ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 679 ระหว่างทาง
ตอนที่ 679 ระหว่างทาง
…………….
ตอนที่ 679 ระหว่างทาง
หลังจากที่ฉินมู่หลานได้ยินเซี่ยเจ๋อหลี่พูดแบบนี้ ก็รู้แล้วว่าเขาหมายความว่าอย่างไร ใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
“คุณ…”
แต่ก่อนที่ฉินมู่หลานจะพูดจบ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็อุ้มเธอขึ้นแล้วเดินตรงเข้าไปในห้อง
เมื่อฉินมู่หลานรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเช้าของอีกวันแล้ว
“เซี่ยเจ๋อหลี่…”
ฉินมู่หลานนวดเข้าที่บริเวณเอวของเธอและจ้องมองเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยสายตาแง่งอน แต่แล้วก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจ “ตอนนี้กี่โมงแล้ว ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่ล่ะ?”
เซี่ยเจ๋อหลี่หัวเราะขณะที่ช่วยประคองเธอให้ลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้ามาสวมให้เธออย่างอ่อนโยน “ผมตั้งใจลาหยุดมาเป็นพิเศษ เดี๋ยวจะไปส่งคุณน่ะ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันกลับเองก็ได้ เดี๋ยวเหวินเชี่ยนกับเสี่ยวผิงจะมารับฉัน”
“ให้ผมไปส่งคุณเถอะ ครั้งนี้ที่คุณไปเซินเจิ้นไม่รู้ว่าจะได้กลับมาอีกเมื่อไหร่”
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้”
หลังจากได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ไม่ได้ปฏิเสธอีก และเมื่อทั้งคู่ไปถึงบ้านก็พบว่าเด็ก ๆ ดีใจมากเมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่
“พ่อ อุ้มๆ…”
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นลูก ๆ ก็รู้สึกราวกับหัวใจจะละลาย แต่เมื่อคิดถึงฉินมู่หลานที่กำลังจะเดินทางไปเซินเจิ้นเขาก็อดถามไม่ได้ว่า “แล้วใครจะดูแลเด็ก ๆ ล่ะ?”
“เดี๋ยวคุณตาคุณยายจะมาค่ะ พวกพ่อบ้านเหยาก็จะมาด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงเด็ก ๆ หรอก พวกลูกมีทุกคนช่วยดูแล”
เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก เพราะที่บ้านมีคนเยอะแยะ เขาเป็นห่วงก็แต่ภรรยาของตัวเอง “พอคุณถึงเซินเจิ้นแล้วก็บอกผมด้วยนะ แล้วก็อย่าทำงานหนักเกินไป ปล่อยให้พี่ใหญ่กับเคอวั่งเขาจัดการเถอะ เพราะเดิมทีเป็นเรื่องของพวกเขาทั้งคู่อยู่แล้ว”
เขารู้ว่าที่ภรรยาของเขาไปช่วยก็แค่อยากช่วยพี่ใหญ่กับน้องชาย และคิดว่ามู่หลานคงจะเหนื่อยน่าดู
ฉินมู่หลานได้ยินก็หัวเราะ “อืม รู้แล้วค่ะ”
พอเซี่ยเจ๋อหลี่ไป ฉินเคอวั่งก็กลับมาพอดี เขาเห็นฉินมู่หลานก็รีบบอกด้วยรอยยิ้ม “พี่ เราซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ก็ออกเดินทางไปเซินเจิ้นได้เลย”
“ซื้อเสร็จแล้วเหรอ เราจะออกเดินทางเมื่อไหร่?”
“เก้าโมงเช้าพรุ่งนี้ถึงสถานีรถไฟ”
ฉินมู่หลานได้ยินก็พยักหน้า “ได้ งั้นเดี๋ยวฉันไปเก็บของก่อน”
เพราะว่ามีของไม่เยอะ ฉินมู่หลานจึงเก็บของเสร็จเร็ว พอเธอจัดการเสร็จ นายท่านเหยากับคุณนายเหยาก็มาถึงพอดี
“คุณตาคุณยาย ฉันรบกวนฝากทางนี้ด้วยนะคะ”
นายท่านเหยาโบกมือ “รบกวนอะไร พวกเธอไปสร้างเนื้อสร้างตัวเราก็ดีใจ ไปทำงานในเซินเจิ้นอย่างสบายใจเถอะ ทางนี้พวกเราจะดูแลเอง”
“ค่ะ”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พูดตาม “คุณตาคุณยายวางใจเถอะครับ พวกเราจะตั้งใจทำงาน”
แม้ฉินเคอวั่งจะซื้อตั๋วนอน แต่เกาอวิ๋นเซียวก็อดพูดไม่ได้ “ถ้ารู้เร็วกว่านี้ พวกเราจะเขียนหนังสือขอซื้อตั๋วเครื่องบินไปแล้ว น่าจะถึงเร็วกว่านี้…”
