก๋ากี้
ตอนที่ 372 น้ำแกงเนื้อแกะใส่เก๋ากี้
พักเรื่องของจี้อวิ๋นอวิ๋นกับโจวจื่อไว้ก่อน
หลายเดือนที่ผ่านมา หลายสิ่งในเมืองก็ได้เปลี่ยนไป
หลังจากจี้เจี้ยนอวิ๋นเปิดร้านขายข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านแล้ว ก็มีร้านค้าอีก 4 ร้านเปิดเพิ่มในอำเภ ภอเช่นกัน
เนื่องจากกิจการได้กระแสตอบรับดี หน้าร้านในเมืองมหาวิทยาลัยจึงมีบริการส่งถังแก๊ส ซึ่งร้านค้าแห่งอื่ น ๆ ก็มีบริการจัดส่งเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้แก๊สหุงต้มจึงมีราคาถูกลง เมื่อไม่มีค่าขนส่ง 2 หยวนแล้ว จี้เจี้ยนเยี่ยจึงไม่ได้รับเงินพิเศษ ได้เพียงเงินเดือนเท่านั้น
โชคดีที่หลายเดือนที่ผ่านมา บ้านของเขาสร้างใกล้เสร็จแล้ว
เขาต้องนำเงินเก็บของครอบครัวออกมาใช้ และยังติดหนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นอีก 2,000 หยวน มากกว่า 900 หยวนถูก กนำไปจ่ายค่าวัสดุก่อสร้าง
ครอบครัวของจี้เจี้ยนเยี่ยสร้างบ้าน 2 ชั้น เรียกได้ว่าเหนือกว่าชาวบ้านคนอื่น
แน่นอนว่าต้องได้ของขวัญสำหรับการย้ายเข้าบ้านใหม่ จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงให้ชุดอุปกรณ์เตาแก๊สและหม้ออั ดแรงดัน ซึ่งถือว่ามีราคาแพง
จี้เจี้ยนเหวินซึ่งอยู่เมืองเจียงสุ่ยส่งภาพซึ่งมีความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์และร่ำรวยกลับมาให้
จี้เจี้ยนกั๋วให้หม้อใบใหม่
จี้เจี้ยนเยี่ยย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่อย่างมีความสุข
เขาเพียงแค่รู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ตอนนี้เมืองมหาวิทยาลัยมีบริการส่งแก๊สแล้ว ตัวเขาจึงหมดหน้าที่ และไม่ได้ส่วนแบ่งมากนัก
ถึงอย่างนั้นก็ยังมีลูกค้าให้ไปส่งแก๊สในเมือง แต่มีจำนวนไม่มากนัก แค่ไม่กี่ถังเท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ ยังไม่ยอมใช้พวกมัน พวกเขายังใช้เตาฟืนกันอยู่
แต่ตัวอำเภอก็ยังเป็นตัวอำเภออยู่วันยังค่ำ การเติบโตของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก
พอถึงกลางเดือนหน้า หลี่จื้อก็ได้แต่งงาน
เจ้าสาวของเขาคือเหอเชี่ยน ลูกสาวผู้อำนวยการเหอ
เป็นเหอเชี่ยนที่ตามจีบหลี่จื้อก่อน ซึ่งหลี่จื้อเองก็ชอบหล่อนเช่นกัน ในที่สุดทั้งคู่จึงตัดสิน นใจใช้ชีวิตร่วมกัน และไปเจอพ่อแม่ของทั้ง 2 ฝ่าย
ผู้ใหญ่ของทั้งคู่พึงพอใจมาก แม้ผู้อำนวยการเหอจะยังติดใจเรื่องการหย่าของหลี่จื้อ แต่มันเป็นเรื่อ องเล็กน้อย ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ด้วยประเด็นสำคัญคือเขาเป็นคนดี
ส่วนลูกสาวของเขา หล่อนไม่ต้องการสิ่งอื่นใด ถึงอย่างไรครอบครัวของหล่อนก็มีเงินทองมากแล้ว
จี้เจี้ยนอวิ๋นได้รับเชิญจากผู้อำนวยการเหอให้มาร่วมฉลองด้วยกันเพื่อเป็นเกียรติให้กับหลี่จื้อ สำห หรับหลี่จื้อแล้ว จี้เจี้ยนอวิ๋นเป็นคนดีมาก ผิดกับจี้อวิ๋นอวิ๋นลิบลับ
หยวนหยวนถูกพาไปอยู่ที่บ้านลุงของเธอบ่อยครั้ง ถึงอย่างไรทั้งหลี่จื้อกับเหอเชี่ยนต้องไปสอนหนัง งสือ หยวนหยวนเป็นเด็กน่ารัก ไม่เคยร้องถามหาแม่กับหลี่จื้อ ทำเพียงอยู่บ้านทั้งวันอย่างว่านอนสอนง ง่าย
เสียงเสียงในวัยนี้พาเธอออกเล่นไปทั่ว เธอจึงร่าเริงสดใสขึ้นมาก
เด็กหญิงตัวน้อยยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก แต่เธอสนิทสนมกับเหอเชี่ยน จึงเปลี่ยนสรรพนามไปเรียกเหอเ เชี่ยนว่าแม่
หลังแต่งงานกันแล้ว เหอเชี่ยนกับหลี่จื้อจึงมาเยี่ยม พร้อมนำของขวัญมาให้ถึงบ้านมากมาย ซึ่งซูตานห หงก็ต้อนรับพวกเขาอย่างเป็นกันเอง
คุณแม่จี้ไม่ได้ลงมา ด้วยรู้ว่าหลี่จื้อแต่งงานใหม่แล้ว นางก่นด่าหลี่จื้อไม่หยุด จริงอยู่ที่ลู กสาวของนางทำผิดมาก่อน แต่หล่อนก็ต้องการแก้ตัวด้วยใจจริงในภายหลัง เป็นหลี่จี้อเองที่ไม่ยอมใจอ่ อน!
