ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 13 บทที่ 385 การเล่าเรียน สามารถเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตของคนได้
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 13 บทที่ 385 การเล่าเรียน สามารถเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตของคนได้
เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าเซียวยวี่ในนิยายไม่เคยล้มเลิกความคิดที่จะเล่าเรียน ถึงแม้จะเผชิญกับเหตุการณ์บ้านแตกสาแหรกขาด เขาก็ยังคงมุ่งมั่นดึงดันเล่าเรียนจนจบ
จากนั้นจึงสอบได้อันดับหนึ่งทั้งสามระดับ ได้เป็นขุนนาง ก้าวเดินบนเส้นทางสู่การเป็นราชบัณฑิตอย่างรวดเร็ว
หรือจะเป็นเพราะนาง เมื่อทั้งสองคนมีความรักต่อกัน ทำให้เซียวยวี่ในนิยายเปลี่ยนไป?
“เจ้าทำเพื่อข้าเช่นนั้นหรือ? “
“อาหลัว ข้าเป็นชายชาตรีเพียงหนึ่งเดียวในบ้านนี้ ข้าต้องรับภาระดูแลครอบครัวนี้ เจ้าทำเพื่อครอบครัวเรามามากพอแล้ว ข้าจะให้เจ้าลำบากอีกไม่ได้”
เซี่ยยวี่หลัวแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “สภาพการณ์ในตอนนี้ ก็ดีมากนี่นา ข้าไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองลำบาก ตรงกันข้าม ข้ารู้สึกมีความสุขกับชีวิตเช่นนี้มาก เพราะข้ามีความหวัง! “
“อาหลัว…” จู่ๆ เซียวยวี่ก็เงยหน้าอย่างฉับพลัน จ้องมองเซี่ยยวี่หลัว
เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม “เพราะในใจมีความหวัง ดังนั้นจึงใช้ชีวิตประหนึ่งบทกวี เจ้าเข้าใจความรู้สึกเช่นนี้หรือไม่? ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้าเป็นขุนนางใหญ่ในอนาคต ข้าเพียงหวังว่า เจ้าจะสามารถทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงด้วยความพยายามของตัวเจ้าเอง ภายในใจเจ้ามีความใฝ่ฝันมากมายถึงเพียงนั้น หากไม่พยายาม หลังจากเจ้าแก่ตัวลง เซียวยวี่ เจ้าจะนึกเสียใจภายหลัง! “
“อาหลัว…” เซียวยวี่มองเซี่ยยวี่หลัวอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน นางบอกว่านางยังคงมีความหวัง นางบอกว่าภายในใจเขามีความฝัน ก็ต้องพยายามเพื่อความฝันของตัวเอง
“ในใจข้าก็มีความฝันเช่นกัน ข้าจะหาเงินจำนวนมาก ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ดังนั้นเจ้าดูสิ ข้าก็พยายามอยู่ตลอด จื่อเซวียนก็กำลังพยายามอ่านตำราเขียนหนังสือ จื่อเมิ่งก็กำลังพยายามเติบโตขึ้น พวกเราล้วนแต่กำลังพยายาม เพื่อให้ต่อไปมีชีวิตที่ดีขึ้น เจ้าพยายามมานานหลายปี เพียงเพราะความล้มเหลวไม่กี่ครั้ง ก็ยินยอมจะละทิ้งความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมาแล้วหรือ? “
เซี่ยยวี่หลัวจ้องมองเซียวยวี่ แววตาแน่วแน่ “ชีวิตคนเราแสนสั้น มีเวลาเพียงไม่กี่สิบปี เจ้าใช้เวลากับการเล่าเรียนไปสิบกว่าปีแล้ว ชีวิตการเล่าเรียนฝังลึกเข้าไปในกระดูกของเจ้า เจ้าตัดใจละทิ้งได้หรือ? “
“เจ้าจะไม่โทษข้าที่เป็นคนไม่ได้ความ ไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องใดเลยเช่นนั้นหรือ? ” เล่าเรียนได้ไม่ดี ปลูกพืชผลก็ไม่เป็น หาเงินก็ไม่เป็น วันนั้นเซียวหมิงจูกล่าวได้ไม่ผิด เขาเป็นคนไม่ได้ความที่ไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องใดเลย
