ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 718 ความคิด
ตอนที่ 718 ความคิด
เรือใหญ่เซี่ยเหวินสองตระกูลแล่นไปได้ยี่สิบกว่าวันก็ถึงเมืองหลวงอย่างราบรื่น ตลอดทางไม่ได้พบเจอโจรดักปล้น สาเหตุเพราะทุกวันพวกเขาไปจอดเทียบท่าค้างแรมตรงเวลาทุกท่า ไม่ได้จอดเรือระหว่างทาง พวกโจรแม้คิดปล้นเรือของสองตระกูลนี้ ก็ไม่กล้าลงมือที่ท่าเรือแต่ละจุด เพราะมีทหารทางการคุ้มกันอยู่ พวกเขาใจกล้าเพียงใด ก็ไม่กล้ามีเรื่องกับขุนนางท้องถิ่น
เพราะเหตุนี้ เซี่ยเหวินสองตระกูลจึงถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัยราบรื่น
เรือเพิ่งจะจอดเทียบท่า เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวยังไม่ทันได้ขึ้นจากเรือ ก็ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากด้านนอก
ติงเซียงรีบเข้ามาในห้องเรือ รายงานว่า “ฮูหยิน เซียงจวินอันเล่อกับจ้าวฮูหยินมารับฮูหยินเจ้าค่ะ”
ลู่เจียวพอได้ฟังก็รู้ว่าเป็นเนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนสองคน ก็อดหัวเราะไม่ได้
สองคนนี้ทนรอนางไม่ไหวแล้ว เรือนางเพิ่งจะเทียบท่า พวกนางก็มาถึงแล้ว นี่คงให้คนไปสืบมาก่อนแล้วว่าเรือพวกนางถึงที่ไหนแล้วกระมัง
ลู่เจียวอมยิ้มกล่าวว่า “รู้แล้ว”
กล่าวตามตรง นางไม่ได้พบกับพี่สาวบุญธรรมและเถียนฮวนมาหลายปีแล้ว จึงคิดถึงพวกนางอยู่ไม่น้อย แต่หลายปีมานี้แม้ว่าไม่ได้พบหน้ากัน แต่ก็ส่งจดหมายถึงกันตลอด
ก่อนหน้านี้นางกับเถียนฮวนเตรียมทำเรือนปลูกผักที่เมืองหลวง เถียนฮวนได้พบกับเนี่ยอวี้เหยา เอ่ยถึงเรื่องนี้ เนี่ยอวี้เหยาก็แสดงท่าทีจะเข้าร่วมการค้ากับพวกนางด้วย นางมีโรงนาอยู่นอกเมืองหลวงที่ท่านหญิง เหวินอันเซี่ยนจู่มอบให้นางสองแห่ง
เนี่ยอวี้เหยาจึงได้นำโรงนาทั้งสองมาร่วมการค้าด้วย สุดท้ายพวกนางจึงได้มีผักสดถึงสี่โรง
ปรากฏผักสดขายดีมากในเมืองหลวง ไม่เพียงแต่หน้าหนาว แม้แต่หน้าร้อน ผักจากโรงนาพวกนางก็เป็นที่แย่งซื้อกัน ลู่เจียวถึงกับคิดวิธีทำผักแห้ง จะได้เก็บรักษาไว้ได้ระยะยาว เหมาะกับพ่อค้าเดินทางพกไปกินได้ ใช้น้ำร้อนแช่เอาก็กินได้
การค้านี้ดีอย่างมาก
ตอนนี้สตรีทั้งสามไม่เพียงแต่ความสัมพันธ์ดี เพราะการค้ายังทำให้ได้มาอยู่ร่วมกัน เช่นนี้ความสัมพันธ์ก็ยิ่งดีกว่าเดิม
เนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนสองคนเฝ้ารอให้ลู่เจียวเข้าเมืองหลวงมาตลอด ก่อนหน้านี้ยังส่งคนไปสืบข่าวตามริมแม่น้ำ ว่าพวกเขาจะมาถึงเมื่อใด สุดท้ายแน่ใจว่าค่ำวันนี้จะถึง เนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนรีบพาคนมารอรับที่ท่าเรือ
บนเรือใหญ่ พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวทั้งครอบครัวปรากฏตัว ก็เป็นที่จ้องมองของคนที่ท่าเรือไม่น้อย
สาเหตุหลักก็เพราะพวกเขาทั้งครอบครัวหน้าตาดีมาก
ไม่กล่าวถึงเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว แค่เด็กหนุ่มรูปงามราวหยกงามข้างกายพวกเขาสามคน ก็ดึงดูดสายตาไม่น้อยแล้ว แต่ข้างกายพวกเขายังมีฝาแฝดชายหญิงอีกคู่หนึ่ง ทำให้ยิ่งดึงดูดสายตามากกว่าเดิม
