ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 283 ฤดูร้อนอันร้อนระอุ
ตอนที่ 283 ฤดูร้อนอันร้อนระอุ
ตอนนี้เป็นช่วงปลายเดือนกรกฎาคมแล้ว ในชั่วพริบตาเดียวก็ถึงเวลาที่ผลมะเดื่อสุก
มะเดื่อเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ซูตานหงชอบมากที่สุด ทุกปีเมื่อมันสุกเธอจะต้องกินเข้าไปไม่น้อย ปีนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น แม้ว่าเธอจะอยู่ในช่วงให้นมบุตร แต่ก็ยังกินได้ตามปกติ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังรู้สึกว่าหลังจากกินมะเดื่อแล้ว ดูเหมือนน้ำนมเธอจะไหลเพิ่มมากขึ้นด้วย
เสียงเสียงถูกป้อนนมจนตัวอวบอ้วน หากตอนนี้อุ้มเขาขึ้นไปบนภูเขา น่าจะลำบากคุณแม่จี้สักหน่อย อย่าว่าแต่คุณแม่จี้เลย แม้แต่คุณพ่อจี้ก็เช่นกัน เมื่อเห็นหลานชายตัวอ้วน ๆ ขาว ๆ เขาก็อยากจะเข้าไปอุ้มมากอดไว้สักครู่หนึ่ง
ครอบครัวของเธอมีมะเดื่อที่ปลูกไว้ไม่น้อย ต้นมะเดื่อทุกต้นล้วนออกผลมากมาย และต้นมะเดื่อกว่า 20 ต้นต่างก็ออกผลงอกงาม
นี่เป็นเพียงสวนผลไม้แห่งแรก ยังมีสวนผลไม้แห่งที่ 2 อีกด้วย
พวกมันทั้งหวานและรสชาติดี กินแล้วอร่อยมาก
ซูตานหงยังมีเวลาว่าง แต่จี้เจี้ยนอวิ๋นนั้นยุ่งมาก เขาสั่งกล่องพลาสติกใสชนิดพิเศษเป็นจำนวนมากเพื่อบรรจุมะเดื่อ แต่ละกล่องตั้งราคาขายไว้ 3 เหมา ข้างในมีมะเดื่ออยู่ 4 ผล ราคานี้ถือว่าไม่ถูกเลย นับว่าแพงมาก
แต่ด้วยบรรจุภัณฑ์ของเขา สินค้าจึงขายดีมาก โดยเฉพาะในเมืองมหาวิทยาลัย
บรรจุภัณฑ์แบบนี้ บวกกับราคานี้ โดยเฉพาะผลไม้รสอร่อยที่เมื่อแกะเปลือกออกมาก็เต็มไปด้วยเนื้อผลไม้รสหวานและชุ่มฉ่ำ มันจึงเหมาะมากสำหรับรับประทานเองที่บ้าน หรือซื้อเป็นของขวัญก็ไม่เลว
หากซื้อไว้กินเองที่บ้าน ซื้อ 3 ถึง 4 กล่องก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าให้เป็นของขวัญต้องซื้ออย่างน้อย 5 กล่องขึ้นไป
นับว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก
การเก็บผลไม้ในปีนี้ได้จ้างคนงานชั่วคราวมาช่วยอยู่หลายวัน ซึ่งซูตานหงยังคงเป็นเถ้าแก่เนี้ยเหมือนเช่นเคย เธอแค่พาลูก ๆ ไปทําอาหารอย่างที่ทุกคนเคยชินเท่านั้น
มีบางคนแอบกระซิบกระซาบกันว่านี่มันขี้เกียจเกินไปแล้ว งานของครอบครัวตัวเองแท้ ๆ ทำไมถึงไม่ช่วยเลย?
แต่มีบางคนพูดเพียงว่ามันเป็นเรื่องของครอบครัวคนอื่น เจี้ยนอวิ๋นเองก็เต็มใจ ยินดีที่จะเลี้ยงดูภรรยาของเขาราวกับเป็นฮองเฮาอยู่แล้ว งานอะไรเขาก็ย่อมไม่อยากให้เธอทํา มิเช่นนั้นจะจ้างพวกหล่อนมาทําไม?
พวกหล่อนมาที่นี่เพื่อทํางานไม่ใช่หรือ?
มีอะไรให้น่าอิจฉาชีวิตของคนอื่นล่ะ!
