ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 12 บทที่ 343 เซียวยวี่ ข้าไม่มีทางทนลำบากกับเจ้า
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 12 บทที่ 343 เซียวยวี่ ข้าไม่มีทางทนลำบากกับเจ้า
“อัยยะ บัณฑิตเซียวกลับมาแล้วหรือ? เป็นอย่างไร คราวนี้สอบผ่านได้เป็นซิ่วไฉหรือยัง? ข้าจะช่วยเจ้านับว่าเจ้าสอบมากี่ปีแล้ว หนึ่ง สอง สาม สี่ อัยยะ เจ้าสอบมาสี่ครั้งแล้ว ไม่ทราบว่าครั้งนี้สอบผ่านหรือไม่? ” เซียวเฉิงซานขาดีขึ้นมากแล้ว บัดนี้สามารถกระโดดโลดเต้น พอออกมาได้รู้ว่าภายในหมู่บ้านมีเรื่องน่าสนุกเช่นนี้ เขาจะพลาดไปได้อย่างไร
แสยะปากจนเห็นฟันเหลืองยิ้มเย้ยหยันเซียวยวี่
เซียวยวี่ไม่สนใจเขา เดินตรงไปข้างหน้า
เซียวเฉิงซานกระโดดสองที มาอีกด้านหนึ่ง ก่อนกล่าวต่อ “อัยยะ ดูจากสภาพของเจ้า เหมือนลูกสุนัขตกน้ำก็มิปาน คงไม่ใช่ว่าคราวนี้ก็สอบไม่ผ่านกระมัง? ”
เซียวยวี่ไม่สนใจเขา
เซียวเฉิงซานก็ไม่โมโห เพียงหัวเราะร่า “เจ้าคิดดูว่าคนอย่างเจ้า การเรียนไม่เอาไหน การต่อสู้ก็ไม่ได้ความ ทำเกษตรยิ่งไม่ไหว ดูเจ้าสิ ทำไมเจ้าถึงได้แต่งกับภรรยาอย่างเซี่ยยวี่หลัวกัน? ”
ได้ยินชื่อเซี่ยยวี่หลัว ฝีเท้าของเซียวยวี่พลันหยุดชะงัก
เซียวเฉิงซานไม่เห็น ยังคงกล่าวต่อ “แต่ข้าว่าเซี่ยยวี่หลัวถือว่ามองการณ์ไกล รู้ว่าเจ้าสอบไม่ผ่าน คร้านจะใช้ชีวิตอย่างยากลำบากกับเจ้าต่อ นางจึงหนีไปแล้ว ด้วยรูปลักษณ์หน้าตาของนาง จะไปหาใครก็ได้ ไม่เห็นต้องทนอยู่กับบัณฑิตยากไร้อย่างเจ้า…”
เขายังกล่าวไม่จบ ก็ค้างไปทั้งอย่างนั้น เซียวยวี่หันกลับมามองเขา จ้องเขาเขม็ง แววตาเหี้ยมเกรียมประหนึ่งซิวหลัว[1]ในแดนยมโลกก็มิปาน ทำให้รู้สึกหนาวสะท้าน
“เจ้า… เจ้า…” เซียวเฉิงซานถึงกับพูดไม่เป็นประโยค ตกใจแทบตาย
“เมื่อครู่นี้เจ้าว่าอะไร? ” เซียวยวี่เอ่ยถามทีละคำ
เซียวเฉิงซานตกใจสะดุ้ง ตะโกนเสียงดัง “เซียวยวี่ เจ้าจะทำให้ข้าตกใจตายหรืออย่างไร! ”
“เมื่อครู่นี้เจ้าว่าอะไร! ” เซียวยวี่กล่าวอีกครั้ง
คราวนี้เสียงดังกว่าเมื่อครู่เล็กน้อย น้ำเสียงคำรามที่สั่นเครือ ดวงตาเต็มไปด้วยสีเลือด ใบหน้าดุร้าย เซียวเฉิงซานไม่เคยเห็นเซียวยวี่ที่เป็นเช่นนี้มาก่อน ตกใจกลัวจนปากสั่น มีหรือจะกล้าหยอกเย้าอีก เพียงกล่าวตามจริง “ข้าบอกว่า… ว่าภรรยาของเจ้าหนีไปแล้ว! ”
เซียวยวี่ร่างกายโซเซ แทบจะยืนไม่ติด สีแดงเลือดฝาดที่เหลือเพียงน้อยนิดบนใบหน้าราวกับโดนสูบออกไปในชั่วพริบตาอย่างไรอย่างนั้น หน้าขาวซีดราวกับกระดาษ
เขาหันขวับวิ่งไปทางบ้านตัวเองทันที
ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยต่างรู้ว่าเซียวยวี่กลับมาแล้ว จึงรีบไปหา คนที่ปลอบใจก็มาปลอบใจ คนที่มาเพื่อดูเรื่องสนุกก็อยู่รอดู
ยามเซียวยวี่วิ่งไปถึงบ้าน เสียงร้องไห้โฮของเซียวจื่อเมิ่งดังขึ้นจากด้านใน “พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าไม่มีทางไป ไม่มีทาง! ”
