ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 14 บทที่ 408 ส่งสบู่ชุดแรกไป
ฮวาเหนียงให้คำตอบกลับมาว่า หลังจากที่ใช้น้ำยาสระผมและน้ำยาอาบน้ำ ก็รู้สึกว่าใช้ดีกว่าสบู่ที่เคยใช้ก่อนหน้านี้มากนัก ทั้งยังบอกว่าเจ้าสิ่งนี้ขายดีแน่นอน เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกพึงพอใจมาก จึงไปยังร้านขายเครื่องแก้วเพียงหนึ่งเดียวของเมืองโยวหลัน
เซี่ยวยวี่หลัววาดรูปแบบเค้าโครงเอง เดิมทีนางไม่ได้คาดหวังมากเท่าไรนัก แต่ใครจะรู้ว่าการเป่าเครื่องแก้วของต้าเยว่จะก้าวหน้าถึงขั้นนี้แล้ว เซี่ยยวี่หลัวเพียงนำแบบออกมา อาจารย์เป่าเครื่องแก้วถามคำถามนางจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็บอกว่าห้าวันให้หลังจะส่งตัวอย่างมาให้เซี่ยยวี่หลัว
เซี่ยยวี่หลัวย่อมกลับไปอย่างพึงพอใจ
ช่วงพลบค่ำ เซียวยวี่กลับมาแล้ว นำผักและข้าวสารมาด้วยจำนวนหนึ่ง
ผักมีพริก มะเขือยาว และแตงกวา น่าจะเป็นผักในสวนของพวกเขา
เซี่ยยวี่หลัวนั่งอยู่หลังเตาไฟ คอยใส่ฟืน จากนั้นเรื่องที่เหลือก็คือ เฝ้ามองเซียวยวี่อย่างใจจดใจจ่อ
แสงไฟจากเทียนที่มืดสลัว ส่องจนใบหน้าของเซียวยวี่ดูพร่ามัว เซี่ยยวี่หลัววางมือไว้บนเข่า ค้ำยันใบหน้าจ้องมองเซียวยวี่อย่างไม่ละสายตา
เซี่ยยวี่กำลังหั่นผัก พบว่าสายตาที่จ้องมาที่ตัวเองไม่ละสายตาไปทางอื่นเลยแม้แต่น้อย ภายในใจแอบรู้สึกดีใจ จึงหันกลับไปมอง
เมื่อสบประสานกับสายตาของเซี่ยยวี่หลัว เซียวยวี่จึงส่งยิ้มให้นาง “เด็กโง่! ”
เซี่ยยวี่หลัวแสยะปากแย้มรอยยิ้ม ใส่ฟืนเข้าไปหนึ่งท่อน จากนั้นจึงเดินไปข้างหลังเซียวยวี่ โอบกอดเซียวยวี่จากด้านหลัง
ร่างกายของเซียวยวี่แข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เป็นอะไรไป? ”
“ไม่มีอะไร เพียงแค่ชอบเจ้าเหลือเกิน! ” เซี่ยยวี่หลัวแนบติดกับแผ่นของของเซียวยวี่ กล่าวด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ชอบเจ้าเหลือเกิน คิดถึงเจ้าอยู่ทุกเวลา…”
เซียวยวี่หัวเราะเสียงเบา “เด็กโง่”
เซี่ยยวี่หลัวเบ้ปาก “ทำไม? เจ้าไม่คิดถึงข้าหรือ? ”
เซียวยวี่เกรงว่าเซี่ยยวี่หลัวจะเข้าใจผิด จึงรีบอธิบาย “คิดถึง ทำไมจะไม่คิดถึง? ” คิดถึงเจ้าจนแทบคลั่งอยู่แล้ว
เซี่ยยวี่หลัวส่งเสียงเย็นในลำคอ “ข้าบอกว่าคิดถึงเจ้า เจ้าว่าข้าเป็นเด็กโง่ เช่นนั้นเจ้าคิดถึงข้าเล่า? เจ้าเป็นอะไร? ”
เซียวยวี่ถูกพูดดักทางจนกล่าวอะไรไม่ออก อ้อมไปอ้อมมาถูกสตรีตัวน้อยพูดดักทางเข้าเสียแล้ว “ข้าก็เป็นเด็กโง่! เด็กโง่คู่กับเด็กโง่ เช่นนี้ถึงจะเป็นคู่สร้างคู่สม! ”
พอเถิด ถูกเจ้าคนบ้าตัณหานี่พาอ้อมเข้าเรื่องนี้อีกแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวหน้าแดงถึงใบหู กล่าวด้วยท่าทางเหนียมอาย “ใครเป็นคู่สร้างคู่สมกับเจ้ากัน? ”
