ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 730 พบเจอ(1)
ตอนที่ 730 พบเจอ(1)
……….
ตอนที่ 730 พบเจอ(1)
ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยต่างมองออกถึงความกระวนกระวายของเฟิงจื่อจวิ้น ทั้งคู่จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
ไม่รอให้ฉินมู่หลานได้พูด เซี่ยปิงหรุ่ยก็พูดขึ้นว่า “เล่าเรื่องราวของคุณกับซือฮุ่ยซินให้พวกเราฟังก่อน แล้วพวกเราค่อยพิจารณาว่าจะบอกคุณหรือไม่?”
“คุณ…”
เฟิงจื่อจวิ้นไม่คิดว่าเซี่ยปิงหรุ่ยจะหัวแข็งเช่นนี้ แต่ในเมื่อเบาะแสเกี่ยวกับซือฮุ่ยซินนั้นหาได้ไม่ง่ายเลย เขาก็ไม่มีทางยอมปล่อยโอกาสครั้งนี้ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าซือฮุ่ยซินยังมีลูกสาวที่หน้าเหมือนเขาอีกด้วย ความรู้สึกกระวนกระวายใจของเขายิ่งทวีความรุนแรง
“ได้ ผมจะเล่าให้ฟัง”
ที่จริงเฟิงจื่อจวิ้นรู้จักซือฮุ่ยซินมานานแล้ว ทั้งคู่สนิทสนมกันและในไม่ช้าก็คบหากัน
แต่ขณะที่เขากำลังวางแผนจะขอซือฮุ่ยซินแต่งงาน หล่อนกลับหายตัวไปอย่างกะทันหันราวกับไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน เขาตามหาหล่อนทุกหนทุกแห่งแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งสิ้นหวังและคิดว่าหล่อนคงไม่อยากอยู่กับเขาอีกต่อไปแล้ว พอมาวันนี้เองเขาถึงเพิ่งได้ยินข่าวคราวของซือฮุ่ยซินจากปากของเซี่ยปิงหรุ่ย
เมื่อได้ยินคำพูดของเฟิงจื่อจวิ้น เซี่ยปิงหรุ่ยก็ขมวดคิ้วทันที
“ไม่สิ ถ้าตามที่คุณเล่า ตอนที่ซือฮุ่ยซินจากไปหล่อนก็น่าจะท้องอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นทำไมหล่อนถึงต้องจากคุณไปด้วย?”
นี่ก็เป็นสิ่งที่เฟิงจื่อจวิ้นไม่สามารถเข้าใจได้เช่นกัน
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมซือฮุ่ยซินถึงจากไป”
ในที่สุดเฟิงจื่อจวิ้นก็รีบหันไปมองฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ย ก่อนจะพูดว่า “ผมเล่าเรื่องราวของผมกับซือฮุ่ยซินให้ฟังครบหมดแล้ว พวกคุณบอกผมได้ไหมว่าซือฮุ่ยซินและลูกอยู่ที่ไหน?”
ฉินมู่หลานไม่ได้พูดอะไร แต่หันไปมองเซี่ยปิงหรุ่ย
เซี่ยปิงหรุ่ยยังคงไม่พูดอะไรและถามต่อไปว่า “แล้วคุณก็เลยจะยอมแต่งงานกับปิงชิงของเราตามความต้องการของครอบครัวใช่ไหม เพราะไหน ๆ ซือฮุ่ยซินก็จากไปแล้ว?”
