ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 701 รับปาก(2)
ตอนที่ 701 รับปาก(2)
……….
ตอนที่ 701 รับปาก(2)
สุดท้ายฉินเจี้ยนเซ่อและเซี่ยเหวินปิงต่างก็กลับไปทำงานกันหมด จนเหลือเพียงเซี่ยเจ๋อเหว่ยกับฉินเคอวั่งอยู่เฝ้าที่ร้านวัสดุก่อสร้าง
กระทั่งพอตกค่ำ เซี่ยเจ๋อเหว่ยกับฉินเคอวั่งถึงได้ปิดร้านแล้วกลับไปที่เกสต์เฮาส์
“พี่ วันนี้เราขายของได้เยอะเลย”
ฉินเคอวั่งได้เจอฉินมู่หลานแล้วก็รีบเล่าเรื่องราวความสำเร็จของวันนี้พร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “กลยุทธ์การตลาดพวกนั้นใช้ได้ผลจริง ๆ มีลูกค้าหลายคนที่ตั้งใจจะซื้อของแค่ไม่กี่อย่าง แต่พอเห็นว่ายิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งลดราคา พวกเขาก็เลยตัดสินใจซื้อเยอะเลยครับ”
ฉินมู่หลานพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม”ใช้ได้ผลก็ดีแล้ว”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “วิธีที่มู่หลานคิดมาต้องใช้ได้ผลอยู่แล้วสิ ตอนแรกฉันยังกังวลเลยว่าเครื่องสำอางอาจจะขายไม่ออก แต่ใครจะคิดล่ะว่าสุดท้ายจะขายดีเทน้ำเทท่าขนาดนี้”
หล่อนพูดพลางหันไปถามเซี่ยเจ๋อเหว่ย “คุณกับเคอวั่งไหวอยู่ใช่ไหม เดี๋ยวอีกไม่กี่วันเคอวั่งก็ต้องกลับไปกับพวกเราแล้ว ที่ร้านวัสดุก่อสร้างน่าจะต้องหาคนเพิ่มแล้วนะ”
“จริง ๆ ก็เริ่มหาคนไว้แล้ว พักหลังมีคนมาสมัครหลายคน ผมก็สัมภาษณ์ไปแล้วรอบหนึ่ง รู้สึกว่ามีคนหนึ่งค่อนข้างใช้ได้ ถ้าเคอวั่งกลับปักกิ่งเมื่อไหร่ ผมก็จะให้เด็กหนุ่มคนนั้นเข้ามาทำงานเลย”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนพยักหน้าหลังจากที่ได้ยินเซี่ยเจ๋อเหว่ยจัดการเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว
ส่วนฉินมู่หลานก็หันไปถามเซี่ยเจ๋อเหว่ย “พี่ใหญ่ ช่วงแรก ๆ ที่ร้านวัสดุก่อสร้างเปิดใหม่คงต้องเหนื่อยหน่อย แต่ได้ยินมาว่าพี่และพ่อเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน จริง ๆ แล้วฉันว่าพวกพี่ซื้อบ้านเลยจะดีกว่า”
“จริง ๆ พ่อก็เคยพูดแบบนี้แหละ แต่ว่าพักหลังพวกเรายุ่งกันมาก เลยยังไม่ได้หาบ้านที่ถูกใจ”
ได้ยินเช่นนี้ หลี่เสวี่ยเยี่ยนจึงพูดขึ้นตรงๆ ว่า “เห็นทุกคนยุ่ง ๆ หรือจะให้พวกเราอยู่ต่ออีกสองสามวันเพื่อช่วยหาซื้อบ้านดี? เพราะหลังจากนี้ทุกคนก็คงยุ่งขึ้น”
ฉินมู่หลานก็คิดเช่นนั้น เธอก็รู้ว่าคุณพ่อกับทุกคนต่างก็วุ่นวายหัวหมุนจนแทบไม่มีเวลากินข้าว ดังนั้นพวกเธอสามารถมาช่วยได้ในช่วงนี้เท่านั้น
เซี่ยเจ๋อเหว่ยได้ยินดังนั้นก็รีบหันไปทางฉินมู่หลานแล้วกล่าวว่า “น้องสะใภ้ งั้นก็รบกวนพวกเธอด้วย แต่ได้ยินมาว่าตอนนี้เซินเจิ้นเริ่มมีการขายบ้านตั้งแต่ตอนที่บ้านยังสร้างไม่เสร็จ ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครมาซื้อบ้านแบบนี้กันหรือเปล่า ซื้อไปแล้วก็ยังอยู่ไม่ได้ ใครจะไปซื้อกัน”
ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มก็ “ยังไงก็ต้องมีคนซื้ออยู่แล้ว ถึงตอนนี้จะยังอยู่ไม่ได้ แต่ซักพักก็อยู่ได้แล้ว แค่รอเวลาหน่อยเท่านั้นค่ะ”
