ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 695 หล่อนคือคนรักของผม(2)
ตอนที่ 695 หล่อนคือคนรักของผม(2)
……….
ตอนที่ 695 หล่อนคือคนรักของผม(2)
เมื่อเห็นว่าทุกคนพูดแบบนั้น เซี่ยปิงชิงก็ไม่ปฏิเสธ แล้วก็ไปที่ภัตตาคารปักกิ่งด้วยกัน
พอทุกคนไปถึงก็พบว่าพวกหล่อนไปถึงเร็วเกินไป
เซี่ยปิงหรุ่ยพาฉินมู่หลานและคนอื่น ๆ เข้าไปในห้องส่วนตัวแล้วถามอีกว่า “พวกเธอกินอะไรไม่ได้บ้าง”
“ฉันกินได้ทุกอย่าง”
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินคังอันเหอพูดอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะมองที่ท้องของหล่อน แล้วพูดว่า “เธอท้องอยู่ มีของแสลงเยอะอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่สั่งของที่คนท้องกินไม่ได้แล้วกัน แล้วเดี๋ยวจะสั่งอาหารอย่างอื่นเพิ่มอีกสักหน่อย”
ว่าจบหล่อนก็หันไปมองฉินมู่หลาน ส่วนเซี่ยปิงชิงหล่อนรู้ดีอยู่แล้วว่าชอบกินอะไร
แต่ฉินมู่หลานกลับมองมาที่เซี่ยปิงหรุ่ยอย่างขำ ๆ แล้วพูดว่า “วันนี้ฟู่โฮ่วหลิ่นเป็นเจ้ามือ ทำไมเธอถึงเป็นคนสั่งอาหารเองล่ะ อย่างนี้ไม่ดีเท่าไหร่มั้ง”
เซี่ยปิงหรุ่ยพูดโดยไม่คิดว่า “ไม่เป็นไร เขาเชิญพวกเรามากินข้าว แน่นอนว่าต้องอยากให้ได้กินอาหารที่พวกเราชอบ”
พูดจบเซี่ยปิงหรุ่ยก็ตรงดิ่งไปสั่งอาหารทันที
เซี่ยปิงชิงมองตามหลังของเซี่ยปิงหรุ่ยที่เดินจากไปและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ฉันรู้สึกว่าปิงหรุ่ยแปลก ๆ นะ ฟู่โฮ่วหลิ่นเชิญกินข้าว ทำไมหล่อนถึงเอาใจใส่ขนาดนั้น”
คังอันเหอมองเซี่ยปิงชิงด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “เดี๋ยวรอให้ปิงหรุ่ยกลับมาก่อนแล้วเธอค่อยถามหล่อนสิ”
แต่เมื่อเซี่ยปิงหรุ่ยสั่งอาหารเสร็จ ฟู่โฮ่วหลิ่นก็พาเจี่ยงสือเหิงมาพอดี
“สือเหิง ทางนี้”
เซี่ยปิงชิงเห็นเจี่ยงสือเหิงก็รีบโบกมือเรียก
ต่อมาเซี่ยเจ๋อหลี่และถูเฉิงเสียงก็เดินตามเข้ามา
ฟู่โฮ่วหลิ่นเห็นว่าทุกคนมาพร้อมแล้วก็รีบให้ทุกคนนั่งลง แล้วก็หันไปมองเซี่ยปิงหรุ่ย
“วางใจเถอะ สั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว”
เมื่อได้ยินคำนี้ ฟู่โฮ่วหลิ่นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
และในเวลานี้ เซี่ยปิงชิงนึกขึ้นได้ถึงคำถามที่ยังไม่ได้ถาม หล่อนเหลือบมองเซี่ยปิงหรุ่ยอย่างสงสัยแล้วก็มองฟู่โฮ่วหลิ่น ก็สังเกตเห็นว่าทั้งคู่มีความสนิทสนมกัน ทำให้ตอนนี้หล่อนแทบจะฟันธงได้เลยว่าเซี่ยปิงหรุ่ยพี่สาวของตนและฟู่โฮ่วหลิ่นมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่าที่คิด
และเมื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาถึง ฟู่โฮ่วหลิ่นก็รินให้ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่คนละแก้ว แล้วพูดว่า “คุณหมอฉิน ขอบคุณที่รักษาขาของผมจนหาย ทำให้ผมหมดกังวล”
จากนั้นก็ดื่มจนหมดแก้ว
ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่ก็ดื่มคนละแก้วเช่นกัน
หลังจากนั้น ฟู่โฮ่วหลิ่นก็รินให้คู่สามีภรรยาอย่างเจี่ยงสือเหิงและเซี่ยปิงชิง และสุดท้ายก็รินให้ถูเฉิงเสียงและคังอันเหอ
คังอันเหอไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มมึนเมา แต่กลับดื่มน้ำเปล่าแทน
จนกระทั่งสุดท้าย เหลือเพียงเซี่ยปิงหรุ่ยเท่านั้น ทว่าฟู่โฮ่วหลิ่นไม่ได้ยกแก้วให้เซี่ยปิงหรุ่ย แต่กลับยืนขึ้นแล้วจูงมือหล่อนไปตรงหน้าของทุก ๆ คนด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจก่อนจะกล่าวว่า “วันนี้ขอแนะนำให้รู้จักอีกครั้งอย่างเป็นทางการ หล่อนคือคนรักของผม เซี่ยปิงหรุ่ย”
ฉินมู่หลานกับคังอันเหอเคยพูดคุยกันถึงเรื่องนี้มาก่อน และด้วยเหตุนี้ทั้งคู่จึงไม่ได้แสดงความแปลกใจออกมามากมายนัก
อย่างไรก็ตาม เซี่ยปิงชิงกลับแสดงความประหลาดใจอย่างเต็มที่ แม้ว่าก่อนหน้านี้หล่อนจะสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้ว แต่เมื่อได้ฟังเรื่องที่ทั้งคู่คบหากันจริง ๆ ก็ยังคงรู้สึกตกใจ “ปิงหรุ่ย พวกเธอคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมถึงไม่เคยเล่าให้พวกเราฟังเลย?”
