ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 814 ได้รับบาดเจ็บ
ตอนที่ 814 ได้รับบาดเจ็บ
ลู่เจียวเดาว่าด้านนอกน่าจะจบเรื่องแล้ว ก็อุ้มอู่เป่าออกมา
หร่วนจู๋กับถงอี้เห็นลู่เจียวก็รีบเข้ามาหา “ฮูหยิน คุณชายห้าไม่เป็นอันใดใช่ไหม”
ลู่เจียวส่ายหน้า “ไม่เป็นอันใด พวกเจ้าไม่เป็นอันใดกระมัง”
“ไม่ขอรับ จับได้สี่คน คนพวกนั้นคิดฆ่าตัวตาย ข้าบีบคางเอาไว้”
ลู่เจียวเอ่ยสีหน้าเย็นเยียบ “เฝ้าพวกเขาให้ดี อีกสักพักนำกลับเมืองหลวง”
นางกล่าวจบก็เหมือนคิดอันใดขึ้นมาได้ เอ่ยขึ้นว่า“คนเหล่านี้ให้ถงอี้เฝ้าด้วยตนเอง จำไว้ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามเข้าใกล้ แม้เป็นขุนนางที่ครั้งนี้ฝ่าบาทส่งมารับหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยก็ไม่ได้”
ลู่เจียวกลัวว่าคนคนนั้นอาจเกี่ยวข้องอันใดกับฮองเฮาและอ๋องจิ่น ดังนั้นไม่ให้คนเหล่านี้เข้าใกล้คนที่จับได้
นางตัดสินใจส่งคนเหล่านี้ไปถึงมือเซียวอวี้
ถงอี้รับคำ “ขอรับ”
ลู่เจียวอุ้มอู่เป่าหันหลังเดินไป คนชุดดำถูกสังหารไปไม่น้อย ยังมีอีกส่วนเห็นท่าไม่ดีพากันหนีไปได้
คนชุดดำที่ถูกจับได้ถูกถงอี้คุมตัวกลับไป
ฉีเหล่ยกับเซี่ยหลิงหลงไม่ได้เข้านอน ทั้งสองคนกำลังรอข่าวลู่เจียวกับอู่เป่า พอเห็นทั้งสองคนไม่เป็นอันใด ฉีเหล่ยกับเซี่ยหลิงหลงก็โล่งอก
เซี่ยหลิงหลงพุ่งเข้ามากอดอู่เป่าร้องไห้เสียงดัง “พี่ห้า พี่ทำหลิงหลงตกใจหมด ฮือๆ ตกใจหมดเลย”
อู่เป่าน้อยคิดไม่ถึงว่าตนเองหายตัวไป หลิงหลงถึงกับเสียใจเช่นนี้ เขาเห็นหลิงหลงเสียใจก็อดยิ้มมุมปากยื่นมือไปกอดนางไว้ไม่ได้ ปลอบใจว่า “เอาละ พี่ห้าไม่เป็นไม่เป็นอันใดแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าอย่าได้ร้องไห้ ข้าไม่เป็นอันใดแล้ว ไม่เป็นอันใดแล้ว”
“วันหน้าพี่ห้าจะต้องระวังตัวหน่อย อย่าได้หลงเชื่อคนที่ไม่ควรเชื่อใจ”
เรื่องครั้งนี้เตือนสติอู่เป่าน้อยว่า อย่าได้หลงเชื่อผู้อื่น แม้ว่าดูแล้วจะอ่อนแอเพียงใดก็ตาม ความจริงก็แอบลอบกัดได้ อย่างเช่นเอ้อร์วั่ง เห็นอยู่ว่าเขาดีกับอีกฝ่ายมาก แต่เอ้อร์วั่งยังหลอกเขา หากไม่ใช่เขาหลอกอู่เป่าเข้าไปในกระโจม เขาก็คงไม่โดนจับไปง่ายดายเพียงนี้
เรื่องของเอ้อร์วั่งนับเป็นบทเรียนหนึ่งของอู่เป่า
“วันหน้าพี่ห้าต้องระมัดระวัง”
สองพี่น้องคุยกันได้ครู่หนึ่ง อารมณ์ก็สงบลง
ฉีเหล่ยถามลู่เจียว “อาจารย์ ท่านวางแผนจัดการเรื่องนี้อย่างไร”
“ส่งคนเหล่านี้กลับเมืองหลวงไปให้ฝ่าบาท ข้าเชื่อว่าฝ่าบาทจะมีคำตอบให้ข้า”
ฉีเหล่ยพยักหน้า คงได้แต่ทำเช่นนี้ ฮองเฮาอยู่ในตำแหน่งเหนือคนนับหมื่น นอกจากฝ่าบาทแล้ว ไม่มีผู้ใดจัดการนางได้ พวกเขาได้แต่มอบให้ฝ่าบาททรงจัดการเอง
ฉีเหล่ยเห็นว่าดึกมากแล้วก็ให้ลู่เจียวพาสองแฝดไปพักผ่อน
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ลู่เจียวจึงได้กอดสองแฝดเข้านอนอย่างที่ไม่ค่อยได้มีโอกาส วันนี้เด็กๆ ดีใจมาก พวกเขาไม่ได้นอนกับท่านแม่นานแล้ว
