ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 14 บทที่ 409 ไปหาพี่สะใภ้ใหญ่ในตัวเมืองด้วยกัน
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 14 บทที่ 409 ไปหาพี่สะใภ้ใหญ่ในตัวเมืองด้วยกัน
ส่งสบู่ไปแล้ว ขวดแก้วก็อยู่ระหว่างการผลิต ส่วนน้ำยาสระผมและน้ำยาอาบน้ำก็ล้วนแต่ทำสำเร็จแล้วทั้งสิ้น เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกพึงพอใจยิ่งนัก
เซี่ยยวี่หลัวผ่อนลมหายใจยาว แต่ยังไม่วางใจ ต้องรอดูว่าถงเต๋อนำสินค้าชุดแรกไปขายได้ผลอย่างไร ถึงจะวางใจได้
ถึงอย่างไร สบู่ที่เซี่ยยวี่หลัวส่งไปขาย ราคาก็ไม่ถูกเลย
ปกติสบู่ของเซียงเก๋อที่ขายก้อนละยี่สิบอีแปะก็ถือว่าขายแพงแล้ว แต่เซี่ยยวี่หลัวขายแพงกว่าเท่าตัว นางกำหนดราคาไว้ที่ห้าสิบอีแปะ
ตอนแรกฮวาเหนียงกังวลใจมาก เกรงว่าราคานี้จะขายไม่ออก แต่เซี่ยยวี่หลัวกลับไม่กังวลเลย
ของบางอย่างตรงนี้ไม่ดีตรงนั้นไม่ดี มีดีที่ราคาถูกที่สุด แต่คนที่ซื้อได้ ก็มีเพียงชาวบ้านธรรมดาทั่วไปเท่านั้น
สินค้านี้แม้ราคาจะแพงไปบ้าง แต่ดีทุกด้าน ย่อมมีคนซื้อจำนวนไม่น้อย
ฮวาเหนียงเพิ่งเคยได้ยินทฤษฎีของเซี่ยยวี่หลัวเป็นครั้งแรก แต่พอลองครุ่นคิดโดยละเอียด ก็รู้สึกว่าที่เซี่ยยวี่หลัวกล่าวมานั้นไม่ผิด
“เช่นนั้นน้ำยาอาบน้ำและน้ำยาสระผมของเจ้า จะกำหนดราคาเท่าใดกัน? ” ฮวาเหนียงคิดว่านางควรเตรียมใจไว้บ้าง หากผลิตสบู่ชุดนี้เสร็จแล้ว ก็ต้องส่งน้ำยาสระผมและน้ำยาอาบน้ำไปที่เมืองหลวงอีก
เซี่ยยวี่หลัวนิ่งเงียบครู่หนึ่ง ก่อนจะแสร้งทำทีเป็นล้อเล่น “ขวดละหนึ่งตำลึง ฮวาเหนียง ท่านคิดว่าเป็นเช่นไร? “
ฮวาเหนียง “…”
นางเคยเห็นขวดที่เซี่ยยวี่หลัวสั่งทำ ไม่ใหญ่ ตัวขวดกว้าง ปากขวดแคบ บรรจุได้ไม่มากเท่าไรนัก
ถือว่านางไม่ได้ถามก็แล้วกัน
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้ล้อเล่น นางจะกำหนดราคาที่ขวดละหนึ่งตำลึง
ฮวาเหนียงไม่ได้ขัดขวาง และรู้ว่าตัวเองขวางไม่ได้ หนึ่งตำลึงก็หนึ่งตำลึง หากขายไม่ออกค่อยลดราคาก็พอแล้ว
นางเคยใช้น้ำยาสระผม ใช้สระแล้วผมทั้งสะอาดทั้งหอม และเรียบลื่น ยังมีน้ำยาอาบน้ำ ใช้อาบแล้วผิวกายนุ่มลื่น และหอมละมุน ใช้ได้ดีกว่าสบู่มากนัก
ถึงเวลาหากราคาแพงเกินไปขายไม่ออก ค่อยให้เซี่ยยวี่หลัวลดราคาลงหน่อย ต้องขายออกจนหมดแน่นอน!
