ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 691 เขายังไม่ตาย แต่กำลังรับโทษ
ตอนที่ 691 เขายังไม่ตาย แต่กำลังรับโทษ
……….
ตอนที่ 691 เขายังไม่ตาย แต่กำลังรับโทษ
เป็นเพราะความคิดนี้ เสิ่นอวี้หลงจึงรู้สึกจุกที่หัวใจ เขาใช้มือกุมหน้าอก หายใจไม่ทั่วท้อง และจมดิ่งอยู่กับความเศร้าโศกอันไร้ที่สิ้นสุด
ขณะนั้นเอง ผู้เฒ่าเซี่ยก็ผลักประตูเข้ามา
เมื่อเห็นสีหน้าที่แปลกไปของเสิ่นอวี้หลง เขาก็รีบวิ่งมาถามด้วยความเป็นห่วง “อวี้หลง เป็นอะไรไป?”
เสิ่นอวี้หลงได้ยินเสียงของตาจึงรีบเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเขาอาบไปด้วยน้ำตา
ผู้เฒ่าเซี่ยถึงกับตกใจ อดไม่ได้ที่จะมองไปทางประตูข้างนอก
เซี่ยหลานได้พูดอะไรบางอย่างกับเขาก่อนที่จะออกไปหรือไม่?
ผู้เฒ่าเซี่ยถามอย่างห่วงใย “เด็กน้อย เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”
แต่เสิ่นอวี้หลงกลับปล่อยโฮ ซบที่ตักผู้เฒ่าเซี่ยแล้วสะอื้นออกมา
ผู้เฒ่าเซี่ยลูบหลังเขาเบาๆ พูดปลอบอย่างอ่อนโยน “เอาล่ะๆ รีบบอกตาเถอะว่าเกิดอะไรขึ้น”
“คุณตา พวกคุณกำลังปิดบังอะไรผมไว้ นี่ผ่านมาตั้งสามเดือนแล้ว ทำไมถึงไม่บอกผม พ่อผมเป็นอะไรกันแน่ ตาพูดความจริงมา พ่อผมเป็นอะไรไปหรือเปล่า”
ผู้เฒ่าเซี่ย “???”
หลังได้ยินคำพูดสะอื้นขาดๆ หายๆ ของเสิ่นอวี้หลง เขาจึงได้เข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เสิ่นอวี้หลงร้องไห้
เด็กคนนี้คิดว่าเสิ่นเถี่ยจวินตายแล้ว?
นั่นก็จริง สามเดือนที่ผ่านมาไร้ซึ่งข่าวคราว อีกทั้งพวกเขายังจงใจหลีกเลี่ยงประเด็นนี้และไม่ได้บอกกล่าวอะไรเด็กคนนี้เลย ไม่แปลกที่เขาจะคาดเดาแบบนี้
เขาผลักเสิ่นอวี้หลงออก แล้วพูดพร้อมกับหัวเราะว่า “เด็กน้อย เธอคิดมากไปแล้ว”
ในเวลานี้ หมอเย่ก็เดินเข้ามาพอดี และได้ยินคำถามที่เสิ่นอวี้หลงถามผู้เฒ่าเซี่ยด้วยเช่นเดียวกัน
บนใบหน้าของหมอเย่ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา
แต่พอเป็นแบบนี้ก็สะดวกแล้ว
เสิ่นอวี้หลงจำลองสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุดไว้ในใจแบบนี้ นั่นแสดงว่าเขามีการเตรียมใจสำหรับเรื่องนี้ไว้แล้ว
เด็กหนุ่มคิดว่าเสิ่นเถี่ยจวินตายแล้ว เลยเสียใจร้องไห้ออกมา
ในตอนนั้นเองเขาก็จะบอกว่าเสิ่นเถี่ยจวินยังไม่ตาย แค่ทำผิดจนต้องเข้าคุกไปรับโทษ
ติดคุกก็ยังดีกว่าตาย
เมื่อความรู้สึกเหล่านี้สงบลง เสิ่นอวี้หลงก็สงบลงได้
หลังเห็นว่าผู้เฒ่าเซี่ยปฏิเสธการคาดเดาของเขา เสิ่นอวี้หลงก็ซักไซ้ “คุณตา แล้วพ่อของผมตอนนี้อยู่ที่ไหน? ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ ทำไมถึงไม่ปรากฏตัว?”