ในที่สุดอู่เป่าน้อยก็ได้นอนกับท่านแม่ จากนั้นก็อารมณ์ดีขึ้น ไม่ได้มีท่าทางเคร่งเครียดอีก
คณะหมออยู่ชวนโจวราวยี่สิบวัน เห็นว่าราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บหายกันพอสมควรแล้ว พวกเขาอยู่ก็ไม่มีความจำเป็นอันใดอีก พวกฉีเหล่ยจึงเก็บของจะกลับเมืองหลวง
แต่ผู้รับหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไม่ได้กลับไปเมืองหลวงพร้อมกันกับพวกเขา ยังคงอยู่ให้ความช่วยเหลือต่อ พวกเขาต้องการเวลามากยิ่งขึ้นในการช่วยเหลือหาที่อยู่ให้ราษฎรเหล่านี้ดำรงชีวิตต่อไป
ดังนั้นพวกลู่เจียวกับฉีเหล่ยจึงกลับเมืองหลวงก่อน
ตลอดทางมา พวกลู่เจียวกับฉีเหล่ยได้พบกับการลอบสังหารอีกสองครั้ง พวกเขาโชคดีที่มีทหารทางการอารักขาไปส่ง กอปรกับหร่วนจู๋กับถงอี้ข้างกายลู่เจียว และผู้คุ้มกันฉีเหล่ยหลายคน ทำให้มือสังหารไม่อาจทำการได้สำเร็จ
กลางเดือนสิบสอง พวกฉีเหล่ยลู่เจียวก็กลับถึงเมืองหลวงอย่างราบรื่น หิมะแรกในเมืองหลวงตกลงมาแล้ว
หิมะสีขาวปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองหลวง ดุจดังโลกหยกขาวงดงามส่องประกายงดงามอย่างไม่อาจบรรยาย
สองหนูน้อยลืมอันตรายที่ได้เผชิญมาตลอดทางไปหมดสิ้น เห็นเมืองหลวงงดงามดังหยกขาวส่องประกาย ก็อดเอ่ยชมไม่ขาดสายไม่ได้ “งามมากๆ งามจริงๆ”
ลู่เจียวมองเด็กน้อยสองคนสวมเสื้อผ้าจนเป็นก้อนกลมก็โล่งอก
โชคดีที่เพียงแค่ตกใจแต่ไม่เป็นอันใด พอกลับถึงเมืองหลวง ทุกคนก็แยกย้ายกันที่หน้าประตูเมืองกลับจวนตนเอง
รถม้าลู่เจียวเพิ่งจะถึงหน้าประตูตระกูลเซี่ย พ่อบ้านเซียวก็พาคนออกมาต้อนรับ พ่อบ้านเซียวสีหน้ากลัดกลุ้ม พอเห็นลู่เจียวก็เอ่ยอย่างร้อนใจ “ฮูหยิน ท่านกลับมาแล้ว ใต้เท้าก็กลับมาแล้ว เพียงแต่ใต้เท้าได้รับบาดเจ็บกลับมาด้วย”
ลู่เจียวพอได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้รับบาดเจ็บก็มีสีหน้าแปรเปลี่ยน รีบลงจากรถม้า
“บาดเจ็บหนักหรือไม่”
พ่อบ้านเซียวรีบกล่าวว่า “หนักอยู่เหมือนกัน ได้ยินว่า…”
พ่อบ้านเซียวกล่าวไม่จบก็หยุด ลู่เจียวสะอึกกึกในใจ หรือว่าซื่อเป่าเองก็ได้รับบาดเจ็บ
“องค์ชายรองเองก็ได้รับบาดเจ็บหรือ”
พ่อบ้านเซียวพยักหน้า ลู่เจียวอารมณ์หนักอึ้งอย่างพูดไม่ออก นางรู้ว่าไปหลิงหยางครั้งนี้จะต้องเผชิญกับอันตราย แต่คิดไม่ถึงว่าทั้งสองคนจะได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่ไม่ได้ถึงแก่ชีวิต
“ข้าไปดูหน่อย”
ลู่เจียวพาคนเดินเข้าไป แฝดชายหญิงเองก็ร้อนใจรีบตามไป เซี่ยหลิงหลงวิ่งเหยาะๆ มาห้องเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่เรือนด้านหน้า
อาการบาดเจ็บของเซี่ยอวิ๋นจิ่นดูแล้วหนักหนา แต่ไม่ได้โดนจุดสำคัญที่จะอันตรายถึงชีวิต แต่บาดแผลนี้ดูแล้วหนักหนาจริง ใบหน้าครึ่งหนึ่งมีบาดแผลแค่ผิวหนัง แต่ดูแล้วน่ากลัวมาก แขนข้างหนึ่งก็มีบาดแผลบนผิวหนังภายนอกน่ากลัวมากเช่นกัน ยังมีอีกส่วนที่ลำคอ เป็นรอยปาดโลหิตไหลซึม