เฟิงจื่อจวิ้นพยักหน้ารับคำ “ใช่ ฮุ่ยซินจากไปแล้ว ไม่ว่าจะแต่งงานกับใครก็คงเหมือนกัน ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะหมั้นหมายกับเซี่ยปิงชิง”
“เฟิงจื่อจวิ้น คุณนี่ใจดำจริง ๆ เลยนะ คนรักหายไปทั้งคนก็ยังคิดจะมาทำร้ายความรู้สึกปิงชิงอีก โชคดีที่หล่อนไม่ได้เลือกคุณแล้วเลือกพ่อบุญธรรมของมู่หลานแทน ไม่อย่างนั้นหล่อนคงต้องเสียใจเพราะคุณ แน่นอน”
เฟิงจื่อจวิ้นได้ยินดังนั้นจึงนิ่งเฉย เพราะตอนนี้เขายังต้องพึ่งเซี่ยปิงหรุ่ยและฉินมู่หลานเพื่อให้พวกหล่อนบอกที่อยู่ของฮุ่ยซิน ดังนั้นจึงไม่สามารถโต้เถียงกับหล่อนได้
ขณะที่เซี่ยปิงหรุ่ยกำลังโกรธเคืองอยู่ หล่อนก็เล่าเรื่องราวของซือฮุ่ยซินให้ฟัง
“เสี่ยวฮวา ชิงชิงและเฉินเฉินเรียนอยู่โรงเรียนอนุบาลในเมืองที่เดียวกัน ซือฮุ่ยซินจะเป็นคนไปรับลูกทุกวัน ฉันแนะนำให้คุณไปที่นั่น”
เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิงจื่อจวิ้นก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
“ได้ ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะปิงหรุ่ย”
เซี่ยปิงหรุ่ยโบกมือและพูดว่า “ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก แต่ควรขอบคุณมู่หลานมากกว่า หล่อนเป็นคนชวนเสี่ยวฮวามาบ้าน ฉันจึงเห็นว่าเสี่ยวฮวาหน้าเหมือนคุณมาก”
เฟิงจื่อจวิ้นได้ยินดังนั้น จึงรีบกล่าวขอบคุณฉินมู่หลานอีกครั้ง
ฉินมู่หลานรีบกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “เอาเถอะ อย่ามัวแต่ขอบคุณกันไปมาเลย เดี๋ยวโรงเรียนกำลังจะเลิกแล้ว ถ้าคุณอยากไปก็ไปตอนนี้เลยสิ”
“ดี ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
เฟิงจื่อจวิ้นคิดถึงแต่ซือฮุ่ยซินและเสี่ยวฮวา เขากล่าวลาเซี่ยปิงหรุ่ยและฉินมู่หลานอย่างรีบร้อน แล้วรีบมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนอนุบาล
เซี่ยปิงหรุ่ยมองดูเฟิงจื่อจวิ้นที่เดินจากไป ก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวของเขาและซือฮุ่ยซิน
“ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น ทั้ง ๆ ที่ซือฮุ่ยซินก็ตั้งท้องแล้ว ทำไมถึงได้หายไปอย่างกะทันหัน ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำบางอย่าง”
ฉินมู่หลานก็อดหัวเราะไม่ได้ “ทำไมเธอถึงได้อยากรู้อยากเห็นอะไรนักหนา”
“มู่หลาน เธอไม่สงสัยเหรอ”
ฉินมู่หลานพยักหน้าตอบว่า “สงสัย แต่ไม่เท่าเธอ”
แต่เซี่ยปิงหรุ่ยพบว่าเฟิ่งจื่อจวิ้นหายไปแล้ว เธอจึงรีบหันไปหาฉินมู่หลานแล้วพูดว่า “มู่หลาน เมื่อกี้เธอไม่ได้บอกเหรอว่าโรงเรียนอนุบาลจะเลิกแล้ว เธอไม่ไปรับชิงชิงกับเฉินเฉินเหรอ?”
“ฉันจะไปรับพอดี”
ได้ยินดังนั้น แววตาของเซี่ยปิงหรุ่ยก็เป็นประกายทันที ก่อนจะพูดว่า “มู่หลาน งั้นฉันไปด้วยนะ จะไปบ้านเธออาศัยกินข้าวเย็นด้วยซะเลย”
เห็นเซี่ยปิงหรุ่ยมีท่าทีสนใจ ฉินมู่หลานก็รู้ว่าหล่อนอยากเห็นอะไรบางอย่าง จึงได้แต่ยิ้มแล้วพูดว่า “ได้ ชิงชิงกับเฉินเฉินเห็นเธอมารับคงดีใจแย่”
และไม่นานทั้งคู่ก็ถึงโรงเรียนอนุบาล
“อ้าว…เฟิ่งจื่อจวิ้นไปไหนแล้วล่ะ?”
