ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 14 บทที่ 399 ข้ากับเซียวหยวนไม่ได้มีอะไรกัน
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 14 บทที่ 399 ข้ากับเซียวหยวนไม่ได้มีอะไรกัน
“อาหลัว ข้าเอง! ” น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากภายนอก เซี่ยยวี่หลัววิ่งไปเปิดประตูด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“เซียวยวี่…”
“ระวังหน่อย อย่าเข้ามาชน! “
ยังคงเหมือนเมื่อวาน เซียวยวี่ถอยออกด้านข้างเล็กน้อย
เขายืนอยู่ด้านนอก ในมือถือบะหมี่ที่มีไอร้อนลอยขึ้น บะหมี่ยังคงมีไอร้อนแผ่กระจาย ไอน้ำลอยฟุ้ง เซี่ยยวี่หลัวเห็นแล้วรู้สึกดวงตาร้อนผ่าว
“เหตุใดเจ้าถึงกลับมาอีก? ” เวลาไม่พอแล้ว
“กลัวว่าเจ้าจะไม่กินข้าวตอนเช้า แผงขายบะหมี่ตั้งแผงพอดี จึงซื้อมาให้เจ้าชามหนึ่ง! กินก่อน บะหมี่นี่เปื่อยแล้วจะไม่อร่อย กินเสร็จค่อยไปนอน! ” เซียวยวี่วางบะหมี่ลงบนโต๊ะ ดึงเซี่ยยวี่หลัวให้มากินอาหารเช้าก่อน
บะหมี่อร่อยมากทีเดียว!
เซี่ยยวี่หลัวใช้ตะเกียบคีบขึ้นมาครั้งแรก ยื่นไปตรงปากเซียวยวี่ “เจ้ากินสักหนึ่งคำ! “
เซียวยวี่ยิ้มพลางก้มหน้ากิน
เซี่ยยวี่หลัวคีบขึ้นมาอีกครั้ง “เจ้ากินอีกคำ”
เซียวยวี่กินแต่โดยดี
ขณะที่เซี่ยยวี่หลัวกำลังจะคีบขึ้นมาเป็นครั้งที่สาม เซียวยวี่ก็ไม่มีเวลาเหลือแล้ว “อาหลัว ข้าต้องไปแล้วจริงๆ! ” หากยังรั้นไม่ไปอีก คงต้องสายเป็นแน่
กล่าวจบ เขาก็จุมพิตตรงหน้าผากเซี่ยยวี่หลัว ก่อนก้มหน้าลงจุมพิตริมฝีปากนาง เกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กประหนึ่งดอกติงเซียงของเซี่ยยวี่หลัวทีหนึ่ง จึงรู้สึกพึงพอใจ “ไปจริงๆ แล้ว! “
เซี่ยยวี่หลัวได้กลิ่นหอมของบะหมี่จากริมฝีปากและลิ้นของเขา
นางยกชามบะหมี่พลางเดินออกไปพร้อมเขา “กินอีกคำหนึ่ง ข้าป้อนเจ้า เดินไปพลางกินไปพลาง! “
เซียวยวี่ก้มหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม กินเส้นบะหมี่บนตะเกียบที่เซี่ยยวี่หลัวป้อนให้
กินบะหมี่ไปห้าถึงหกคำ เซียวยวี่ก็มาถึงหน้าประตู จึงกล่าวอย่างไม่อาจตัดใจได้ “ลงกลอนประตูให้ดี กินหมดแล้วไปนอนอีกครู่หนึ่ง ข้าจะไปจริงๆ แล้ว! “
คราวนี้ เขาเดินออกไปทันที และยังคงทำเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ รอให้เซี่ยยวี่หลัวปิดประตูแล้วค่อยเดินจากไป
ขณะที่เซี่ยยวี่หลัวนั่งกินบะหมี่อยู่ตรงโต๊ะ ท่ามกลางไอร้อนที่ลอยวนเวียน เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกดวงตาร้อนผ่าว
เซียวยวี่แทบจะวิ่งตลอดทางจนกลับถึงหมู่บ้าน เมื่อกลับถึงหมู่บ้าน เสื้อบนกายก็ไม่มีส่วนไหนที่แห้งเลย
ยามเสียงระฆังที่สถานศึกษาดังขึ้น เซียวยวี่ก็เพิ่งเข้าไปพอดี
อาจารย์ที่เปียกโชกไปทั้งตัว หยาดเหงื่อเม็ดโตไหลลู่ลงจากใบหน้า เส้นผมเปียกชุ่มจนแนบติดบนใบหน้า…
เหล่านักเรียนต่างมองกันไป มองกันมา แต่ละคนรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก
อาจารย์เพิ่งกลับมาจากว่ายน้ำในแม่น้ำหรือ?
