ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 667 วางกับดัก(2)
ตอนที่ 667 วางกับดัก(2)
…………….
ตอนที่ 667 วางกับดัก(2)
หลังจากเกาซู่ฟางจากไปแล้ว ฉินมู่หลานก็หันไปทางคังอันเหอแล้วพูดว่า “อันเหอ ถ้าเธอเหนื่อยก็หยุดพักก่อนก็ได้ รอจนครบสามเดือนแล้วค่อยกลับมาทำงานก็ไม่เป็นไร”
คังอันเหอกลับโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอกมู่หลาน ฉันไม่เป็นอะไร ผู้อาวุโสลั่วและคุณปู่ฉินตรวจชีพจรให้ฉันทุกวัน ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”
เมื่อเห็นคังอันเหอพูดเช่นนี้ฉินมู่หลานก็วางใจ จากนั้นก็พูดคุยกับเซี่ยปิงชิงอีกสองสามประโยคก็ตั้งใจจะกลับ แต่ไม่คิดว่ากู้วั่งหลานจะเดินเข้ามาพอดี
“มู่หลาน ไม่คิดเลยว่าคุณก็อยู่ที่นี่ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณพอดี”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็รีบถาม “เรื่องอะไรคะ?”
“ไปคุยด้านหลังดีไหมครับ”
ฉินมู่หลานย่อมไม่ปฏิเสธเมื่อได้ยินดังนั้น พอทั้งสองมาถึงด้านหลังร้าน กู้วั่งหลานก็เล่าเรื่องของโรงงานยาหุยชุนให้ฟัง “เรื่องโรงงานยาหุยชุน ผมสอบถามมาหมดแล้ว ที่โรงงานยาหุยชุนไม่มีปัญหาอะไร เราเซ็นสัญญาความร่วมมือกันได้เร็วๆ นี้เลย”
เมื่อได้ยินกู้วั่งหลานพูดเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็ยิ้มและพยักหน้า “ดีเลยค่ะ ไม่มีปัญหา คิดว่าจะเซ็นเมื่อไหร่คะ?”
“เดี๋ยวผมจะติดต่อผู้จัดการโรงงานยาหุยชุนอีกที แล้วเราค่อยเซ็นสัญญาร่วมมือฉบับนี้”
“ได้ค่ะ”
ฉินมู่หลานมองว่าเรื่องราวในวันนี้ไม่มีอะไรแล้ว จึงเอ่ยลากู้วั่งหลาน
“ถ้าอย่างนั้นคุณรีบกลับไปก่อนเถอะ มีอะไรคืบหน้าผมจะรีบแจ้งอีกที”
“ได้ค่ะ”
ฉินมู่หลานกล่าวร่ำลากู้วั่งหลานก่อนจะแยกย้าย แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเช้าวันรุ่งขึ้นกู้วั่งหลานก็มาแจ้งข่าวตนแล้ว
“เร็วขนาดนี้เชียวเหรอคะ?”
กู้วั่งหลานพยักหน้า “ใช่ การเซ็นสัญญากำหนดไว้พรุ่งนี้ คุณมาที่โรงงานพรุ่งนี้แปดโมงเช้าก็ได้”
“ได้ค่ะ”
ฉินมู่หลานจึงไปแจ้งเซี่ยปิงหรุ่ยด้วยว่าให้ตามตนไปที่โรงงานในวันพรุ่งนี้
“มู่หลาน หากเซ็นสัญญาลงนามแล้ว โรงงานก็จำเป็นต้องรับสมัครคนเพิ่ม เอาเป็นว่าถึงตอนนั้นฉันก็จะหาคนจากซีอานมาช่วย”
“ได้เลย ให้อาฉางกู้ช่วยหาคนก็ได้ ส่วนเราเองก็ค่อยคัดเลือกคน ฉันเชื่อว่าจะมีบุคลากรที่มีความสามารถมาร่วมงานในโรงงานของเรา”
เซี่ยปิงหรุ่ยก็คิดเช่นนั้น เพราะตอนนี้โรงงานยาซิ่งหลินโด่งดังแล้ว
“เรื่องรับคนเข้าทำงาน โรงงานยาของเราไม่น่ามีปัญหา รอแค่เซ็นสัญญาในวันพรุ่งนี้ก็พอ”
ทั้งคู่พูดคุยกันอีกสองสามประโยคก็แยกย้ายกลับบ้าน
รุ่งเช้า ฉินมู่หลานไปหาเซี่ยปิงหรุ่ยที่บ้านตั้งแต่เช้า เพื่อที่จะเดินทางไปที่โรงงานยาด้วยกัน
“มู่หลาน นี่มันเช้าเกินไปหรือเปล่า ผู้จัดการกู้บอกว่าให้ไปโรงงานตอนแปดโมงไม่ใช่เหรอ?”