เซียวยวี่สภาพทุลักทุเล เบียดเข้าไปในกลุ่มคน ไม่สนใจแววตาของผู้อื่นที่ฉายประกายแปลกประหลาดและสงสาร วิ่งเข้าไปในบ้าน
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งกำลังนั่งอยู่ในลานบ้าน เห็นพี่ใหญ่มาแล้ว เซียวจื่อเซวียนที่ฝืนทนไม่ร้องไห้มาตลอด บัดนี้ได้เห็นพี่ใหญ่ ก็ร้องไห้โฮทันที “พี่ใหญ่ พี่ใหญ่…”
“พี่อายวี่…” เซียวหมิงจูเอ่ยเรียกด้วยความยินดี
เซียวยวี่ไม่หันมองเซียวหมิงจูด้วยซ้ำ ย่อตัวลงเอ่ยถามเด็กสองคน มาถึงก็ถามหาเซี่ยยวี่หลัว “พี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้าเล่า? ”
เซียวยวี่กำลังกลัว น้ำเสียงสั่นเครือ!
“ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ! พวกเราไปซักเสื้อผ้า พอกลับมาพี่สะใภ้ใหญ่ก็หายไปแล้ว! ” เซียวจื่อเมิ่งร่ำไห้สะอื้น ดวงตาคู่โตร้องไห้จนตาบวม
เซียวจื่อเซวียนอธิบายแทนเซี่ยยวี่หลัว “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ต้องไปที่ไหนเป็นแน่ พี่สะใภ้ใหญ่ต้องกลับมาแน่ขอรับ! ”
เซียวหมิงจูที่อยู่ข้างๆ กล่าว “เจ้ากับอาเมิ่งหาในหมู่บ้านจนทั่วแล้ว หากนางอยู่ในหมู่บ้าน ได้ยินเสียงของพวกเจ้า เหตุใดถึงไม่ขานตอบ แล้วเหตุใดนางถึงไม่กลับบ้าน? นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า นางไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน นางไปแล้ว! ”
“ไม่มีทาง ไม่มีทาง พี่สะใภ้ใหญ่ไม่มีทางไปจากพวกเรา พี่สะใภ้ใหญ่เคยบอกไว้! ” เซียวจื่อเมิ่งร่ำไห้สะอื้น ไม่ยินยอมให้ผู้ใดกล่าววาจาว่าร้ายเซี่ยยวี่หลัว
แววตาของเซียวยวี่ดูมืดหม่น ดวงตาเป็นสีแดงสดราวกับสัตว์ร้ายที่บาดเจ็บอย่างไรอย่างนั้น
เซียวหมิงจูมองดูบุรุษตรงหน้าที่ตัวเองชอบมาหลายปี บัดนี้สภาพดูไม่ได้ รู้สึกสงสารจับใจ จึงเดินขึ้นหน้าพร้อมกล่าวด้วยความสงสาร “พี่อายวี่ เปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ท่านเป็นเช่นนี้ อาจเป็นหวัดเอาได้! ”
เซียวยวี่ทำหูทวนลมใส่วาจาของเซียวหมิงจู ตอนนี้ด้านนอกมีชาวบ้านที่มาดูเรื่องสนุกรายล้อมอยู่ไม่น้อย เซียวจิ้งยี่มาถึงอย่างเร่งรีบ เห็นสภาพทุลักทุเลของเซียวยวี่ ก็รู้สึกเจ็บปวดใจนัก “อายวี่ เจ้าทำอะไรกัน? สอบไม่ผ่านปีหน้าค่อยสอบใหม่ก็ได้ เจ้ารีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน หากเป็นหวัดจะลำบากได้”
เซียวยวี่ยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
เขาจ้องมองห้องของเซี่ยยวี่หลัวไม่ละสายตา หยาดน้ำตาร่วงโรยประหนึ่งสร้อยไข่มุกที่สายร้อยขาด
ตอนที่รู้ว่าตัวเองสอบไม่ผ่าน เซียวยวี่ไม่เคยหลั่งน้ำตาแม้แต่หยดเดียว
แต่มาบัดนี้…
เซียวจิ้งยี่เห็นท่าทางหมดอาลัยตายอยากของเซียวยวี่ นี่เป็นหนที่สองที่เห็นเขามีสภาพเช่นนี้
