ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 712 เหตุผลที่ลูกใช้นามสกุลตามพ่อ
ตอนที่ 712 เหตุผลที่ลูกใช้นามสกุลตามพ่อ
…………….
ตอนที่ 712 เหตุผลที่ลูกใช้นามสกุลตามพ่อ
หู่จือดูกระตือรือร้นที่จะตามเซี่ยอวี่และลินดาไปอย่างกะทันหัน ทำให้เซี่ยอวี่และลินดาแปลกใจมาก
เมื่อวานนี้ตอนที่เซี่ยไห่บอกว่าพวกเขาจะกลับบ้านแล้วจะพาหู่จือกลับมาก่อน หู่จือกลับยืนกรานไม่ยอมกลับ วิ่งเข้าไปในห้องแล้วไม่ยอมออกมา
แค่ชั่วข้ามคืน ความตื่นเต้นกับน้องชายคนใหม่ก็หายไปแล้วเหรอ?
เซี่ยอวี่พูดยิ้ม ๆ “หู่จือ เธอต้องคิดให้ดีนะ ถ้ากลับไปแล้วเราจะไม่พาเธอมาอีก ต้องรอจนเธอปิดเทอมฤดูร้อนถึงจะกลับมาได้”
หู่จือได้ยินคำพูดของเซี่ยอวี่แล้วก็พองแก้ม มองหลินเซี่ยอย่างห่วงหา
เห็นได้ชัดว่าเขาห่วงหลินเซี่ย
เขามองน้องชายที่นอนอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง
เขาที่สะพายกระเป๋านักเรียนด้วยสีหน้ากังวล ทำให้หลินเซี่ยรู้สึกเจ็บปวดใจ
เธอลูบหัวหู่จือ พูดว่า “ถ้าไม่อยากไปบ้านย่าก็ไม่ต้องไป อยู่บ้านเราเองแล้วรอให้พ่อไปส่งที่โรงเรียนในวันจันทร์ก็ได้จ้ะ”
หู่จือคิดแล้วคิดอีก ถ้าพ่อเขาเลิกงานกะดึกแล้วมาส่ง เขาก็จะไปโรงเรียนสาย
ทั้งพ่อและแม่ไม่มีใครไปส่งเขาได้ มีแต่คนบ้านยายรองเท่านั้นที่ไปส่งได้
หู่จือแอบมองโจวลี่หรงอย่างระมัดระวัง ตัดสินใจได้ในที่สุด “แม่ครับ ผมจะไปกับคุณยายรอง”
หลินเซี่ยพูดว่า “งั้นอีกสองวันตอนที่คุณยายรองมา ลูกก็ตามกลับมาด้วยนะ”
หลินเซี่ยฝากฝังเซี่ยอวี่และลินดา “คุณอา ช่วยดูแลหู่จือดี ๆ ด้วยนะคะ”
พูดจบ หลินเซี่ยก็รู้สึกแสบจมูกพร้อมกับก้อนอารมณ์จุกที่ลำคอ
เด็กคนนี้ช่างน่าสงสาร
ถ้าทุกคนมองเขาต่างไปจากเดิมเพราะเธอมีลูกแล้ว เขาคงรู้สึกแย่มาก
“เธอพูดอะไรเพ้อเจ้อกันน่ะ เราเคยปฏิบัติต่อเขาไม่ดีตอนไหนกัน”
เซี่ยอวี่คว้าตัวหู่จือมา ก้มตัวลงใช้มือทั้งสองข้างบีบหน้าเขา ถามด้วยท่าทางดุดัน “หู่จือ บอกมาซิว่ายายรองเคยรังแกเธอหรือเปล่า”
หู่จือทำปากยื่นกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง เซี่ยอวี่ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ไม่กี่วันก่อนฉันตีเธอก็เพราะเธอเอาดินสอเขียนคิ้วของฉันไปใช้เป็นดินสอธรรมดาไม่ใช่เหรอไง?”
หลินเซี่ย “???”