อากาศร้อนถึงเพียงนี้ ว่ายน้ำ… ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
วันนี้เซียวยวี่สอนเด็กๆ เขียนหนังสือหลายตัว ทั้งยังสอนพวกเขาท่องกลอนโบราณหนึ่งบท ให้พวกเขากลับไปท่องจำดีๆ คาบเรียนในวันนี้ก็สิ้นสุดแล้ว
เด็กเหล่านี้ใช้ชีวิตอย่างอิสระมาโดยตลอด สองวันนี้ถูกจำกัดอิสระ จึงรู้สึกไม่มีแก่ใจจะทำอะไร แต่บิดามารดาที่บ้านบอกไว้ ให้พวกเขาตั้งใจเล่าเรียน หากไม่เรียนจะโดนตีด้วยไม้ จึงนับว่าเชื่อฟังทั้งสองวัน
วันนี้อากาศร้อนยิ่งนัก เซียวยวี่เห็นว่าแสงแดดข้างนอกสว่างจนเคืองตา รู้ว่าเวลานี้บิดามารดาของเด็กเหล่านี้ยังทำงานอยู่เป็นแน่ ไม่มีเวลาดูแลพวกเขา จึงเอ่ยเตือน “ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย พวกเจ้าอย่าได้ไปเล่นริมแม่น้ำ อันตรายมาก หากใครอยากเล่น ก็ต้องบอกกล่าวกับบิดามารดาที่บ้านเสียก่อน”
เด็กเหล่านั้นล้วนรู้ว่าพวกเขาต้องเชื่อฟังอาจารย์ ตอนอยู่บ้านบิดามารดากล่าวไว้ อาจารย์กล่าวอะไรก็ต้องเชื่อฟัง แต่ละคนจึงพยักหน้าพลางบอกว่าเข้าใจแล้ว กล่าวอำลาเซียวยวี่ จากนั้นพวกเขาก็ทำตัวคล้ายกับเป็นม้าพยศที่หลุดจากบ่วงเชือกก็มิปาน เพียงครู่เดียวก็วิ่งหายไปไม่เห็นแม้แต่เงา
เซียวยวี่เก็บกวาดทั้งด้านในและด้านนอกเสร็จ ก็กลับบ้านไปอย่างรีบร้อน
ตอนเย็นอาหลัวจะกลับบ้าน เขาต้องกลับไปทำอาหารรสเลิศไว้ให้อาหลัว
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งกลับบ้านก่อน ในโอ่งน้ำไม่มีน้ำแล้ว เซียวจื่อเซวียนจึงหิ้วถังน้ำไปหาบน้ำ หลังจากเซียวยวี่ไปเด็ดผักจำนวนหนึ่งจากสวนหลังบ้านกลับมา เซียวจื่อเซวียนก็หาบน้ำได้ครึ่งโอ่งแล้ว
เซียวยวี่ยื่นส่งผักให้เซียวจื่อเซวียน “ล้างให้สะอาด” จากนั้นจึงหยิบไม้หาบและถังน้ำออกไป
แสงแดดยามบ่ายยังคงสว่างจ้าจนแสบตา บนผิวน้ำมีแสงแดดส่องสะท้อนระยิบระยับ เห็นแล้วรู้สึกปวดตานัก
เซียวยวี่ตักน้ำจนเต็มถัง ก่อนเห็นศีรษะของคนผู้หนึ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ กำลังทำหน้าหยอกล้อใส่เซียวยวี่
“เซียวต้าจ้วง! ” เซียวยวี่ตะโกนเรียก เขามองดูรอบข้าง ริมแม่น้ำไม่มีเด็กคนอื่น ทั้งยังไม่มีผู้ใหญ่ มีเพียงเซียวต้าจ้วงที่ถอดเสื้อผ้า ถุงเท้า และรองเท้า เล่นน้ำเพียงลำพัง
เด็กว่ายน้ำเล่นคนเดียว ข้างกายไม่มีผู้ใหญ่ได้อย่างไร!
เซียวยวี่ “เซียวต้าจ้วง เจ้ารีบขึ้นมา”
เซียวต้าจ้วงทำท่าทางหยอกล้อพลางกล่าว “ข้าจะขึ้นไปหรือไม่เกี่ยวอะไรกับท่านด้วย? ท่านไม่ใช่อาจารย์ของข้าเสียหน่อย ทำไมข้าต้องฟังท่านด้วย! “
ตอนที่เซียวต้าจ้วงจะไปเล่นน้ำ ก็ได้ไปชวนเด็กผู้ชายจำนวนหนึ่งที่ปกติเคยเล่นด้วยกัน แต่เด็กผู้ชายเหล่านั้นล้วนแต่เชื่อฟังเซียวยวี่ บอกว่าอาจารย์ไม่ให้พวกเขาเล่น ถ้าจะเล่นต้องบอกกล่าวกับบิดามารดาก่อน พวกเขาล้วนไม่กล้าไป!