“ไปเช้าๆ หน่อยก็ดี”
เซี่ยปิงหรุ่ยก็ไม่ใช่คนเชื่องช้า พอฉินมู่หลานพูดแบบนั้น หล่อนก็หยิบเสื้อคลุมมาใส่แล้วเดินตามออกไปทันที “ได้ งั้นเราไปตอนนี้เลย”
เมื่อทั้งคู่มาถึงโรงงานยาฏ็พบว่ากู้วั่งหลานมาถึงนานแล้ว พอเห็นพวกเธอมาเช้าขนาดนี้ก็แปลกใจเล็กน้อย
“มู่หลาน ปิงหรุ่ย มาเช้าจัง”
ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยเข้าไปในห้องทำงานของกู้วั่งหลาน ก็พบว่านอกจากเขาแล้วยังมีอีกคนที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่ ฉินมู่หลานจำได้ว่าเป็นเพื่อนของเซียวหลิน ชื่อว่า…หวงลี่อิง
และทันทีที่หวงลี่อิงเห็นฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ย หล่อนก็รีบเอ่ยว่า “สวัสดีค่ะคุณฉิน สวัสดีค่ะคุณเซี่ย”
“สวัสดีค่ะ”
ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยทักทายตอบ แต่พวกเธอก็แอบแปลกใจเล็กน้อยเพราะได้ยินมาว่าเพื่อนของเซียวหลินคนนี้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีน พอมาที่โรงงานยาแห่งนี้ก็ควรจะไปทำงานที่ห้องปฏิบัติการ แต่กลับมาทำความสะอาดอยู่ได้
ในเวลานี้กู้วั่งหลานหันไปทางหวงลี่อิงแล้วพูดว่า “เสี่ยวหวง ผมบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าเรื่องทำความสะอาดให้แม่บ้านประจำเขามาทำ ต่อไปคุณไม่ต้องมาทำแล้ว”
พอได้ยินแบบนั้น หวงลี่อิงก็พูดอย่างเกรงใจว่า “ผู้จัดการกู้ ฉันแค่ต้องการแสดงความขอบคุณที่โรงงานยินดีรับพวกเราที่เป็นนักศึกษาพาร์ทไทม์เข้าทำงาน ถ้าคุณรู้สึกไม่ดีกับการกระทำของฉัน ฉันจะไม่มาอีกก็ได้ค่ะ” พูดจบหวงลี่อิงก็รีบเดินหนีไป
เมื่อเฝ้ามองแผ่นหลังของหวงลี่อิงที่จากไป เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะถามอีกประโยค
“เสี่ยงหวงคนนี้ทำงานไม่ค่อยดีหรือเปล่า เลยคิดหางานกวาดล้างหยากไย่เพื่อให้ตนเองได้ยุ่งๆ เข้าไว้น่ะ”
“ตรงกันข้ามเลย”
กู้วั่งหลานส่ายหัวอย่างเฉียบขาดทันทีพลางกล่าวว่า “หล่อนคนนี้ทำงานได้เยี่ยมมาก ดีกว่าพวกคนในโรงงานเดิมที่เรามีอยู่ เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างว่องไว เพียงแค่เฝ้าสังเกตหลายๆ ครั้งก็จะเข้าใจแล้ว แถมสายตาไวต่อการมองเห็นสิ่งที่ต้องทำอีกด้วย ทุกสิ่งที่หล่อนพบเห็น หล่อนก็จะเข้าช่วยเหลือทันที”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
“หล่อนเก่งขนาดนั้นเชียวหรือ แล้วทำไมยังต้องมาช่วยทำความสะอาดอยู่อีกล่ะ?”
