ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - ตอนที่ 4 บทที่ 105 โกรธแค้นเซี่ยยวี่หลัว
ท่านป้าสี่คิดไม่ถึงว่าเซี่ยยวี่หลัวจะมาเก็บผักด้วย รีบดึงเซียวหมิงจู ยิ้มแก้เก้อพร้อมกล่าว “ยวี่หลัว พวกเจ้าก็รู้ว่าเซียวเหลียงกำลังรับซื้อผักตี้เอ่อใช่หรือไม่? ”
เซี่ยยวี่หลัวขานตอบอย่างเรียบสงบ “เจ้าค่ะ”
เซียวหมิงจูมองไปทางเซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งด้วยความคาดหวัง เด็กสองคนย่อตัวอยู่บนพื้น กำลังเก็บผักอย่างมีความสุข
ไม่เห็นเลยว่าเซียวหมิงจูมา
“อาเซวียน อาเมิ่ง…” เซียวหมิงจูรู้สึกอึดอัดใจนัก เอ่ยปากเรียกเด็กสองคนด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
เด็กสองคนหันกลับมา เอ่ยเรียกพี่หมิงจูและท่านป้าสี่อย่างเคารพ จากนั้นก็ไม่กล่าวอะไรอีก เพียงก้มหน้าเก็บผักตี้เอ่อต่อ
เด็กสองคนทำตัวห่างเหินกับนางถึงเพียงนี้ สีหน้าของนางดูเศร้าหมอง แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและอิจฉา
นางดีต่อเด็กสองคนถึงเพียงนี้ เหตุใดเซี่ยยวี่หลัวใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ก็โดนนางซื้อใจไปได้ล่ะ?
ท่านป้าสี่เห็นเซียวหมิงจูเอาอีกแล้ว โมโหจนเส้นเลือดตรงขมับแทบปูดขึ้น
เรื่องที่บุตรสาวของตนเองมีใจให้เซียวยวี่ เซี่ยยวี่หลัวก็รู้ ใครจะรู้ว่าสตรีผู้นี้จะพูดเรื่องนี้ออกมาหรือไม่
นางยิ้มแก้เก้อพลางดึงเซียวหมิงจูไป “เช่นนั้นพวกเราจะไปเก็บด้านหน้า”
กล่าวจบ จึงออกแรงดึงเซียวหมิงจูที่ไม่อยากไป
เดินไปไม่ห่างนัก เซียวหมิงจูก็สะบัดมือท่านป้าสี่ออก “ท่านแม่ ท่านจะหนีทำไมเจ้าคะ ข้าไม่ได้ทำเรื่องผิดมหันต์อะไรเสียหน่อย ท่านจะกลัวเซี่ยยวี่หลัวทำไมเจ้าคะ! ”
ท่านป้าสี่ “เซี่ยยวี่หลัวรู้เรื่องของเจ้าแล้ว เจ้าไม่กลัวว่านางจะพูดออกมาให้เจ้าวางตัวลำบากหรือ? ”
เซียวหมิงจูยิ้มอย่างเย็นเยียบ “นางกล้าหรือ! ”
พูดออกมาสิถึงจะดี หากตนเองออกเรือนไม่ได้ ก็จะได้เกาะติดอายวี่ไปชั่วชีวิต หากอายวี่รู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นคนปากพล่อยเช่นนี้ ทำลายชื่อเสียงของสตรีที่ยังไม่ออกเรือน ต้องไม่ละเว้นเซี่ยยวี่หลัวแน่
ท่านป้าสี่ไม่รู้แผนการในใจเซียวหมิงจู นางโมโหจนแทบพูดอะไรไม่ออก “ช่วงนี้เจ้าจงสงบเสียบ้าง ส่วนบ้านเซียวยวี่เจ้าก็ไม่ต้องไปอีก”
“เหตุใดข้าต้องไม่ไปเจ้าคะ? อาเซวียนกับอาเมิ่งอยู่บ้าน อายวี่ไม่อยู่บ้าน หากเด็กสองคนนั้นโดนเซี่ยยวี่หลัวรังแกจะทำอย่างไรเจ้าคะ! ” เซียวหมิงจูกล่าวด้วยอารมณ์โมโห
ท่านป้าสี่ส่งเสียงเป็นเชิงตำหนิ “แล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย? เจ้าเป็นอะไรกับเซียวยวี่? เซี่ยยวี่หลัวเป็นภรรยาที่เซียวยวี่สู่ขอแต่งงานอย่างถูกต้อง จะดีหรือร้ายต่อเด็กสองคนก็เป็นเรื่องในครอบครัวคนอื่น เจ้ามีสิทธิอะไรไปยุ่งด้วย? “
เซียวหมิงจูถูกพูดดักจนกล่าวอะไรไม่ออก เหวี่ยงตะกร้าลงพื้นด้วยอารมณ์โมโหก่อนจะวิ่งหนีไป
ท่านป้าสี่เรียกให้นางกลับมา แต่นางกลับวิ่งไปจนไม่เห็นแม้แต่เงานานแล้ว
นางไม่มีหนทางอื่น ได้แต่ไปเก็บผักคนเดียว
ผักตี้เอ่อหนึ่งจินขายได้สามอิแปะ หากเก็บได้สามถึงสี่จิน ก็เป็นเงินสิบกว่าอิแปะแล้ว ในคันนามีผักตี้เอ่อขึ้นอยู่เต็ม ท่านป้าสี่ใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็เก็บได้กว่าครึ่งตะกร้า ลองประมาณน้ำหนักดู คาดว่าจะมีประมาณหนึ่งจินแล้ว!
