ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 869 แต่งงาน
ตอนที่ 869 แต่งงาน
คืนนี้เซียวเหวินอวี๋อยู่ค้างที่ตำหนักฮองเฮา แต่ทั้งสองคนเพียงห่มผ้าห่มนอน ฮองเฮาตั้งครรภ์ เซียว เหวินอวี๋ไม่อาจทำอันใดได้ แต่แม้เช่นนี้ เซียวเหวินอวี๋ก็นอนไม่ค่อยหลับ ฟ้ายังไม่ทันสางก็ลุกไป
ฮองเฮาคิดไม่ถึงว่าเมื่อวานฝ่าบาทมากินข้าวเป็นเพื่อนนางและยังอยู่ตำหนักนางทั้งคืน แสดงให้เห็นว่าฝ่าบาททรงให้อภัยนางแล้ว
วันที่หก เดือนแปด เซี่ยเหวินเซ่าบุตรชายสามตระกูลเซี่ยแต่งงาน
แขกที่มาตระกูลเซี่ยมากมาย ครึกครื้นไม่น้อย
ตอนนี้ตระกูลเซี่ยเรียกได้ว่าเป็นที่โปรดปรานยิ่ง ใต้เท้าเซี่ยเป็นรองโส่วฝู่สำนักมนตรี ภรรยาได้รับการแต่งตั้งจากฝ่าบาทเป็นฮูหยินเหนืออันดับหนึ่ง บุตรชายพวกเขาต่างโดดเด่น ตระกูลเซี่ยรุ่งเรืองแล้ว ดังนั้นตระกูลเก่าแก่แต่ละตระกูลในเมืองหลวงล้วนให้เกียรติตระกูลเซี่ย คนที่มาร่วมงานเลี้ยงจวนตระกูลเซี่ยวันนี้กันเต็มแน่นไปทั้งจวน ครึกครื้นอย่างยิ่ง
แต่เซี่ยเหวินเซ่าแต่งงาน บ้านเดิมตระกูลเซี่ยและบ้านตระกูลลู่ล้วนไม่ได้มา ครั้งก่อนมาเหนื่อยกันมาก ครั้งนี้เซี่ยเหวินเซ่าแต่งงาน ลู่เจียวส่งคนไปรับพวกเซี่ยเหล่าเกินที่หมู่บ้านตระกูลเซี่ย แต่ไม่มีคนมา บ้านตระกูลลู่เองก็ไม่มา มีเพียงส่งของขวัญมา
ลู่เจียวก็ไม่ได้คิดมาก ครั้งก่อนคนตระกูลเซี่ยกับบ้านตระกูลลู่มา นางก็รู้บุตรชายลำดับถัดไปที่จะแต่งงาน ตระกูลเซี่ยกับบ้านตระกูลลู่คงไม่มาอีก
แต่ลู่กุ้ยสองสามีภรรยากลับเร่งเดินทางมา ประการแรก ลู่กุ้ยสนิทกับลู่เจียว ประการที่สองอยากมาเยี่ยมบุตรี พอดีมาทีเดียวได้สองงาน
ลู่กุ้ยกับจิ่นซิ่วมา ก็ไม่ต้องส่งคนไปต้อนรับ กลับกันพวกเขาสองคนยังช่วยเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวดูแลงานได้
วันนี้แขกเหรื่อแม้ว่ามาก สถานการณ์กลับไม่วุ่นวายแม้แต่น้อย สาเหตุสำคัญก็เพราะผู้ดูแลในตระกูลเซี่ยมีมาก
ที่เรือนด้านหน้า เซี่ยอวิ๋นจิ่นนำต้าเป่า เอ้อร์เป่า อู่เป่าและลู่กุ้ยไปต้อนรับแขกชาย ลู่เจียวนำสะใภ้และจิ่นซิ่วไปเรือนด้านหลังต้อนรับแขกสตรี เซี่ยหลิงหลงกับลู่โหรวรับหน้าที่ดูแลคุณหนูที่อายุใกล้เคียงกับพวกนาง
เซี่ยหลิงหลงเข้าเรียนที่สำนักศึกษาสตรี กิริยาท่าทางก็มีธรรมเนียม เพราะตระกูลเซี่ยรุ่งเรืองขึ้นมาแล้ว นางมักต้องออกงานต่างๆ ดังนั้นกิริยาท่าทางก็ย่อมมีความมั่นใจและลื่นไหล แม้ว่าอายุไม่มาก แต่ต้อนรับแขกที่มาได้อย่างดี ไม่ได้มีท่าทางขลาดกลัวแม้แต่น้อย ทำให้ฮูหยินตระกูลเก่าแก่แต่ละตระกูลเห็นแล้วก็เกิดความคิดไม่น้อย แอบมาสอบถามเรื่องของเซี่ยหลิงหลงว่าหมั้นหมายแล้วหรือยัง
ได้ยินว่าเซี่ยหลิงหลงยังไม่หมั้นหมาย ก็มีคนคิดวางแผนขึ้นมาทันที คุณหนูหลิงหลงเป็นน้องสาวฝ่าบาท แม้ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ แต่ก็ได้ยินว่าฝ่าบาทเอ็นดูนางอย่างมาก แม้แต่ชื่อนางก็ทรงตั้งให้ด้วยพระองค์เอง
