ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1499 เชื่อมโยงเป็นสายระโยงระยาง
บทที่ 1499 เชื่อมโยงเป็นสายระโยงระยาง
บทที่ 1499 เชื่อมโยงเป็นสายระโยงระยาง
แต่ไม่ว่าจะพยายามซ่อนตัวมากแค่ไหน ความสง่างามของนางก็ไม่สามารถปกปิดได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
หมอหลวงห่าวเหลียนสังเกตเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างหลังถานอวี้ซูก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย
ในตอนที่จวิ้นจู่เดินไปรอบ ๆ พระตำหนัก ข้าง ๆ มีสาวใช้สองสามคน หมอหลวงห่าวเหลียนก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
ทว่าในตอนนี้ ข้างกายของจวิ้นจู่ไม่มีสาวใช้ที่เขาเคยเห็นหน้าค่าตา แต่กลับมีหญิงสาวสวมผ้าปิดหน้าแต่งตัวดูดียืนอยู่แทน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าเป็นสาวใช้
เสื้อผ้านี้เป็นผ้าชั้นดี คนที่สามารถใส่เสื้อผ้าแบบนี้ได้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ แม้ว่าจะมองเห็นหน้าตาของแม่นางคนนี้ไม่ชัดเจน แต่ท่าทางสูงส่งที่อยู่เคียงข้างจวิ้นจู่ตรงนั้นไม่มีวี่แววขี้ขลาดและอ่อนแอ หรือถูกกลิ่นอายความเป็นจวิ้นจู่บดบัง
ตรงกันข้าม ความสง่างามดังกล่าวทำให้ห่าวเหลียนเห็นภาพลวงตาว่าสตรีผู้นี้เทียบได้กับสถานะอันทรงเกียรติของจวิ้นจู่
ห่าวเหลียนประหลาดใจ
จวิ้นจู่นั้นมีเสน่ห์จนสุดจะพรรณนา ส่วนจวิ้นจู่อีกคนก็กล้าหาญและเป็นวีรสตรี
จวิ้นจู่ทั้งสองคน คนหนึ่งสง่างามและอีกคนเป็นวีรสตรี ต่างก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง
ในเมืองหลวง นอกจากนางทั้งสองแล้ว ยังมีใครที่สง่างามกว่าจวิ้นจู่ทั้งสองอีกหรือ
หมอหลวงห่าวเหลียนเป็นหมอมาหลายสิบปีและถือเป็นผู้อาวุโสในวัง เขายังไม่เคยเห็นความงามเช่นนี้มาก่อน
แต่วันนี้เริ่มสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของแม่นางที่ยืนอยู่ข้างหลังจวิ้นจู่
อย่างไรก็ตาม จวิ้นจู่ไม่ยอมไม่บอกเขาอย่างแน่นอน และท่านหมอหลวงห่าวเหลียนก็รู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรถาม ดังนั้นจึงทำได้เพียงทักทายจวิ้นจู่และเดินจากไป
หมอหลวงห่าวยังสัญญาว่าหลังจากจ่ายยาเสร็จจะกลับมาดูฮูหยินฟางบ่อยครั้ง ฮูหยินหลูก็รู้สึกโล่งใจ
ส่งท่านหมอหลวงห่าวเหลียนออกจากจวนหลูแล้ว เมื่อกลับกลับมา ฮูหยินหลูก็โกรธจนหน้าเขียว แววตาเกรี้ยวกราดราวกับจะกินคน
เมื่อฟางเพ่ยหยาเห็นท่านยายดูก้าวร้าว ก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย “ท่านยาย ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ”
เห็นฮูหยินหลูนั่งอย่างอ่อนแรงบนที่นั่ง นอกจากจะโกรธแล้วก็ได้แต่โทษตัวเองและรู้สึกผิดอย่างสุดซึ้ง
ทุกคนเห็นท่าทางอกสั่นขวัญหายของฮูหยินหลู หัวใจทุกคนก็เต้นรัวจนไม่รู้ว่าจะหลุดออกมาจากอกเมื่อไร
“ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรหรือ” ซ่งจวินหัวถามในขณะที่ช่วยฮูหยินหลูถอดผ้าคลุมออก พานางไปที่เตียงนุ่ม ๆ แล้วเรียกสาวใช้ให้มาปรนนิบัติแม่สามี
