ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 672 คบกันแล้ว(1)
ตอนที่ 672 คบกันแล้ว(1)
…………….
ตอนที่ 672 คบกันแล้ว(1)
ทางด้านหลี่ฉีปิงก็ค้นพบปัญหาของเสี่ยวหลิวเช่นกัน อย่างไรก็ตามเสี่ยวหลิวกลับคิดเสมอว่านี่เป็นเรื่องดีต่อโรงงานยาหุยชุน จึงไม่คิดว่าตัวเองทำผิด เมื่อหลี่ฉีปิงเห็นเสี่ยวหลิวหัวดื้อหัวรั้นก็รู้สึกปวดหัว จึงตั้งใจมาขอโทษฉินมู่หลานกับกู้วั่งหลานเป็นการเฉพาะ
“ผู้อำนวยการฉิน ผู้จัดการกู้ ผมต้องขอโทษจริงๆ ผมก็ไม่นึกว่าเราจะเกิดความผิดพลาดแบบนี้ได้ เสี่ยวหลิวกลับนำสัญญาร่วมมือของบริษัทเราทั้งสองออกไปเผยแพร่ ทำให้คู่แข่งแก้ไขสัญญาได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ผมรู้สึกเสียใจมากจริงๆ”
เมื่อเห็นหลี่ฉีปิงแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ฉินมู่หลานจึงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ผู้จัดการหลี่ บริษัทของเราก็มีส่วนผิดที่ปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาสับเปลี่ยนสัญญา อย่างไรก็ตามตอนนี้ปัญหาทั้งหมดได้ถูกเปิดเผยแล้ว ความร่วมมือของเราก็สามารถดำเนินต่อไปได้ค่ะ”
“ถูกต้อง เราเซ็นสัญญากันวันนี้เลยก็ได้นะครับ ผมได้นำสัญญาฉบับใหม่ติดมาด้วย”
เมื่อฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็กล่าวพลางยิ้ม “ได้สิคะ”
หลี่ฉีปิงจึงรีบยื่นสัญญามาให้ฉินมู่หลานตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนจะส่งต่อให้กู้วั่งหลานและเซี่ยปิงหรุ่ย
กู้วั่งหลานเคยเห็นสัญญาฉบับนี้มาก่อน เพราะเป็นสัญญาเก่าก่อนที่จะถูกสับเปลี่ยน ตอนนี้เขาจึงตรวจสอบทีละจุดและพบว่าเหมือนกับสัญญาฉบับก่อนไม่มีผิดเพี้ยน เมื่อเห็นเช่นนี้เขาจึงพยักหน้าให้ฉินมู่หลานทันที
จากนั้นฉินมู่หลานก็ลงนามและประทับตราด้วยรอยยิ้ม
เมื่อหลี่ฉีปิงเห็นฉินมู่หลานลงนาม เขาก็รีบลงนามและประทับตราเช่นกัน พร้อมกล่าวกับฉินมู่หลานและยื่นมือออกไปว่า “ผู้อำนวยการฉิน ขอให้ความร่วมมือครั้งนี้ของเราราบรื่น”
ฉินมู่หลานก็ยิ้มและจับมือหลี่ฉีปิง พร้อมกล่าวว่า “ขอให้ร่วมมือราบรื่นเช่นกันค่ะ”
นับจากนี้ความร่วมมือระหว่างโรงงานยาซิ่งหลินและโรงงานยาหุยชุนก็ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ
“ผู้อำนวยการฉิน ผู้อำนวยการของเราเฝ้ารอข่าวดีจากผมอยู่ ดังนั้นผมจำเป็นต้องรีบเดินทางกลับจินเฉิง”
“เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะผู้จัดการหลี่”
แต่ฉินมู่หลานก็ได้ถามเพิ่มอีกว่า “ฉันขอถามได้ไหมคะว่าบริษัทของคุณตั้งใจจะทำยังไงกับเสี่ยวหลิว?”