เซี่ยปิงหรุ่ยมองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นเฟิ่งจื่อจวิ้น
ฉินมู่หลานจึงชี้ไปยังมุมหนึ่งเบา ๆ พูดว่า “อยู่ตรงนั้น”
เซี่ยปิงหรุ่ยจึงเห็นเฟิงจื่อจวิ้น ซ่อนตัวอยู่ตรงมุม ถ้าไม่สังเกตดี ๆ ก็จะมองไม่เห็น “เขาทำอะไรอยู่”
“เราบอกทุกอย่างที่รู้แล้ว ต่อไปเฟิงจื่อจวิ้นจะทำอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา”
ได้ยินฉินมู่หลานพูดอย่างนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ก็จริง อย่างน้อยเราก็ทำทุกอย่างที่ต้องทำแล้ว”
ระหว่างที่ทั้งคู่พูดกันนั้น ครูหลิวก็พาเด็ก ๆ ในชั้นออกมา ฉินมู่หลานกับเซี่ยปิงหรุ่ยก็รีบเดินเข้าไปรับชิงชิงกับเฉินเฉินทันที
ชิงชิงกับเฉินเฉินเห็นเซี่ยปิงหรุ่ยมารับด้วย ก็ดีใจจนหน้าบาน
“น้าปิงหรุ่ยก็มาด้วยเหรอคะ?”
เมื่อได้ยินเสียงใสกังวานของชิงชิง เซี่ยปิงหรุ่ยก็นึกเอ็นดู จึงยื่นมือไปขยี้แก้มของหนูน้อยพลางกล่าวว่า “น้าไม่ได้เจอพวกเธอนานแล้ว เลยแวะมาหาน่ะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยจูงมือเด็กทั้งสองแล้วเตรียมจะเดินกลับบ้านด้วยกัน แต่แล้วก็สังเกตเห็นว่าทั้งคู่กำลังชวนเสี่ยวฮวา “เสี่ยวฮวา ไปเล่นที่บ้านพวกเรากันเถอะ”
พวกเขารู้ว่าคุณแม่ของเสี่ยวฮวามักจะมารับช้า ดังนั้นพวกเขาจึงชวนให้หล่อนกลับบ้านด้วยกันเสมอ
แต่เสี่ยวฮวากลับส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันจะรอแม่”
ชิงชิงและเฉินเฉินได้ยินดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ คุณครูหลิวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็หัวเราะแล้วบอกให้พวกเขากลับไปก่อน “ชิงชิง เฉินเฉิน กลับบ้านกันก่อนเถอะ ครูจะอยู่รอเป็นเพื่อนเสี่ยวฮวาจนกว่าคุณแม่หล่อนจะมาเอง พวกเธอไม่ต้องห่วง”
“ก็ได้ค่ะ”
ชิงชิงและเฉินเฉินไม่ได้พูดอะไรอีก พวกเขาตั้งใจจะตามฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยกลับบ้าน
ทว่าฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยกลับมองไปที่มุมหนึ่ง แล้วพบว่าเฟิงจื่อจวิ้นยังคงซ่อนตัวอยู่ที่นั่น และไม่รู้ว่าเขาจะซ่อนไปถึงเมื่อใด
“มู่หลาน เรากลับกันเลยไหม”
เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยปิงหรุ่ย ฉินมู่หลานก็หันไปมองหล่อนแล้วพูดว่า “หรือว่าเธอจะอยู่รอเป็นเพื่อนเขาที่นี่”
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่ได้พูดอะไร แต่หันไปถามชิงชิงและเฉินเฉินว่า “คุณแม่เสี่ยวฮวาจะมารับหล่อนประมาณกี่โมง”
“ไม่รู้ค่ะ”
ชิงชิงและเฉินเฉินพากันส่ายหน้า ก่อนที่เฉินเฉินจะอธิบายว่า “เวลาที่คุณแม่ของเสี่ยวฮวามารับไม่แน่นอนครับ บางครั้งมาก่อนเวลา บางครั้งก็มาช้า”
เมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยปิงหรุ่ยจึงรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันก่อนดีกว่า เสี่ยวฮวามีคุณครูอยู่เป็นเพื่อนแล้ว”
เมื่อฉินมู่หลานและคนอื่น ๆ เดินจากไป เฟิงจื่อจวิ้นก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมแล้วมองไปที่เสี่ยวฮวาอย่างพินิจพิเคราะห์ พบว่าเสี่ยวฮวาช่างเหมือนเขานัก ไม่ว่าจะเป็นดวงตา คิ้ว หรือปาก ล้วนเหมือนเขาไปหมด
“ลูกสาว…ผมมีลูกสาวแล้ว”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เป็นเพราะทางตระกูลเฟิงบังคับยื่นคำขาดให้ออกจากชีวิตลูกชายหรือเปล่านะ เมียเก่าเลยหนีจากไป
ไหหม่า(海馬)
……….