ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 660 น้องสาวเชื่อฟังมากกระมัง
ตอนที่ 660 น้องสาวเชื่อฟังมากกระมัง
ลู่เจียวรับคำทันที “ได้ ข้าจะส่งหร่วนจู๋ไปซีเฟิงย่วนอารักขาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่”
“อืม ได้ พวกเราพาโจวเส้ากง หร่วนไคกับถงอี้เข้าเมืองหลวงก็พอ”
ลู่เจียวไม่ได้คัดค้าน สองสามีภรรยาตกลงเรื่องนี้กันแล้วก็ล้างหน้าล้างตาเข้านอน
วันรุ่งขึ้น เซี่ยอวิ๋นจิ่นไปที่ทำการตามปกติ ลู่เจียวพาเฝิงจือหร่วนจู๋ไปซีเฟิงย่วน
ณ ซีเฟิงย่วน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวต้อนรับลู่เจียว หลังฮูหยินผู้เฒ่าหลิวได้รับการรักษาจากลู่เจียวมาได้เดือนกว่า ยามนี้อาการดีขึ้นพอสมควรแล้ว นางไม่ได้จำคนไม่ได้ หงุดหงิดง่าย หรือเลอะเลือนดังเช่นเมื่อก่อนตอนนี้นางเป็นผู้เฒ่าที่มีสีหน้าเมตตาอารี ประเด็นก็คือนางชอบเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาก ทุกวันคิดวิธีทำของอร่อยให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่กิน
ส่วนลู่เจียวก็เขียนรายการออกกำลังกายให้ฮูหยินผู้เฒ่าหนึ่งชุด เพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อมวัยชรา ยังกำหนดอาหารให้นาง สรุปตอนนี้ฮูหยินผู้เฒ่าอาการเป็นปกติมาก
ท่านอาจารย์หลิวดีใจอย่างที่สุด ยิ่งทุ่มเทกายใจสั่งสอนเจ้าหนูน้อยทั้งสี่
“เจียวเจียว เจ้ากินข้าวมาหรือยัง เช้านี้ข้าให้คนทำบัวลอยถั่วแดง เด็กๆ ชอบมาก เจ้าลองหน่อยไหม”
ลู่เจียวยิ้มเอ่ยขอบคุณ ฮูหยินผู้เฒ่ารีบให้คนไปตักมาให้ลู่เจียวชามหนึ่ง
ลู่เจียวก็ไม่ได้เกรงใจนาง กินอย่างเอร็ดอร่อย
ท่านอาจารย์หลิวรู้ว่านางมา ก็รีบหาเวลามาพบนาง
“วันนี้เจ้ามีเวลาว่างมาได้อย่างไร”
ท่านอาจารย์หลิวรู้ว่าลู่เจียวยุ่งมาก นางมีวิชาการแพทย์สูงส่ง ยังมีงานสามโรงผลิต จะไม่ยุ่งได้อย่างไร
ดังนั้นลู่เจียวมาย่อมต้องมีธุระ
ลู่เจียวเห็นท่านอาจารย์หลิวมาก็วางช้อนลง มองสองสามีภรรยากล่าวว่า “ข้ากับอวิ๋นจิ่นจะต้องเข้าเมืองหลวงสักครั้ง ดังนั้นจึงคิดจะฝากเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไว้ที่ซีเฟิงย่วน”
ท่านอาจารย์หลิวกับฮูหยินผู้เฒ่าหลิวได้ฟังก็ดีใจ พวกเขาชอบเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาก เพราะมีเจ้าหนูน้อยทั้งสี่อยู่ ซีเฟิงย่วนจึงได้ครึกครื้นมาก ไม่ได้เงียบเหงาเหมือนเมื่อก่อน
ท่านอาจารย์หลิวกับฮูหยินผู้เฒ่าหลิวมีบุตรชายสอง บุตรสาวหนึ่ง แต่บุตรชายบุตรสาวต่างอยู่เมืองหลวง พวกเขาข้างกายไร้ลูกหลาน เงียบเหงามาก นี่ก็เป็นสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ท่านอาจารย์หลิวคิดรับศิษย์คนหนึ่ง ตอนนี้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาอยู่ข้างกายพวกเขา อย่าได้เอ่ยว่าพวกเขาเบิกบานใจเพียงใด ดังนั้นพอได้ยินลู่เจียวก็รับปากทันที
“ได้ ให้พวกเขาอยู่ที่นี่ได้ เจ้าวางใจ พวกเราจะดูแลพวกเขาอย่างดี”
ท่านอาจารย์หลิวกล่าวจบ ก็ถามอย่างห่วงใยว่า “ครั้งนี้เข้าเมืองหลวงไปรักษาผู้ป่วยหรือ”
ท่านอาจารย์หลิวรู้ว่าลู่เจียวรักษาท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่หาย ยังรักษาแขนให้ขุนพลหวัง ตอนนี้ยังรักษาภรรยาตนเองหาย
ท่านอาจารย์หลิวรู้สึกว่าลู่เจียวเป็นหมอเทวดา ดังนั้นนางเข้าเมืองหลวง ย่อมต้องไปรักษาให้ชนชั้นสูงผู้ใดสักผู้หนึ่ง
ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อย แต่ไม่อาจเอ่ยถึงอ๋องเยียน นางได้แต่ถอนหายใจกล่าวว่า “เป็นชนชั้นสูงศักดิ์ในเมืองหลวงป่วย ให้ข้าเข้าเมืองหลวง อยากให้ท่านอาจารย์กับอาจารย์แม่เก็บเป็นความลับ”
ท่านอาจารย์หลิวกับฮูหยินผู้เฒ่าหลิวรีบพยักหน้า
แต่ไม่นานก็คิดได้ว่าก่อนหน้านี้ลู่เจียวเอ่ยว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะเข้าเมืองหลวงกับนาง ท่านอาจารย์หลิวจึงได้แปลกใจ
“เซี่ยถงจือก็จะเข้าเมืองหลวงกับเจ้าหรือ”