ยังพูดไม่ทันจบ เกาเชี่ยนเชี่ยนก็มองเขม่นมา
เกาอวิ๋นเซียวเห็นแล้วก็ไม่พูดอะไร
ฉินเคอวั่งรู้ว่าเกาอวิ๋นเซียวพูดถึงเรื่องการจองตั๋วเครื่องบินเช่นกัน เพียงแต่เขายอมรับว่าเขาหามาไม่ได้จริง ๆ ที่ได้ตั๋วนอนนี้มาก็ยากแล้ว คิดได้ดังนั้นก็มีประกายขึ้นในดวงตา การไปเซินเจิ้นครั้งนี้ เขาจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ธุรกิจวัสดุก่อสร้างของเขาไปได้สวย
เซี่ยเจ๋อเหว่ยพูดแทรกขึ้นมาว่า “ตั๋วนอนก็ไม่เลวแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเราไปเซินเจิ้นก็นั่งรถไฟตลอด ไป พวกเราไปขึ้นขบวนกันเถอะ”
ฉินมู่หลานก็อดหัวเราะตามไม่ได้ “ถูกแล้ว ไปกันเถอะ”
เห็นว่าคนอื่น ๆ ไม่มีใครคัดค้าน เกาอวิ๋นเซียวก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อยว่าตนไม่น่าพูดแบบนั้นออกไปเลย ถึงแม้ฉินเคอวั่งจะหาตั๋วเครื่องบินไม่ได้ แต่ฉินมู่หลานพี่สาวของเขาน่าจะหาได้ แต่ขนาดฉินมู่หลานยังนั่งรถไฟ เขาก็ไม่ควรพูดอะไรอีก
ทุกคนมาถึงตู้นอนก็บังเอิญได้อยู่ตู้เดียวกันพอดี
แต่เตียงล่างมีตั๋วเพียงใบเดียว ฉินมู่หลานจึงให้เกาเชี่ยนเชี่ยนนอนเตียงล่าง
“พี่มู่หลาน พี่นอนเถอะค่ะ ฉันว่าเตียงบนรู้สึกปลอดภัยกว่า”
เห็นแววตาของเกาเชี่ยนเชี่ยน ฉินมู่หลานก็มองออกว่าหล่อนไม่ได้พูดปด จึงพยักหน้าตอบตกลง “ได้ ๆ เธอกับเคอวั่งนอนเตียงบนก็แล้วกัน”
ส่วนเซี่ยเจ๋อเหว่ยกับเกาอวิ๋นเซียว ก็จำใจนอนเตียงกลาง พวกเขาเพิ่งจะจัดที่นอนกันเสร็จก็มีคนสุดท้ายเข้ามาในตู้ อีกฝ่ายเป็นคุณยายผมขาวโพลน ผมเผ้าหวีเรียบร้อย สีหน้าเคร่งขรึม
คุณยายไม่ได้ทักทายอะไร ฉินมู่หลานจึงไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน
เกาเชี่ยนเชี่ยนออกเดินทางไกลเป็นครั้งแรกจึงรู้สึกตื่นเต้น เมื่อรถไฟแล่นออกตัวหล่อนก็นั่งอยู่ข้าง ๆ ฉินมู่หลาน พูดจ้อไปต่างๆ นานา
ฉินมู่หลานนั่งฟังเกาเชี่ยนเชี่ยนพูดไปพลางหัวเราะไปพลาง ส่วนเซี่ยเจ๋อเหว่ยก็หันไปพูดกับฉินเคอวั่งว่า “เคอวั่ง พวกเราไปกดน้ำร้อนกันก่อนเถอะ”
“ได้”
ฉินเคอวั่งได้ยินดังนั้นจึงรีบตามไปช่วยเซี่ยเจ๋อเหว่ยทันที
เกาอวิ๋นเซียวที่อยู่ตรงนั้นก็ไม่รู้จะทำอะไรดี จึงได้แต่นั่งลงคนเดียวและมองทิวทัศน์ภายนอกที่วิ่งผ่านไป
“พี่มู่หลาน เราจะไปเซินเจิ้นกันกี่วันเหรอ?”
“ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ เมื่อไปถึงต้องดูสถานการณ์อีกที”
เมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างฉินมู่หลานและเกาเชี่ยนเชี่ยน คุณยายท่านนั้นก็เริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมา “พวกเธอก็จะไปเซินเจิ้นงั้นเหรอ?”
ไม่รอให้ฉินมู่หลานตอบ เกาเชี่ยนเชี่ยนก็พยักหน้า “ใช่แล้วค่ะ พวกเราจะไปเซินเจิ้นค่ะ คุณยายก็จะไปเซินเจิ้นด้วยเหรอคะ?”
คุณยายมองทั้งสองคนแล้วพยักหน้า “ใช่ ยายก็จะไปเซินเจิ้นเหมือนกัน”
“อย่างนั้นก็ช่างบังเอิญเสียจริง”
เกาเชี่ยนเชี่ยนได้ยินดังนั้นจึงพูดคุยกับคุณยายทันที ทว่าฝ่ายโน้นยังคงมีท่าทีเย็นชาเช่นเดิม เกาเชี่ยนเชี่ยนจึงพูดได้เพียงสองสามประโยคก็หยุดไป
ในทางกลับกัน ฉินมู่หลานกลับมองคุณยายอยู่หลายครั้งพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
…………………………………………………………………………………………………………………………สารจากผู้แปล
พูดช้าไปแล้ว มาพูดตอนจองตั๋วรถไฟได้แล้วเนี่ยนะอวิ๋นเซียว นายนี่มันตัวล่มเรือเลย
คุณยายท่านนี้เป็นใครกันนะ
ไหหม่า(海馬)