“ก็เพราะอย่างนั้น ผมจึงบอกให้หล่อนไม่ต้องมาอีกแล้ว” กู้วั่งหลานมีความประทับใจในตัวหวงลี่อิงเป็นอย่างมาก เนื่องจากหล่อนเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง ซึ่งเขาเองก็จดจำหญิงสาวคนนี้ได้เป็นอย่างดี
ทว่าฉินมู่หลานกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรต่อ แล้วหันไปมองกู้วั่งหลานพลางเอ่ยว่า “ผู้จัดการกู้ ขอฉันดูสัญญานั้นหน่อยค่ะ”
กู้วั่งหลานหยิบกุญแจดอกเล็กๆ ออกมาแล้วหยิบเอกสารสองชุดออกจากลิ้นชักก่อนจะกล่าวว่า “นี่คือสัญญาที่เราจะต้องลงนามกับโรงงานยาหุยชุน เมื่อพวกเขามาถึง เราก็จะลงนามกันทันที จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เก็บรักษาไว้คนละฉบับ”
ฉินมู่หลานรับเอกสารชุดนั้นมาแล้วก็ตั้งใจอ่านอย่างละเอียด
พินิจอย่างคร่าวๆ แล้วก็ไม่พบปัญหาใด แต่เมื่อฉินมู่หลานอ่านอย่างละเอียดเป็นครั้งที่สอง เธอก็พบปัญหาบางอย่างแล้ว “ผู้จัดการกู้ ตรงนี้มีปัญหานะคะ”
“อะไรนะ”
ก่อนหน้านี้กู้วั่งหลานได้อ่านสัญญาฉบับนี้หลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่พบปัญหาใดเลย
“ดูผิดหรือเปล่าครับ”
ทว่าฉินมู่หลานกลับชี้ไปที่ข้อความส่วนหนึ่งแล้วพูดว่า “ผู้จัดการกู้ ลองพิจารณาดูอีกทีสิคะ ตรงนี้เป็นกับดัก หากเราลงนามแล้วจะส่งผลเสียต่อเรามากเลย”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของกู้วั่งหลานก็ค่อยๆครึ้มลง และในที่สุดก็หันไปมองจุดที่ฉินมู่หลานชี้ เมื่อเห็นดังนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“มันเกิดอะไรขึ้น เนื้อหาในสัญญาก่อนหน้านี้ไม่ใช่แบบนี้นี่”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “จริงเหรอคะ ก่อนหน้านี้เนื้อหาไม่เป็นแบบนี้เหรอ?”
กู้วั่งหลานพยักหน้าอย่างมั่นใจแล้วกล่าวว่า “ใช่ ผมอ่านอย่างละเอียดหลายรอบ ดังนั้นผมไม่มีทางจำผิด แน่นอนว่าสัญญานี้มีปัญหา”
คราวนี้แม้แต่เซี่ยปิงหรุ่ย ก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“แล้ว…แล้วจะทำยังไงต่อไป”
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ยังเช้า เรายังพอมีเวลา”
ฉินมู่หลานรู้สึกโชคดีมากที่พวกเธอมาเร็วก่อนเวลา กู้วั่งหลานถอนหายใจอย่างโล่งอก เพียงแต่ถอนหายใจไม่ทันจบ ก็มีคนเข้ามาแจ้ง “ผู้จัดการกู้ คนจากโรงงานยาหุยชุนมาแล้ว”
“อะไรนะ..ทำไมมาเร็วจัง ยังไม่ถึงเวลาที่นัดหมายกันไว้ไม่ใช่เหรอ?”
ฉินมู่หลานอดหัวเราะในใจไม่ได้และเอ่ยว่า “ดูเหมือนว่าจะมีคนวางกับดักไว้ให้พวกเราโดยเฉพาะเลยล่ะค่ะ”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
หวงลี่อิง เธอคือนาตาชาจากโรงงานยาอีกเจ้าใช่ไหม บอกมา ในตอนนี้เธอดูมีพิรุธที่สุดแล้ว
ไหหม่า(海馬)