ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 8 บทที่ 230 ท่านรับข้าไว้เถอะ
รถม้าไปถึงหมู่บ้านสกุลเซียวอย่างรวดเร็ว เซี่ยยวี่หลัวให้หยุดตรงปากทางเข้าหมู่บ้าน จากนั้นจึงสะพายตะกร้าเดินกลับบ้านเอง
เซียวจื่อเมิ่งและเซียวจื่อเซวียนเป็นคนนำเสื้อผ้าในบ้านไปซัก เซียวหมิงจูพบเข้า จึงเอ่ยถามเซียวจื่อเมิ่งว่าพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าไปไหน
เซียวจื่อเมิ่งเป็นคนซื่อสัตย์ จึงบอกตามตรง ว่าพี่สะใภ้ใหญ่ไปในตัวเมือง ตอนเที่ยงถึงจะกลับมา
เซียวหมิงจูได้ฟังดังนั้น ก็ไม่ซักเสื้อผ้าแล้ว เพียงซักอย่างขอไปทีจนเสร็จ โยนใส่ในถัง กลับห้องไปหยิบของสิ่งหนึ่งก่อนวิ่งตรงไปทางบ้านของเซียวยวี่
ทางไปบ้านเซียวยวี่ไม่ไกลมากนัก แต่เซียวหมิงจูกลับรู้สึกว่าหากระยะห่างนี้สั้นลงได้ก็คงดี เช่นนี้นางจะได้พบเซียวยวี่เร็วขึ้นอีก
ภายในบ้านมีเซียวยวี่อยู่คนเดียว ได้ยินเสียงเคาะประตูจากด้านนอก เซียวยวี่จึงมาเปิดประตู
เปิดประตูใหญ่ พอเห็นว่าเป็นเซียวยวี่ เซียวหมิงจูก็พุ่งพรวดเข้ามา ตื่นเต้นจนหยาดน้ำตาไหลริน นางพยายามฝืนกลั้นความรู้สึกตัวเอง บีบวงกบประตูแน่น ดวงตาคู่โตประหนึ่งผลซิ่งแฝงเร้นด้วยประกายความรัก จ้องมองเซียวยวี่เงียบๆ “พี่อายวี่…”
เซียวยวี่ขมวดคิ้วมุ่น ถอยหลังไปหลายก้าวอย่างเป็นธรรมชาติ เว้นระยะห่างที่ปลอดภัยกับเซียวหมิงจู “หมิงจู เจ้ามาได้อย่างไร? ”
“พี่อายวี่ นี่คือเสื้อตัวใหม่ที่ข้าทำให้ท่าน ท่านรีบลองสวมดู! ” ใบหน้าขาวเนียนของเซียวหมิงจูแดงจนเหมือนแต่งแต้มเครื่องประทินโฉม นางหยิบเสื้อขึ้นมาเทียบขนาดร่างกายเซียวยวี่ด้วยความเหนียมอาย
เซียวยวี่ถอยหลังไม่หยุด รักษาระยะห่างกับเซียวหมิงจูตลอด “หมิงจู ข้ามีเสื้อแล้ว เสื้อตัวนี้เจ้านำกลับไปให้ท่านลุงสี่ใส่เถอะ”
เซียวหมิงจูยังคงจับเสื้อพร้อมเข้าประชิดตัวอย่างต่อเนื่องราวกับไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น “พี่อายวี่ นี่เป็นผ้าที่ข้าเลือกมาด้วยตัวเอง ตัดเย็บตามขนาดเดิมของท่าน ข้าขยายให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ท่านลองดูดีหรือไม่ หากมีตรงไหนที่ไม่ดี ข้าจะแก้ให้ทันที เดี๋ยวท่านก็จะได้ใส่แล้ว”
เซียวยวี่ถอยหลังไม่หยุด สีหน้าของเขาเริ่มแสดงความไม่พอใจ แต่ยังคำนึงถึงไมตรีครั้งเก่าก่อน จึงกล่าวอย่างเรียบสงบ “หมิงจู ข้ามีเสื้อแล้วจริงๆ ”
เซียวหมิงจูไม่เชื่อ “พี่อายวี่ ท่านมีเสื้อกี่ตัว ใส่จนกลายเป็นอะไรไปแล้ว ข้าจะไม่รู้เชียวหรือ? ท่านมีเพียงเสื้อสองตัวที่ซักจนสีซีดแล้ว ท่านยังมีเสื้อดีๆ ที่ไหนกัน! พี่อายวี่ เสื้อตัวนี้ข้าหาเงินซื้อมาด้วยตัวเอง ท่านลองดูเถอะ! ”
พอเห็นเซียวหมิงจูยังคงเข้าใกล้ตัวเองอย่างต่อเนื่อง เซียวยวี่ถอยหลังไม่หยุด “หมิงจู ข้ามีเสื้อแล้วจริงๆ เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้”
เซียวหมิงจูบุ้ยปาก กล่าวด้วยท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจ “นอกจากเสื้อบนกายท่าน ยังมีอีกตัวที่เหมือนกัน ท่านเอาแต่บอกว่าท่านมี เช่นนั้นก็ได้ ท่านลองหาเสื้อที่ไม่เหมือนกันออกมาสักหนึ่งตัว ข้าก็จะนำเสื้อตัวนี้กลับไป! ”
