ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 363 มีเรื่องให้ทำตลอดเวลา
ตอนที่ 363 มีเรื่องให้ทำตลอดเวลา
ผู้ใหญ่บ้านถึงกับอึ้ง เขาคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะเรื่องเช่นนี้?
“เธอไม่ได้คิดจะทำฟาร์มม้าจริง ๆ เหรอ?” ผู้ใหญ่บ้านถามไปตามตรง “ฉันว่ากิจการนี้ก็ดูท่าจะไปได้ดีอยู่นะ เธอหาเลี้ยงชีพด้วยการทำปศุสัตว์ได้ ส่วนชาวบ้านก็จะได้มีรายได้ด้วย แต่ก็ต้องมีปัญหาแน่ หลายคนคงยินดีจะแย่งกันซื้อน่ะสิ!”
“ไว้ผมจะคิดเรื่องนี้นะครับ ผมเองก็ไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้เท่าไหร่ เดี๋ยวจะลองเลี้ยงพวกมันก่อนแล้วกันครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอก
ผู้ใหญ่บ้านเห็นว่าเขามีแผนอยู่ จึงไม่ได้พูดอะไรอีกและถามถึงเรื่องอื่น ๆ ก่อนจะเดินทางกลับ
ชาวบ้านคนอื่นต่างมาถามเรื่องแผนของจี้เจี้ยนอวิ๋นเช่นกัน และถามว่ามีม้าอยู่เท่าไร
จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงบอกจำนวน ซึ่งทำให้หลายคนถึงกับพูดไม่ออก
ม้าตัวเดียวนับเป็นราคาที่สูงแล้ว ม้า 7 ตัวนั้นต้องใช้เงินก้อนโตทีเดียว!
เด็ก ๆ ในหมู่บ้านต่างพากันอยากเห็นม้า เหรินเหริน ฉีฉี และเสียงเสียงจึงกลายเป็นเด็กที่น่าอิจฉาที่สุดในหมู่บ้าน
ทั้งจวี้จื่อ จิ้นจื่อ ต้าจื้อ และฉางจิ้นต่างกระตือรือร้นกันมาก พวกเขาต้องการมาทำงานที่สวนแห่งที่ 4
สิ่งสำคัญในการมาทำงานที่สวนนี้คือการรักษาสุขอนามัย โดยต้องทำทุกเช้า และทำซ้ำหลังเลิกงานในตอนเย็น ต่อให้จะทำปศุสัตว์ แต่อิฐปูถนนที่สวนแห่งที่ 4 นั้นกลับสะอาดหมดจด
เหรินเหรินและน้อง ๆ ต้องทำความสะอาดเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเถ้าแก่น้อยอย่างเขาจะไม่ต้องทำตาม แต่พวกเขาก็มาช่วยงานเช่นกัน
ครั้งนี้เมื่อจี้เจี้ยนอวิ๋นซื้อม้ากลับมา ทั้งครอบครัวมีความสุขกันถ้วนหน้า
เยียนเอ๋อร์กับคนอื่น ๆ ต่างแวะมาดูม้า
เมื่อหลี่จื้อพาหยวนหยวนมาเยี่ยมญาติในวันเสาร์ หยวนหยวนก็ตกหลุมรักฝูงม้าในทันที
หยวนหยวนคุ้นเคยกับบ้านของลุงสามดี เนื่องจากหลี่จื้อพาเธอมาบ่อยครั้ง เธอชอบพวกมันมากทีเดียว
“คุณอา ให้หยวนหยวนอยู่ต่อนะคะ หนูจะพาหยวนหยวนไปเล่นด้วย เราจะมาแวะดูม้าทุกวันเลยค่ะ!” เยียนเอ๋อร์บอก
เธอไม่ค่อยได้เจอลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าเธอนัก น้อง ๆ ของเธอเป็นผู้ชายทั้งหมด ยังไม่มีน้องสาวแม้แต่คนเดียว
“พ่อขา” หยวนหยวนสบตาผู้เป็นพ่อ เด็กหญิงตัวน้อยกล้าพูดมากกว่าก่อน เมื่อก่อนต่อให้เธอต้องการอยู่ต่อ เธอมักจะไม่กล้าบอก ตอนนี้สามารถมองหน้าพ่อและแสดงความต้องการของตนได้แล้ว
