ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1564 ประหลาดใจ
บทที่ 1564 ประหลาดใจ
…………….
บทที่ 1564 ประหลาดใจ
นางเชื่อว่าตราบเท่าที่นางทำงานหนัก โลกใบใหม่ที่อวี้ซูพูดถึงจะเป็นของนางและท่านแม่ของนางไม่ช้าก็เร็ว ใบหน้าของฟางเพ่ยหยาแสดงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ ซึ่งทำให้ถานอวี้ซูถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ตอนที่มา ถานอวี้ซูกับกู้เสี่ยวหวานพูดคุยกันว่าจะบอกฟางเพ่ยหยาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถานอวี้ซูจะเกลี้ยกล่อมฟางเพ่ยหยาที่นี่ และกู้เสี่ยวหวานจะเกลี้ยกล่อมท่านป้า เมื่อนางเกลี้ยกล่อมฟางเพ่ยหยาเสร็จ ทั้งสองก็จะกลับเข้าไป เมื่อเข้าไปในห้องก็เห็นกู้เสี่ยวหวานนั่งดื่มชาด้วยท่าทางผ่อนคลาย ในขณะที่ฮูหยินฟางนั่งอยู่ด้านข้างและดื่มชาอย่างช้า ๆ บรรยากาศดูผ่อนคลายกว่าเดิม
ถานอวี้ซูแอบมองกู้เสี่ยวหวาน และเห็นกู้เสี่ยวหวานยิ้มให้กับตัวเอง ถานอวี้ซูก็เข้าใจทันทีว่าภารกิจของท่านพี่ในการเกลี้ยกล่อมฮูหยินฟางเกือบจะสำเร็จแล้ว
ฮูหยินฟางสุขภาพไม่ค่อยดี และนางมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อฟางเจิ้งสิง ดังนั้นกู้เสี่ยวหวานจึงไม่สามารถบอกนางตรง ๆ ได้ว่า ฟางเจิ้งสิงต้องการแต่งงานใหม่หลังจากที่นางเสียชีวิต และไม่สามารถบอกนางตรง ๆ ได้ว่า นางและฟางเจิ้งสิงควรปล่อยวางเสียที
ความรู้สึกของผู้หญิงเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ฮูหยินฟางกังวลมากขึ้น หรือทำให้ฮูหยินฟางเกลียดพวกนาง ดังนั้นคำพูดของกู้เสี่ยวหวานนั้นคลุมเครือ แต่ทำให้ฮูหยินฟางสามารถคิดถึงการแต่งงานของนางเองและสามารถสัมผัสได้ถึงการดูแลเอาใจใส่ของผู้คนรอบข้าง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว
หลังจากนั่งไปสักพัก เมื่อเห็นฮูหยินฟางเหนื่อยเล็กน้อย กู้เสี่ยวหวานก็ลุกออกไป ทั้งสองบอกให้ฮูหยินฟางพักผ่อนมากขึ้นและขอตัวกลับทันที
ฮูหยินฟางยืนอยู่ในห้องด้านใน มองกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ จากไป ความจริงแล้วนางต้องการพูดอะไรบ้างอย่าง แต่คิดดูแล้วสิ่งที่นางต้องการจะพูดออกไปนั้นดูไม่ค่อยดีเท่าไร ดังนั้นนางจึงได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น
“เจ้ากลับไปดูแลท่านป้าให้ดี พวกเรามีสาวใช้ค่อยนำทางแล้ว เจ้าไม่ต้องออกมาหรอก” ฟางเพ่ยหยาอยากจะออกไปส่งกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ ที่ประตูบ้าน แต่กู้เสี่ยวหวานก็จับมือฟางเพ่ยหยาไว้ “วันข้างหน้าจะยิ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าต้องเตรียมใจไว้ให้ดี เรื่องราวเหล่านี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน เจ้าต้องอดทนและไม่ท้อถอย เจ้าเดินมาได้ครึ่งทางแล้ว ข้าเชื่อในตัวเจ้าและมันจะดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน”