ดูลูก 3 คนที่พวกเขาเลี้ยงมาสิ อีกคนยิ่งน่ารักน่าชัง แถมบรรดาลูกสะใภ้ในหมู่บ้านต่างก็ชอบมาก จนอยากมาช่วยทำสวนผลไม้โดยไม่คิดเงิน เมื่อทํางานเสร็จก็แค่เอาผลไม้กลับไปกิน เพื่อดูว่าเด็กในท้องที่เกิดมาจะหน้าตาเหมือนเหรินเหรินหรือสามคนพี่น้องได้หรือไม่
ในขณะที่กำลังยุ่งอยู่กับสวนผลไม้ จี้เจี้ยนอวิ๋นยังคงต้องดูแลด้านอ่างเก็บน้ำ แน่นอนว่าเขาไม่จําเป็นต้องทำงานหนัก แต่บางครั้งก็ต้องไปดูแล
เมื่อกลับมาในเย็นวันนั้น ซูตานหงได้เตรียมอาหารเย็นแสนอร่อยรอเขาอยู่
น้ำซุปเป็นซุปปลาใส่สาหร่าย อาหารเป็นไข่ผัดมะเขือเทศ เนื้อปลาเป็นปลานิลยัดไส้ด้วยซอสขิงและหัวหอม ปลานิลน้ำหนักกว่า 2 ชั่ง และขาหมูตุ๋น ล้วนเป็นอาหารจานหนัก
จี้เจี้ยนอวิ๋นกินอย่างอิ่มเอมใจ เขายุ่งอยู่ข้างนอกทุกวัน แถมผู้คนยังพูดว่าภรรยาของเขาอยู่ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ แต่เขารู้ดีว่าเป็นเพราะภรรยาคอยบำรุงร่างกายของเขาทุกวัน ดังนั้นต่อให้เขายุ่งแค่ไหน ร่างกายก็ไม่มีวันทรุดโทรม
“มีน้ำต้มดอกสายน้ำผึ้งอยู่ในครัว คุณไปตักมาแช่เท้าเองนะคะ” ซูตานหงพูดขณะล้างจานและตะเกียบ
“ถูสบู่ให้หน่อยสิครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นมองมาที่เธอ
ซูตานหงจ้องตาเขาก็รู้ว่าคืนนี้เขาคงจะกลายเป็นปีศาจตัณหา จึงกลอกตาใส่เขาแล้วกล่าว “ไปแช่น้ำเองสิคะ อย่าลืมล้างจานด้วยล่ะ”
เธอพาเหรินเหรินกับฉีฉีออกไปพร้อมกับเสียงเสียงที่นอนอยู่ในรถเข็น โดยมีต้าเฮยเป็นองครักษ์ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของพวกเธอแม่ลูก
จี้เจี้ยนอวิ๋นยิ้มแล้วไปล้างจาน เขายินดีช่วยภรรยาทำงานบ้าน เมื่อภรรยาของเขาประทับใจ ตัวเขาก็จะได้กินเนื้อ
คืนนั้นจี้เจี้ยนอวิ๋นได้กินเนื้อไปถึง 2 ครั้ง จนรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
ซูตานหงก็พอใจเช่นกัน ตอนนี้เจี้ยนอวิ๋นของเธอช่ำชองมากขึ้น สามารถพาเธอขึ้นสวรรค์ได้ถึง 2 รอบ จะไม่พอใจได้อย่างไร?
เมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ผิวพรรณของเธอยิ่งดูดีเกินจะทนไหว ท่าทางอันเย้ายวนของเธอทำให้จี้เจี้ยนอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะกลืนกินเธออีกครั้ง
ลูกตั้ง 3 คนแล้ว นับได้ว่าเป็นผัวเก่าเมียแก่ ทว่าทำไมภรรยาของเขายิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์กันนะ?
“เมื่อคืนผมก็เหนื่อยเหมือนกันนะ งั้นวันนี้พักผ่อนอยู่ที่บ้านกันเถอะ” จี้เจี้ยนอวิ๋นพูดขึ้นมา
อันที่จริงแล้วเขาไม่ยินดีที่จะให้ภรรยาออกไปข้างนอกเพื่อให้คนอื่นมอง
ซูตานหงจะไม่รู้ความคิดของชายคนนี้ได้อย่างไร? จึงกลอกตาใส่เขา “ไปทำงานของคุณเถอะค่ะ”
เขาเป็นหนุ่มใหญ่วัย 30 แล้ว แต่เรื่องแบบนี้เขากลับทำตัวราวกับเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่เคยลิ้มรสการกินเนื้อมาก่อน ช่างน่าขันเสียจริง
จี้เจี้ยนอวิ๋นกำลังยุ่ง ผู้ชายคนนี้ไม่สามารถอยู่เฉยได้ เขาสามารถทำอะไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่ปล่อยให้เขาว่าง ไม่สำคัญว่าจะทำงานหนักหรือไม่ เขาสามารถทนต่อความยากลำบากได้
เนื่องจากอากาศร้อนมาก ซูตานหงกังวลว่าเขาจะเป็นลมแดด ดังนั้นในทุก ๆ วัน ดอกสายน้ำผึ้งและต้นป่านหลานเกิน* จึงถูกนำมาต้มเพื่อช่วยให้เขาคลายร้อน