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาเกือบจะแอบไปที่บ้านพักของครอบครัว
หมอเย่เดินไปที่ข้างเตียง ทำหน้าขึงขังแสร้งทำเป็นดุ “อวี้หลง เป็นลูกผู้ชายแล้วร้องไห้ทำไม? นั่งลง”
สิ้นเสียงหมอเย่ เสิ่นอวี้หลงก็ผละออกจากอ้อมกอดของผู้เฒ่าเซี่ย แล้วนั่งตัวตรงบนเตียง
ชายชราทั้งสองนั่งลงบนเก้าอี้
ผู้เฒ่าเซี่ยมองเขาสีหน้าจริงจังเอ่ยว่า “อวี้หลง เมื่อปีที่แล้วตอนที่หลานสลบไม่ฟื้น ครอบครัวเราได้เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการรักษาของหลาน ทุกคนเลยปิดบังหลานไว้ในบางเรื่อง”
ผู้เฒ่าเซี่ยในฐานะนักปราชญ์ให้ความสำคัญกับมารยาทเสมอ “สำหรับเรื่องนี้ ตาต้องขออภัยหลานก่อน”
เสิ่นอวี้หลงในเวลานี้ไม่สนใจพิธีการอันยุ่งยากใดๆ เขาถามอย่างร้อนใจ “คุณตา ขอโทษผมเรื่องอะไรกัน ตาเล่ามาเถอะ เกิดอะไรขึ้นที่บ้านบ้าง?”
หมอเย่เอ่ยแทรก “จะร้อนใจไปทำไมไอ้หนุ่มเอ๋ย เธอประสบความยากลำบากมามากมาย จิตใจแกร่งกล้าเช่นนี้ ทุกวันนี้ยังมีเรื่องใดอีกที่เธอจะรับไม่ได้ ท้องฟ้าไม่ถึงกับถล่มลงมาสักหน่อย”
หมอเย่พูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย น้ำเสียงและแววตาของเขาทำให้เสิ่นอวี้หลงสงบลง
ฟังจากน้ำเสียงของหมอเย่ ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
“จริงเหรอครับ”
ประโยคเดียวของหมอเย่ ทำให้เสิ่นอวี้หลงผ่อนคลายลงทั้งกายใจ
เขาไว้ใจคุณหมอไม่ว่ากรณีใดๆ อีกอย่าง ในเมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลต้องมาหลอกเขาอีก
พรุ่งนี้เขาก็จะออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้าน จะมาหลอกกันตอนนี้ก็คงไม่ได้ผล
“แล้วทำไมเขาถึงไม่มาเยี่ยมผมเลยล่ะครับ?” เสิ่นอวี้หลงบ่นพึมพำพร้อมกับทำปากยื่น “พวกคุณอย่ามาอ้างว่าเขาไปทำงานต่างจังหวัดหรือไม่รู้เรื่องเขาอีกนะ ผมไม่เชื่อ งานของเขาไม่มีทางจะสำคัญขนาดนั้น”
ขนาดเฉินเจียเหอเป็นช่างเทคนิค หัวหน้าของโรงงานผลิตรถไฟ เขายังไม่เคยหายไปหลายเดือนเลย
“ต่อไปนี้ เธอตั้งใจฟังให้ดี ห้ามตื่นตกใจหรือโวยวาย ต้องคุมอารมณ์ให้สงบ พวกเราเป็นลูกผู้ชาย ต้องวางตัวให้มั่นคงเยือกเย็นเมื่อเผชิญปัญหาต่าง ๆ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
“ครับ”
หมอเย่บอก “พ่อของเธอมีปัญหาด้านการทำงาน เขาทำผิดกฎหมายและละเมิดระเบียบวินัย หลังจากที่ตรวจสอบแล้วก็พบว่าความผิดนั้นเป็นจริง จึงถูกจับเข้าคุก ตอนนี้เขากำลังรับโทษอยู่ในเรือนจำ เมื่อเธอแข็งแรงขึ้นกว่านี้ เธอก็ไปเยี่ยมเขาได้” หมอเย่มองผู้เฒ่าเซี่ยแล้วถาม “เสิ่นเถี่ยจวินอยู่ในเรือนจำแห่งชาติไห่เฉิงใช่ไหม?”