ซ้ำตอนนี้ยังแต่งงานกับเหอเชี่ยนอีกด้วย!
ร้านค้าของอวิ๋นอวิ๋นพังราบคาบด้วยฝีมือพ่อของเหอเชี่ยน ไม่อย่างนั้นหล่อนคงไม่ต้องหนีไปเมืองเจีย ยงสุ่ย และสูญเงินลงทุนไปแบบนั้น
เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขาแต่งงานกันแล้ว แต่หลานสาวยังอยู่กับนาง นางต้องดูแลเธอให้ด ดี ไม่ให้เหอเชี่ยนเอาตัวไปได้
ไม่อย่างนั้นนางจะทำอย่างไร หากหลานถูกสอนให้ไม่นับถือนางเป็นยาย?
หยวนหยวนจึงได้รับการสอนเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับแม่เลี้ยง หยวนหยวนไปบอกเสียงเสียง ก่อนเสียงเสียงจะไปพู ดกับแม่ของเขา
เขามาถามแม่ตนว่าแม่เลี้ยงจะดูแลลูกได้ไม่ดีจริง ๆ หรือ
ซูตานหงชะงักไป ทำไมเขาถึงถามแบบนี้กัน? หลังจากถาม จึงได้รู้ว่าเด็กหญิงเรียนรู้เรื่องผิด ๆ พวกนี้ มาจากคุณแม่จี้
ตอนที่เสียงเสียงมาถาม จี้เจี้ยนอวิ๋นก็อยู่ที่บ้านด้วย เขาเผยสีหน้าดำทะมึนออกมาทันที
จากนั้นเขาจึงให้ฉีฉีขึ้นไปนอนที่สวนกับพี่ชาย และทำเตียงเล็ก ๆ ให้หยวนหยวนที่บ้าน ช่วงหลังมานี้ เธอจึงนอนกับเสียงเสียง ไม่ได้ขึ้นไปที่บ้านยาย จะได้ไม่ต้องจำเรื่องผิด ๆ มาจากนางอีก
เสียงเสียงมาบอกหยวนหยวน ช่วยเธอเก็บของลงมาจากบ้านสวนก่อนบอก “หยวนหยวน ต่อไปนอนกับพี่นะ พี่จ จะพาเธอไปเล่น พาไปขี่ม้า ไม่ต้องอยู่กับคุณย่าแล้ว พอย่าแก่แล้วชอบพูดโกหก”
“โกหกเหรอ?” หยวนหยวนพึมพำ
“ต้องโกหกอยู่แล้วสิ ครั้งก่อนแม่เธอให้ลูกอมมาด้วยนี่ ถึงจะเป็นแม่เลี้ยง แต่ก็ดูแลเธอดีมากเลย ต่อ อไปนี้เดี๋ยวแม่เธอกับพ่อก็จะมาหาเธอทุกสุดสัปดาห์ ดีจะตายไป ย่าเล่าแต่เรื่องโกหก พ่อพี่บอกว่าย ย่าพูดโกหก ไม่ต้องไปฟัง” เสียงเสียงเอ่ย
“อย่าไปฟังย่า เธอห้ามเชื่อตามเด็ดขาดนะ เด็กดี” ฉีฉีบอก
หยวนหยวนพยักหน้า เธอยังเชื่อคำพูดของพี่ชายมากกว่า ไม่ได้ฟังสิ่งที่ยายของเธอบอกมา
หยวนหยวนเป็นเด็กเรียบร้อยและน่ารัก เด็กหญิงตัวน้อยว่านอนสอนง่ายและฉลาด ตอนนี้ยิ่งโตเธอยิ่งดูคล ล้ายคลึงกับหลี่จื้อ ไม่มีวี่แววของจี้อวิ๋นอวิ๋นแม้แต่น้อย เมื่อเธอเติบโตขึ้น จะต้องเป็นสาวสวยอ่อนโ โยนอย่างแน่นอน ซูตานหงภูมิใจในตัวเธอไม่น้อย
เธอหันมาทุ่มเทเลี้ยงดูหยวนหยวนแทนเยียนเอ๋อร์ แต่งตัวให้เด็กหญิงอย่างน่ามอง และบอกให้ยิ้มทุกครั้ งที่มองตัวเองในกระจกบานเล็ก
ซูตานหงยังสอนให้เธออ่านเขียน และนับเลขพื้นฐานอีกด้วย
หยวนหยวนตั้งใจเรียนมากทีเดียว เธอชอบอ่านหนังสือภาพ เมื่อใดที่ซูตานหงใช้เหรินเหรินให้ไปซื้อปาก กกาและหมึกมาให้ปู่บุญธรรม เขามักจะซื้อหนังสือภาพติดมาด้วย เธอจะได้เอาไประบายสีเล่น