หลี่ฉีปิงไม่ได้ปิดบังและพูดตรงๆว่า “ไล่ออกจากงานสิครับ”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็ไม่พูดอะไรมากแค่พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “สมควรไล่ออกจริงๆ ค่ะ คนแบบนี้อ้างว่าทำเพื่อบริษัท แต่ลับหลังกลับหลอกลวงหัวหน้าให้ทำเรื่องแบบนั้น ใครจะไปรู้ว่าในอนาคตเขาจะทำอะไรอีก”
เดิมทีหลี่ฉีปิงยังรู้สึกว่าการไล่เสี่ยวหลิวออกมันอาจจะดูรุนแรงไปหน่อย แต่พอได้ยินฉินมู่หลานพูดแบบนั้น เขาก็เพิ่งนึกได้ว่าสิ่งที่พวกเขาจัดการกับเสี่ยวหลิวนั้นอาจจะยังเบามือไปด้วยซ้ำ เพราะคนที่โกหกหลอกลวงแบบนี้ไม่สมควรมีที่ยืน
“ผู้อำนวยการฉินพูดถูกครับ ในอนาคตเวลารับคนเข้าทำงาน เราต้องให้ความสำคัญกับคุณธรรมของบุคคลมากขึ้น”
“ค่ะ บริษัทของเราก็ต้องคัดกรองให้ดีเช่นกัน เราต้องไม่รับคนไร้คุณธรรมเข้ามาทำงานเด็ดขาด”
หลังจากคุยกันอีกสองสามประโยค หลี่ฉีปิงก็จากไป ส่วนฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยยังคงอยู่เพื่อพูดคุยกับกู้วั่งหลานเรื่องการรับสมัครพนักงานเพิ่มเติม เพราะหลังจากที่ได้เซ็นสัญญากับโรงงานยาหุยชุนแล้ว ปริมาณยาที่พวกเขาต้องผลิตก็จะเพิ่มมากขึ้น
“มู่หลาน ผมมีแผนอยู่แล้ว คุณลองดูว่าใช้ได้ไหม”
ฉินมู่หลานไม่คิดว่ากู้วั่งหลานจะเตรียมแผนไว้แล้ว จึงรับมาดูและพูดชมว่า “ผู้จัดการกู้ แผนนี้ดีมากค่ะ ใช้ตามนี้ได้เลย”
“ดีใจนะครับที่คุณเห็นชอบ”
กู้วั่งหลานสบายใจที่ฉินมู่หลานไม่มีความเห็นคัดค้าน
“ถ้าผู้จัดการกู้ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ฉันกับปิงหรุ่ยกลับก่อนนะคะ”
กู้วั่งหลานได้ยินดังนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้ม “งั้นรีบกลับเถอะครับ เรื่องโรงงานยาผมจะจัดการเอง” แต่พอพูดจบ เขาก็เกิดความคิดขึ้นมา “คุณมู่หลาน วันพรุ่งนี้พวกคุณเข้าโรงงานหน่อยนะครับ ผมอยากประชุมใหญ่เพื่อให้พนักงานในโรงงานทุกคนรู้เรื่องหวงลี่อิง”
ฉินมู่หลานเห็นด้วย “ได้ค่ะ แล้วพรุ่งนี้ฉันกับปิงหรุ่ยจะเข้ามา”
เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยก็มาที่โรงงานตั้งแต่เช้า แล้วกู้วั่งหลานก็เรียกทุกคนในโรงงานมารวมตัวกัน
“ทุกคนครับ สาเหตุที่เรียกทุกคนมาในวันนี้ ก็เพื่อจะพูดถึงเรื่องของลูกจ้างชั่วคราวชื่อหวงลี่อิง”
กู้วั่งหลานเป็นประธานการประชุมนี้ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่หวงลี่อิงได้กระทำ รวมทั้งบทลงโทษที่หล่อนควรจะได้รับด้วย