* สมุนไพรของจีน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Isatis indigotica Fort. รากสามารถนำมาต้มเป็นยา มีฤทธิ์เย็น
ยังมีของว่างอื่น ๆ อีกหลายอย่าง แม้แต่นมมอลต์ เธอก็มักจะชงไว้ให้เขาดื่มกับพร้อมกับขนม
ผู้ชายคนนี้มีงานมากมาย เธอจึงทําอาหารอร่อย ๆ ให้เขากินทุกมื้อ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังหิวเร็วอยู่ สิ่งที่ซูตานหงทําได้ก็คือเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน จะมีอาหารเตรียมพร้อมให้เขารับประทาน
ขนมงาตัด ขนมถั่วลิสงตัด และถั่วเขียวต้มนั้นมีทุกวัน เนื่องจากครอบครัวมีสวนผลไม้ ทุกวันที่บ้านจึงมีผลไม้นานาชนิด
อะไรที่ในบ้านนี้มี บนภูเขาก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะถั่วเขียวต้ม เนื่องจากอากาศที่ร้อนระอุ คุณแม่จี้จึงต้มวันละหม้อ จากนั้นก็เรียกทุกคนมาดื่มคนละสองชาม ซึ่งช่วยคลายร้อนได้ไม่เลวเลย
ดังนั้นแม้ว่าฤดูร้อนนี้จะยุ่งมาก แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่เป็นลมแดด
พี่ใหญ่ของซูตานหงเป็นลมแดดเล็กน้อย เนื่องจากเขาทำงานกลางสวน หลังจากพักผ่อนเป็นเวลา 2 วันจนโรคลมแดดเกือบหายแล้ว จึงกลับมาทำงานต่อ
แน่นอน ไม่ใช่ว่าพี่ชายคนโตของเธอเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแล้วหรือ ในตอนนี้ต่อให้พี่ชายของเธอยังไม่หายดีนัก แต่เขาก็กลัวว่าจะถูกจี้เจี้ยนอวิ๋นไล่ออกจากงานและหาคนอื่นมาทำแทน หากเป็นเช่นนั้นความฝันของเขาที่จะสร้างตึกคงถูกทำลาย
อีกอย่างตอนนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นได้เพิ่มเงินเดือนขึ้นสูงมาก แล้วคนในหมู่บ้านรอบข้าง ใครบ้างล่ะจะไม่จับจ้อง?
ต่างก็คาดหวังให้มีตำแหน่งว่าง เพื่อจะได้แทรกตัวเองเข้ามา
ดังนั้นเขาจึงกลัว
ส่วนคนอื่น ๆ ที่เป็นโรคลมแดดก็ไม่อยากพักผ่อนแล้วเช่นกัน แต่จี้เจี้ยนอวิ๋นขอให้กลับไปพักผ่อนทันที อย่าแพร่โรคให้คนอื่น จึงได้กลับไป
แต่พวกเขาพักผ่อนกันสักวันสองวันก็หายแล้ว หลังจากนั้นก็กลับมาทำงานที่เหลือกันต่อ
ใครใช้ให้ปีนี้มีงานเยอะนักล่ะ?
ต้องเลี้ยงหมูถึง 35 ตัวเลยทีเดียว
อย่างเช่นจี้เจี้ยนเหอ ที่ถึงเขาจะป่วยเป็นลมแดดแต่ก็พักผ่อนแค่ 1 วัน วันรุ่งขึ้นเขาก็ไปส่งมันเทศและก้านผักกาดที่อ่างเก็บน้ำ หรือไปที่สวนผลไม้แห่งที่ 2 เพื่อช่วยพ่อของเขาเลี้ยงหมู นี่คือสิ่งที่เขาต้องทำทุกวัน และการไปส่งของให้ร้านค้าใกล้เคียงก็เป็นหน้าที่เขาเช่นกัน
แถมจี้เจี้ยนเหอยังต้องตรวจสอบบัญชีอีกด้วย ทุกครั้งที่เขาส่งบัญชีคืนกลับมาต้องคิดให้ถูกต้อง คราวที่แล้วเขาคำนวณผิดพลาด จนเกือบจะทำให้จี้เจี้ยนอวิ๋นลูกพี่ลูกน้องไล่เขาออก ไม่ต้องการให้เขามาแล้ว กระทั่งเขาค้นพบจุดผิดพลาดในบัญชีด้วยตัวเอง จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงไม่ทำอะไรกับเขา
แต่เรื่องนี้ทําให้เขารู้สึกกลัวมาก
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ฤดูร้อนอันร้อนระอุนี้เหรอจะสู้ความร้อนแรงของพี่จี้ได้ 555 ไฟลุกไม่เคยแผ่วเลยนะพี่
ถั่วเขียวต้มกินตอนอากาศร้อน ๆ นี่รู้สึกเย็นจริงๆ นะคะ ยิ่งเอาไปแช่เย็นก็คือฟิน
ไหหม่า(海馬)