หากตระกูลพวกเขาได้แต่งลูกสะใภ้เช่นกลับไป ก็ย่อมราวกับมีบันไดไต่ขึ้นไป วันหน้าบุตรชายย่อมก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป
เพราะเนี่ยอวี้เหยา เถียนฮวน ฮูหยินขุนพลหวังสนิทกับลู่เจียว คนเหล่านี้จึงได้มาไหว้วานพวกนางให้แอบถามลู่เจียวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวดองหรือไม่
เนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนและฮูหยินขุนพลหวังไร้หนทาง ได้แต่หาโอกาสมาถามลู่เจียวเรื่องนี้
ลู่เจียวได้ฟังก็แปลกใจมาก หลิงหลงปีนี้แค่สิบสอง จะหมั้นหมายอันใด
“บุตรชายตระกูลเราไม่ถึงสิบห้าสิบหกไม่มีทางหมั้นหมายอันใด บุตรีเองก็เช่นกัน”
ลู่เจียวปฏิเสธกลับไปเด็ดขาด พอคิดถึงว่าคนเหล่านี้หมายปองบุตรีนาง ในใจลู่เจียวก็ไม่วางใจ กำชับติงเซียงไปว่าให้ไปตามเซี่ยหลิงหลงมา นางอยากคุยกับบุตรีสักครู่
“หลิงหลง แม่บอกกับเจ้าเรื่องหนึ่ง ตระกูลเราไม่ว่าชายหรือหญิง หากไม่ถึงสิบห้าจะไม่คุยเรื่องหมั้นหมาย เจ้าเข้าใจหรือไม่”
เซี่ยหลิงหลงได้ฟังก็เข้าใจคำพูดลู่เจียวทันที วันนี้นางพบว่าฮูหยินไม่น้อยต่างแสดงความเป็นมิตรยามพบเจอนางอย่างมาก เริ่มแรกก็ยังไม่เข้าใจ ตอนนี้ได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็เข้าใจสาเหตุที่วันนี้บรรดาฮูหยินแต่ละตระกูลแสดงความเป็นมิตรยามพบนางได้ทันที
เซี่ยหลิงหลงพยักหน้าเขินอาย “ท่านแม่ ข้าทราบแล้ว”
ลู่เจียวยื่นมือไปลูบศีรษะเซี่ยหลิงหลง “แม่มีบุตรีคนเดียว อยากให้เจ้าหาคนที่รักเจ้า ทะนุถนอมเจ้า ดังนั้นคนผู้นี้จำเป็นต้องให้ท่านพ่อ ท่านแม่และบรรดาพี่ชายของเจ้าได้ดูก่อน เจ้าจึงจะแต่งได้ เจ้าห้ามคบหากับผู้ใด รู้หรือไม่”
เซี่ยหลิงหลงได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็รู้สึกได้ว่าท่านแม่รักตนเองอย่างมาก นางรีบรับปากทันที
“ท่านแม่ ข้าเชื่อฟังท่านแม่”
“อืม อีกปีกว่า เจ้าก็จะจบการศึกษาจากสำนักศึกษาสตรีซุ่ยเต๋อแล้ว หลัง่จบแล้ว ก็มาติดตามแม่ แม่จะสอนวิชาการแพทย์เจ้า รอเจ้าเรียนสำเร็จก็ค่อยหมั้นหมาย”
“เจ้าค่ะ”
“แต่เจ้าต้องฉลาดหน่อย ต้องรักษาระยะห่างจากผู้อื่น ป้องกันคนปองร้ายเจ้า ปกติไปไหนก็พานิ่งฮวาไปด้วย”
นิ่งฮวาเป็นคนที่สองสามีภรรยาตระกูลเซี่ยอบรมมาให้ปกป้องคุ้มกันเซี่ยหลิงหลง นางเป็นวิทยายุทธ์
“ท่านแม่ ข้าทราบแล้ว”
“อืม เช่นนั้นเจ้าไปทำงานได้แล้ว แม่ยังมีงานอีก”
ลู่เจียวลุกขึ้น สองแม่ลูกเดินออกไป
ตอนบ่ายซานเป่าเพิ่งจะรับเจ้าสาวกลับมาจากตระกูลหวัง ฝ่าบาทก็นั่งรถจากในวังมาถึง
ดังนั้นทุกคนยิ่งมองออกว่าตระกูลเซี่ยได้รับพระเมตตามาเพียงใด
“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท”