“ท่านพี่ไม่ต้องห่วง ข้าเชื่อว่าชีวิตของข้าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะพยายามต่อไป และเมื่อพวกท่านมาครั้งหน้า พวกท่านก็จะได้เห็นรูปลักษณ์ที่สวยงามของข้าแน่นอน”
ทั้งกู้เสี่ยวหวานและถานอวี้ซูพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อพวกนางเดินออกไปนอกประตู กู้เสี่ยวหวานก็แสดงสีหน้าเศร้า นางจับมือฟางเพ่ยหยาไว้และพูดด้วยความกังวล “เพ่ยหยา เจ้าต้องดูแลร่างกายของตัวเองให้ดี ดูเจ้าสิ ข้าไม่รู้ว่าช่วงนี้เจ้าผอมลงแค่ไหน ฉะนั้นเจ้าต้องดูแลตัวเองด้วย”
ถานอวี้ซูพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ “ใช่แล้วเพ่ยหยา เจ้าต้องดูแลท่านป้าและดูแลตัวเองให้ดี แม้ท่านป้าจะไม่พูดอะไร แต่ข้าก็เห็นนางมองเจ้าอย่างเป็นห่วง ในใจของท่านป้าคงรู้สึกอึดอัดราวกับมีหนามทิ่มแทงใจ”
เมื่อเห็นทั้งสองคนพูดเช่นนี้ ฟางเพ่ยหยาก็เหลือบมองสาวใช้ที่อยู่ด้านข้าง และเข้าใจความหมายทันที ก่อนจะแสร้งทำเป็นเช็ดน้ำตา “ท่านพี่ อวี้ซู พวกท่านต้องมาหาข้าบ่อย ๆ นะ ฮือ… ท่านแม่ของข้า…”
ฟางเพ่ยหยาร้องไห้อย่างโศกเศร้าจนน้ำตาไหลออกมา
ฟางเพ่ยหยาบอกลาอย่างไม่เต็มใจ และเมื่อกลับไปที่ลาน น้ำตาของนางก็หายไปทันที
นางจะไม่เข้าใจการกระทำของท่านพี่และอวี้ซูได้อย่างไร ที่นั่นเต็มไปด้วยสายตาที่จ้องมองมา
โชคดีที่ท่านยายมองการณ์ไกลเพื่อจัดการสถานที่นี้แต่เนิ่น ๆ และสาวใช้ที่รับใช้ภายในก็เป็นคนของท่านยายทั้งหมด ยังมีคนสนิทของท่านแม่ พี่เลี้ยง และตัวเองอีก
พี่เลี้ยงจะเป็นคนจัดการเรื่องอาหารและเสื้อผ้าทั้งหมด หลังจากรับยาจากโรงหมอแล้วก็จะเก็บไว้ในตู้และลงกลอนอย่างแน่นหนา
สิ่งนี้สามารถป้องกันไม่ให้ใครทำสิ่งเลวร้ายได้
พี่เลี้ยงเตรียมยาด้วยตัวเอง นำเข้ามาเองและไม่เคยละสายตาจากมัน เสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้ทั้งหมดจะซักตากด้วยตนเอง แม้ว่ามันจะยากและเหนื่อยสักหน่อย แต่ก็คุ้มค่า
ภายใต้การป้องกันที่แน่นหนา สุขภาพของฮูหยินฟางฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว จากที่อาเจียนเป็นเลือดและไม่สามารถลุกจากเตียงได้ ตอนนี้ผิวของนางก็เริ่มมีเลือดฝาด และยังสามารถลุกจากเตียงแล้วเดินเป็นระยะหนึ่งได้ ต้องขอบคุณการทำงานอย่างหนักของพวกเขา
ฟางเพ่ยหยามาที่ห้องของฮูหยินฟาง ในห้องด้านใน ผ้าม่านถูกปิดลงเพื่อปิดกั้นแสงแดดจากภายนอก เพราะห้องเงียบมากจึงสามารถได้ยินการสนทนาระหว่างฟางเพ่ยหยาและพี่เลี้ยงกุ้ยได้
…………….