ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - ตอนที่ 150 ความสำคัญของหม้อ
บทที่ 150 ความสำคัญของหม้อ
เจ้าใหญ่ที่ได้ลูกฟุตบอลมาย่อมไม่ขาดแคลนสหาย และหลินชิงเหอก็ไม่ค่อยเข้าไปยุ่งในเรื่องการผูกมิตรของเขานัก
แต่ถ้าเธอพบว่าพวกเขากล้าชักชวนให้เขากระทำความผิด เธอก็จะไม่ญาติดีด้วยอย่างแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าใหญ่ก็ไม่เคยสร้างปัญหาใด ๆ เลย
เจ้าใหญ่กับเจ้ารองยังไม่กลับบ้านจนกระทั่งเกือบเป็นเวลาห้าโมงครึ่ง
สองพี่น้องกลับมาด้วยสภาพมอมแมม ทันทีที่ถึงบ้าน เธอก็รีบบอกให้พวกเขาไปอาบน้ำในทันทีที่กลับมาถึง
ในตอนนี้เองเจ้าตัวยุ่งอย่างเจ้าสามก็กลับมาพอดี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขากลับมาในสภาพสกปรกเลอะเทอะไปทั้งตัว
เด็กคนนี้เล่นดีดลูกแก้วกับเด็กคนอื่น ๆ มา ทำให้เนื้อผ้าบริเวณเข่าและศอกของเขาสกปรกเป็นพิเศษจากการนอนคว่ำและดีดลูกแก้ว
หลินชิงเหอดุเรื่องนี้กับเขาหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ยังลืม เขาเองก็รู้เรื่องนี้เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน เขาก็ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ จนเกือบดูเหมือนโจรขโมย
“ลูกจะหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ทำไมน่ะ? รีบมาอาบน้ำเร็ว” หลินชิงเหอเหลือบมองเขา
“แม่ครับ วันนี้แม่สวยจังเลย” เจ้าสามรีบหยอดคำชมหวานหู
“แม่จะคิดบัญชีกับลูกทีหลัง” หลินชิงเหอพูด
จากนั้นหญิงสาวก็ไล่ให้เด็กชายทั้งสามไปอาบน้ำ ขณะที่เธอเดินเข้ามายกอาหารในครัวออกไป
อาหารเย็นนี้มีเพียงไข่คนกับต้นกระเทียม และแกงจืดกุ้งแห้งทานเคียงกับหมั่นโถว
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความขาดแคลน มันต้องรอเวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่ผักใบเขียวจะผลิใบ แต่เธอก็ยังขุดผักป่าบางส่วนมาเป็นอาหารวันพรุ่งนี้ได้
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ท่านพ่อโจวกับโจวชิงไป๋ก็เข้ามาในบ้าน
“ไปเรียกคุณย่าให้มากินข้าวเย็นกับเราด้วยสิ” หลินชิงเหอหันมาบอกเจ้าใหญ่
เจ้าใหญ่วิ่งออกไปทันที และกลับมาพร้อมกับท่านแม่โจวที่อุ้มซูเฉิงน้อยมาด้วย
จากนั้นทั้งครอบครัวก็เริ่มกินข้าว
“การตรวจสอบในปีนี้เข้มงวดมาก ไม่มีทางที่เราจะเลี้ยงไก่เกินจำนวนเลี้ยงที่บ้านแล้วล่ะ”
