ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 677 ยาชิงเฟิงหวาน ฝึกงานล่วงหน้า
ตอนที่ 677 ยาชิงเฟิงหวาน ฝึกงานล่วงหน้า
…………….
ตอนที่ 677 ยาชิงเฟิงหวาน ฝึกงานล่วงหน้า
เมื่อซูหว่านอี๋ได้ยินคำพูดของบุตรชาย สีหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “เคอวั่ง ลูกคิดดีแล้วเหรอ แบบนี้…จะได้เหรอ?”
ยังไม่ทันที่ฉินเคอวั่งจะพูด ฉินมู่หลานก็พูดขึ้นมาว่า “แม่วางใจเถอะค่ะ ไม่มีปัญหาหรอก ยังมีหนูอยู่นะคะ ถึงตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นเราก็ปรึกษากันได้”
ซูหว่านอี๋ลองคิดดูแล้วเห็นจริงอย่างที่ลูกสาวพูดจึงไม่ได้แย้งอะไรอีก แต่หันไปถามฉินเคอวั่งเรื่องเงินที่ต้องใช้
“น่าจะประมาณเก้าหมื่นได้มั้ง”
“อะไรนะ…เยอะขนาดนี้เชียวหรือ!”
ฉินเคอวั่งไม่ได้ถามไถ่ให้ละเอียด ก่อนหน้านี้พอได้ยินว่าต้องใช้เงินจำนวนมากขนาดนี้ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ “พี่ ถ้าธุรกิจวัสดุก่อสร้างไม่ประสบความสำเร็จขึ้นมา เงินจำนวนนี้ก็สูญเปล่าสิ”
ยังไม่ทันที่ฉินมู่หลานจะพูด ซูหว่านอี๋ก็ได้จ้องเขม็งไปทางลูกชายแล้วพูดขึ้นว่า “การทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยง ถ้ามันมีกำไรมหาศาลขนาดนั้น ใครๆ ก็ทำกันหมดแล้ว ถ้าลูกรับความเสี่ยงไม่ได้ ก็รีบถอนตัวออกเถอะ ปล่อยให้พี่สาวกับเจ๋อเหว่ยร่วมมือกันก็แล้วกัน”
พอฉินมู่หลานได้ยินแบบนั้นจึงหันไปยิ้มให้ซูหว่านอี๋แล้วพูดว่า “แม่นี่คิดได้ถี่ถ้วนดีจริงๆ ค่ะ”
ซูหว่านอี๋ถูกลูกสาวชมก็ยิ้มร่าแล้วพูดว่า “แม่ไปโรงงานแล้วก็ได้เรียนรู้อะไรมาเยอะแยะเลย”
ฉินเคอวั่งเงียบไปชั่วครู่ขณะฟังคนข้างๆ พูดคุยกัน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองช่างขาดความกล้าหาญ พอได้ยินแม่และพี่สาวพูดแบบนั้นแล้ว เขาก็ยิ่งมุ่งมั่น “แม่ ผมแค่เป็นห่วงว่าที่บ้านจะไม่มีเงินใช้หลังจากที่ควักเงินจำนวนนั้นออกมา”
“แม่กับพ่อทำงานหนักมาตลอด คงจะพอหาเงินจำนวนนั้นมาได้”
ฉินมู่หลานพูดขึ้นในจังหวะที่เหมาะเจาะ “แม่คะ หนูก็มีอยู่ส่วนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นหนูจะเอาเงินส่วนนี้มาออกก่อนก็ได้ พอตลาดวัสดุก่อสร้างทำกำไรได้แล้ว เคอวั่งค่อยคืนให้หนูทีหลังก็ได้”
ซูหว่านอี๋รีบส่ายหัวปฏิเสธ
“ไม่ต้องหรอกมู่หลาน ที่บ้านมีตั้งแต่ที่พ่อไปเซินเจิ้นแล้ว ถึงจะลำบากหน่อยแต่ก็ได้เงินไม่น้อย แถมแม่ก็ทำงานที่โรงงานได้ค่าจ้างอีก” พูดจบ ซูหว่านอี๋ก็เดินเข้าไปในบ้านแล้วหยิบสมุดบัญชีขึ้นมา “ในนี้มีหนึ่งแสน เอาไปเก้าหมื่นไปลงทุนกับตลาดวัสดุก่อสร้าง ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งหมื่นเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายให้เคอวั่งไปเที่ยวที่เซินเจิ้น”
เงินก้อนนี้ถือเป็นเงินเก็บทั้งหมดของครอบครัว แต่ซูหว่านอี๋ก็ไม่ห่วงว่าจะสูญเปล่า เพราะแม้แต่ลูกสาวยังบอกว่าธุรกิจวัสดุก่อสร้างไปได้สวย ดังนั้นธุรกิจนี้ต้องเป็นไปได้แน่ๆ