เจี่ยงสือเหิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็หันไปมองทั้งคู่อย่างจับผิด
ด้านเซี่ยปิงหรุ่ยก็หน้าแดงเล็กน้อยก่อนจะกล่าวด้วยความอับอาย “เอาจริงๆ แล้ว…เราเพิ่งจะคบหากันได้ไม่นานนัก ตอนที่ฟู่โฮ่วหลิ่นเลี้ยงข้าวครั้งที่แล้ว ก็ตั้งใจจะบอกพวกเธอแล้ว”
ในเวลานี้เซี่ยปิงชิงก็เพิ่งจะรู้ตัว “แปลว่าที่ผ่านมาที่พี่ไม่ไปร้านซิ่งหลินก็เพราะไม่ได้กำลังค้นคว้าตำรายาใหม่ที่บ้าน แต่ไปมีเวลาให้กับความรักเหรอเนี่ย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยปิงหรุ่ยก็จ้องมองไปที่เซี่ยปิงชิง “ใครบอก ฉันค้นคว้ายาใหม่จริง ๆ แต่ว่า…ก็มีเวลามาคบหากันน่ะแหละ”
“แสดงว่าก่อนหน้านี้พี่หลอกพวกเราสินะ ว่าแต่พี่มีแฟนแล้วจะบอกพ่อแม่ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเซี่ยปิงหรุ่ยก็ลังเลเล็กน้อย “เรื่องนี้…อย่าเพิ่งบอกดีกว่า เพราะว่ายังไงพ่อแม่ก็ไม่อยู่ปักกิ่ง บอกไปก็ไม่ได้เห็นหน้าอยู่ดี”
ฟู่โฮ่วหลิ่นได้ยินดังนั้น ก็หันไปมองเซี่ยปิงหรุ่ยทันทีแล้วกล่าวว่า “ปิงหรุ่ย งั้นพวกเราไปซีอานก็ได้”
เซี่ยปิงหรุ่ยก็รีบโบกมือแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้อง ๆ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพอพ่อแม่ฉันมาที่ปักกิ่งเมื่อไหร่ ฉันจะบอกพวกท่านเอง”
ฟู่โฮ่วหลิ่นอยากจะพบกับว่าที่พ่อตาแม่ยายในเร็ววัน แต่ในเมื่อเซี่ยปิงหรุ่ยกล่าวเช่นนี้แล้ว เขาจึงไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม กลับหันไปเชื้อเชิญให้ทุกคนรับประทานอาหารแทน
ถูเฉิงเสียงที่นั่งอยู่มุมสุดก็อดไม่ได้ต้องหันไปว่าเพื่อนตัวเอง “โฮ่วหลิ่น นายซ่อนได้เนียนมาก พวกเราไม่รู้เลยว่านายมีแฟน”
ฟู่โฮ่วหลิ่น เหลือบมองสหายของตนพร้อมแฝงรอยยิ้ม “ตอนนี้ก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ ก่อนหน้านี้ ปิงหรุ่ยยังไม่ตกลง ฉันก็เลยพูดไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะเป็นการทำลายชื่อเสียงของหล่อน ตอนนี้หล่อนตกลงคบกับฉันแล้ว ฉันจึงปรึกษาหารือกับหล่อนเรื่องการเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเรา”
เมื่อได้ยินดังนั้น ถูเฉิงเสียงก็อดหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้ “อย่างนี้เองเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขออวยพรให้ทั้งสองแต่งงานกันโดยเร็วและครองรักกันยืนยาว”
“ขอบใจนายนะเฉิงเสียง”
ฟู่โฮ่วหลิ่นดื่มหมดแก้วในรวดเดียว จากนั้นก็หันไปหาเซี่ยปิงหรุ่ย ก่อนจะเอ่ยถาม “ปิงหรุ่ยอยากจะดื่มน้ำอัดลมสักขวดหรือเปล่า ผมจำได้ว่าคุณชอบ”
“ก็ได้”