เซียวยวี่เห็นนางยอมหยุดแล้ว จึงผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอีก เพียงเกลี้ยกล่อม “หมิงจู ข้ามีเสื้อแล้วจริงๆ ”
“ข้าไม่เชื่อ ท่านไม่นำออกมา ข้าก็ไม่เชื่อ! ” เซียวหมิงจูแสร้งทำทีเป็นไม่พอใจ
เซียวยวี่ไม่เคลื่อนไหว ได้แต่ทอดถอนใจด้วยความจนใจ “หมิงจู เจ้า…”
“หากท่านไม่นำเสื้อออกมาข้าก็ไม่เชื่อว่าท่านมี เมื่อท่านไม่มี ท่านก็ต้องรับเสื้อตัวนี้ไว้! ”
“เจ้าแน่ใจหรือ ว่าเจ้าจะดู? ” เซียวยวี่ถอนหายใจยาว ก่อนเอ่ยถาม
เซียวหมิงจูพยักหน้า “ต้องดูแน่นอน หากท่านหลอกข้าจะทำอย่างไร? ”
เซียวยวี่มองเสื้อในมือเซียวหมิงจูแวบหนึ่ง นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวเสียงเบาว่าได้ หันขวับเข้าห้องของตัวเอง พร้อมปิดประตูไว้
หลังจากปิดประตู เซียวยวี่คิดครู่หนึ่ง ก่อนถือโอกาสลงกลอนประตูไว้ด้วย
ใบหน้าเซียวหมิงจูฉายประกายยินดี นางคาดเดาว่าเซียวยวี่ต้องไม่สามารถนำเสื้อออกมาได้แน่นอน
เห็นเซียวยวี่เข้าห้องไป นางก็จะเข้าไป แต่ถึงตอนที่นางผลักประตู ประตูห้องกลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
เซียวยวี่ลงกลอนประตูจากด้านใน!
เซียวหมิงจูสีหน้าพลันขาวซีดในทันใด เซียวยวี่เข้าห้องไป กลับลงกลอนประตูด้วย?
ในจังหวะที่นางกำลังจะโมโห เซียวยวี่ก็ออกมาอย่างรวดเร็ว
เขาเปลี่ยนเสื้อที่เซี่ยยวี่หลัวทำให้ สีครามขับให้ตัวเขาดูสูงส่งสง่างาม ดั่งคุณชายผู้หล่อเหลาและงามสง่า
เซียวหมิงจูมองจนผงะไป
เสื้อบนกายเซียวยวี่ดีกว่าเสื้อในมือนางอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อผ้า สีสัน หรือการตัดเย็บ ล้วนเรียกได้ว่าเป็นระดับดีเยี่ยม
พอเปรียบเทียบกัน เสื้อในมือนางเหมือนตัวตลกก็มิปาน
สีหน้าเซียวหมิงจูพลันขาวซีดในทันใด
นางตวัดมุมปากเล็กน้อย พร้อมกล่าววาจาเหน็บแนม “นี่คงเป็นเสื้อที่เซี่ยยวี่หลัวซื้อมากระมัง? ก็ดูดีอยู่หรอก แต่จะเทียบกับเสื้อที่ข้าทำขึ้นด้วยตัวเองได้อย่างไร! ”
เซียวยวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ “นี่คือเสื้อที่อาหลัวทำด้วยตัวเอง! ”
ในห้วงความคิดของเซียวหมิงจูเกิดเสียงระเบิดดังตึ้ง “จะเป็นไปได้อย่างไร เซี่ยยวี่หลัวทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง นางจะตัดเย็บเสื้อเป็นได้อย่างไร! ”
เซียวยวี่จ้องมองเซียวหมิงจูอย่างเย็นชา ไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว
เมื่อเห็นดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยประกายไม่แยแสและหมางเมิน ความรู้สึกโกรธระคนเศร้าและความอิจฉาริษยาจึงทะลักออกมาราวกับน้ำที่ไหลบ่าออกจากประตูระบายน้ำ ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“พี่อายวี่ ข้าชอบท่าน! ท่านก็น่าจะรู้ ว่าข้าชอบท่าน! ” เซียวหมิงจูเดินขึ้นหน้าสองก้าว คิดจะโผเข้าพักพิงบนกายเซียวยวี่
เมื่อเห็นเซียวหมิงจูไม่ได้ฟังตนเองพูดเลยแม้แต่น้อย เซียวยวี่ก็ไม่อาจทนเพลิงโทสะที่เมื่อครู่นี้ฝืนสะกดไว้ได้อีก จู่ๆ ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน “เซียวหมิงจู สำรวมด้วย! ”
เสียงเรียกเซียวหมิงจู ในที่สุดก็ทำให้เซียวหมิงจูหยุดลง