จู่ๆ เซี่ยยวี่หลัวก็ตะคอกทีหนึ่ง “สมควรตายนัก! “
กล่าวจบ นางรั้งคอเซียวยวี่ลงมาด้วยความแข็งกร้าว เซียวยวี่ตัวสูงเกินไป เซี่ยยวี่หลัวเขย่งปลายเท้า พุ่งเข้ากัดริมฝีปากเซียวยวี่ที่กล่าววาจาเหลวไหลเมื่อครู่นี้
เหมือนกำลังลงโทษที่เซียวยวี่พูดจาเหลวไหล เซี่ยยวี่หลัวกัดอย่างแรงทีหนึ่ง เซียวยวี่ส่งเสียงด้วยความเจ็บ ไม่ได้เคลื่อนไหว ก้มศีรษะลง ปล่อยให้เซี่ยยวี่หลัวบดขยี้ริมฝีปากของเขาอย่างหยาบกระด้าง
ความจริง ภายในใจรู้สึกยินดีเต็มประดา ราวกับมีบุปผาผลิบานอยู่ทั่วทุกแห่งหน
อาหลัว เหตุใดเจ้าถึงทำให้ข้ารู้สึกอยากรักและเอ็นดูเจ้าไปชั่วชีวิต
เซี่ยยวี่หลัวกัดอย่างแรงสองที ก่อนจะผละออก ถลึงตามองเซียวยวี่ด้วยอารมณ์คุกรุ่น “หากเจ้ากล้าพูดจาเหลวไหลอีก เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะกัดลิ้นของเจ้าให้ขาด อือ…”
เซียวหมิงจูที่สมควรตายนั่น นางอยากด่าบรรพชนสิบแปดรุ่นของนางเสียจริง
ยังกล่าวไม่จบ ก็ถูกคนขัดเสียแล้ว
เซียวยวี่สอดลิ้นยาวเข้าไป เกี่ยวลิ้นเล็กประหนึ่งดอกติงเซียงของเซี่ยยวี่หลัว ไม่อาจหลบหลีกได้เลย
ใช้มือประคองหลังศีรษะของเซี่ยยวี่หลัวไว้ ตรึงนางไว้ไม่ให้หลบได้ เซี่ยยวี่หลัวเองก็ไม่คิดหลบหลีก ทุกครั้งที่เซียวยวี่ทำเรื่องเหล่านี้ นางมักจะรู้สึกตั้งตารอคอย
หรือจะเป็นเพราะภพที่แล้วไม่เคยคบเพื่อนชาย สองภพรวมกัน ดังนั้นจึงมีความปรารถนาแรงกล้าถึงเพียงนี้?
เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดอีก โอบเซียวยวี่ไว้ พร้อมทั้งตอบรับเซียวยวี่
จวบจนเซี่ยยวี่หลัวหายใจไม่ออก เซียวยวี่จึงปล่อยออก ลูบริมฝีปากของนางที่ทั้งบวมและแดง เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย เขามักจะทำให้นางบาดเจ็บ
ไม่ง่ายเลยกว่าเซี่ยยวี่หลัวจะหายใจออก จึงกล่าวเป็นเชิงตำหนิ “หากต่อไปเจ้ากล้าพูดจาเหลวไหลอีก ฮึฮึ…”
เซียวยวี่ตบนางเบาๆ พลางปลอบโยนไม่หยุด “ไม่พูดแล้ว ไม่พูดแล้ว”
เซี่ยยวี่หลัวมุดหน้าเข้าไปในอ้อมอกเซียวยวี่ หยาดน้ำตาไหลลู่ลงมาไม่หยุด “เซียวยวี่ ต่อไปเจ้าอย่ากล่าวเช่นนี้อีก” สตรีตัวน้อยโมโหแล้ว โมโหจนสั่นไปทั้งตัว
เซียวยวี่แทบหัวใจสลาย “ต่อไปข้าจะไม่พูดจาเหลวไหลอีก ไม่พูดเหลวไหลแล้ว”
เซี่ยยวี่หลัวพาเขาเข้าไปในห้อง ดันเขาให้นั่งลงตรงเก้าอี้ “เจ้ารอข้าก่อน”
นางหยิบกุญแจออกมา เปิดตู้ออก ก่อนจะเปิดลิ้นชักด้านในที่ใส่กุญแจไว้ หยิบกล่องที่วางไว้ด้านในสุดออกมา
กล่องก็ถูกใส่กุญแจไว้เช่นกัน เซี่ยยวี่หลัววางไว้บนโต๊ะ นั่งลงตรงข้ามเซียวยวี่
สายตาของเซียวยวี่จดจ้องการกระทำของเซี่ยยวี่หลัวอยู่ตลอด กล่องไม้นี้ ใส่กุญแจชั้นแล้วชั้นเล่า แค่เดาก็พอจะคิดออกว่าในนั้นใส่อะไรไว้
นี่คือทรัพย์สินของเซี่ยยวี่หลัว
เซี่ยยวี่หลัวเปิดกล่องออกอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นของด้านใน แววตาของเซียวยวี่ฉายประกายผิดคาด แต่ไม่นานก็กลับสู่สภาวะปกติ
“ของในนี้ บวกกับเงินรางวัลที่ได้จากทางการครั้งก่อน บ้านเราตอนนี้มีเงินประมาณสองร้อยตำลึง! ” เซียวยวี่เงยหน้ามองเซี่ยยวี่หลัว รู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก
สองร้อยตำลึง?