ผู้เฒ่าเซี่ย สังเกตอารมณ์ของหลานชายพลางพยักหน้า “ใช่เเล้ว เรือนจำไห่เฉิง”
“มันเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง? พ่อผมไม่ใช่คนแบบนั้น พ่อผมไม่มีทางทำผิดกฎหมายหรอก” ถึงแม้ว่าหมอเย่จะสร้างภูมิต้านทานไว้แล้ว และบอกเขาว่าอย่าตื่นเต้น แต่เสิ่นอวี้หลงก็ยังคงตกใจจนพูดเสียงดัง ใบหน้าขาวซีดแดงก่ำเพราะความตื่นเต้น ดวงตาเบิกกว้าง
พ่อของเขาทำผิดกฎหมายหรือ
“ขนาดตัวเธอเองยังไม่รู้จักตัวเองดีเลย จะรู้ได้ยังไงว่าพ่อเธอไม่ใช่คนแบบนั้น?” หมอเย่กล่าว “เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรเราเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่เธอต้องเข้าใจว่า องค์กรจะไม่กลั่นแกล้งผู้บริสุทธิ์ เสิ่นเถี่ยจวินอยู่ในตำแหน่งนั้นมาเป็นเวลานาน เขาทำอะไรบ้าง องค์กรก็ต้องตรวจสอบให้กระจ่าง”
“ถูกตัดสินจำคุกกี่ปีครับ” เสิ่นอวี้หลงถามเสียงสั่นเครือ
หมอเย่ส่ายหน้า “ไม่แน่ใจ อาจจะต้องอยู่ในนั้นนานหลายปี ด้วยความผิดรับสินบน ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินสาธารณะ ข้อหานี้หนักหนา เขาเป็นคนเลือกเอง เมื่อทำแล้วก็ต้องรับผิดชอบในผลที่จะตามมา เธอในฐานะลูกชายก็ต้องดูแลสุขภาพให้ดี แล้วไปเยี่ยมเขาให้บ่อยๆ ช่วยเหลือเขาให้ปรับปรุงตัวขณะอยู่ในนั้นให้ดี เพื่อจะได้ลดหย่อนโทษ”
เสิ่นอวี้หลงได้ยินข้อกล่าวหาหลายกระทงจากหมอเย่แล้วก็รู้สึกมึนงงอย่างมาก ไม่อยากจะเชื่อเลยพ่อของเขาจะกระทำความผิด
สำหรับเขาแล้ว คุณพ่อเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ ทำงานด้วยความกระตือรือร้น และมีความสามารถในการทำงานเป็นอย่างมาก
จากพนักงานโรงงานธรรมดา เขาไต่เต้าขึ้นมาจนดำรงตำแหน่งผู้จัดการโรงงาน มีผู้คนมากมายพากันอิจฉาและยอมรับในความกล้าหาญและความสามารถในการทำงานของเขา
เรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?
“จะต้องมีคนใส่ร้ายคุณพ่อแน่ พวกเขาอิจฉาความสามารถของคุณพ่อ”
ผู้เฒ่าเซี่ยและหมอเย่ไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงไปมากนักกับคำพูดของเสิ่นอวี้หลง
ผู้เฒ่าเซี่ยกำลังจะอธิบายต่อ แต่หมอเย่ส่งสายตากันไว้
เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ เธอก็รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงไว้ รอจนกว่าจะหายดีแล้วค่อยไปสืบสวนคดีนี้ดู ถ้ามีเงื่อนงำอะไรอยู่จริง พ่อของเธอก็อาจจะได้ออกมาเร็วขึ้นก็ได้”
ต้องบอกว่าหมอเย่เป็นคนมีปัญญาเหลือเกิน
เมื่อเผชิญเรื่องราวต่างๆ เขาก็ไม่ตื่นตระหนกตกใจ แค่พูดไม่กี่ประโยคก็เบี่ยงเสิ่นอวี้หลงให้เปลี่ยนความสนใจได้
อย่างน้อยเวลานี้ เขาจะได้ไม่รู้สึกเจ็บปวดจากความจริงที่โหดร้าย
ความสนใจทั้งหมดของเขาจะอยู่ที่การช่วยพ่อของเขาให้พ้นผิด
กับบางเรื่อง คนอื่นพูดไปเท่าใดก็ไม่มีประโยชน์
หลังจากที่เสิ่นอวี้หลงไปสืบหาความจริงด้วยตัวเองแล้ว เขาก็จะรู้เองว่าพ่อของเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี
เสิ่นอวี้หลงก้มหน้า ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาว่าในฐานะลูกชายเมื่อเจอเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้ว ต่อไปเขาควรทำอย่างไร
หมอเย่ปลอบโยนเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เด็กน้อย อย่าเสียใจนะ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม จงจำไว้ว่าเมื่อเจอเรื่องอะไรก็ตาม ต้องใจเย็นและมีสติ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกเรื่องก็สามารถแก้ไขได้”
“ครับ ขอบคุณนะครับ”
เสิ่นอวี้หลงเหมือนจะทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้แล้ว อารมณ์ก็ไม่แกว่งมากนัก
อย่างไรก็ตาม เขาก็เคยคิดไปต่างๆ นานาว่าพ่ออาจจะตายไปแล้ว ซึ่งคำตอบที่ได้ยินในตอนนี้ก็นับว่าดีกว่าเรื่องที่เสิ่นเถี่ยจวินตายอยู่มากนัก
เดี๋ยวคงจะค่อยๆ ยอมรับได้
แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องหนึ่งเท่านั้น
ส่วนเรื่องของเสิ่นอวี้อิ๋งกับหลินเซี่ย รวมถึงเรื่องที่ว่าพี่สาวแท้ๆ ของเขาอย่างเสิ่นอวี้อิ๋งวางแผนพยายามฆ่าเขาจนต้องติดคุก ผู้เฒ่าเซี่ยก็กำลังชั่งใจว่าจะบอกเขาเรื่องนี้ไปเลยดีหรือไม่
สำหรับเด็กแล้ว นี่เป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไปจริงๆ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ให้รู้ด้วยตัวเองทีละเรื่องเถอะค่ะ มาพร้อมกันเดี๋ยวอวี้หลงสติแตกกลายเป็นบ้าพอดี
ไหหม่า(海馬)
……….