ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 676 ความร่วมมือ
ตอนที่ 676 ความร่วมมือ
…………….
ตอนที่ 676 ความร่วมมือ
ได้ยินคำพูดของลูกชายคนโต เหยาจิ้งจือก็พูดถึงเรื่องที่หล่อนจะไม่ไปที่โรงงานเครื่องสำอาง
เซี่ยเจ๋อเหว่ยได้ยินคำพูดของมารดาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “ที่แท้คุณตายังมีธุรกิจอีกมากมายที่ต้องดูแลเหรอ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยได้ยินท่านพูดเลย”
“ก่อนหน้านี้คุณตาตั้งใจจะหาคนมาดูแลแทน แต่พอเห็นว่าแม่มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างธุรกิจ อีกทั้งยังเห็นผลงานของแม่ในช่วงหลัง จึงตัดสินใจแบบนี้ ก่อนหน้านี้พวกเราไม่เหมาะกับการทำอะไรแบบนี้จริงๆ”
เหยาจิ้งจือก็เข้าใจนายท่านเหยาเช่นกัน ตอนที่พวกหล่อนเพิ่งกลับมาจากชนบทล้วนยังไม่มีศักยภาพ จัดการเรื่องพวกนั้นไม่ดีแน่ๆ
สำหรับคำพูดนี้ เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็เถียงไม่ได้ ได้แต่พยักหน้าพูดว่า “ก็จริง”
แต่เมื่อรู้ว่ามารดาจะรับช่วงต่อกิจการของตระกูลเหยาทั้งหมดแล้ว ดวงตาของเซี่ยเจ๋อเหว่ยก็เต็มไปด้วยประกาย
“แม่ ผมตั้งใจจะเปิดตลาดวัสดุก่อสร้างในเซินเจิ้น ถ้าหากเงินทุนเริ่มต้นไม่เพียงพอ แม่ช่วยลงทุนให้ผมหน่อยได้ไหม?”
เหยาจิ้งจือได้ยินดังนั้นก็เหลือบมองลูกชายคนโตแล้วพูดว่า “ตอนนี้พูดเรื่องนี้ยังเร็วไป ลูกลองปรึกษากับมู่หลานก่อนค่อยว่ากันอีกที ยิ่งกว่านั้นตอนนี้แม่ยังไม่ได้รับช่วงต่อ เพียงแค่ทำความคุ้นเคยกับกิจการในบ้านเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะลงทุนให้ลูก”
แต่เดิมนายท่านเหยาได้มอบสมบัติให้กับลูกชายคนโตและคนเล็กแล้ว ดังนั้นหากเซี่ยเจ๋อเหว่ยต้องการดึงเงินออกมาก็คงจะพอทำได้ เหยาจิ้งจือจึงไม่เป็นห่วงเกี่ยวกับเงินทุนเริ่มต้นของลูกชายคนโต
เมื่อเห็นมารดาพูดเช่นนี้ เซี่ยเจ๋อเหว่ยจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม
ตอนเย็นหลังจากหลี่เสวี่ยเยี่ยนเลิกงาน หล่อนก็ไปรับเสี่ยวอวี่กลับบ้าน และเมื่อเห็นว่าสามีกลับมาแล้ว ใบหน้าของหล่อนก็ปรากฏความประหลาดใจฉายชัด
“เจ๋อเหว่ย กลับมาแล้วเหรอ?”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยเห็นภรรยาและลูกชายแล้วก็ดีใจเช่นกัน
“เสี่ยวอวี่ เสวี่ยเยี่ยน กลับมาแล้วเหรอ ไป เราไปกินข้าวที่บ้านน้องสะใภ้กันเถอะ”
“ตกลง”
นายท่านเหยาและคุณนายเหยาก็ตามไปด้วย เป็นเพราะหลานชายคนโตกลับมา ทุกคนจึงได้มารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทำให้บรรยากาศคึกคักครื้นเครง
ฉินมู่หลานได้รับข่าวมาก่อนแล้ว ดังนั้นอาหารมื้อค่ำจึงอุดมสมบูรณ์มาก ครอบครัวใหญ่นั่งกินข้าวกันอย่างเบิกบานสำราญใจ ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็ซักถามเรื่องราวของฉินเจี้ยนเซ่อและเซี่ยเหวินปิงอย่างต่อเนื่อง