“ได้สิ แต่ลูกต้องเป็นเด็กดีนะ ห้ามวิ่งเล่นเองไปทั่ว ตามพี่ ๆ เขาไปได้เท่านั้น เข้าใจไหมลูก?” หลี่จื้อยินดีจะปล่อยลูกสาว และให้อยู่เล่นกับเหล่าพี่ ๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดี เด็ก ๆ จะได้ร่าเริงสดใส
“ได้ค่ะ!” หยวนหยวนท่าทางดีใจ
เยียนเอ๋อร์พาเธอไปดูวัวกับม้า เสียงเสียงตามพวกเขาไป รวมถึงต้าเฮยด้วย
หลี่จื้อมาบอกกับซูตานหง ซูตานหงไม่ได้ปฏิเสธ และบอกให้เขากลับไปเอาเสื้อผ้าของเธอมา
หยวนหยวนเป็นเด็กว่าง่าย ไม่รู้ว่าในอนาคตเธอจะเหมือนจี้อวิ๋นอวิ๋นหรือไม่ แต่ตอนนี้เธอเป็นเด็กหญิงแสนน่ารัก มีนิสัยผิดกับผู้เป็นแม่ลิบลับ
อีกทั้งยังมีเยียนเอ๋อร์คอยดูแลอยู่ เยียนเอ๋อร์เป็นคนรอบคอบ และซูตานหงก็รู้ว่าคงไม่เกิดอะไรขึ้น
จนถึงตอนนี้เด็ก ๆ ในหมู่บ้านไม่มีเรื่องอะไรน่าเป็นห่วง ชาวบ้านต่างเลี้ยงดูกันมาอย่างดี มีบางคนที่เตรียมปูทางอันเหมาะสมให้
ตอนนี้หากใครถูกจับได้ว่าไปก่อเรื่อง พวกเขาจะถูกตีด้วยไม้เรียว ทุกคนทำงานร่วมมือกัน จนไม่ต้องถึงมือตำรวจ
พวกเขาถูกตีราวกับขอทาน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ใครกันจะกล้าลองดี!
หยวนหยวนอยู่ที่นี่ได้พักใหญ่ คุณแม่จี้เอ็นดูเยียนเอ๋อร์กับหยวนหยวนมาก คนหนึ่งเป็นลูกสาวของลูกชายคนเล็ก อีกคนเป็นลูกสาวของลูกสาว นางจะไม่รักได้อย่างไร?
เยียนเอ๋อร์กับหยวนหยวนกินข้าว อาบน้ำและนอนที่บ้านสวน เพราะมีสองพี่น้องอยู่ด้วย คุณแม่จี้จึงมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง
เนื่องจากเยียนเอ๋อร์ไม่เข้าใจว่าทำไมย่าจึงไม่ได้ทำงาน เธอเลยบอกว่าย่าเรียนรู้มาจากอาสาวของเธอ เธอยังจำได้ว่าอาสาวของเธอเป็นคนอย่างไร
คุณแม่จี้ไม่อาจตอบโต้การเทศนาของเธอได้ นางตกอยู่ในสภาพน้ำท่วมปาก จะพูดอะไรได้กันล่ะ?
นางจึงลุกขึ้นมาทำงานบางอย่าง หยวนหยวนมาช่วยทำงานอีกแรง เยียนเอ๋อร์ทั้งพาเธอไปเล่น และพาเธอไปทำงานด้วยกัน อย่างเช่นการมาให้น้ำฝูงไก่
พวกเธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นด้วยกัน สนุกสนานกันยกใหญ่ โดยเฉพาะที่สวนแห่งที่ 4 เสียงเสียงมาเรียกทั้งคู่ไปกินข้าวมื้อเช้า หลังกินเสร็จ พวกเขาก็ขึ้นมาขี่ม้าที่สวนแห่งที่ 4 กันต่อ
เป็นเพราะลูกม้าพวกนี้ พวกลูกวัวทั้งหมดจึงถูกละเลยไป แต่พวกมันทั้งสองตัวก็ไม่สนใจ ยังคงเชื่องมาก ทั้งกินและนอนเรื่อยเปื่อยอย่างสบายอารมณ์
จี้เจี้ยนอวิ๋นหยุดงานในวันนี้โดยเฉพาะ และลงมือทำเหล้าเห็ดถั่งเช่าจำนวนมาก
เขาผสมขิง เห็ดถั่งเช่า และสมุนไพรอื่น ๆ เข้าด้วยกัน เทลงในขวดแก้วหนาใส่เหล้าขวดละ 2 ชั่ง เป็นจำนวน 5 ขวดเต็ม
หลังจากเทลงขวด มันก็ถูกนำไปเก็บที่ห้องเก็บของ ตอนนี้ที่บ้านผลิตของเหล่านี้ด้วย นอกจากเหล้าชนิดนี้ยังมีเหล้าน้ำผึ้งหมักอีกด้วย