เซียวยวี่สีหน้าบึ้งตึง มองดูผิวน้ำในแม่น้ำที่สะท้อนแสงระยิบระยับ คิดอยากหันเดินจากไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่เห็นว่าบริเวณรอบข้างไม่มีผู้ใหญ่สักคน เป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุอันตรายกับเด็ก จึงได้แต่คอยดูอยู่ข้างๆ
เซียวต้าจ้วงว่ายวนสองรอบ อาจเพราะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้ว หรืออาจเพราะเซียวยวี่คอยจ้องมองอยู่ข้างๆ ทำให้รู้สึกไม่สบอารมณ์ จึงขึ้นฝั่ง ด่าเซียวยวี่ว่ายุ่งไม่เข้าเรื่องก่อนเดินจากไป
เซียวยวี่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง หาบถังน้ำกลับบ้านไป
ผักล้างเสร็จแล้ว ทั้งยังซาวข้าวและใส่ลงหม้อเรียบร้อย เซียวยวี่จึงเริ่มหั่นผัก
เซียวยวี่คิดจะรอให้อาหลัวกลับมาแล้วค่อยผัดอาหาร เช่นนั้นอาหารจะยังคงร้อนอยู่ เซียวยวี่ถอดผ้ากันเปื้อนออก ให้เด็กสองคนเล่นอยู่ในบ้าน ส่วนเขาไปยังปากทางเข้าหมู่บ้าน
ยามเดินผ่านประตูบ้านเซียวหมิงจู เซียวหมิงจูก็กำลังนั่งแกะถั่วอยู่ในลานบ้านด้วยอาการเหม่อลอย ท่านป้าสี่กำลังกล่าวอะไรไม่หยุด ส่วนเซียวหมิงจูสีหน้าไม่ดีนัก
แต่เมื่อเซียวหมิงจูเงยหน้า เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยเดินผ่านในระยะไกล แววตาที่เหม่อลอยพลันแจ่มชัดขึ้นในทันใด
ท่านป้าสี่กล่าวไม่หยุด “ชุดแต่งงานเจ้าจะทำตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว พรุ่งนี้พวกเราเข้าไปในตัวเมืองสั่งตัดสักตัวหนึ่ง ยังมีข้าวของอื่นๆ อีก สิ่งที่ควรเตรียมก็ต้องเตรียมแล้ว ถึงแม้เวลาจะกระชั้นชิดไปบ้าง แต่พ่อแม่ก็จะเตรียมตัวให้เจ้าได้แต่งงานอย่างยิ่งใหญ่และมีเกียรติ! ”
ตั้งแต่ท่านป้าสี่ปริปากพูด กล่าวอยู่ครึ่งค่อนวันก็ไม่เห็นเซียวหมิงจูตอบสนอง จึงเงยหน้ามองไป ก็เห็นเซียวหมิงจูจ้องมองด้านนอกด้วยแววตาเร่าร้อน
ท่านป้าสี่รู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก หันขวับไปมองอย่างฉับพลัน เห็นเซียวยวี่ที่แต่งกายด้วยชุดสีขาวเดินมา ยามที่เซียวยวี่เดินผ่านบ้านนาง เขาเดินตรงไปข้างหน้าโดยไม่เหลียวมองเลยสักนิด
เซียวหมิงจูแทบจะกระโดดลุกขึ้นตามสัญชาตญาณ ท่านป้าสี่ตกใจแทบตาย พุ่งพรวดไปกดตัวเซียวหมิงจูที่กำลังจะกระโดดขึ้นไว้
“จะบ้าหรือ เซียวหมิงจู เจ้าคิดจะทำอะไร! ” ท่านป้าสี่ตกใจราวกับอสนีบาตฟาดใส่
นางมีสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากับเซียวหยวนแล้ว นางเด็กบ้านี่ทำไมถึงยังคิดถึงเซียวยวี่อยู่อีก!
เซียวหมิงจูโดนท่านป้าสี่กดไว้ ปากก็ถูกนางปิดไว้ ได้แต่ทนดูเซียวยวี่เดินผ่านหน้าบ้านนางไปทั้งอย่างนั้น เลือดเย็นถึงขนาดที่ไม่หันหน้ามามองกันแม้แต่ครั้งเดียวเชียวหรือ
เมื่อเห็นว่าเขาเดินไปไกลแล้ว ท่านป้าสี่จึงปล่อยนางออก เมื่อเห็นเซียวหมิงจูที่หยาดน้ำตาไหลอาบเต็มใบหน้า จึงกล่าวด้วยความใจเย็น “หมิงจู เจ้าเป็นคนของอาหยวนแล้ว จะแต่งงานอยู่แล้ว อย่าให้พ่อแม่ลำบากใจอีกเลย! ”
เซียวหมิงจูเช็ดคราบน้ำตาบนแก้ม ก่อนตะคอกเสียงดัง “ข้าเป็นคนของเขาตั้งแต่เมื่อใดกัน? ข้ากับเซียวหยวนไม่เคยมีอะไรกัน! ”
หลังจากตกอยู่ในภวังค์เหม่อลอยมาหลายวัน ในที่สุดนางก็เรียกสติคืนกลับมาได้แล้ว