“แม่ อาหญิง พ่อกับอาเซี่ยที่เซินเจิ้นสุขสบายดีค่ะ ตอนนี้พวกเขากำลังมีโครงการหนึ่งอยู่ คาดว่าคงจะใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน คงไม่ได้กลับมาในเร็ววันนี้”
เมื่อได้ยินว่าทุกสิ่งทุกอย่างดี ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็วางใจ
ส่วนเซี่ยเจ๋อเหว่ยก็ได้กล่าวถึงแผนการของตน “น้องสะใภ้ เซินเจิ้นกำลังมีการสร้างบ้านกันทุกหนทุกแห่ง พี่จึงคิดว่าจะไปเปิดตลาดวัสดุก่อสร้างที่นั่น เธอมองว่ายังไงบ้าง?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็พยักหน้าอย่างเห็นชอบ แล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ความคิดพี่ดีมากค่ะ เซินเจิ้นได้กลายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแล้ว ในอนาคตจะยิ่งพัฒนาก้าวหน้าขึ้น ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะต้องมีการสร้างบ้านใหม่ๆ มากมาย ดังนั้นการเปิดตลาดวัสดุก่อสร้างจึงเป็นอะไรที่ดีแน่นอนค่ะ”
เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานเห็นด้วยกับความคิดของตน เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็มีความสุขอย่างมาก
“จริงเหรอ นั่นเยี่ยมไปเลย งั้นฉันจะเตรียมการเรื่องตลาดวัสดุก่อสร้างให้ดีที่สุดหลังจากที่กลับเซินเจิ้น”
นายท่านเหยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็กล่าวกับหลานชายคนโตด้วยรอยยิ้มว่า “เจ๋อเหว่ยมีความคิดที่โตขึ้นเรื่อยๆ หากมีปัญหาอะไรในตอนที่เตรียมการเบื้องต้นก็บอกกับตาได้เลยนะ”
ได้ยินเช่นนั้น เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็รู้สึกประหลาดใจและมีความสุขอย่างมาก
“คุณตาครับ หากเงินไม่พอ คุณตาลงทุนให้ผมได้ไหมครับ”
“ได้สิ”
นายท่านเหยาตอบตกลงโดยไม่ลังเล
ด้วยเหตุนี้เซี่ยเจ๋อเหว่ยจึงวางใจได้อย่างแท้จริง
ฉินเคอวั่งเห็นว่าเซี่ยเจ๋อเหว่ยมีกิจการเป็นของตัวเอง เขาก็รู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง แม้ว่าเขาจะหมั้นหมายกับเชี่ยนเชี่ยนแล้ว แต่ความยากลำบากในอดีตที่ได้รับจากตระกูลเกาก็ยังคงทำให้เขารู้สึกหนักใจอยู่ ดังนั้นเขาจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถสร้างกิจการของตัวเองได้
ฉินมู่หลานสังเกตเห็นสีหน้าของน้องชายของตนเอง เธอก็ครุ่นคิดบางอย่างก่อนจะเอ่ยว่า “เคอวั่ง ถ้าถึงช่วงปิดเทอมแล้ว เราไปเซินเจิ้นด้วยกันเถอะ ก่อนหน้านี้นายเคยออกไปช่วยงานพ่อไม่ใช่เหรอ ถ้าไปครั้งนี้ นายก็ทำงานพิเศษได้ด้วย แล้วก็เรียนรู้จากอาจารย์ของนายไปด้วยเลย”
เหลียงถงก็อาศัยในเซินเจิ้น ดังนั้นเมื่อฉินเคอวั่งเดินทางไปถึง เขาก็สามารถฝึกงานภาคปฏิบัติต่อได้อีก
ฉินเคอวั่งได้ยินคำพูดของฉินมู่หลาน จึงรีบพยักหน้าตอบรับอย่างไม่ลังเล “ได้เลยครับ ไว้เราไปที่นั่นด้วยกัน”