ในที่สุด เมื่อฮูหยินหลูกลับมามีสติและกลับมามีสีหน้าปกติแล้ว ทุกคนก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ฮูหยินหลูมองไปรอบ ๆ ไม่พูดอะไร แต่ส่งสายตาให้สาวใช้ข้างกายพาสาวใช้คนอื่น ๆ ออกไป ตอนนี้เหลือฮูหยินหลู ซ่งจวินหัว เนี่ยอวี่ ฟางเพ่ยหยา ถานอวี้ซู และกู้เสี่ยวหวาน
แม้แต่สาวใช้ก็ไม่มีเหลือไว้สักคน
เมื่อไม่มีคนนอกอยู่ในห้องแล้ว ฮูหยินหลูจึงพูดว่า “พวกเจ้าคงได้ยินหมดแล้วที่หมอหลวงห่าวพบสิ่งแปลกปลอมจากอาหารและเครื่องหอม ทำให้เหวินซินป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของทุกคนไม่สู้ดีนัก ทุกสายตาจับต้องไปที่ฮูหยินหลูเพื่อรอให้นางพูดต่อ
“ข้าเพิ่งคุยกับท่านหมอหลวงห่าว หมอหลวงห่าวบอกว่าการใช้ยาทั้งสองชนิดนี้เป็นเวลานานจะทำให้เกิดพิษในร่างกาย การใช้ยาชนิดนี้ จะต้องมีคนรู้ว่าเหวินซินใช้ธูปหอมกลิ่นอีหลานเซียงทุกวัน แล้วยาอีกชนิดจะใส่ในอาหาร กินทุกวันเพียงเล็กน้อยจะส่งผลไม่ดีต่อร่างกาย ไม่คิดไม่ฝันว่าสิ่งนี้จะทำปฏิกิริยากับธูปหอมกลิ่นอีหลานเซียง”
ในปีนั้น ฟางเจิ้งสิงพาหลิวซื่อกับลูกอีกสองคนเข้ามาในตระกูลฟาง หัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความรักของหลูเหวินซินพลันแตกสลาย และด้วยความเป็นคนที่ไม่มีปากมีเสียงจึงถูกหลิวซื่อกีดกัน นอกจากนี้ท่าทีของฟางเจิ้งสิงยังส่งผลต่อหลิวเหวินซินมากยิ่งขึ้น
เริ่มทำให้นางกินไม่ได้นอนไม่หลับ
หลังจากที่ฮูหยินหลูทราบข่าว จึงพาท่านหมอเฉิงไปที่จวนฟาง
ตระกูลเฉิงดูแลตระกูลหลูตั้งแต่ท่านปู่จากไป ถ้ามีใครเจ็บปวดเล็กน้อยหรือเจ็บป่วยร้ายแรง หมอจากตระกูลเฉิงสามารถรักษาได้
นอกจากนี้ ท่านหมอเฉิงเป็นหมอที่มีความเมตตาและมีทักษะการรักษาที่ยอดเยี่ยม ฮูหยินหลูจึงไว้ใจเขามาก
แต่…
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ฮูหยินหลูก็อดคิดไม่ได้
หมอเฉิงคนนั้น ทำไมต้องใส่บางอย่างในธูปหอมกลิ่นอีหลานเซียง
ใส่ลงไปในเครื่องหอมจริงหรือ
เมื่อนึกถึงสิ่งที่หมอหลวงห่าวพูดก่อนจากไป ฮูหยินหลูก็ขมวดคิ้ว
“ใจเย็น ๆ ส่วนผสมในธูปหอมกลิ่นอีหลานเซียงนี้ไม่ผิด แต่ถ้ายานี้ถูกแทนที่ด้วยยาอื่น มันจะไม่ทำลายกล้ามเนื้อและกระดูกของผู้คน และยังทำให้มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย มันยากที่จะตัดสินตอนนี้ ท่านหมอรู้แค่นี้จริง ๆ ไม่รู้อย่างอื่นเลย หรือเพื่อต่อต้านยาในมื้ออาหาร ถ้าฮูหยินหลูต้องการรักษาอาการป่วยของฮูหยินฟาง ก่อนอื่นต้องหาตัวคนร้ายให้เจอ มิฉะนั้นจะถูกหลอกใช้ให้ทำร้ายฮูหยินฟางอีก”
หมอหลวงห่าวเหลียนให้คำแนะนำอีกเล็กน้อยและพูดสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษา
ในประตูหลักนี้ มีคนตาย บางคนก็เป็นบ้า
บ้านไหนที่มีเงินและมีอิทธิพลปิดประตู บ้านใดบ้างเล่าที่จะไม่มีสิ่งสกปรก
ท่านหมอหลวงเห็นฮูหยินหลูเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกสาว ดังนั้นจึงพูดขึ้นอีกสองสามประโยค
แม้ว่าท่านหมอหลวงห่าวจะไม่พูด ฮูหยินหลูก็สงสัย
ธูปหอมกลิ่นอีหลานเซียง แน่นอนแล้วว่าเป็นท่านหมอเฉิงทำมา
เช่นนั้นแล้วยาในมื้ออาหาร ใครใส่ลงไป?
และยังเป็นไก่ที่เหวินซินชอบกิน
เหวินซินชอบกินไก่ตุ๋น
เนื่องจากร่างกายนางกำลังฟื้นตัว ไก่ถูกยกเป็นสำรับของเหวินซินอีกครั้ง