เซียวยวี่เก็บตำราเสร็จ เตือนนักเรียนไม่ให้ลงเล่นน้ำ คาบเรียนในวันนี้ก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว
พรุ่งนี้เป็นวันหยุด เด็กๆ ดีใจ ส่วนเซียวยวี่ดีใจยิ่งกว่า
พรุ่งนี้มีเวลาอยู่กับอาหลัวทั้งวัน ไม่มีเรื่องอะไรจะน่าดีใจเท่าเรื่องนี้อีกแล้ว
เขายังคงทำเหมือนเคย เพิ่งทำความสะอาดห้องเรียนเสร็จ ตอนออกไปด้านนอก เก๋อเหลียงหยวนก็กวาดลานจนสะอาดแล้ว เมื่อเห็นอาจารย์ออกมา เก๋อเหลียงหยวนก้มหน้า มองปลายเท้าตัวเอง รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย “อา… อาจารย์…”
เซียวยวี่รู้ว่าเด็กคนนี้เพิ่งมา รู้สึกตื่นเต้นไม่คุ้นชิน จึงเดินขึ้นหน้าไปตบบ่าเก๋อเหลียงหยวนเบาๆ “เมื่อครู่เจ้าทำความสะอาดหรือ? “
“ขอรับ ข้าเห็นว่ามีใบไม้ร่วงและฝุ่นผงอยู่ไม่น้อย จึงกวาดพื้นขอรับ” เก๋อเหลียงหยวนกัดริมฝีปาก ไม่กล้ามองเซียวยวี่
บนกายอาจารย์มีรัศมีที่ทำให้เขาทั้งรู้สึกเคารพและเกรงกลัว
“เจ้าเป็นเด็กดี! ” เซียวยวี่เอ่ยชม
อาจารย์ชมเขาหรือ?
เก๋อเหลียงหยวนเงยหน้าขึ้นอย่างฉับพลัน ก็เห็นเซียวยวี่ยิ้มพร้อมกล่าวต่อ “เจ้าเป็นเด็กฉลาด จดจำได้อย่างรวดเร็ว ในบรรดาเด็กทั้งหมด เจ้าท่องจำบทความได้เร็วที่สุด”
รู้ว่าอาจารย์กำลังเอ่ยชมตัวเอง เก๋อเหลียงหยวนยิ่งรู้สึกตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก “แต่ว่า… แต่ว่าตัวหนังสือของข้าเขียนได้แย่มาก”
ตัวหนังสือของเขาราวกับสุนัขคลานก็มิปาน เด็กๆ ในห้องเรียนล้วนแต่หัวเราะเยาะเขา ท่าจับพู่กันก็น่าเกลียดประหนึ่งลูกสุนัขเขี่ยดินโคลน
เซียวยวี่เอ่ยปลอบ “ไม่เป็นอะไร เราค่อยๆ ฝึก เรียนรู้มากขึ้นย่อมเขียนได้ดีขึ้นเอง เจ้าเพิ่งมาเรียน มีความก้าวหน้าเช่นนี้ ถือว่าไม่เลว อาจารย์เชื่อว่าเจ้าจะทำได้ดีขึ้นแน่นอน! “
เก๋อเหลียงหยวนกัดริมฝีปาก พยักหน้าด้วยท่าทีจริงจัง “ขอรับ ขอบคุณอาจารย์ที่สั่งสอนขอรับ”
เก๋อวั่งมาแล้ว เห็นเซียวยวี่กำลังพูดคุยกับเก๋อเหลียงหยวนอยู่ด้านใน จึงไม่ไปรบกวน เมื่อเห็นพวกเขาคุยกันเสร็จ จึงเดินเข้ามา “อาจารย์ จะไปเมื่อใดหรือ? “
เซียวยวี่ยิ้มพร้อมกล่าว “ท่านลุงเก๋อรอข้าก่อน ข้ากลับไปเก็บของเสร็จจะมาทันที”
ยังต้องกำชับเด็กสองคนว่าพรุ่งนี้ให้อยู่บ้านดีๆ พรุ่งนี้เขาไม่อยู่บ้าน เรื่องทำอาหารและซักเสื้อผ้าพวกเขาต้องทำเองทั้งหมด
เพิ่งกลับถึงบ้าน เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งได้ยินเสียงฝีเท้าของเขา จึงตามออกมา ไม่ว่าเซียวยวี่เดินไปที่ไหน เด็กสองคนก็ตามถึงที่นั่น
เซียวยวี่ยิ้ม “พวกเจ้าทำอะไรกัน? “
“พี่ใหญ่ พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ข้าอยากตามท่านไปเยี่ยมพี่สะใภ้ใหญ่ในตัวเมืองเจ้าค่ะ” เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส
เซียวจื่อเซวียนรีบพยักหน้าไม่หยุด “พี่ใหญ่ ข้าก็จะไปขอรับ”
พวกเขาไม่ได้พบพี่สะใภ้ใหญ่นานหลายวันแล้ว พี่ใหญ่บอกว่าไม่อยากให้พี่สะใภ้ใหญ่ลำบากเกินไป เขาจึงเดินทางไปกลับทุกวันเอง
คิ้วเข้มของเซียวยวี่กระตุกทีหนึ่ง จะไปกันหมด?
เช่นนั้นความเป็นส่วนตัวของเขาและอาหลัวจะทำอย่างไร?