ฉินเคอวั่งรับสมุดบัญชีไป ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “แม่ พี่ ผมจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดเลยครับ”
ครอบครัวสนับสนุนเขาขนาดนี้ เขาก็คงทำให้คนในครอบครัวผิดหวังไม่ได้ “พอปิดเทอม ผมจะตามพี่ไปเซินเจิ้น แล้วไปช่วยพี่เจ๋อเหว่ยทำงาน”
“ดีแล้ว”
ซูหว่านอี๋เห็นลูกชายเป็นแบบนี้ก็ยิ้มแล้วตบไหล่เขา
เมื่อได้ตัดสินใจเรื่องความร่วมมือกัน ฉินมู่หลานกับฉินเคอวั่งก็ปรึกษากันต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะได้ข้อสรุปแผนความร่วมมือออกมา และเมื่อเซี่ยเจ๋อเหว่ยได้ตรวจสอบแล้ว ทุกอย่างก็เรียบร้อย
“มู่หลาน เคอวั่ง อีกสองวันฉันจะกลับเซินเจิ้นแล้ว ฉันจะเตรียมตัวให้ดีเลย”
“เหนื่อยหน่อยนะคะพี่ใหญ่”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยโบกมือให้ทั้งสอง
หลังจากเซี่ยเจ๋อเหว่ยออกจากปักกิ่งเพื่อเดินทางกลับเซินเจิ้นแล้ว ฉินมู่หลานก็เริ่มยุ่งอยู่กับงาน เธอเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการวิจัยยาใหม่ ชื่อว่า ‘ยาชิงเฟิงหวาน’ และตั้งใจจะวางขายในเร็ว ๆ นี้
ฉินเคอวั่งกลับกลายเป็นคนที่มีเวลาว่างมากที่สุด แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองว่าง และตั้งใจเรียนมากขึ้น
ฉินมู่หลานเห็นความพยายามของน้องชายจึงอดพยักหน้าไม่ได้ หลังจากยุ่งอยู่พักใหญ่ๆ เธอก็ผลิต ‘ยาชิงเฟิงหวาน’ สำเร็จ
…………………………………..
เซี่ยปิงหรุ่ยมองไปที่เม็ดยาในมือ ก่อนจะหันไปมองฉินมู่หลานพร้อมกับพูดด้วยความดีใจ “มู่หลาน ยานี้มีประสิทธิภาพในการรักษาหวัดมาก กินแค่หนึ่งวันก็เห็นผลแล้ว เธอเก่งมากเลยนะ”
พวกเธอได้ทดลองกับคนอื่นเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยที่มีอาการน้ำมูกไหลและเจ็บคออย่างรุนแรงรู้สึกดีขึ้นหลังจากกินยาไปหนึ่งวัน และหายขาดสนิทหลังจากกินยาไปสามวัน ยานี้ให้ผลรักษาที่ดีต่ออาการหวัดจริง ๆ
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “เห็นผลก็ดีแล้ว พรุ่งนี้เราจำหน่ายยาชิงเฟิงหวานได้เลย”
“ถ่ายสิ แต่ว่าร้านซิ่งหลินเรามีชื่อเสียงอยู่แล้ว ทุกคนก็ยอมรับยาที่เราผลิต ว่ากันง่าย ๆ ก็คือเราวางจำหน่ายก่อนได้ พอโฆษณาออกคนก็จะรู้จักยาตัวนี้มากขึ้นแล้วจำนวนคนซื้อก็จะมากขึ้นเอง”
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินฉินมู่หลานพูดดังนั้น ก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ตกลง งั้นพรุ่งนี้เราจะจัดจำหน่ายยาชิงเฟิงหวาน”
หลังจากที่ทั้งสองคนปรึกษากันเรื่องนี้เสร็จ ร้านซิ่งหลินก็ได้จัดจำหน่ายยาชิงเฟิงหวานในวันถัดมา เพียงแต่ยังไม่ได้ออกโฆษณาฉะนั้นจึงมีคนรู้ไม่มาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าขาประจำของร้านซิ่งหลินเท่านั้นที่จะรู้
คังอันเหออดไม่ได้ที่จะหันไปมองฉินมู่หลานพร้อมกับถาม “มู่หลาน ถ้าฉันเป็นหวัด ฉันกินยาชิงเฟิงหวานได้ไหม?