ฟู่โฮ่วหลิ่นเทน้ำอัดลมใส่แก้วให้กับเซี่ยปิงหรุ่ยด้วยตนเอง จากนั้นก็วุ่นวายอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ทุกคน
ฉินมู่หลานสังเกตการณ์การกระทำของทั้งสอง และอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นเซี่ยปิงหรุ่ยและฟู่โฮ่วหลิ่นดูจะเข้ากันได้ดี ฟู่โฮ่วหลิ่นช่างใส่ใจเซี่ยปิงหรุ่ยเป็นอย่างมาก ส่วนเซี่ยปิงหรุ่ยเมื่ออยู่ต่อหน้าฟู่โฮ่วหลิ่นก็ไร้ซึ่งความเย็นชาในแบบที่เคยเห็น แสดงด้านอ่อนหวานออกมาเต็มที่ ซึ่งสังเกตได้ชัดว่าเซี่ยปิงหรุ่ยแตกต่างไปจากเดิมเมื่ออยู่ต่อหน้าฟู่โฮ่วหลิ่น
หลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยแล้ว ฟู่โฮ่วหลิ่นก็เตรียมที่จะไปส่งเซี่ยปิงหรุ่ย แต่ก็ถูกเซี่ยปิงชิงเรียกไว้เสียก่อน “ปิงหรุ่ยจะกลับพร้อมพวกฉันและจะอยู่ค้างคืนด้วยกันน่ะ”
ทันทีที่เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้ได้ทันทีว่าเซี่ยปิงชิงคงจะมีเรื่องจะซักถามตนเอง จึงไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่หันไปพูดกับฟู่โฮ่วหลิ่นว่า “คุณกลับไปก่อนเถอะ”
“ได้”
ฟู่โฮ่วหลิ่นอยากจะใช้เวลาร่วมกับเซี่ยปิงหรุ่ยให้มากกว่านี้ แต่ในเมื่อว่าที่น้องสาวของภรรยาพูดเช่นนั้นแล้ว ตนก็ไม่สามารถขัดขืนได้
ถูเฉิงเสียงก็พาคังอันเหอกลับไปก่อน ส่วนเซี่ยเจ๋อหลี่กะว่าจะกลับบ้านสักคืน แล้วค่อยกลับไปที่ค่ายในเช้าวันรุ่งขึ้น
เมื่อเหลือเพียงพวกของฉินมู่หลาน เซี่ยปิงชิงจึงหันไปถามเซี่ยปิงหรุ่ยโดยตรงว่า “พวกพี่คบกันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ก็บอกไปแล้วไงว่าเพิ่งคบกัน”
เซี่ยปิงชิงไม่พอใจเอามาก ๆ เมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้น “พวกพี่จะมาคบหากันได้ยังไง ฉันจำได้ว่าพวกพี่เพิ่งรู้จักกันไม่นานไม่ใช่เหรอ?”
“ก็…ก็ค่อย ๆ ตกลงปลงใจกันไปทีละนิด ฉันรู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดี ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคตฟู่โฮ่วหลิ่นก็จะมาทำงานที่ปักกิ่ง พวกเราก็จะได้เจอกันบ่อย ๆ จะได้ศึกษากันและกันมากขึ้น”
และฉินมู่หลานพูดถึงเรื่องครอบครัวของอีกฝ่าย
“แต่ว่า ฉันได้ยินมาว่าครอบครัวของฟู่โฮ่วหลิ่นวุ่นวายมาก เธอคบกับเขาจะไม่กระทบอะไรใช่ไหม?”
“ไม่กระทบหรอก ฟู่โฮ่วหลิ่นจะจัดการเรื่องในครอบครัวของเขาเอง”
เซี่ยปิงชิงรู้สึกว่าเซี่ยปิงหรุ่ยดูจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย “แหม…ยังไม่ได้แต่งเลยนะ ก็เข้าอกเข้าใจกันดีซะแล้ว”
……………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ประกาศเปิดตัวยิ่งใหญ่มาก พวกซุ่มคบเงียบๆ นี่น้า
ไหหม่า(海馬)
……….