เธอนึกไม่ถึงว่าจะมีคนทำการซื้อขายแบบนี้แล้ว
แต่เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็เห็นด้วยแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก ถ้าไม่ได้เห็นบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว เขาก็ไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี
ฉินมู่หลานรู้ดังนั้นก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่คะ วางใจเถอะ พวกเราจะซื้อบ้านที่อยู่ได้ทันทีให้พี่แน่ ๆ ไม่งั้นพี่ก็ต้องไปเช่าบ้านต่ออยู่ดี”
“ได้สิ แบบนี้ถึงจะมีเหตุผลหน่อย”
เมื่อรู้ว่าพวกเซี่ยเจ๋อเหว่ยจะซื้อบ้าน ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือก็ไปช่วยดูบ้านด้วย ส่วนเกาเชี่ยนเชี่ยนนั้นไม่ได้ไป เพราะหล่อนติดตามเกาอวิ๋นเซียวไปจัดการเรื่องอื่น ๆ
ฉินมู่หลานทำงานอย่างรวดเร็ว เพียงสองวันก็ซื้อบ้านในหมู่บ้านแห่งแรก ๆ ของเซินเจิ้นได้สำเร็จ แต่ตอนซื้อก็ต้องผ่านเส้นสายบ้างถึงจะซื้อมาได้อย่างราบรื่น
เมื่อฉินเจี้ยนเซ่อรู้ราคาแล้วก็รู้สึกเสียดาย
“มู่หลาน จริงๆ แล้วพวกเราไปเช่าบ้านอยู่ก็ได้ เราทำงานเสร็จก็ต้องกลับปักกิ่งอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านในเซินเจิ้นเลย ที่สำคัญคือเธอซื้อทีเดียวตั้งสองหลัง มันไม่จำเป็นเลยนะ”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็อดที่จะพยักหน้าตามไม่ได้ พร้อมกับกล่าวขึ้นว่า “ใช่แล้วมู่หลาน พวกเรากับอาฉินอยู่ด้วยกันก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องซื้อสองหลังเลย”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “หลังหนึ่งฉันซื้อเก็บไว้เอง แต่ว่าฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกพี่อยู่ไปก่อน จะได้อยู่สบายหน่อย”
คนอื่นต่างส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก พวกเราผู้ชายสามคนอยู่ด้วยกันก็ได้แล้ว หลังของเธอปล่อยว่างไว้ดีกว่า เมื่อไหร่พวกเธอจะมาเซินเจิ้นก็ค่อยมาอยู่”
สุดท้ายก็ยังเป็นซูหว่านอี๋ที่พูดกับฉินเจี้ยนเซ่อว่า “เอาล่ะ เมื่อมู่หลานพูดอย่างนั้นแล้วก็ไปอยู่เถอะ เคอวั่งต่อไปนี้ก็คงจะมาเซินเจิ้นบ่อย ๆ เมื่อไหร่ที่เคอวั่งมาก็ให้เขาไปอยู่ที่นั่น”
หล่อนคิดดีแล้วว่าต่อไปจะให้เคอวั่งจ่ายค่าเช่าให้กับมู่หลานทุกเดือน ถึงจะเป็นพี่น้องกันก็ต้องคิดให้ชัดเจน ต้องจ่ายเงินตรงนี้โดยไม่มีการผ่อนปรน
เริ่มแรกฉินเจี้ยนเซ่อยังไม่เห็นด้วย แต่พอรู้ถึงจุดประสงค์ของภรรยาก็เลยยินยอม
เวลานี้เขายังไม่มีปัญญาที่จะซื้อบ้านได้ ดังนั้นก็เลยอาศัยอยู่ก่อน แล้วจ่ายค่าเช่าให้กับลูกสาว และเมื่อมีเงินในภายหลังก็คงจะสามารถซื้อบ้านได้
เมื่อเรื่องบ้านได้ข้อสรุป ฉินมู่หลานก็เตรียมจะกลับ
ฉินเคอวั่งกับเกาอวิ๋นเซียวก็กลับไปด้วย ทำให้ตอนที่เดินทางนั้นครึกครื้นไปตลอดทาง
เมื่อกลับถึงปักกิ่งแล้ว ฉินเคอวั่งก็ส่งเกาเชี่ยนเชี่ยนกับเกาอวิ๋นเซียวกลับบ้านก่อน แล้วถึงค่อยกลับบ้านตัวเอง เมื่อเขาไปถึงบ้านทุกคนก็เก็บของกันเรียบร้อยแล้ว
“เคอวั่ง ส่งเชี่ยนเชี่ยนกลับถึงบ้านปลอดภัยแล้วใช่ไหม?”