ฉินมู่หลานพยักหน้าทันทีพร้อมกับพูดว่า “ได้สิ ยาขนานนี้แม้แต่หญิงตั้งครรภ์ก็กินได้ ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อทารกในครรภ์” พอพูดมาถึงตรงนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรไปล่ะ เป็นหวัดเหรอ เดี๋ยวฉันจะจับชีพจรให้ก่อน”
คังอันเหอรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันไม่ได้เป็นหวัดหรอก แค่ถามเผื่อไว้เฉยๆ เผื่อฉันเป็นหวัดขึ้นมาฉันจะได้กินยาชิงเฟิงหวานได้เลย”
เซี่ยปิงชิงได้ยินดังนั้นก็รีบหันไปมองคังอันเหอพร้อมกับพูดว่า “รีบพูดแช่งตัวเองอย่างนี้เลยเหรอ อย่าพูดแบบนี้นะ เผื่ออยู่ดี ๆ เป็นหวัดขึ้นมาจริง ๆ ถึงตอนนั้นแม้จะกินยาก็คงลำบากไม่น้อย”
ฉินมู่หลานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พยักหน้า “ใช่แล้ว หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรกินยาถ้าไม่จำเป็น”
คังอันเหอได้ยินดังนั้นก็รีบทำตามทันที ก่อนจะพูดในที่สุดว่า “ฉันแค่ถามเฉยๆ ครั้งหน้าจะไม่พูดแบบนี้อีกแล้ว
ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกัน ก็มีลูกค้าเก่าเข้ามา ลูกค้าคนนี้มักจะมาอุดหนุนร้านซิ่งหลินอยู่บ่อย ๆ วันนี้ก็มาซื้อยาบำรุง แต่ว่าหลังจากที่เขาเข้ามา เขาก็ไอสองสามครั้ง ผู้อาวุโสลั่วจึงจับชีพจรให้เขาก่อน ก่อนจะหันไปมองเขาพร้อมกับพูด “วันนี้มียาชิงเฟิงหวานเข้ามาใหม่พอดี ใช้รักษาหวัดโดยเฉพาะ อาการของคุณเหมาะมากเลย เอายาชิงเฟิงหวานไปเลยก็ได้”
“ยาชิงเฟิงหวาน?”
เมื่อลูกค้าได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธและพยักหน้าตอบรับทันที “ได้ งั้นเอายาชิงเฟิงหวาน”
หากเป็นยาที่ร้านซิ่งหลินผลิตก็ไม่น่าจะมีปัญหา
หลังจากนั้นก็มีคนไข้เข้ามารับบริการ ไม่ว่าจะมีอาการหวัดหรือไม่ ก็ล้วนได้รับการจ่ายยาชิงเฟิงหวาน
หลังผ่านไปหลายวัน โฆษณาได้ออกอากาศก็มีผู้คนเข้ามาซื้อยาชิงเฟิงหวานมากขึ้น และผู้ที่ได้ใช้ยาเม็ดนี้ต่างก็ให้ผลตอบรับในแง่บวก โดยกล่าวตรงกันว่ามีประสิทธิภาพมาก
เมื่อเรื่องราวของยาชิงเฟิงหวานสิ้นสุดลง ฉินมู่หลานก็รู้สึกผ่อนคลายลงสักที และเมื่อถึงวันจันทร์เธอก็ตรงดิ่งไปที่คณะเรียน
แต่ทว่าสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงก็คือ พอไปถึงคณะเรียน เธอก็ถูกอาจารย์หลัวเรียกตัวไปที่ห้องทำงานและพูดคุยเรื่องการฝึกงาน
“นักศึกษาฉิน อีกไม่นานก็จะปิดเทอมแล้ว รอวันรายงานตัวอีกครั้งก็จะเป็นช่วงเวลาที่พวกเธอต้องออกไปฝึกงาน วันนี้ฉันก็เลยอยากพูดคุยเรื่องการฝึกงานของเธอ”
“เรื่องอะไรเหรอคะ?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เคอวั่งสู้ๆ เตรียมตัวออกสู่โลกกว้างไว้เยอะๆ เลยนะ
โดนอาจารย์เรียกไปทำอะไรหนอ
ไหหม่า(海馬)