หลังกินข้าวเสร็จ โจวชิงไป๋ก็บอกเรื่องนี้กับภรรยา
เดิมทีหลินชิงเหอวางแผนจะเลี้ยงไก่เพิ่มอีก 2 ตัว แต่เธอก็ต้องพับไว้เมื่อได้ยินดังนี้ “ถ้าไม่ได้รับอนุญาตฉันก็ไม่เลี้ยงค่ะ ฉันจะคอยดูว่ามีอาหารอร่อย ๆ อย่างอื่นในช่วงเก็บเกี่ยวประจำฤดูร้อนไหม”
“คุณอย่าหักโหมเลย ถ้ามีพอกินก็พอแล้วล่ะ” โจวชิงไป๋บอก หลินชิงเหอได้ยินก็พยักหน้า
ความจริงแล้วโจวชิงไป๋ใช่ว่าจะมีความอยากอาหารสูง ตราบใดที่เขาอิ่มท้องมันก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามีอาหารอร่อยอยู่ โจวชิงไป๋ก็จะกินมากขึ้น
บรรดาผู้ชายออกไปทำงานวันต่อมา ขณะที่เจ้าใหญ่กับเจ้ารองไปโรงเรียน หลินชิงเหอก็มุ่งหน้าไปขุดหาผักป่ากับเจ้าสาม
“แม่ครับ มื้อกลางวันนี้มีเนื้อกินไหมครับ? แค่ผักป่าอย่างเดียวมันไม่อร่อยหรอก” เจ้าสามบอก
“ก็มีไข่คนกับผักป่าเป็นไส้เกี๊ยวแล้วนี่จ๊ะ” หลินชิงเหอตอบ
“มันก็ยังอร่อยกว่านะครับถ้ามีเนื้อ” เจ้าสามตอบตามตรง
“ไม่มีเนื้อหรอก” หลินชิงเหอยืนกราน
เจ้าสามถอนหายใจราวกับคนแก่ในร่างเด็ก “เมื่อไหร่ผมจะได้กินเนื้อจนอิ่มท้องล่ะครับ?”
“ฝันไปเถอะ บางทีวันหนึ่งลูกโตขึ้นแล้วมีความสามารถ ลูกอาจได้กินเนื้อทุกวันก็ได้นะ” หลินชิงเหอตอบ
“งั้นเมื่อผมโตขึ้น ผมจะหาเงินมาซื้อเนื้อให้แม่กินนะครับ” เจ้าสามเอ่ย
“งั้นแม่จะรอแล้วกัน” หลินชิงเหอยิ้ม
“แม่ ดูสิ นั่นไม่ใช่ไก่ฟ้าเหรอครับ?” เจ้าสามถามขณะมองไปข้างหน้า
หลินชิงเหอมองตามสายตาของเขา โอ้ นั่นมันไก่ฟ้านี่!
แต่พอเธอขยับตัว ไก่ฟ้าตัวนั้นก็บินถลาหายเข้าไปในภูเขา
“แม่โง่จัง แม่ทำให้ไก่ฟ้าตกใจจนบินหนีไปแล้วเห็นไหม” เจ้าสามเอ่ย “ถ้าพ่ออยู่ที่นี่นะ ไก่ฟ้าตัวนี้ต้องหนีไม่พ้นแน่ ๆ”
หลินชิงเหอเงียบไป
เอาล่า ถ้าสามีของเธออยู่ที่นี่ เขาก็อาจจะจับไก่ฟ้าตัวนี้ได้ แต่พอเป็นเธอแล้ว อย่าคิดเลยว่าเธอจะจับมันได้
หลังขุดผักป่าและเก็บเห็ดภูเขากินได้บางส่วนไปแล้ว ทั้งแม่และลูกชายก็กลับบ้าน
ทันทีที่เจ้าใหญ่กับเจ้ารองกลับมาจากโรงเรียน เจ้าสามก็โม้ให้พวกเขาฟังว่าเขากับแม่เจอไก่ฟ้าบนภูเขา แต่แม่ของพวกเขากลับทำให้มันตกใจจนหนีไป
หลินชิงเหอตกเป็นเป้าสายตาของสองพี่น้อง เธอก็รู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมา
“แม่คิดว่าลูกๆ วอนหาเรื่องให้แม่ตีแล้วจริง ๆ ด้วย”
เด็กพวกนี้ช่างกล้านักที่มาดูถูกเธอ