“ชอบเด็กผู้หญิงมากเลยเหรอครับ?” จี้เจี้ยนอวิ๋นเห็นว่าภรรยาเอ็นดูเด็กหญิงตัวน้อย เขาจึงถามขึ้นเบา ๆ ในกลางดึกคืนนั้น
“จะไม่ชอบได้ยังไงคะ เธอว่าง่ายจะตาย ดูลูกชายสิคะ เอาแต่เล่นซนไปทั่ว” ซูตานหงบอก
พวกเขาอยากออกไปเล่นข้างนอก ราวกับว่ามีสัตว์ประหลาดอยู่ในบ้าน และไม่กลับมาจนกว่าจะถึงเวลากินข้าว
“อย่างนั้นมีสักคนไหมครับ?” จี้เจี้ยนอวิ๋นเอ่ยด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ฉันก็ว่าอย่างนั้นค่ะ” ซูตานหงรับคำ
เธอเองต้องการมีลูกสาวเช่นกัน เธอคิดเรื่องนี้มานานแล้ว หลายเดือนที่ผ่านมา เธอกับเขาไม่ได้ห่างหาย ยเรื่องทำนองนั้น ซ้ำเธอยังไม่ได้ป้องกัน เนื่องจากเสียงเสียงโตขึ้นมาก จนเธอไม่ต้องดูแลแล้ว
เพียงแต่เธอยังไม่ได้ตั้งท้องเท่านั้น
ร่างกายของเธอกับจี้เจี้ยนอวิ๋นสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกอย่าง โดยเฉพาะจี้เจี้ยนอวิ๋น ซึ่งพลังงานและเลือดลม มล้นเหลือ แต่กลับยังไม่ตั้งท้อง
“เดี๋ยวจะต้องสำเร็จแน่ครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นว่าเสียงกระเส่า
เขาตั้งท่าจะรังแกเธอ ซูตานหงตีเขาไปที ก่อนจะปล่อยเขาไว้อย่างโดดเดี่ยว
ตอนนี้เข้าเดือนพฤศจิกายนแล้ว เดือนก่อนเป็นหน้าแอปเปิ้ล จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงพาฉีฉีกับเสียงเสียงไปส่งของ ถึงที่ปักกิ่งด้วยกัน
หลังจากแอปเปิ้ลสุกได้ที่ เขาก็เก็บเกี่ยวพวกมันมาจำนวนมาก หลังจากใส่กล่องเรียบร้อย ก็ยังมีสินค้าขอ องแห้งอื่น ๆ ที่ต้องนำไปส่ง พวกเขานำสินค้าไปส่งมากมายมหาศาลเช่นเคย
อากาศหนาวมาสักพักหนึ่งแล้ว ยิ่งในช่วง 2 วันมานี้ที่เริ่มมีน้ำแข็งเกาะ
จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงวางแผนจะชำแหละแกะ
เวลานี้เหมาะสำหรับการชำแหละแกะมาก เพราะทุกคนนิยมกินน้ำแกงเนื้อแกะเพื่อสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย
ผู้อำนวยการเหอขับรถมาหาทันทีเมื่อได้ยินข่าวนี้
เขากำลังคิดอยากกินเนื้อแกะ ว่าจะแบ่งบางส่วนไปให้บ้านหลี่จื้อกับเหอเชี่ยน อีกส่วนจะนำกลับมา กินเอง เนื่องจากแม่เฒ่าเหอโปรดปรานน้ำแกงเนื้อแกะใส่เก๋ากี้ไม่น้อย
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ปลื้มปริ่มกับหลี่จื้อ ในที่สุดก็มีชีวิตคู่ที่ดีสักที แถมหยวนหยวนยังเข้ากับแม่ใหม่ได้ดีด้วย ส่ว วนนังแม่จี้คือไปไกล ๆ เลยค่ะ เลอะเลือนแล้วยังมาสอนอะไรผิด ๆ ให้หลานอีก