ฉินเคอวั่งพยักหน้ากล่าวว่า “เชี่ยนเชี่ยนกับพี่อวิ๋นเซียวกลับถึงบ้านแล้ว ผมเองก็ได้แวะดื่มชาที่บ้านพวกเขาก่อนจะกลับมาด้วย”
ซูหว่านอี๋ฟังแล้วก็พูดพร้อมกับยิ้ม “เอาล่ะ รีบไปล้างหน้าล้างตาแล้วมากินข้าวก่อนเถอะ”
“ครับ”
พอฉินเคอวั่ง เก็บของเสร็จออกมา เขาก็พบว่าปู่ย่าก็มาที่นี่ด้วย
“ปู่ครับ วันนี้ไม่ได้ไปร้านซิ่งหลินเหรอครับ?”
ได้ยินเช่นนั้น คุณปู่ฉินก็พูดพร้อมกับยิ้มว่า “รู้ว่าพวกหลานจะกลับมาในวันนี้ ปู่เลยกลับมาก่อน คืนนี้พวกเราจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้น่ะ”
พอตกเย็น เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รีบกลับมาเช่นกัน
เมื่อฉินมู่หลานเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ ก็รีบเข้าไปต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
“อาหลี่ คุณก็กลับมาด้วยเหรอคะ?”
“ใช่แล้ว รู้ว่าพวกคุณกลับมา ผมก็รีบมาเลย”
เมื่อฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้น จึงยิ้มและกล่าวว่า “ช่วงนี้คุณคงเหนื่อยแย่”
เธอรู้แล้วว่าช่วงนี้เซี่ยเจ๋อหลี่ว่างเมื่อใดก็จะกลับบ้านมาช่วยเลี้ยงลูกคนเล็กทั้งสอง
“แล้วคุณมีรางวัลให้ผมหรือเปล่า?”
เซี่ยเจ๋อหลี่ก้มลงกระซิบที่ข้างหูของฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่ซอกคอ ใบหูก็แดงก่ำและจ้องมองไปที่เซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยสายตาตำหนิ
อย่างไรก็ตาม แววตาคู่นั้นของเซี่ยเจ๋อหลี่กลับหวานเยิ้มชวนหลงใหล เพียงแต่ใกล้ถึงเวลารับประทานอาหารแล้ว ตอนนี้เขาจึงทำอะไรไม่ได้
ทางบ้านเตรียมอาหารไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นมื้อค่ำจึงอุดมสมบูรณ์มาก
ยากนักที่นายท่านเหยาและคุณปู่ฉินจะได้ดื่มเหล้า พวกเขายังดึงเซี่ยเจ๋อหลี่ให้ดื่มด้วยแก้วหนึ่ง แม้แต่ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็ยังจิบเหล้าขาวเล็กน้อย เพราะวันนี้คนทั้งครอบครัวมารวมตัวกันอย่างอบอุ่น
ตกดึก เดิมทีฉินมู่หลานตั้งใจจะนอนกับเด็ก ๆ แต่หลังจากที่เด็ก ๆ หลับไปแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่ ก็อุ้มพวกเขาไปที่ห้องด้านใน ส่วนเขาก็กอดฉินมู่หลานเอาไว้แน่นและกระซิบว่า “ตอนบ่ายคุณรับปากผมแล้วนะ”
“รับปากอะไรคะ?”
ฉินมู่หลานเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ยังไม่ทันได้คำตอบก็ถูกผู้เป็นสามีจู่โจมจนไม่มีโอกาสปฏิเสธ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พี่หลี่ยังกินไม่อิ่มอีกเหรอคะ ถึงต้องกินของหวานตบท้ายอะ แอร้ยยยย
ไหหม่า(海馬)