มือของนางหยุดชะงัก เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ดวงตาคู่โตประหนึ่งผลซิ่งก็เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาไหลริน “พี่อายวี่ ท่านจะให้ข้าสำรวมอย่างไร? ”
เซียวยวี่ถอยหลังไปหลายก้าว ดวงตาคู่โตของเซียวหมิงจูเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาคลอเบ้า ต้องรู้ว่าช่วงที่ผ่านมา นางคิดถึงเขาจนแทบคลั่ง เมื่อได้พบหน้าอีกครั้ง เรื่องความสำรวมอะไร เรื่องชายหญิงแตกต่างอะไร ในเสี้ยววินาทีนี้ล้วนไร้ซึ่งความหมาย
เซียวหมิงจูโผเข้าหาเซียวยวี่ด้วยหยาดน้ำตาไหลรินเต็มใบหน้า “พี่อายวี่ ช่วงสามเดือนกว่าที่ท่านไม่อยู่ ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าคิดถึงท่านเพียงใด ข้าคิดถึงท่านจนแทบคลั่ง กลางวันข้าทำงาน ในหัวของข้ามีแต่ท่าน กลางคืนตอนนอนหลับ ในฝันก็มีแต่ท่าน ข้าคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าหากข้าได้ใช้ชีวิตร่วมกับท่านตลอดไปจะดีเพียงใด เช่นนั้นข้าต้องเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดบนโลกแน่นอน! ”
เซียวยวี่ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หมิงจู ข้าบอกกล่าวกับเจ้าอย่างชัดเจนว่าข้าแต่งงานแล้ว”
“พี่อายวี่ เวลานั้นมีคนอยู่เยอะ ท่านกล่าววาจาเช่นนั้นข้าไม่โทษท่าน ตอนนี้เซี่ยยวี่หลัวไม่อยู่ที่นี่ ท่านยังจะกล่าวเช่นนี้อีกหรือ? ข้ารู้ว่าท่านไม่ชอบเซี่ยยวี่หลัว! ”
เซียวหมิงจูน้ำตาไหลอาบข้างแก้มด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ เมื่อเห็นเซียวยวี่รักษาระยะห่างกับตัวเองอยู่ตลอด หัวใจแทบแหลกสลาย “ข้าชอบท่าน ตั้งแต่ท่านมายังหมู่บ้านสกุลเซียว ข้าก็ชอบท่านแล้ว ท่านก็น่าจะรู้ หากไม่ใช่เพราะเซี่ยยวี่หลัวเข้ามาแทรกระหว่างกลาง ข้าคงแต่งกับท่านนานแล้ว”
เซียวยวี่กล่าวด้วยท่าทีขึงขัง “หมิงจู ข้ากล่าวกับเจ้าอย่างชัดเจนมากแล้ว ต่อให้ไม่มีเซี่ยยวี่หลัว ข้าก็ไม่มีทางแต่งกับเจ้า! ตั้งแต่ต้นจนจบ ข้าเพียงปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนน้องสาวเท่านั้น”
“เซียวยวี่! ” เซียวหมิงจูหยาดน้ำตาไหลท่วมแก้ม จู่ๆ ก็กล่าวเสียงแหลม “เซี่ยยวี่หลัวเปลี่ยนไป ดังนั้นจึงทำให้หัวใจท่านเปลี่ยนไปด้วยเช่นนั้นหรือ? ข้าไม่เชื่อว่าเมื่อก่อนท่านไม่เคยชอบข้า! ”
เซียวยวี่กล่าวอย่างหนักแน่น “หมิงจู ข้าเห็นเจ้าเป็นเหมือนน้องสาวมาตลอด เช่นเดียวกับอาเมิ่ง หากก่อนหน้านี้ข้าเคยกล่าวอะไรหรือทำอะไรที่ทำให้เจ้าเข้าใจผิดว่าข้าชอบเจ้า ข้าต้องขออภัย ที่ทำให้เจ้าเข้าใจผิด แต่ข้าเซียวยวี่กล้าสาบานต่อฟ้า ว่าข้าเห็นเจ้าเป็นเหมือนน้องสาวเท่านั้น ไม่เคยมีความคิดเป็นอื่นแม้แต่น้อย”
“เช่นนั้นเหตุใดทุกครั้งที่ข้ามาบ้านท่าน ท่านถึงมอบสิ่งของให้ข้า? หากท่านไม่ชอบข้า เหตุใดท่านถึงมอบสิ่งของให้ข้า? ” เซียวหมิงจูซักถาม
กล่าวถึงเรื่องนี้ เซียวยวี่ขมวดคิ้วพร้อมกล่าว “เจ้าช่วยข้าทำความสะอาดบ้านและซักผ้า ภายในใจข้ารู้สึกขอบคุณ แต่ก็จนใจที่ครอบครัวตกอับ จึงไม่สามารถตอบแทนได้ ทำได้เพียงหาของเล็กๆ น้อยๆ มอบให้แทนคำขอบคุณ เพียงแต่ข้าไม่คาดคิดเลยว่า…”
ที่แท้เพราะเขามอบสิ่งของให้นาง เซียวหมิงจูจึงนึกว่าเขามีใจให้นาง
ทว่า เขาไม่เคยคิดเป็นอื่นกับนางจริงๆ !