เซียวยวี่กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เอ๋ เมื่อครู่ใครบางคนยังบอกว่าชอบข้าอยู่เลย? ทั้งยังบอกว่าชอบข้าเหลือเกินด้วย! ”
“ใครชอบเจ้ากัน? ข้าไม่ชอบเจ้าเสียหน่อย! ” เซี่ยยวี่หลัวคิดจะชักมือกลับ แต่จู่ๆ เซียวยวี่ก็จับมือนางไว้แน่น ไม่ให้นางขยับ
เซียวยวี่จับมือไว้ ก่อนหันกลับมาช้าๆ “เมื่อครู่นี้เจ้าว่าอะไร? ”
“ข้า…” เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกเหมือนตัวเองจะพูดผิด ท่าทางของเซียวยวี่ในตอนนี้ น่าตกใจจริงๆ “ข้าบอกว่าข้าชอบเจ้า ชอบเจ้าแทบตายอยู่แล้ว! คิดถึงเจ้าทุกเวลา ไม่อาจแยกจากเจ้าได้เลย! ”
เซียวยวี่แสดงสีหน้าบึ้งตึง ภายในใจรู้สึกเบิกบานใจนานแล้ว
เขายังคงขานตอบด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง “เจ้าว่าอะไรนะ? ข้าไม่ได้ยิน”
เซี่ยยวี่หลัวเบ้ปากพลางกล่าวอีกรอบหนึ่ง
เซียวยวี่ยังคงถาม “เจ้าว่าอะไรนะ? ข้าไม่ได้ยิน! ”
เซี่ยยวี่หลัว “…” อยากตีคนเสียจริง!
“อายวี่ ข้าชอบเจ้าเหลือเกิน! ” เซี่ยยวี่หลัวฉวยโอกาสกอดเซียวยวี่พลางออดอ้อน ก่อนเขย่งเท้าจุมพิตริมฝีปากเซียวยวี่
เซียวยวี่เห็นริมฝีปากที่ออกห่างจากเขาอย่างรวดเร็ว จึงไล่ตามไปอย่างนึกเสียดาย เขาจุมพิตนางอย่างรุนแรงยิ่งกว่า และสอดแทรกเข้าไปอย่างลุ่มลึก
จุมพิตจนเซี่ยยวี่หลัวหายใจติดขัด ตัวอ่อนยวบราวกับเป็นกองดินโคลน พิงอยู่ในอ้อมอกเซียวยวี่ นางได้ยินเสียงพึมพำของเซียวยวี่ดังเข้ามาในโสตประสาท
“อาหลัว ข้ารักเจ้า! ”
แสงไฟสลัวสาดส่องจนเกิดเงาคนสองคนที่กอดกันอย่างแนบแน่นบนกำแพงที่มีจุดด่างดำ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผ่านช่วงงานยุ่งมาห้าถึงหกวัน สบู่สี่ร้อยกว่าก้อนชุดแรกถูกทำออกมาแล้ว ถุงผ้าและกระบอกไม้ไผ่ที่ผ่านการแปรรูปจากทางฮวาเหนียงก็ถูกส่งมาเช่นกัน
ช่วงหลายวันนี้ ฮวาเหนียงจ้างช่างปักมาหลายสิบคน ทำงานอย่างเร่งรีบ ปักถุงผ้าสี่ร้อยกว่าใบที่มีตัวอักษรรูปแบบบุปผาคำว่า “ซูยวี่” ไว้ โดยถุงผ้าเหล่านี้จะถูกนำมาใส่สบู่
ยังมีกระบอกไม้ไผ่ที่ทำจากไม้ไผ่ เซี่ยยวี่หลัวนำไม้ไผ่มา ตัดออกหนึ่งท่อน คล้ายกระบอกใส่พู่กันทรงกลม แต่บนนั้นมีฝากระบอกไม้ไผ่ ขัดทั้งสองด้านให้เรียบจนเป็นรูปทรงคล้ายขวดใบหนึ่ง สามารถเปิดและปิดได้
พวกนี้คือกล่องใส่สบู่ที่เซี่ยยวี่หลัวสั่งทำเป็นพิเศษ เจาะก้นกระบอกไม้ไผ่ให้เป็นรูเล็กหลายแถว หลังจากใช้สบู่เสร็จ สามารวางสบู่กลับไปในกระบอกไม้ไผ่ได้ ด้านล่างสามารถระบายน้ำ ด้านบนสามารถปิดฝาเพื่อป้องกันฝุ่นผง ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว
บวกกับตัวอักษร “ซูยวี่” ที่ช่างแกะสลักมืออาชีพแกะสลักไว้บนกระบอกไม้ไผ่ เพราะผิวไม้ไผ่เป็นสีเขียว ขอเพียงขูดเปลือกสีเขียวด้านบนสุดออก ด้านล่างก็จะเป็นตัวอักษร “ซูยวี่” สีขาวสองตัว สีเขียวกับสีขาว ไม่จำเป็นต้องทาสี ก็ทำให้รู้สึกว่าดูงามตา