หล่อนตีจริง ๆ เหรอ
“ต่อไปฉันจะไม่ตีก้นเธอแล้ว เธออย่าไปฟ้องใครนะ”
หู่จือยิ้มอย่างซุกซน “ยายรอง ยายใจดีกับผมที่สุดเลย ถ้าผมทำผิดก็สมควรโดนยายตีแล้ว ผมไม่โกรธยายหรอก”
จริง ๆ แล้วยายรองไม่ได้ตีเขาแรงเลย แค่ตีก้นเขาทีเดียว ไม่เจ็บเลย
“หึ เธอผิดแล้วยังกล้าโกรธฉันอีกเหรอ” เซี่ยอวี่ทำท่าโกรธ “เธอไปฟ้องแม่เธอใช่ไหม”
หู่จือส่ายหน้าแรง ๆ “ไม่ได้ฟ้องสักหน่อย ผมลืมเรื่องนั้นไปแล้ว”
เขาทำความผิด ปกปิดยังไม่ทัน จะกล้าไปฟ้องได้อย่างไร
หลินเซี่ยมองดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยอวี่กับหู่จือ ซึ่งเหมือนกับตอนที่เธอกับหู่จือเพิ่งรู้จักกันใหม่ ๆ
ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสนุกสนานที่บ้านแม่ของเธอ หู่จือรู้สึกผ่อนคลายทั้งกายใจ ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังหรือกังวลใดๆ
เธอจึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย “เอาล่ะค่ะ คุณอา คุณพาเขาไปเถอะ ถ้าเขาก่อเรื่องอีก คุณก็ตีเขาได้”
หู่จือ”!!!”
หลินเซี่ยเสริม “แต่อย่าตีแรงเกินไปนะคะ”
“งั้นพวกเราไปละ”
เจียงอวี่เฟยโบกมือลาโจวลี่หรง “ป้าโจว ลาก่อนนะคะ”
โจวลี่หรงยิ้มตอบ “ลาก่อน แวะมาบ่อย ๆ นะถ้าว่าง”
“ค่ะ”
บ้านของเจียงอวี่เฟยไม่ได้อยู่ระหว่างทาง หล่อนบอกว่ามีรถเมล์ไปตรง หล่อนจึงไปขึ้นรถเมล์
หู่จือก้มหน้าลงต่ำ สายตามองพื้น
“เธอถูกรังแกหรือเปล่า” เซี่ยอวี่ถามต่อ
หู่จือส่ายหัว
เขาพูดอย่างหดหู่ “ไม่ได้ถูกรังแกหรอกครับ ผมเองต่างหากที่ทำผิด ผมไม่ควร…เขย่าปลุกน้องให้ตื่น”
เซี่ยอวี่นึกถึงสีหน้าเรียบเฉยของโจวลี่หรงแล้วรู้สึกหมดหนทาง
หลินเซี่ยอยู่เดือนในสภาพแวดล้อมที่น่าอึดอัดแบบนั้น ต้องรู้สึกเหมือนหนึ่งวันเป็นหนึ่งปีแน่ ๆ
พอกลับถึงบ้าน เซี่ยอวี่ก็ถอนหายใจ ถามคุณแม่เซี่ยในสิ่งที่สงสัยมาตลอด “แม่คะ ทำไมผู้หญิงถึงอยู่เดือนที่บ้านตัวเองไม่ได้ล่ะคะ”
คุณแม่เซี่ยได้ยินคำพูดของเซี่ยอวี่ก็ขมวดคิ้วใส่ “ใครเขาไปอยู่เดือนที่บ้านตัวเองกัน?”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ” เซี่ยอวี่สงสัยจริง ๆ เรื่องนี้มันมีอะไรต้องเข้มงวดขนาดนั้น?
จำเป็นต้องไปอยู่บ้านสามี แล้วยังต้องให้แม่สามีดูแลอีก
ถ้าให้แม่และพี่สะใภ้ของหล่อนดูแล ทั้งบ้านจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เวลาก็จะผ่านไปเร็ว ๆ
เซี่ยไห่ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รีบตอบ “ผมเดาว่าน่าจะเป็นเพราะลูกใช้นามสกุลพ่อหรือเปล่า?”
ลูกเป็นของฝ่ายชาย ก็เลยต้องไปอยู่เดือนที่บ้านฝ่ายชายเป็นธรรมดา
ไม่งั้นทำไมเวลาผู้หญิงแต่งงานถึงเรียกว่าแต่งออกไป
เซี่ยอวี่พูดขึ้น “งั้นให้ลูกใช้นามสกุลแม่ก็ได้นี่”
เซี่ยไห่ “!!!”
“แล้วผู้ชายอย่างพวกเราจะมีเรื่องอะไรให้ทำอีกล่ะ?”
เซี่ยอวี่กับลินดาจ้องมองเขาพร้อมกัน “ผู้ชายไว้ใจไม่ได้ จะให้พวกนายทำอะไรได้? มีลูกแล้วก็ไล่พ่อทิ้งเก็บลูกไว้สิ”
เซี่ยไห่ฟังแล้วตกใจจนสะดุ้ง ผู้หญิงเพี้ยนสองคนนี้พูดอะไรกันน่ะ?
อะไรคือไล่พ่อทิ้งเก็บลูกไว้?
