ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 11 บทที่ 319 อุปสรรคการอาบน้ำ
เซี่ยยวี่หลัวนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำแสนอบอุ่น น้ำที่กระเพื่อมไปมา เคลื่อนผ่านผิวกายของนาง ชำระล้างคราบเหงื่อเหม็นและความไม่สบายตัวที่เหนียวเหนอะหนะบนกายนางออกไป
นางหลับตาลง ค่อยๆ อิ่มเอมกับความสบายนี้
ส่วนเซียวยวี่ กลับต้องกลั้นหายใจขณะพุ่งพรวดออกมาจากห้องเล็ก ออกจากห้องของนาง
กลับถึงห้องตัวเองอย่างยากลำบาก ลมหายใจที่กลั้นไว้ ในที่สุดก็คายออกมาได้
หน้าอกที่ยุบและพองขึ้น หัวใจที่เต้นอย่างรุนแรงอยู่ในนั้น คอยย้ำเตือนกับเขา ว่าความรู้สึกเมื่อครู่ไม่ใช่แค่ฝันไป
เขาทำตามคำสัญญา ไม่เคยลืมตาแม้แต่ครั้งเดียว
แม้แต่ตอนเขาช่วยถอดเสื้อให้เซี่ยยวี่หลัว ก็ใช้เพียงปลายเล็บ ทว่า สัมผัสใกล้ชิดถึงเพียงนั้น จะสัมผัสไม่โดนร่างกายนางได้อย่างไร
เขาสัมผัสได้ ว่าปลายเล็บของเขาเคลื่อนผ่านผิวของนาง สัมผัสโดนความอ่อนนุ่มที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน จากนั้นปลายเล็บก็ราวกับจะมีไฟลุกไหม้อย่างไรอย่างนั้น จากปลายเล็บลามมาถึงทั้งตัว เขาไม่อาจควบคุมได้ ไม่ว่าทำอย่างไรก็ไม่อาจสะกดไว้
ร่างกายเริ่มร้อนรุ่ม
เซียวยวี่สัมผัสใบหน้าตัวเอง ใบหน้าเริ่มร้อนแล้วจริงๆ
ร้อนกว่าเซี่ยยวี่หลัวที่มีไข้ตัวร้อนเสียอีก
ด้านหนึ่งตัวเขาร้อนรุ่มไปทั้งตัว เกรงว่าเซี่ยยวี่หลัวจะสังเกตเห็นความผิดปกติ อีกด้านหนึ่งก็เป็นห่วงว่าเซี่ยยวี่หลัวจะอาบคนเดียวไหวหรือไม่
เซียวยวี่จุ่มหน้าลงไปในอ่างน้ำ ทำให้สติแจ่มชัดขึ้น จากนั้นจึงออกไป
ผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้ายังตากอยู่บนราวไม้ไผ่ด้านนอก เซียวยวี่เก็บผ้าเช็ดตัวและเสื้อเข้าไปในห้อง
พอเข้าห้อง ก็พบความผิดปกติทันที
เด็กสองคนรออยู่ภายในห้อง กำลังมุงดูห้องเล็กที่ไม่ได้ปิดผ้าม่านและไม่ได้ปิดประตู
สมควรตายนัก ก่อนออกไปลืมปิดผ้าม่าน!
อ่างอาบน้ำวางอยู่ด้านหลังกำแพง มองจากด้านนอกไม่สามารถมองเห็นด้านใน แต่เซียวยวี่ก็รู้สึกไม่พอใจ สีหน้าบึ้งตึงในทันใด
เขาเดินขึ้นหน้าอย่างรวดเร็ว จับคอเสื้อเซียวจื่อเซวียนจากข้างหลัง ดันออกไปด้านนอก
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่…” เซียวจื่อเซวียนส่งเสียงร้องลั่น ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่ของตัวเองเป็นอะไรไป
เซียวยวี่สีหน้าถมึงทึง ดันตัวเขาออกไป
“รออยู่ข้างนอก” ประตูถูกปิด เซียวจื่อเซวียนเพียงได้ยินประโยคนี้ประโยคเดียว
ถึงแม้เซียวจื่อเซวียนจะอายุน้อย แต่ก็เป็นบุรุษ ให้เขาอยู่ที่นี่ฟังเซี่ยยวี่หลัวอาบน้ำ เพราะเป็นน้องชายแท้ๆ ของเขา หากไม่ใช่น้องชายแท้ๆ เขาคงกระชากคอเสื้อจับโยนออกไปแล้ว มีหรือจะอ่อนโยนเช่นนี้
เซียวจื่อเมิ่งก็ตกใจสะดุ้ง “พี่ใหญ่ พี่รองเป็นอะไรไปเจ้าคะ? ”
เซียวยวี่สีหน้าบึ้งตึง หาที่นั่งลง “ไม่มีอะไร”