เขาใช้น้ำผึ้งที่สวนในการหมักเหล้านี้ หมักจนได้มาโหลใหญ่ หนักราว 30 ชั่ง เขาแบ่งบรรจุเป็น 5 ขวดใหญ่ และเก็บเอาไว้ในห้อง
ซูตานหงกำลังทำน้ำแกง เป็นน้ำแกงไก่ดำกับเห็ดถั่งเช่า
ช่วงนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นดูแลตัวเองดีขึ้นตอนออกไปทำงานนอกบ้าน กำลังและเลือดลมของเขาดีขึ้นมาก แต่ยังคงเหนื่อยล้าจากการวิ่งวุ่นไปทั่วมาหลายวัน
จึงต้องได้รับการบำรุงร่างกาย
หลังจากจี้เจี้ยนอวิ๋นได้กินอาหารบำรุงไป 3 วัน เธอก็แทบต้านทานเขาไว้ไม่อยู่ เป็นธรรมดาที่ซูตานหงจะรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ผู้ชายกำยำอย่างเขาไม่ได้แตะต้องภรรยามานาน เขาจะหยุดเพียง 1 หรือ 2 ครั้งได้อย่างไรกัน?
ย่อมไม่มีทางอยู่แล้ว เมื่อคืนเขาทำไป 3 ครั้งได้ หลังเสร็จกิจครั้งที่ 3 ซูตานหงก็เหนื่อยล้าจนผล็อยหลับไป
เมื่อเห็นเขามีเรี่ยวแรงลุกขึ้นมาหมักเหล้าเช้านี้ได้ ซูตานหงจึงเริ่มคิดว่าเธอควรทำอาหารบำรุงให้เขาต่อไปหรือไม่
แต่เธอยังไม่ล้มเลิกความคิดจะทำอาหารบำรุง ไม่ได้หรอก เมื่อคืนเธอเสียพลังงานไปมาก เธอเองต้องกินอาหารบำรุงเสียหน่อยใช่ไหมล่ะ?
“คุณจะทำไปขายเหรอคะ?” ซูตานหงถาม เมื่อเห็นว่าเขาขนย้ายเสร็จแล้ว
“ไม่ได้ขายครับ แค่เก็บไว้กินเองในอนาคต” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอก
ช่วงนี้ซูตานหงไม่ยอมให้เขาทำงานหนัก เธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเขา สิ่งที่เขาทำไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เพียงแค่ทำตามกิจวัตรประจำวันเท่านั้น
“ฉันว่าจะตากปลาเค็มแล้วส่งไปที่ปักกิ่งค่ะ” ซูตานหงบอก
ตอนนี้แดดแรงแล้ว เป็นเวลาที่เหมาะสมในการตากปลา
“ครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นขานรับ
เขาเริ่มเตรียมตาข่ายที่ใช้ตากปลาโดยเฉพาะ หากในอนาคตสินค้าได้รับความนิยม ก็จะนำมาตากแห้งขายต่อไป
หลังวางตาข่ายไว้จำนวนมาก ซูตานหงจึงเรียกเขาเข้ามาเมื่อใกล้เสร็จงาน แม้เธอจะมีนิสัยเสแสร้งอยู่บ้าง แต่เธอก็ยังมีคุณธรรมอยู่เสมอ
หน้าที่ในการฆ่าปลาถูกส่งต่อให้ซูอันปังและลุงสวี่ ในขณะที่ซูตานหงกับป้าสวี่รับหน้าที่หมักปลาเค็มด้วยกัน
เธอทำปลาเผ็ดไม่มากนัก ส่วนใหญ่นำไปทำปลาเค็มตากแห้ง ซึ่งต้องใช้เกลือจำนวนมาก แต่ก็ทำให้รสชาติปลาเค็มตากแห้งอร่อยมากเช่นกัน
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โดนหลานสาวถอนหงอกแล้วไงแม่จี้ อายเด็กไหมนั่น
บ้านนี้ขยันหาทำขยันผลิตสินค้าใหม่ ๆ ไม่หยุดเลยน้า เอาพลังมาจากไหนกัน พลังแห่งถั่งเช่าหรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)