“แม่บอกให้พ่อไปล่าสัตว์สิครับ บนภูเขาจะต้องมีไก่ฟ้าอยู่แน่ ๆ” เจ้ารองรบเร้า
เขาเองก็อยากกินไก่ฟ้าเหมือนกัน
“มันคงแปลกมากถ้าพ่อของลูกมีเวลาว่าง ไม่ใช่ว่าเขาต้องไปทำนาเพื่อหาแต้มค่าแรงมาเลี้ยงลูก ๆ เหรอ?” หลินชิงเหอบอก
จากนั้นเธอก็ให้สามพี่น้องมาจุดเตาไฟและเริ่มทำเกี๊ยวไส้ไข่กับผักป่า
ถึงแม้ว่าจะไม่มีเนื้อกิน แต่เกี๊ยวไส้ไข่กับผักป่าก็ยังมีรสชาติอร่อยสดใหม่อย่างยิ่ง ทุกคนต่างพอใจหลังได้กินเข้าไป
ลองนับวันเวลาดูก็พบว่าพวกเขาไม่ได้กินเนื้อกันมานานแล้ว เด็ก ๆ ที่บ้านจะต้องอยากกินมากแน่ ๆ ดังนั้นหลินชิงเหอจึงมาหาเม่ยเจี่ยเพื่อรับเนื้อในวันถัดไป ระหว่างทางเธอก็ซื้อเนื้อซี่โครงกลับมาด้วย
ในมิติของเธอยังมีเนื้อซี่โครงเหลืออยู่อีกมาก ซึ่งเนื้อซี่โครงชุดนี้มีน้ำหนักมากกว่า 2 ชั่ง
หญิงสาวตัดแบ่งเนื้อออกมาเพื่อทำซอสเนื้อ จากนั้นเธอก็ทำชุนปิ่งไว้ทาน ส่วนเนื้อซี่โครงที่เหลือก็กลายเป็นแกงจืดสาหร่ายซี่โครงหมู
เป็นแบบนี้แล้ว ทุกคนก็ได้ทานเนื้อจนหายอยาก
เพียงชั่วพริบตาเดียว เดือนพฤษภาคมก็มาถึง
ในช่วงเดือนนี้มีผักหลายอย่างที่เก็บไว้กินได้นาน ๆ เพิ่มมากขึ้น และนอกบ้านก็ยังมีผักป่าเป็นจำนวนมาก กะหล่ำปลีที่ปลูกไว้ในสวนหลังบ้านก็มีรสชาติหวานมากในตอนนี้เหมือนกัน
วันนั้นเองโจวชิงไป๋ก็ได้ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่และไม่ได้กลับมาจนกระทั่งเย็น เพราะต้องออกไปซื้อยาฆ่าแมลง
เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน เขาก็บอกหลินชิงเหอว่าจะมีโอกาสได้ไปซื้อหม้อในครั้งหน้า
“มันใช้เวลานานเท่าไหร่คะ?” หลินชิงเหอถามด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ราวครึ่งเดือนน่ะ” โจวชิงไป๋ตอบ
นั่นก็ไม่เป็นไร หลินชิงเหอได้ยินแล้วก็บอกข่าวดีนี้กับน้องชายสามตระกูลหลินในตอนที่เขามาเยี่ยม
สะใภ้สามตระกูลหลินคลอดลูกเมื่อสิบวันที่แล้ว เนื่องจากพวกเขายุ่งเกินไป เขาจึงไม่ได้มาเยี่ยมเธอจนถึงตอนนี้เพื่อมาบอกข่าวดี
สะใภ้สามตระกูลหลินต้องผิดหวังอีกครั้งเพราะหล่อนยังคงได้ลูกสาว รวมกันแล้วเท่ากับตอนนี้หล่อนมีลูกสาว 3 คน
หล่อนได้รับการกลอกตาใส่จากทุกคนในบ้านตระกูลหลิน สะใภ้ใหญ่กับสะใภ้รองตระกูลหลินต่างมีท่าทีดูถูก ขณะที่ท่านพ่อหลินกับท่านแม่หลินแสดงความไม่พอใจ
หล่อนจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อไม่สามารถให้กำเนิดลูกชายได้?