เซียวจื่อเมิ่งก็นั่งลงอย่างว่าง่าย รอให้พี่สะใภ้ใหญ่อาบเสร็จ
เซี่ยยวี่หลัวแช่ตัวอยู่ด้านในครู่หนึ่ง ถูตัวอาบน้ำไม่กี่ทีก็อาบเสร็จแล้ว นางเอื้อมมือไปจับ ตำแหน่งที่ปกติวางผ้าเช็ดตัวนั้นว่างเปล่า เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้าพร้อมยิ้มขม “จื่อเมิ่ง หยิบผ้าเช็ดตัวให้พี่สะใภ้ใหญ่หน่อย”
เซียวยวี่ลุกพรวดขึ้นอย่างฉับพลัน ยื่นผ้าเช็ดตัวให้เซียวจื่อเมิ่ง เซียวจื่อเมิ่งสาวเท้าก้าวเล็กวิ่งเข้าไป “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ ข้ามาแล้วเจ้าค่ะ”
เซียวจื่อเมิ่งพุ่งพรวดเข้าไป ยื่นส่งผ้าเช็ดตัวให้เซี่ยยวี่หลัว
หลังจากได้อาบน้ำ รู้สึกสบายตัวขึ้นไม่น้อย สติก็แจ่มชัดขึ้นมาก เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้อ่อนเพลียเหมือนก่อนหน้านี้อีก เดินออกมา ใช้ผ้าเช็ดตัวห่อตรงช่วงอกไว้
ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พอ ไม่ต่างกับผ้าเช็ดตัวในยุคปัจจุบันมากนัก สามารถปิดตั้งแต่ช่วงอกถึงต้นขาได้
เซี่ยยวี่หลัวมีแรงคาดผ้าเช็ดตัว แต่กลับไม่มีแรงยืนสวมใส่เสื้อผ้าตรงนี้ จึงใช้มือหนึ่งจับผ้าเช็ดตัวไว้ อีกมือหนึ่งค้ำกำแพง เดินออกไปด้านนอกอย่างเชื่องช้า
เซียวจื่อเมิ่งรีบไปพยุงนาง “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าพยุงท่านเดินเองเจ้าค่ะ”
ทั้งสองคนเดินออกมา กำลังคิดจะก้าวลงบันได เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ร่างกายโซเซ
เซียวจื่อเมิ่งที่อยู่ข้างๆ ตกใจจนร้องเสียงแหลม “พี่สะใภ้ใหญ่…”
เดิมทีเซียวยวี่หันหลังอยู่ พอได้ยินเสียงของเซี่ยยวี่หลัวด้านใน เห็นว่านางมีแรงพอ กำลังจะออกประตู ใครจะรู้ว่าเสียงร้องแหลมของเซียวจื่อเมิ่งทำให้เซียวยวี่ตกใจจนขวัญกระเจิง หันขวับวิ่งพุ่งไปหาเซี่ยยวี่หลัวทันที
รับตัวเซี่ยยวี่หลัวที่เกือบจะล้มไว้ได้
มือหนึ่งของเซี่ยยวี่หลัวยังจับผ้าเช็ดตัวไว้อยู่ มืออีกข้างหนึ่งโอบเซียวยวี่ไว้
ร่างกายของนางล้มจากบนลงล่าง แนบติดบนตัวเซียวยวี่ทั้งหมด ส่วนเซียวยวี่ก็โอบเอวนางไว้ ทั้งสองคนสบประสานสายตา ขอเพียงเหลือบมองลงด้านล่างเล็กน้อย ก็สามารถเห็นไหล่มนเรียบเนียนและกระดูกไหปลาร้าที่น่าหลงใหลของเซี่ยยวี่หลัว
หลังจากอาบน้ำ บนกายยังมีไอน้ำชุ่มฉ่ำ ดวงตาคู่โตที่ทรงเสน่ห์แฝงเร้นด้วยกลิ่นอายน่าหลงใหล กลิ่นหอมหวนของสตรีลอยแตะจมูกเซียวยวี่ ทำให้ไฟปรารถนาของเขาที่เพิ่งสะกดไว้ได้พวยพุ่งขึ้นประหนึ่งเปลวเพลิงลุกโชน เผาไหม้ราวกับไฟลามทุ่ง
เซี่ยยวี่หลัวรู้ถึงสภาพของตัวเองในตอนนี้ดี ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว บนกายมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนหนึ่งที่ห่อหุ้มไว้ แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้คนคิดไปไกล
นางทั้งรู้สึกอับอายและโมโห แทบอยากหารูมุดหนีไปเสีย