เขาวางแผนไว้แล้ว พรุ่งนี้จะนอนกับอาหลัวจนตื่นขึ้นมาเอง จากนั้นจะพาอาหลัวไปซื้อผักที่ตลาด ตอนเที่ยงทำอาหารรสเลิศให้อาหลัวกิน แล้วค่อยพักผ่อนในช่วงเที่ยงไปพร้อมกับนาง ส่วนช่วงบ่ายเขาจะอ่านตำราให้นางฟัง หากแสงแดดเบาลงเมื่อใด ก็จะพานางออกไปเที่ยวเล่นครู่หนึ่ง ตกเย็นก็กลับบ้าน พวกเขาจะได้กินอาหารด้วยกันอีกครั้ง คุยกันอีกครู่หนึ่ง แล้วจึงนอนจับมือกัน
ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้มีเวลาเช่นนี้สักหนึ่งวัน เซียวยวี่ที่กำลังคิดจะปฏิเสธ ก็ได้ยินเซียวจื่อเมิ่งส่งเสียงร้องไห้โฮ “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าจะเอาพี่สะใภ้ใหญ่ ฮือฮือฮือ…”
เซียวจื่อเซวียนลอบปาดเหงื่อทีหนึ่ง จื่อเมิ่งช่าง… หัวไวเสียจริง!
เขาเพียงส่งสายตา จื่อเมิ่งก็รู้แล้วว่าควรทำเช่นไร!
เซียวยวี่ไม่รับปาก เซียวจื่อเมิ่งก็ร่ำไห้อย่างหนักต่อ “ข้าจะเอาพี่สะใภ้ใหญ่ ข้าจะเอาพี่สะใภ้ใหญ่…”
หยาดน้ำตาเม็ดโตไหลลู่ลงบนใบหน้า บนแก้มยังเปียกโชก นางร้องไห้ด้วยความเสียใจเพียงใดกัน
เซียวจื่อเซวียนเบะปาก ทำท่าเหมือนกำลังจะร้องไห้เช่นกัน “พี่ใหญ่ ท่านให้จื่อเมิ่งไปเถิดขอรับ ระยะนี้นางนอนกับข้า กลางดึกมักจะโวยวายว่าจะเอาพี่สะใภ้ใหญ่…”
เซียวยวี่ “…”
ก่อนหน้านี้เหตุใดถึงไม่บอกเล่า เพิ่งมาบอกเอาวันนี้
ทว่า อย่างไรเสียก็เป็นน้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง ต่อให้เซียวยวี่ไม่อาจตัดใจเพียงใด ก็ได้แต่ปล่อยไป “เช่นนั้นก็ได้ พวกเจ้ารีบเก็บข้าวของ ไปตอนนี้เลย”
เซียวจื่อเมิ่งพลิกตัวลุกพรวดขึ้นจากพื้นทันที ตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ “ได้เจ้าค่ะ! “
เซียวยวี่ “…” ร่าเริงถึงเพียงนี้ หรือว่าน้ำตาที่ไหลเมื่อครู่เป็นของปลอม?
เขาหันมองเซียวจื่อเซวียนที่อยู่ข้างๆ ด้วยความสงสัย เซียวจื่อเซวียนกลัวว่าจะถูกพี่ใหญ่ของตัวเองมองออก จึงวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว “พี่ใหญ่ ข้าก็ไปเก็บของก่อน ครู่เดียวก็เสร็จแล้วขอรับ! ครู่เดียว! “
อันตรายนัก พี่ใหญ่ฉลาดถึงเพียงนั้น จะมองละครของพวกเขาไม่ออกได้อย่างไร
บนมือเขามีผ้าเช็ดหน้าที่เปียกชุ่มผืนหนึ่ง เมื่อครู่เช็ดไปบนใบหน้าจื่อเมิ่งเพื่อใช้เป็นน้ำตาโดยเฉพาะ!
รีบบิดให้แห้ง ทำลายหลักฐาน
เก๋อวั่งรออยู่ไม่นานนัก ก็เห็นอาจารย์เซียวและน้องชายน้องสาวของเขามาพร้อมกัน
พวกเขาพากันขึ้นรถม้า จากนั้นเก๋อวั่งก็ขับรถม้าออกไปทันที
ถึงแม้ว่าเก๋อเหลียงหยวนจะเพิ่งมาได้ไม่กี่วัน แต่เซียวจื่อเซวียนมีอุปนิสัยร่าเริง ทั้งยังทำตามคำสั่งพี่ใหญ่ ดูแลเก๋อเหลียงหยวนเป็นพิเศษ เก๋อเหลียงหยวนจึงชอบเซียวจื่อเซวียน พอถึงตอนลงรถม้า เด็กผู้ชายสองคนก็โอบไหล่เกาะหลังเรียกพี่ขานน้องกันแล้ว