เซี่ยไห่พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า
“จริง ๆ แล้วการที่ลูกใช้นามสกุลพ่อไม่ได้เป็นความคิดที่ดูถูกผู้หญิงหรอก ผมเข้าใจว่ามันหมายความว่า ลูกเกิดมาจากท้องของผู้หญิงอยู่แล้ว ถ้าลูกยังใช้นามสกุลแม่อีก สามีก็จะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความหมายในครอบครัว ไม่รู้สึกถึงบทบาทการเป็นพ่ออย่างชัดเจน แบบนั้นก็จะไม่มีความรับผิดชอบมากพอ
แต่ถ้าลูกใช้นามสกุลพ่อ จะทำให้ผู้ชายรู้สึกจริง ๆ ว่าลูกคนนี้เป็นลูกของเขา ทำให้เขาเกิดความรับผิดชอบและความรู้สึกเป็นเจ้าของครอบครัว”
ว่ากันว่าผู้ชายพอเป็นพ่อคนแล้วถึงจะโตเป็นผู้ใหญ่จริง ๆ
เซี่ยเหลยค่อนข้างเห็นด้วย “ฉันว่าความเห็นของเสี่ยวไห่ค่อนข้างลึกซึ้งอยู่นะ”
เซี่ยไห่ดีใจที่ความเห็นของเขาได้รับการยอมรับจากพี่ใหญ่ เขาลูบผมอย่างภาคภูมิใจ มองไปที่ลินดาและอวดความสำเร็จ “ที่รัก ผมพูดถูกใช่ไหมล่ะ?”
ลินดาทำสีหน้าเย็นชา แสดงออกว่าไม่อยากเข้าร่วมการสนทนานี้
“แต่พี่ใหญ่ ตอนนี้เซี่ยเซี่ยยังไม่ได้เปลี่ยนนามสกุลเลย พี่รู้สึกผิดหวังบ้างไหม?”
ได้ยินคำพูดของเซี่ยไห่ หลิวกุ้ยอิงก็มองไปที่เซี่ยเหลย
เซี่ยเหลยหัวเราะ “ถามอะไรแบบนี้? นายเรียกหล่อนว่าเซี่ยเซี่ยแล้ว ยังจะสนใจนามสกุลอีกเหรอ?”
ใครจะไปสนใจเรื่องนี้กันล่ะ?
ชื่อของลูกสาวเขาก็คือนามสกุลของเขา
เซี่ยเหลยคิดว่านี่คงเป็นเรื่องที่โรแมนติกที่สุดในโลกแล้ว
คุณแม่เซี่ยพูดเสริมด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว ไม่ว่าจะนามสกุลหลินหรือนามสกุลเซี่ย มีคำว่าเซี่ยก็พอแล้ว”
เซี่ยไห่มองเซี่ยอวี่และลินดาด้วยสีหน้าจริงจังมากพลางสั่งสอนพวกหล่อน
“พี่สาว พวกผู้หญิงเก่งอย่างคุณต้องเปลี่ยนความคิดสักหน่อยนะ อย่าทำอะไรแบบไม่มีพ่อแต่มีลูกบ่อย ๆ สิ”
เซี่ยไห่พูดอย่างจริงจังว่า “พวกคุณอาจให้ชีวิตที่ดีที่สุดแก่ลูก ๆ ได้ แต่พวกคุณให้ความรักของพ่อไม่ได้หรอก โดยเฉพาะถ้าคุณมีลูกชาย การที่เด็กไม่มีพ่ออยู่เคียงข้างคอยอบรมสั่งสอน พอโตขึ้นมาก็จะขาดพลังหยินหยาง ซึ่งไม่ดีต่อการเติบโตของเด็กมาก”
“แน่นอนว่าจะขาดความรักจากแม่ไม่ได้เช่นกัน พวกคุณไม่เคยเห็นเด็ก ๆ สมัยก่อนที่ขาดความมั่นคงปลอดภัยเลยใช่ไหม อย่าคิดว่าปัญหามันแก้ง่ายเพียงใช้เงินแล้วจะแก้ไขได้ทุกอย่างสิ”
พอพูดถึงหู่จือ เซี่ยไห่ก็เริ่มหดหู่อีกครั้ง
ใกล้ถึงวันที่หู่จือจะได้เจอจางเหมยแล้ว
หลังจากที่หู่จืออาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลเซี่ย เซี่ยไห่ก็จดจำวันที่หู่จือจะได้พบจางเหมยเสมอ
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สงสารหู่จือ ไปทางไหนก็ไม่เป็นที่ยอมรับ มีแต่บ้านแม่ที่ยอมรับ
ที่พี่ไห่พูดมาก็มีเหตุผลอยู่นะ
ไหหม่า(海馬)
…………….