แต่ก็รู้ว่าเซียวยวี่ทำไปเพื่อช่วยนาง ทำไปโดยไม่มีทางเลือก
มิเช่นนั้น หากปล่อยให้นางล้มลงมาทั้งอย่างนี้ คงกระแทกจนศีรษะแตกเลือดไหลนองเป็นแน่
เซียวยวี่เบือนหน้าหลบอย่างฉับพลัน ไม่มองอีกแม้แต่น้อย อุ้มเซี่ยยวี่หลัวเดินมาถึงข้างเตียงอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงหลับตาปี๋ ดึงผ้านวมมาปิดตัวนางไว้ หลังจากมั่นใจว่านางปลอดภัยแล้ว จึงพุ่งพรวดออกไปโดยไม่หันกลับมาด้วยซ้ำ ทั้งยังไม่ลืมที่จะกำชับเซียวจื่อเมิ่ง “ช่วยสวมเสื้อให้พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าด้วย”
ประตูถูกเปิดออก ก่อนจะถูกปิดสนิทอีกครั้ง
เซียวจื่อเมิ่งหยิบเสื้อให้เซี่ยยวี่หลัว “พี่สะใภ้ใหญ่ สวมเสื้อเจ้าค่ะ”
เซี่ยยวี่หลัวหน้าแดงถึงใบหู แทบอยากหารูบนพื้นมุดหนีไป
เมื่อเซี่ยยวี่หลัวสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จ เซียวจื่อเซวียนที่รออยู่ข้างนอกตลอดก็เข้ามา ยกโจ๊กหนึ่งชามพร้อมกล่าว “พี่สะใภ้ใหญ่ กินข้าวขอรับ”
เซี่ยยวี่หลัวหิวแล้วจริงๆ กำลังจะรับมา เซียวจื่อเซวียนกลับกล่าว “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าป้อนท่านเองขอรับ”
พี่ใหญ่บอกว่าพี่สะใภ้ใหญ่ร่างกายอ่อนเพลียเกินไป ต้องดูแลพี่สะใภ้ใหญ่ดีๆ
เซี่ยยวี่หลัวไม่มีแรงจริงๆ จึงนั่งพิงอยู่บนเตียง ยิ้มพร้อมกล่าว “ได้ เช่นนั้นก็ขอบคุณจื่อเซวียนมาก”
เซียวจื่อเซวียนทำท่าทางราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย ตักโจ๊กใส่หมูหนึ่งช้อน ยื่นส่งไปยังปากเซี่ยยวี่หลัว เซี่ยยวี่หลัวกำลังจะอ้าปากกิน กลับถูกคนแย่งไป
เซียวยวี่แย่งช้อนของเซียวจื่อเซวียนไป สีหน้าอึมครึมเสียยิ่งกว่าอะไร
“พี่ใหญ่…” เซียวจื่อเซวียนถือชามด้วยอาการวางตัวไม่ถูก เขาไม่รู้เลยว่าพี่ใหญ่เป็นอะไรไป?
เมื่อครู่เขาอยู่ในห้อง พี่ใหญ่ดันเขาออกไป เขานึกว่าพี่ใหญ่ทำเช่นนั้นเพราะเขายังไม่ได้ทำเรื่องที่ต้องทำให้เสร็จ จึงไปห้องครัวเพื่อตักโจ๊ก พี่สะใภ้ใหญ่อาบน้ำเสร็จแล้ว เขาจึงเข้ามาป้อนโจ๊กให้พี่สะใภ้ใหญ่ เขาทำไม่ถูกเช่นนั้นหรือ?
“ออกไป” เซียวยวี่เบือนหน้า รับชามในมือของเซียวจื่อเซวียนมา
เซียวจื่อเซวียนนึกว่าตัวเองทำผิด จึงขานรับด้วยอาการคอตกก่อนออกไป
เมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารของเขา เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกไม่อาจทนดูดาย “จื่อเซวียนทำอะไรผิดเช่นนั้นหรือ? ”
ถึงแม้ว่าเห็นเซียวยวี่อีกครั้ง เซี่ยยวี่หลัวเริ่มมีอาการหน้าแดงคอแห้ง แต่เรื่องที่ควรถามก็ยังต้องถาม เพื่อไม่ให้เด็กมีปมในใจ
เซียวยวี่นั่งลง มือหนึ่งถือชามอีกมือหนึ่งถือช้อน ตักหนึ่งช้อนยื่นส่งไปตรงปากเซี่ยยวี่หลัว “หิวแล้วใช่หรือไม่ โจ๊กนี่ไม่ร้อนแล้ว”
ไม่สนใจเซียวจื่อเซวียนแม้แต่น้อย
เซี่ยยวี่หลัว “…” อ้าปากอย่างว่าง่าย
กินเสร็จแล้วค่อยลองถามดูแล้วกัน