เห็นดังนี้ก็พอจะนึกออกแล้วว่าสะใภ้สามตระกูลหลินจะมีชีวิตอย่างไร
เดิมทีน้องชายสามตระกูลหลินไม่ได้สนใจเรื่องที่หลินชิงเหอบอกให้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ แต่หลังจากเจอเรื่องนี้เข้าไป เขาก็อยากจะย้ายบ้านจริง ๆ แล้ว
หลินชิงเหอไม่รู้เรื่องราวเหล่านี้ แต่พอได้ยินว่าเขาได้ลูกสาวอีกคนหนึ่ง หญิงสาวก็เข้าใจโดยไม่ต้องเอ่ยถาม
“พี่เขยนายกำลังซื้อหม้ออยู่ พี่ไม่รู้นะว่าเราจะได้มันเมื่อไหร่ แต่ถ้าเราได้มา เราก็จะยกหม้อที่บ้านให้ แล้วนายก็จะได้ย้ายบ้านได้” เธอเอ่ย คนยุคนี้ถ้าไม่มีหม้อก็ย้ายบ้านไม่ได้หรอก
ดวงตาของน้องชายสามตระกูลหลินเบิกกว้าง “พี่ครับ ผมใช้ได้จริง ๆ เหรอ?”
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? พี่ยังให้นายยืมเงินได้อีก 100 หยวนด้วยนะ ถึงมันจะไม่พอสร้างบ้านหลังใหญ่ แต่นายก็ยังมีบ้านที่เหมาะสมกับตัวเอง นายต้องอยู่ในนั้นอีกหลายปี ดังนั้นอย่าขี้เหนียวกับเรื่องนี้ไปหน่อยเลย” หลินชิงเหอบอก
น้องชายสามตระกูลหลินเม้มปากก่อนประกาศออกมา “พี่ครับ ไม่ต้องห่วง ผมจะเก็บเงินมาใช้คืนพี่แน่!”
หลินชิงเหอพยักหน้ารับรู้ เธอให้ไข่ 1 ชั่งกับน้องชายสามตระกูลหลินตอนที่เขากำลังจะกลับ ซึ่งไข่ชั่งนี้เป็นส่วนที่เธอหามาได้อย่างยากลำบาก ในมิติของเธอเหลือไข่อยู่ไม่มากแล้ว
ครั้งหน้าถ้าเธอได้เข้าเมือง เธอคงต้องไปซื้อไข่จากในตลาดมืดบ้างล่ะ
น้องชายสามตระกูลหลินไม่ได้ปฏิเสธ เพราะภรรยาของเขาไม่มีอะไรจะกินมากนัก ไข่ที่เขานำกลับไปนี้เป็นอาหารบำรุงให้กับหล่อนได้
เมื่อโจวชิงไป๋ออกไปซื้อยาฆ่าแมลงอีกครั้ง เขาก็นำหม้อกลับมาด้วย
ท่านพ่อโจวกับท่านแม่โจวไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น หลินชิงเหอจึงบอกว่าน้องชายสามจากครอบครัวฝั่งแม่ฝากซื้อหม้อใบนี้และให้เงินกับเธอไว้ซื้อมัน
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สามหน่อเริ่มแสบขึ้นแล้วล่ะค่ะ มีการต่อล้อต่อเถียงแม่แล้ว แม่จะกำราบไหวไหมนะ
สงสารน้องชายสามบ้านหลินมากค่ะ ขอให้ได้บ้านใหม่ไว ๆ นะคะ แม่หลุดพ้นบ้านนั้นมาได้มีชีวิตดีไปแล้วค่ะ
ครอบครัวน้องชายสามบ้านหลินจะมีชีวิตอย่างไรต่อไป ติดตามตอนหน้าค่ะ
…………………………
สวัสดีค่ะ วันนี้ขอแนะนำนิยายเรื่องใหม่ของสำนักพิมพ์เรา ใครสนใจลองไปแวะอ่านกันได้นะคะ
เรื่อง สาวงามตัวร้าย : ท่านจอมมารได้โปรดโดนตกซะทีเถอะ!
‘ชิงอวี่ทะลุมิติมาอีกโลกหนึ่ง แค่ขโมยสมุนไพรต้นเดียว ถูกชายที่มีฉายาว่าจอมมารตามทวงหนี้แทบพลิกแผ่นดิน!!!’
ไหหม่า (海馬)