“พวกคุณต้องจำไว้ให้ดีว่าการทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย แม้ว่าครั้งนี้ผลที่ตามมาจะไม่รุนแรงและหวงลี่อิงก็ไม่ได้ถูกจับเข้าคุก แต่หล่อนก็มีประวัติอาชญากรรมติดตัวอยู่และไม่สามารถสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยได้ ลองคิดดูสิ หล่อนอุตส่าห์ร่ำเรียนมหาวิทยาลัยอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่กลับต้องสูญเสียมันไปเพราะเรื่องนี้ พวกคุณคิดว่าสิ่งที่หล่อนทำมันคุ้มไหม ทุกอย่างต้องคิดไตร่ตรองให้ดี ก่อนที่จะลงมือทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ”
เมื่อได้ยินกู้วั่งหลานพูดแบบนี้ ทุกคนต่างก็พูดคุยกันอย่างโจษจัน
“นึกไม่ถึงว่าหวงลี่อิงจะกล้าขนาดนี้ กล้ามาขโมยสูตรลับถึงโรงงานเราเลย”
“ใช่ ไม่เพียงแค่ขโมยสูตรลับ แต่ยังเกือบทำลายความร่วมมือระหว่างโรงงานยาซิ่งหลินและโรงงานยาหุยชุนของเราอีก ถ้าไม่ใช่เพราะผู้อำนวยการฉินและผู้จัดการกู้ตาไว ไหวพริบดี คงถูกหล่อนหลอกสำเร็จไปแล้ว”
ทุกคนต่างก็พูดคุยเรื่องนี้อย่างอื้ออึง
“เงียบกันหน่อย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็เงียบเสียงลง
แม้ว่าฉินมู่หลานจะไม่ค่อยได้มาโรงงาน แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าเธอคือผู้อำนวยการโรงงาน
เมื่อทุกคนเงียบลง ฉินมู่หลานก็พูดต่อจากประเด็นเดิม “พวกเราทุกคนคือส่วนหนึ่งของโรงงาน เราทุกคนควรร่วมแรงร่วมใจเพื่อพัฒนาโรงงานไปด้วยกัน พวกคุณทำอะไรเราเห็นกันอยู่เสมอ คนที่ทำดีเมื่อสิ้นปีมาถึงก็ต้องได้รับรางวัลอย่างแน่นอน ดังนั้น ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงานให้ดี”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แววตาของทุกคนก็เปล่งประกายขึ้น
“ผู้อำนวยการ มีของรางวัลจริงเหรอ?”
“จริงสิ”
ฉินมู่หลานยิ้มพลางพยักหน้าตอบ “ในโรงงานยาซิ่งหลินของเรา ขอแต่ทำงานได้ดีก็ได้รับรางวัล ดังนั้นทุกคนต้องตั้งใจทำงานกันนะ”
“ได้ พวกเราจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่”
ด้วยแรงกระตุ้นแบบนี้ ทำให้ทุกคนต่างก็มีกำลังใจสูงและมีความคิดที่จะแสดงผลงานที่ดีออกมาเพื่อจะได้รับรางวัลตอนสิ้นปี
หลังจากที่ฉินมู่หลานพูดจบ ก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมอีก และเธอก็ให้กู้วั่งหลานพูดต่ออีกสองสามประโยค
หลังการประชุมใหญ่จบลง ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับไปยังที่ทำงานของตนเอง ส่วนฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยก็กลับไปเช่นกัน ทั้งสองได้ลากิจในตอนเช้าวันนี้แล้วจึงรีบเดินทางมาที่นี่และตอนนี้ก็ต้องรีบกลับไปที่โรงเรียนแล้ว
เมื่อทั้งสองมาถึงโรงเรียน ทั้งคู่ก็มุ่งตรงไปที่ห้องเรียนทันที
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จบเห่ค่ะ เธอทำตัวเองทั้งนั้นลี่อิง
ใครคบกันนะ