ยังจำได้ว่าในหนแรก เป็นตอนที่ฝังศพให้บิดามารดาของเซียวยวี่ เด็กคนนี้มีสภาพเช่นนี้ เห็นแล้วทั้งรู้สึกเจ็บปวดใจและบีบคั้นหัวใจนัก
“อายวี่…” เซียวจิ้งยี่คิดอยากปลอบใจ แต่ไม่รู้ว่าควรเอ่ยปากเช่นไร
เรื่องเซี่ยยวี่หลัว เขาก็ได้ยินมาแล้ว อยากบอกว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่ใช่คนที่รังเกียจความยากจนชื่นชอบความร่ำรวย ทว่าที่นางหายตัวไป ก็เป็นความจริง
“บางที ยวี่หลัวอาจไปที่ไหน จึงกลับช้าก็เป็นได้…” สุดท้ายเซียวจิ้งยี่ก็กล่าว
ได้รู้จักกับเซี่ยยวี่หลัวมานานถึงเพียงนี้ เซียวจิ้งยี่เชื่อว่าตัวเองไม่มีทางดูผิด เซี่ยยวี่หลัวเป็นสตรีที่ดี นางไม่มีทางทำเช่นนั้น!
เซียวหมิงจูเห็นว่าเซียวจิ้งยี่ยังช่วยพูดแทนเซี่ยยวี่หลัว จึงกล่าว “หัวหน้าหมู่บ้าน เช่นนั้นท่านว่านางไปที่ไหนเจ้าคะ? ฝนตกหนักถึงเพียงนี้ นางคนเดียวจะไปที่ไหนได้? ”
เซียวจิ้งยี่ “…เรื่องนี้” เรื่องนี้จะให้เขากล่าวเช่นไร เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเซี่ยยวี่หลัวไปที่ไหน
เซียวหมิงจูเห็นว่าหัวหน้าหมู่บ้านกล่าวไม่ออก จึงกล่าวอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย “เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าพี่อายวี่สอบไม่ผ่าน ด้วยความผิดหวัง ไม่อาจทนสภาพยากจนของครอบครัวได้ ดังนั้นนางจึงหนีไปแล้ว”
เซียวยวี่หลับตา หยาดน้ำตาไหลลู่ลงสองข้างแก้มด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง
นางรู้ว่าเจ้าสอบไม่ผ่าน ด้วยความผิดหวัง ไม่อาจทนสภาพยากจนของครอบครัวได้ จึงหนีไปแล้ว
หลายเดือนก่อน ภาพเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนมีปากเสียงกันภายในห้อง เซียวยวี่ไม่กล้าหวนคิดถึง บัดนี้กลับฉายชัดในห้วงภวังค์ของเขาทีละเล็กทีละน้อย
“เซียวยวี่ ข้าไม่มีทางทนลำบากกับเจ้า เจ้ามอบหนังสือหย่าให้ข้าหนึ่งฉบับก่อน หากเจ้าสอบผ่าน ข้าก็จะอยู่ในบ้านนี้ต่อ แต่หากเจ้าสอบไม่ผ่าน ข้าก็จะไปทันที เจ้าอย่าหาว่าข้าไร้เยื่อใย ใครใช้ให้ท่านตาที่ตาบอดของข้าให้ข้าแต่งกับเจ้าที่ยากไร้เช่นนี้! ” ยังคงเป็นใบหน้านั้น แต่ทุกวาจาที่เอื้อนเอ่ยออกมาประหนึ่งใบมีดอันแหลมคมที่ทิ่มแทงหัวใจของเซียวยวี่
เขาไม่ยินยอมจะโต้เถียงกับเซี่ยยวี่หลัว จึงให้หนังสือหย่ากับนางหนึ่งฉบับ เซี่ยยวี่หลัวจึงพึงพอใจ “ได้ หนังสือหย่าข้ารับไว้แล้ว ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อน หากเจ้าสอบไม่ผ่าน ข้าก็จะไป นับแต่นี้ไป ฟ้าดินกว้างใหญ่ พวกเราไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกันอีก”
เรื่องราวในอดีตปรากฏขึ้นทีละเล็กทีละน้อย เซียวยวี่กัดริมฝีปาก รู้สึกเจ็บปวดจนหัวใจแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ
——————-
เชิงอรรถ
[1] ซิวหลัว คือ ชูร่า ซึ่งเป็นเทพที่มีนิสัยดุร้าย