ลู่เจียวเห็นเขามีบาดแผลทั้งตัว ก็ยิ่งเหมือนการแสดง ไม่เช่นนั้นเหตุใดมีบาดแผลมากมายเช่นนี้ แต่กลับไม่ถึงชีวิตสักแห่ง แม้แต่กระดูกก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ
แต่เพราะแฝดชายหญิงอยู่ ดังนั้นลู่เจียวจึงไม่ได้ถามเรื่องพวกนี้กับเซี่ยอวิ๋นจิ่น เพียงแต่เอ่ยอย่างห่วงใยว่า “เหตุใดบาดเจ็บกันเช่นนี้ได้ ยังไม่ให้คนจัดการบาดแผลอีกหรือ”
โดยเฉพาะใบหน้า บาดแผลน่ากลัวมาก แต่ลู่เจียวกลับไม่เป็นห่วงว่าเขาจะมีรอยแผลเป็น มีนางอยู่ ไม่มีทางมีแผลเป็น เพียงแต่ตอนนี้ดูแล้วน่าตกใจเท่านั้น
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือไปกุมมือลู่เจียวปลอบใจกล่าวว่า “ข้าไม่เป็นอันใด เจ้าอย่าได้เป็นห่วง”
ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวว่า “ข้าพันแผลให้เจ้าใหม่ก็แล้วกัน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบพยักหน้า “อืม ได้”
ในห้องแฝดชายหญิงเปิดพื้นที่ให้ลู่เจียวเข้ามาพันแผลให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น แฝดชายหญิงยังแย่งกันเล่าการไปชวนโจวของพวกเขาครั้งนี้ เซี่ยหลิงหลงยังปากไวเล่าเรื่องพี่ห้าถูกจับตัวไป ให้ท่านแม่ไปแลกตัวมา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบมองไปยังลู่เจียวทันที ถามขึ้นว่า “เจ้าไม่เป็นอันใดกระมัง”
ลู่เจียวส่ายหน้า “ไม่เป็นอันใด”
แม้ว่าไม่เป็นอันใด แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็โมโหมาก เปล่งรัศมีเย็นเยียบรอบกาย เขากล่าวด้วยสีหน้าดุดันว่า “ดูท่าพวกเราสองฝ่ายคงไม่อาจอยู่ร่วมกันได้อีกแล้ว”
เดิมเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวยังไม่ร้อนใจจะจัดการฮองเฮากับอ๋องจิ่น
แต่ทำอย่างไรได้ ฮองเฮากับอ๋องจิ่นไม่ยอมปล่อยพวกเขา แทบจะรีบกำจัดพวกเขาอย่างตัดรากถอนโคนกันเลยทีเดียว
ดังนั้นตอนนี้พวกเขาไม่อาจไม่โต้คืน
ลู่เจียวรู้ความหมายในวาจาของเซี่ยอวิ๋นจิ่น แต่ก็ไม่อยากพูดต่อหน้าสองหนูน้อย จึงมองไปยังสองหนูน้อย กล่าวว่า “อู่เป่า หลิงหลง พวกเจ้านั่งรถม้ามาหลายวัน ตอนนี้คงเหนื่อยแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”
อู่เป่าน้อยไม่ปฏิเสธ แต่หลิงหลงกลับไม่คิดไป นางมองลู่เจียวกล่าวว่า “ท่านแม่ ข้าอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มมองเซี่ยหลิงหลง กล่าวว่า “เอาละ ไปนอนสักตื่น พรุ่งนี้เช้าค่อยมาเป็นเพื่อนพ่อ ดีหรือไม่”
เซี่ยหลิงหลงอยากพูดต่อ ลู่เจียวเอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ไปพักผ่อน ท่านพ่อมีเรื่องคุยกับแม่ พรุ่งนี้เช้าเจ้าค่อยมาเป็นเพื่อนท่านพ่อเจ้า”
ในที่สุดเซี่ยหลิงหลงไม่พูดอะไรต่ออีก อู่เป่าดึงมือนางมา สองพี่น้องออกไปด้วยกัน
พอสองพี่น้องออกไปแล้ว ลู่เจียวรีบมองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “สถานการณ์เจ้าแท้จริงเป็นอย่างไรบ้าง เหตุใดจึงได้มีสภาพดูไม่ได้เช่นนี้ ซื่อเป่ายังได้รับบาดเจ็บอีกด้วยหรือ”