เซี่ยยวี่หลัวและฮวาเหนียง สวมใส่ถุงมืออ่อนนุ่มชั้นหนา ใส่สบู่ลงไปในถุงผ้าอย่างระมัดระวัง
“ดูสิ พอใส่สบู่ไว้ในถุงผ้านี่แล้วช่างดูดีเสียจริง ดูดีจนเสียดายไม่อยากใช้เลย! ” ฮวาเหนียงกล่าวอย่างชื่นชม ก่อนเอ่ยชมเซี่ยยวี่หลัวอย่างอดไม่ได้ “ไม่รู้จริงๆ ว่าในหัวของเจ้าใส่อะไรไว้บ้าง หากไม่ทำก็ไม่ทำ พอจะทำก็ทำอย่างงดงามและสมบูรณ์แบบ”
เช่นนี้เป็นการขายสบู่ก้อนหนึ่งที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นการขายงานฝีมือหนึ่งชิ้น! หากแยกถุงผ้าและกระบอกไม้ไผ่ออกมา ล้วนแต่เป็นของดีที่สามารถขายได้ราคาดีทีเดียว
เซี่ยยวี่หลัวเองก็ยิ้ม “คนอื่นเห็นถุงผ้าที่ประณีตงดงามเช่นนี้ ก็อยากทำการค้ากับฮวาเหนียงไม่ใช่หรือ? นอกจากสามารถทำให้สบู่กลายเป็นสินค้าชั้นดี ยังช่วยฮวาเหนียงทำให้ชื่อเสียของฮวาหม่านยีโด่งดังด้วย หากเป็นเช่นนี้ก็จะได้ผลดีด้วยกันทั้งสองฝ่ายไม่ใช่หรือ? ”
นางกล่าวได้ไม่ผิด ฮวาเหนียงย่อมเข้าใจ แต่นางไม่เคยคิดจะทำให้ชื่อเสียงของฮวาหม่านยีโด่งดังถึงสถานที่อื่น คิดไม่ถึงเลย ว่าแม่หนูนี่จะคิดเผื่อนาง
หากสามารถทำให้ชื่อเสียงของฮวาหม่านยีดังไกลถึงเมืองหลวง ถึงเวลาไม่แน่ว่านางสามารถเปิดร้านที่เมืองหลวงได้
ทำให้กิจการของฮวาหม่านยีรุ่งเรืองและแข็งแกร่ง นี่คือคำมั่นสัญญาที่นางให้ไว้กับสามีที่ด่วนจากไปไม่ใช่หรือ?
พอคิดถึงสามีที่ด่วนจากไป ฮวาเหนียงก็เงียบขรึมไม่กล่าวอะไร เซี่ยยวี่หลัวหันมองฮวาเหนียง ไม่ได้กล่าวอะไรอีก
หลังจากใส่สบู่สี่ร้อยกว่าก้อนเสร็จทั้งหมด ฮวาเหนียงคิดจะให้ถงเต๋อไปดูก่อน ไปทำความคุ้นเคยกับสถานการณ์ทางนั้น นอกจากนั้น ไม่ได้จะขายสบู่เพียงสิบกว่าหรือยี่สิบก้อน แต่คาดว่าจะมีสบู่หลายพันก้อนทีเดียว หากเอาแต่ฝากขายไว้ที่คนอื่นก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เท่าไร เซี่ยยวี่หลัวจึงไหว้วานให้ถงเต๋อที่จะไปดูเรื่องกิจการที่เมืองหลวง ช่วยเช่าร้านแห่งหนึ่งให้นางด้วย
นางคิดจะเปิดร้านเป็นของตัวเอง
หน้าร้านในเมืองหลวงนั้นราคาไม่ถูก ตอนนี้เซี่ยยวี่หลัวยังซื้อไม่ได้ จึงคิดจะเช่าไว้ก่อน ขายสบู่ชุดนี้แล้วดูกำไรอีกครั้ง
เมื่อฮวาเหนียงเห็นว่าเซี่ยยวี่หลัวมีความคิดเช่นนี้ ก็ถึงกับตกใจสะดุ้ง
แต่ลองคิดดูก็เห็นว่าสมควรแล้ว สบู่จำนวนมากถึงเพียงนี้จะฝากขายในร้านสหายของนางอย่างเดียวก็ไม่ได้ เปิดหน้าร้านเป็นของตัวเอง บางทีนี่อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ถงเต๋อขับรถม้าไปในคืนนั้น
ในที่สุดก็ส่งสินค้าชุดแรกออกไปแล้ว ทางร้านเครื่องแก้วก็ส่งตัวอย่างสำเร็จที่ดูไม่เลวมาหลายชิ้น เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง สั่งทำหนึ่งร้อยขวด ชำระเงินมัดจำแล้ว รออีกสิบวันให้หลังถึงจะได้สินค้า