เดิมทีตอนอาศัยในตัวเมือง ในบ้านจะมีคนสองคนมาช่วยทำอาหารและทำความสะอาดให้ พวกเขาไม่ใช่บ่าวรับใช้ในบ้าน ทำงานเสร็จก็จะไป ทุกครั้งมารดาของเขาจะให้เงิน ถือเป็นค่าแรง แต่ในภายหลังบิดามารดาล้มป่วย ในบ้านเขาไม่มีเงินแล้ว เหลือเพียงของมีค่าจำนวนหนึ่ง เป็นข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ที่นำมาจากบ้าน
เซียวหมิงจูผงะไป “ว่าไงนะ? ท่านเห็นข้าเป็นบ่าวรับใช้ที่ช่วยงานท่าน? ”
เซียวยวี่ขมวดคิ้ว “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น เจ้าช่วยเหลือข้า ข้าไม่มีสิ่งใดตอบแทน ได้แต่มอบของเล็กๆ น้อยๆ แทนคำขอบคุณ ข้าเพียงเห็นเจ้าเป็นเหมือนน้องสาว ไม่มีเจตนาเป็นอื่น! ”
เขาไม่อยากเอารัดเอาเปรียบผู้ใด ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านั้นบิดามารดาล้มป่วย เขางานยุ่งหัวหมุนจนเสมือนลูกข่างก็มิปาน เด็กสองคนอายุยังน้อย เขาเองก็ต้องดูแลบิดามารดา ไม่อาจปลีกตัวได้ ในเวลานั้น เซียวหมิงจูมาช่วยงานในบ้าน ทำให้เซียวยวี่รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก
ทว่า เขามีเพียงความรู้สึกเฉกเช่นพี่น้องต่อเซียวหมิงจูจริงๆ ไม่มีใจคิดเป็นอื่น
เซียวหมิงจูเพียงรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองราวกับถูกมีดทิ่มแทงครั้งแล้วครั้งเล่า ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความดุร้ายในชั่วพริบตา “เซียวยวี่… ข้าไม่อยากเป็นน้องสาวของท่าน ข้าจะเป็นผู้หญิงของท่าน ข้าจะเป็นผู้หญิงของท่าน! ”
เซียวหมิงจูราวกับคนเสียสติก็มิปาน ดึงทึ้งเสื้อตัวเองจนเผยให้เห็นไหล่มนกลม “พี่อายวี่ เซี่ยยวี่หลัวไม่อยู่บ้าน ท่านก็รับข้าไว้เถอะ! ข้าไม่ต้องการตำแหน่งฐานะ ข้าเพียงอยากอยู่กับท่าน ข้าก็พึงพอใจแล้ว”
เมื่อเห็นเซียวหมิงจูพุ่งพรวดมาราวกับสัตว์ดุร้ายก็มิปาน เซียวยวี่เบี่ยงหลบออกด้านข้าง หลบเลี่ยงนาง เมื่อเห็นท่าทางคลุ้มคลั่งของเซียวหมิงจู ดวงหน้าของเซียวยวี่ก็เริ่มฉายประกายโทสะ กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน “เซียวหมิงจู เจ้ามีสติหน่อย! ”
“พี่อายวี่ ท่านรับข้าไว้เถอะ ข้าขอเพียงได้อยู่กับท่าน ข้าไม่ขออะไรทั้งนั้น พี่อายวี่! ” เซียวหมิงจูร่ำไห้ไปพลางหัวเราะไปพลาง ราวกับคนเสียสติก็มิปาน
นางเผยไหล่มนสีขาวผ่องดุจหิมะของตนเอง เผยให้เห็นไหปลาร้าที่ดูงดงาม หมายจะกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาของเซียวยวี่
หากเพียงแต่ นางลืมไปว่าบุรุษตรงหน้าคือเซียวยวี่ เซียวยวี่ผู้ไร้ซึ่งความรู้สึก จิตใจเย็นเยียบ และเลือดเย็น