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไม่ได้มีแรงดึงดูดได้เท่ากับพวกเขา
แต่เพราะพวกเขาหน้าตาเป็นที่สะดุดตา ทำให้พอเนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนเห็น สตรีทั้งสองก็พาคนเบียดฝ่าฝูงชนเข้ามารอรับถึงข้างเรือตระกูลเซี่ย
“เจียวเจียว เจียวเจียว”
ลู่เจียวเงยหน้ามองมาที่ท่าเรือ นั่นไม่ใช่เนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนหรือ
หญิงทั้งสองแต่งกายกระโปรงยาวหรูหรางดงาม แต่กลับไม่ได้สงบเสงี่ยมเรียบร้อยดังสตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวง ทั้งสองคนยิ้มหน้าบานโบกมือทักทายนาง
ลู่เจียวยิ้มยกมือโบกกลับ จากนั้นก็พาลูกๆ กับเซี่ยอวิ๋นจิ่นขึ้นจากเรือ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรั้งท้ายมากับลูกๆ แต่ลู่เจียวกลับก้าวเท้ายาวๆ ล่วงหน้ามาหาเนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวน
“พวกเจ้ามาได้อย่างไร”
“ได้ยินว่าเจ้ามาถึงเมืองหลวงวันนี้ พวกเราทนรอไม่ไหวแล้ว จึงได้มารอเจ้าที่นี่”
ลู่เจียวยิ้มหันหน้าไปมองจู้เป่าจูที่ลงมาจากเรือข้างๆ นางกวักมือเรียกจู้เป่าจู “นี่คือเซียงจวินอันเล่อบุตรีท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ เจ้าก็รู้จักแล้ว”
จู้เป่าจูมองเนี่ยอวี้เหยาอย่างตกใจ “นางไม่ใช่ ไม่ใช่…”
ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “ใช่แล้ว เดิมนางก็คือหลี่อวี้เหยา พี่สาวบุญธรรมข้าแต่นางเป็นบุตรีพระชายาจวนอู่กั๋วกงที่ถูกลักพาตัวมา หลายปีก่อนจวนอู่กั๋วกงหานางพบ จึงได้รับนางกลับมาเมืองหลวง ตอนนี้นางก็คือเซียงจวินอันเล่อ”
จู้เป่าจูส่งยิ้มทักทายเนี่ยอวี้เหยา “คารวะ เซียงจวินอันเล่อ”
เนี่ยอวี้เหยารู้จักจู้เป่าจู รู้ว่านางเป็นฮูหยินของเจิ้งจื้อซิ่ง ตามหลักนางควรอยู่อำเภอชิงเหอถึงจะถูก แต่ก็ไม่ได้ถามมากความ เพียงแค่พยักหน้ายิ้มๆ
ลู่เจียวแนะนำให้เนี่ยอวี้เหยาแทนว่า “ก่อนหน้านี้เป่าจูหย่ากับเจิ้งจื้อซิ่งแล้ว ต่อมานางแต่งกับนายท่านสามตระกูลเหวิน เหวินเฮ่อเซิง ครั้งนี้นายท่านสามเหวินได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งรองเจ้ากรมตรวจการในเมืองหลวง”
เนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนได้ฟังก็ยิ้มเอ่ยทักทายจู้เป่าจู “ฮูหยินเหวิน วันหน้ามีเวลาก็มาหาพวกเราคุยเล่นได้”
ล้วนคนกันเอง ย่อมสนิทกว่าคบคนเมืองหลวง
ความตื่นตระหนกของจู้เป่าจูที่ต้องเข้าเมืองหลวงลดลงไม่น้อย มีคนมาจากเมืองหนิงโจวด้วยกันมากเพียงนี้ นางก็ไม่ต้องกลุ้มใจหาคนคุยเล่นไม่ได้แล้ว ไปงานเลี้ยงก็มีคนคุยด้วยแล้ว
เหวินเฮ่อเซิงเดินเข้ามาคุยกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น แต่ก็ยังคอยมองจู้เป่าจู พอเห็นจู้เป่าจูมีคนคุยด้วย เขาก็วางใจ
เนี่ยอวี้เหยาและเถียนฮวนคุยกับลู่เจียวและจู้เป่าจูได้ครู่หนึ่งก็เตรียมกลับ
สถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะกับการพูดคุยจริงๆ คนมากเกินไป ตอนนี้ตระกูลเซี่ยก็ยังไม่ได้จัดการที่พักเรียบร้อย พวกนางไม่อาจรีบไปเป็นแขกที่จวนตอนนี้ได้
หากไม่ใช่คิดอยากพบเจียวเจียวมาก พวกนางก็คงไม่มารบกวนในยามนี้ ผู้ใดให้พวกนางคิดถึงเจียวเจียวมากกัน
เนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนมองลู่เจียวกับจู้เป่าจูกล่าวว่า “เอาละ พวกเรากลับก่อน พวกเจ้ากลับจวนเถอะ รอให้พวกเจ้าสองตระกูลจัดการที่ทางเรียบร้อย พวกเราจะได้ส่งเทียบเชิญพวกเจ้ามาจวนเรา”
“ตกลง”
เนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนทักทายเสร็จ ก็หันไปทักทายสามแฝดและคู่แฝดชายหญิง พอได้เห็นก็ไม่อาจละสายตาไปได้ หน้าตาหล่อเหลาจริง
โดยเฉพาะเนี่ยอวี้เหยา เห็นต้าเป่า ซานเป่า ซื่อเป่า ก็อดคิดถึงบุตรสาวตนไม่ได้ หากบุตรสาวได้แต่งเข้าตระกูลเซี่ยก็คงดี
หลิงเสวี่ยบุตรสาวนางตอนนี้สิบสี่แล้ว กำลังได้วัยหาคู่ครองพอดี แต่ตระกูลชนชั้นสูงศักดิ์เมืองหลวงที่มีหลานชายคนโตสถานะสูงส่งกลับไม่แลตระกูลนาง
แม้ว่านางมีสถานะเซียงจวิน แต่ตระกูลหูสถานะต่ำต้อยเกินไป
บุตรชายรองของตระกูลพวกเขาต้องการเกี่ยวดองกับตระกูลพวกนาง แต่เนี่ยอวี้เหยาเกรงว่าบุตรสาวแต่งไปจะต้องคอยรองรับอารมณ์ ดังนั้นจึงไม่ตอบตกลง
นางเข้าเมืองหลวงมาหลายปี นับว่ามองกระจ่างแล้ว ตระกูลชนชั้นสูงศักดิ์ในเมืองหลวงมีเงามืดซ่อนเร้น มีวิธีการลงมือชั่วร้ายหลากหลายมากมาย นางเป็นห่วงบุตรสาวตนเองรับมือคนเหล่านี้ไม่ได้ เอาชีวิตตนเองไปทิ้งในตระกูลใหญ่เสียเปล่า
ดังนั้นระยะนี้ เรื่องที่นางกลัดกลุ้มที่สุดก็คือเรื่องแต่งงานของบุตรสาว
ตอนนี้เห็นเด็กหนุ่มตระกูลเซี่ย ในใจเนี่ยอวี้เหยาก็หวั่นไหว
นางมองเด็กหนุ่มเหล่านี้อย่างพิเคราะห์ จากนั้นก็หันไปมองลู่เจียว
ลู่เจียวเห็นนางมองมาก็ถามอย่างแปลกใจว่า “พี่อวี้เหยา เป็นอะไรไปหรือ”
“ไม่มีอันใด รอให้เจ้าว่างก่อน ข้าค่อยส่งเทียบเชิญเจ้ามาคุย”
ลู่เจียวคิดว่านางมีเรื่องอันใดต้องการพูดคุย ได้แต่พยักหน้า “ได้ วันนี้ฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว พวกเราต้องกลับไปจัดข้าวของก่อน”
“ได้”
สองฝ่ายกล่าวจบก็พากันแยกย้ายกลับ
เซี่ยเหวินสองตระกูลก็กล่าวอำลากลับจวนตนเองกัน
จวนตระกูลเซี่ยก็คือที่พักที่ก่อนหน้านี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นพักตอนเข้าเมืองหลวง แต่ตอนนี้จวนตระกูลเซี่ยได้พื้นที่กว้างใหญ่มาเพิ่ม ในจวนมีเรือนใหม่ไม่น้อย สองปีก่อนลู่เจียวให้พ่อบ้านเซียวนำภาพการออกแบบของนางมาเมืองหลวงสร้างเรือนด้านในใหม่ เพราะพวกนางมีลูกหลายคน ดังนั้นในจวนต้องออกแบบให้มีหลายเรือน เด็กๆ โตแล้วก็จำเป็นต้องมีเรือนส่วนตัวของตนเอง
ในยุคสมัยนี้บิดามารดาไม่แยกบ้าน ดังนั้นแต่ละจวนล้วนต้องออกแบบให้ใหญ่สักหน่อย ให้ลูกๆ แต่ละคนได้แยกกันอยู่หลังแต่งงาน
ดังนั้นตอนนี้จวนหลังนี้จึงมีเรือนใหญ่มากมาย