“รู้หรือไม่ว่าเหตุใดฮวาเหนียงถึงมาบ้านเรา? ” เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดปิดบัง “ข้าลงนามในสัญญาฉบับหนึ่งกับฮวาเหนียง” นางหยิบสัญญาจำนวนหนึ่งในกล่องออกมาให้เซียวยวี่ทั้งหมด “เจ้าลองดู ในนี้มีสัญญาที่ทำกับฮวาหม่านยี และสัญญาที่ทำกับเซียนจวีโหลว ระหว่างที่เจ้าไม่อยู่ ข้าทำการค้ากับพวกเขา ถือว่าไม่เลว”
นอกจากห้าสิบตำลึงจากทางการ ช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เซี่ยยวี่หลัวหาเงินได้หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึง ในสายตานาง แค่นับว่า — ไม่เลว?
คิ้วเข้มของเซียวยวี่ขมวดมุ่นจนแทบจะชนกัน
เหตุใดเขาถึงรู้สึกเหมือนตัวเองได้แต่งงานกับแม่ค้าหญิงเล่า? หาเงินเก่งถึงเพียงนี้!
เซี่ยยวี่หลัวมองเซียวยวี่อย่างระมัดระวัง เกรงว่าการกระทำของตัวเองอาจทำร้ายเซียวยวี่
“การร่วมงานระหว่างข้าและฮวาหม่านยี คือทุกเดือนต้องวาดแบบลวดลายสิบแผ่น สิ่งเหล่านี้ ล้วนอยู่ในหัวของข้า” หนึ่งปีเพียงแค่หนึ่งร้อยกว่าแผ่น ลวดลายในหัวของนาง วาดสักสิบกว่าปีก็ไม่มีปัญหา “รู้หรือไม่ว่าเหตุใดถึงมีมากขนาดนี้? เพราะข้าอ่านตำรากับท่านตาของข้ามาไม่น้อย ตำราที่อ่านในอดีตแปรเปลี่ยนเป็นความสามารถในการหาเงินของข้าในตอนนี้”
“การค้ากับเซียนจวีโหลว ก็คือขายสูตรอาหาร สูตรอาหารหนึ่งชนิดได้สิบตำลึง หากมีอาหารชนิดใหม่ ยังสามารถเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ หาเงินส่วนต่างได้อีก รู้หรือไม่ว่าข้าได้สูตรอาหารมาจากที่ใด? นั่นคือหลักการใช้ยาที่ท่านตาสอนให้ข้า สิ่งเหล่านี้ หากไม่ใช่เพราะข้าอ่านตำรา ข้าย่อมไม่รู้! ”
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอ้างว่าความสามารถทั้งหมดของนางล้วนได้มาเพราะท่านตาสอนสั่งอย่างเอาใจใส่และอ่านตำรา
เป็นเช่นนั้นจริง ในตำราย่อมมีเรือนทองคำ ในตำราย่อมมีนารีงาม หากไม่เล่าเรียน ใครจะกล้าใฝ่ฝันถึงสิ่งเหล่านี้
ความจริงคือ เซี่ยยวี่หลัวในยุคสมัยปัจจุบัน ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่นางได้มาจากการเล่าเรียนเช่นกัน
นางเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เพราะเล่าเรียนมา นางเป็นบล็อกเกอร์อาหารรสเลิศ ก็เป็นเพราะนางชอบศึกษาค้นคว้าอาหารรสเลิศของแต่ละประเทศ
การเล่าเรียน สามารถเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตของคนได้อย่างแท้จริง!
เซียวยวี่ก้มหน้า เซี่ยยวี่หลัวไม่เห็นสีหน้าของเขา แต่นางรู้สึกตื่นเต้นจนทนไม่ไหว ได้แต่กำหมัดจ้องมองเซียวยวี่อย่างตาไม่กะพริบ
มือเรียวยาวพับสัญญาไว้ดังเดิม ก่อนเก็บกลับเข้าไปในกล่องอย่างระมัดระวัง เซียวยวี่ยังคงไม่กล่าวอะไร เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกตื่นเต้น “เซียวยวี่…”
เซียวยวี่เงยหน้าขึ้นในตอนนี้เอง ดวงหน้าเต็มไปด้วยประกายตกตะลึง เขามองเซี่ยยวี่หลัวด้วยอาการเคลิบเคลิ้ม พร้อมพึมพำเสียงเบา “อาหลัว เจ้าเป็นคนเช่นไรกันแน่? “
“เซียวยวี่…” เซี่ยยวี่หลัวไม่เข้าใจ
เซียวยวี่ยื่นมือออกมา เซี่ยยวี่หลัวเดินไปหยุดอยู่ข้างกายเขา เซียวยวี่โอบกอดนางไว้ในอ้อมอก
“อาหลัว ชั่วชีวิตนี้อย่าคิดจะไปจากข้าอีก”
เขาไม่มีทางปล่อยมือไปชั่วชีวิต
สตรีที่โดดเด่นถึงเพียงนี้ เขาจะตัดใจปล่อยมือไปได้อย่างไร
เขาก็จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเช่นกัน!
เซี่ยยวี่หลัวผ่อนลมหายใจยาว “ได้! “