ทว่า เห็นคนที่มาเก็บผักตี้เอ่อมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละคนมากันเป็นครอบครัว มือหลายคู่ย่อมเร็วกว่านางที่มีมือเพียงคู่เดียวมากนัก ภายในใจท่านป้าสี่รู้สึกหงุดหงิดใจนัก
เดิมทีหมิงจูตามนางมาแล้ว… หากไม่ใช่เพราะระหว่างทางพบเซี่ยยวี่หลัวเข้า ป่านนี้คงเก็บได้สองจินกว่าแล้ว ท่านป้าสี่ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดใจ ภายในใจก็พาลโกรธแค้นเซี่ยยวี่หลัว
ส่วนทางเซียวหมิงจู หลังจากกลับบ้านด้วยอารมณ์โมโห เห็นผ้าเช็ดหน้าหลายผืนที่ตนเองปักเสร็จแล้ว เดิมทีวันนี้นางคิดจะไปในตัวเมืองเพื่อขายผ้าเช็ดหน้าเหล่านี้ ท่านแม่กลับลากนางไปในนาเพื่อเก็บผักตี้เอ่ออะไรนั่น พลอยทำให้นางไม่ได้ไปในตัวเมือง
เซียวหมิงจูรู้สึกโมโหจนทนไม่ไหว จึงนั่งลง แล้วปักผ้าเช็ดหน้าที่นางยังปักไม่เสร็จจนเสร็จสมบูรณ์ หยิบผ้าเช็ดหน้าที่นางปักเสร็จแล้ว หิ้วตะกร้าไปในตัวเมือง
งานปักของนางขายให้ฮวาหม่านยีมาตลอด เมื่อถึงตัวเมืองจึงมุ่งตรงไปยังฮวาหม่านยี
มองแต่ไกล ก็เห็นว่าหน้าประตูฮวาหม่านยีมีคนยืนอยู่จำนวนไม่น้อย เหมือนกำลังพูดคุยอะไรกันอยู่
ฮวาหม่านยีมีลูกค้ามากถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน ราวกับว่าลูกค้าทั้งหมดในตัวเมืองล้วนกรูกันมาที่นี่อย่างไรอย่างนั้น
เซียวหมิงจูรีบเบียดเข้าไปดู ที่แท้ลูกจ้างร้านฮวาหม่านยีกำลังบันทึกอะไรบางอย่างอยู่ ข้างๆ มีคุณหนูที่แต่งตัวหรูหรางดงามและสาวใช้กำลังกล่าวอะไรกับเขาอยู่ ลูกจ้างผู้นั้นก็จดตาม
เซียวหมิงจูไม่ได้สนใจ อย่างไรเสียนางก็เป็นช่างปัก ปกติเพียงปักผ้าเช็ดหน้า ไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับคนที่นี่
นางหิ้วตะกร้าเดินเข้าไปในร้าน ขณะนี้ภายในร้านมีเด็กๆ จำนวนไม่น้อย
มีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย
ด้านในเสียงดังครึกครื้นยิ่งนัก
นางยืนอยู่หน้าประตูครู่ใหญ่ก็ยังไม่มีใครมาพูดคุยกับนาง นางเองไม่กล้าเข้าไป เพียงรอให้อีกฝ่ายง่วนกับงานเสร็จแล้ว จึงไปหาถงเต๋อ
ถงเต๋อดูผ้าเช็ดหน้าที่นางปักเสร็จแล้ว คุณภาพไม่เลวเลย
“ร้านเรากำลังหาคนปักผ้าเช็ดหน้า ฮวาหม่านยีจะเตรียมเข็มด้ายและผ้าเช็ดหน้าให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ขอเพียงเจ้าช่วยปัก ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนให้ห้าอิแปะ เจ้าอยากทำหรือไม่? “
เซียวหมิงจูผงะไปทันที
นางไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนจะได้รับเงินห้าอิแปะ เรื่องดีเช่นนี้มีแต่คนโง่ถึงจะไม่ตอบตกลง!