เซียวเหวินอวี๋ยิ้มกวาดตามองขุนนางในราชสำนักทีหนึ่ง โบกมือให้ขุนนางทุกคนลุกขึ้น “วันนี้เป็นวันแต่งงานของพี่สามเรา ใต้เท้าทุกท่านไม่ต้องมากพิธี”
แม้ว่าเซียวเหวินอวี๋เป็นน้องสี่ของซานเป่า แต่เขาสถานะฮ่องเต้ ดังนั้นบ่าวสาวเข้าพิธี เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวทูลเชิญเซียวเหวินอวี๋มานั่งตรงกลาง แต่เซียวเหวินอวี๋ปฏิเสธ
บ่าวสาวเริ่มดำเนินพิธีแต่งงาน
ลู่เจียวคิดถึงว่าครั้งก่อนตอนต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าแต่งงาน เซียวเหวินอวี๋ถูกลอบสังหาร ใจนางก็ไม่ค่อยวางใจขึ้นมาอย่างไม่อาจระงับ แม้ว่าตอนนี้เซียวเหวินอวี๋เป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจวแล้ว ตามหลักการน่าจะไม่มีคนกล้าปองร้ายเขาแล้ว แต่ก็ไม่กล้าประมาท คอยส่งสายตาสังเกตทางเซียวเหวินอวี๋อยู่ตลอด
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็ระวังตัว สังเกตแต่สภาพรอบพระวรกายฮ่องเต้ โชคดีที่พิธีแต่งงานจบลงอย่างรวดเร็ว เจ้าสาวถูกส่งเข้าห้องหอ ฝ่าบาทไม่ได้เกิดเหตุอันใด
แต่เซียวเหวินอวี๋มองออกว่าบรรดาขุนนางใหญ่ต่างระวังตัว ไม่ยอมละท่าทีระแวดระวัง
เดิมงานแต่งที่ครึกครื้นก็รู้สึกเงียบเหงาอยู่สักหน่อย
วันนี้เซียวเหวินอวี๋ออกจากวังหลวงมาร่วมงานแต่งงานซานเป่า เดิมวางแผนว่าร่วมรับประทานอาหารแล้วค่อยกลับ แต่ตอนนี้เห็นบรรดาขุนนางใหญ่ระวังตัวกันเช่นนี้ เขาก็ไม่คิดอยู่ต่อ เอ่ยขอตัวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นและลู่เจียวแล้วก็จะเดินทางกลับเข้าวัง
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ากลับเข้าวังแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวมาส่งเซียวเหวินอวี๋ถึงรถม้าพระที่นั่งรออยู่นอกประตูด้วยตนเอง “ฝ่าบาทกลับเข้าวัง ระวังหน่อย ”
ลู่เจียวมองออกว่าเซียวเหวินอวี๋แอบดูสลดอยู่บ้าง นางยิ้มมองเซียวเหวินอวี๋กล่าวว่า “พวกเจ้าพี่น้องยังมีวันเวลาร่วมกันอีกมาก ไม่ใช่เพียงแค่วันนี้ ฝ่าบาทสบายพระทัยกลับเข้าวังไปเถิด ไว้ค่อยรวมตัวพร้อมหน้าอีกก็เหมือนกัน วันนี้คนมาก พวกเขายุ่งกับการต้อนรับแขก ไม่มีเวลาสนทนากับฝ่าบาท”
เซียวเหวินอวี๋คิดถึงว่าครั้งก่อนต้าเป่าแต่งงาน ตนเองประสบเหตุลอบสังหารเกือบทำให้ท่านแม่เสียชีวิต พอมาคิดถึงวันนี้ ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าก็ยุ่งกับการต้อนรับแขก พวกเขาพี่น้องไม่มีเวลาได้คุยกัน ดังนั้นอยู่ต่อหรือไม่ก็ไม่แตกต่าง
เซียวเหวินอวี๋อารมณ์ดีขึ้นมาก หน้าบานเอ่ยเบาๆ ว่า “ท่านแม่ ข้าทราบแล้ว เช่นนั้นข้ากลับเข้าวังแล้ว”
“กลับเถอะ”
รถม้าพระที่นั่งตรงกลับเข้าวัง เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังกับลู่เจียวก็พลันโล่งอก