หลังจากกินข้าวเสร็จ เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็เข้าไปหาฉินมู่หลานเพื่อพูดคุยเรื่องความร่วมมือ
“มู่หลาน หรือเราจะร่วมมือกันเปิดร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างล่ะ แล้วเมื่อถึงสิ้นปีก็หารรายได้กันคนละครึ่ง”
ถึงแม้จะมีคุณตาช่วยอยู่ แต่เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็ยังอยากจะชักชวนฉินมู่หลานมาร่วมงานด้วย น้องสะใภ้คนนี้ไม่ธรรมดา โรงงานเครื่องสำอางที่เปิดก็รับเงินตราต่างประเทศได้แล้ว แถมร้านซิ่งหลินที่เปิดก็กลายเป็นร้านขายยาที่ผู้คนรู้จักกันทั่ว และยังมีคนมาแย่งกันซื้อยา ดังนั้นหากมีฉินมู่หลานมาร่วมงานด้วย เขาก็รู้สึกอุ่นใจ
ในขณะที่ฉินมู่หลานนึกถึงสีหน้าของฉินเคอวั่งเมื่อครู่ จึงเผลอมองไปที่เซี่ยเจ๋อเหว่ยแล้วเอ่ยว่า “พี่ใหญ่ หรือจะให้น้องชายของฉันมาร่วมงานกับพี่ก็ได้นะ เขาเรียนจบด้านการออกแบบสิ่งก่อสร้างโดยตรง เขาก็มีความรู้เรื่องวัสดุก่อสร้างอยู่บ้างด้วย หากมีคนมาซื้อวัสดุ เขาอาจจะให้คำแนะนำได้ด้วย”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่ามีเหตุผล เพียงแต่ฉินเคอวั่งยังเป็นนักศึกษาอยู่ เขาจึงยังไม่ค่อยวางใจนัก
ฉินมู่หลานเห็นดังนั้น จึงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “พี่ใหญ่ ฉันจะถือหุ้นสองส่วน เคอวั่งถือหุ้นสามส่วน แล้วที่เหลืออีกห้าส่วนเป็นของพี่ ในอนาคตเราจะได้ช่วยปรึกษากัน”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยไม่รอช้าและพยักหน้ารับทันที “ตกลง งั้นเอาตามนี้”
เมื่อต้องพาฉินเคอวั่งไปด้วย ฉินมู่หลานจึงเรียกตัวเขาเข้ามา
เมื่อฉินเคอวั่งรู้ว่าจะให้ตนเองช่วยสร้างร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ก็ถึงกับมึนตื้อไป “พี่ แต่…แต่ว่าผมไม่มีอะไรเลยนะ”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็ยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “ไม่เป็นไร นายมีความรู้ เงินลงทุนเริ่มต้นก็สามารถไปขอยืมจากพ่อกับแม่ก่อนได้”
เมื่อได้ยินคำพูดของพี่สาว ฉินเคอวั่งก็ยังคงไม่ค่อยเชื่อเท่าใด
“พี่ ผม…ผมทำได้จริงๆ เหรอ”
“แน่นอน”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยที่อยู่ข้างๆ กล่าวตามมาว่า “เคอวั่ง นายทำได้แน่ ๆ”
เมื่อพี่สาวและเซี่ยเจ๋อเหว่ยต่างก็สนับสนุน ฉินเคอวั่งจึงมั่นใจขึ้นทันใด “พี่ ผมสัญญาว่าจะพยายามอย่างเต็มที่”
ฉินมู่หลานลูบไหล่เขาแล้วกล่าวว่า “ดี พวกเราเชื่อใจนายนะ”
เมื่อความร่วมมือตกลงกันลงตัว และพวกเซี่ยเจ๋อเหว่ยกลับไปแล้ว ฉินเคอวั่งจึงรีบไปเล่าเรื่องนี้กับแม่ของเขาทันที
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เป้าหมายมาถึงแล้ว พุ่งชนไปเลยเคอวั่ง
ไหหม่า(海馬)