เซียวหมิงจูรีบพยักหน้าตอบรับ “อยาก อยากเจ้าค่ะ ข้าอยากทำแน่นอน! “
เก็บผักตี้เอ่อหนึ่งจินเพิ่งได้เงินแค่สามอิแปะ ทั้งยังต้องทนลมตากแดดอยู่ข้างนอก นางนั่งปักผ้าเช็ดหน้าอยู่ในบ้าน ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนได้เงินมากกว่าผักตี้เอ่อหนึ่งจินตั้งสองอิแปะเชียว!
ถงเต๋อรีบพานางไปยังห้องข้างๆ ในนั้นมีหญิงชาวบ้านอีกสองสามคน กำลังยืนอยู่ข้างช่างปักของฮวาหม่านยีดูพวกนางปักผ้า
ถงเต๋อชี้ไปทางแบบลายผ้าเช็ดหน้าจำนวนหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะด้านหน้าพลางกล่าว “เราจะปักผ้าเช็ดหน้าเช่นนี้ เจ้าลองดูว่าเจ้าปักแบบไหนได้ ลายเหล่านั้นมีคนรับไปแล้ว เหลือเพียงลายพวกนี้! “
เซียวหมิงจูขยับเข้าไปใกล้เพื่อดู
ก็เห็นผ้าเช็ดหน้าบนโต๊ะปักรูปแบบลวดลายหนู แมว และสุนัขที่น่ารักไว้ ท่าทางสดใสน่ารักนั่น คล้ายกับเด็กก็มิปาน
ช่างน่ารักเสียจริง!
มิน่าล่ะ เมื่อครู่ตอนอยู่ข้างนอกถึงเห็นเด็กมากมายเพียงนั้น ลวดลายเช่นนี้ อย่าว่าแต่เด็กเลย นางเองก็ชอบเหมือนกัน!
เซียวหมิงจูเลือกมาหนึ่งลาย จากนั้นจึงดูอยู่ด้านหลังช่างปักของฮวาหม่านยีครู่หนึ่ง ก่อนจะรับของกลับไปห้าชุด ตกลงไว้แล้วว่าสามวันให้หลังจะนำมาส่ง
ฮวาหม่านยีต้องการอย่างเร่งด่วน ทั้งยังต้องรับประกันคุณภาพ
ถงเต๋ออธิบายกฎเกณฑ์ให้นางฟังด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คุณภาพที่เราต้องการนั้นสูงมาก อย่าได้ปักแบบขอไปทีเพียงเพราะวัตถุดิบเหล่านี้ไม่ใช่ของเจ้า วัตถุดิบเหล่านี้มีมูลค่าสิบอิแปะ หากปักไม่ดี เราไม่เพียงจะไม่ให้ค่าแรง ทั้งยังจะเก็บค่าวัตถุดิบจากเจ้าด้วย เจ้าเข้าใจหรือไม่? “
เซียวหมิงจูรีบกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ ข้าจะปักให้ดีแน่นอน! “
ถงเต๋อรู้จักนาง ของที่นำมาส่งทุกครั้งล้วนเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า จึงให้นางไป
เซียวหมิงจูออกจากฮวาหม่านยีด้วยความรู้สึกยินดียิ่ง
เมื่อออกมาดูข้างนอก จึงเห็นอย่างชัดเจน ว่าเหล่าคุณหนูและสาวใช้ที่ยืนอยู่หน้าประตู ล้วนต้องการผ้าเช็ดหน้าที่นางกำลังจะปัก
มีคนต้องการมากถึงเพียงนี้เชียว เซียวหมิงจูแค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจแล้ว!
Related