ท่านอาจารย์หลิวกล่าวจบคิดถึงว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่เคยบอกกับพวกเขาว่ามารดาตั้งครรภ์ เขารีบมองไปที่ท้องลู่เจียว
“เซี่ยถงจือไม่วางใจให้เจ้าเข้าเมืองหลวงเข้าเมืองหลวงคนเดียว”
ลู่เจียวพยักหน้า ยิ้มเขินอาย ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวกลับกล่าวอย่างยินดีว่า “อวิ๋นจิ่นนี่ใช้ได้”
ท่านอาจารย์หลิวได้ฟังคำพูดภรรยา พลันคิดถึงพฤติกรรมตนเองที่ผ่านมาก็รู้สึกปวดใจ ได้แต่เงียบกริบไม่กล่าวอันใด
ลู่เจียวไม่ได้สนใจเรื่องระหว่างสองสามีภรรยา นางมองท่านอาจารย์หลิว กล่าวว่า “ข้าไปบอกพวกต้าเป่าสักคำ”
“ไปเถอะ พวกเขากำลังทบทวนตำราอยู่ทางนั้น”
ซีเฟิงย่วนกว้างมาก ท่านอาจารย์หลิวจัดการเรียนตามธรรมเนียมให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ มีห้องเรียนเฉพาะ ลู่เจียวเองก็รู้ว่าอยู่ที่ใด นางพาหร่วนจู๋เดินไปที่ห้องเรียน ตลอดทางมา ลู่เจียวมองไปยังหร่วนจู๋กล่าวว่า “ข้ากับใต้เท้าจะไปจากเมืองหนิงโจวชั่วคราว ไม่วางใจเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ดังนั้นเจ้ามาอยู่ซีเฟิงย่วนดูแลคุณชายน้อยทั้งสี่”
หร่วนจู๋เลิกคิ้วตกใจระคนแปลกใจ สุดท้ายก็รับคำสั่ง “เจ้าค่ะ ฮูหยิน”
ลู่เจียวเดินถึงห้องเรียน ก็เห็นจ้าวเหิงกับหลี่หนานเทียน สองคนรับหน้าที่อารักขาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่อยู่ พวกเขาติดตามพวกเด็กๆ อยู่ที่ซีเฟิงย่วนมาตลอด
หลี่หนานเทียนก็แล้วไป เดิมจ้าวเหิงเป็นมือปราบ แต่กลับถูกเซี่ยอวิ๋นจิ่นส่งมาอารักขาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ลู่เจียวรู้สึกว่าใช้งานไม่ถูกกับความสามารถ นางตัดสินใจกลับไปบอกกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นสักหน่อย ให้ย้ายจ้าวเหิงกลับมาข้างกายเขา จัดคนใหม่ไปอารักขาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่
จ้าวเหิงกับหลี่หนานเทียนเห็นลู่เจียวมาก็รีบลุกขึ้น “ฮูหยิน”
ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวกับพวกเขาว่า “ข้ากับใต้เท้าพวกเจ้าจะไปจากเมืองหนิงโจวสักระยะ พวกเจ้าอยู่ซีเฟิงย่วน จะต้องอารักขาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้ดี”
จ้าวเหิงกับหลี่หนานเทียนได้ฟังdHรีบพยักหน้า “ฮูหยินวางใจ พวกเราจะอารักขาคุณชายน้อยทั้งสี่ให้ดี”
ลู่เจียวมองทั้งสองคน พลันเข้าใจว่าเหตุใดเซี่ยอวิ๋นจิ่นจึงให้จ้าวเหิงมาอารักขาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ จ้าวเหิงเคยเป็นมือปราบอำเภอชิงเหอ หลักแหลมกว่าผู้อื่นมาก เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลัวมีคนวางอุบายเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ดังนั้นจึงได้ส่งจ้าวเหิงมาอารักขา
แต่เช่นนี้เหมือนต้องลำบากจ้าวเหิงลดตัวแล้ว
ลู่เจียวกำลังคิดอยู่ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ในห้องก็พบว่านางมา เด็กทั้งสี่รีบร้องเรียกอย่างดีใจ “ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านแม่มา”
“ท่านแม่ ท่านมาเยี่ยมพวกเราหรือ”
ลู่เจียวหันหลังไปเห็นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กำลังชะเง้อมอง นางจึงเดินเข้าไปหาทันที
ในห้องเรียนไม่ได้มีแค่เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ยังมีสหายติดตามของพวกเขาก่อนหน้านี้ ลู่เจียวอึ้งไปทันที ท่านอาจารย์หลิวถึงกับยอมให้เด็กติดตามสี่คนมาเรียนกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ จะเรียนได้มากน้อยไม่ว่า ขอเพียงเข้าใจหลักการสักหน่อยก็ยังดี
ท่านอาจารย์หลิวย่อมเห็นว่ามีเจ้านายเช่นใดก็มีบ่าวเช่นนั้น อย่าได้มีเจ้านายฉลาด บ่าวโง่เขลา
ลู่เจียวเดินเข้าไปในห้องกวักมือเรียกลูกๆ เข้ามาบอกกล่าว
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ดีใจรุมล้อมเข้ามา “ท่านแม่มาได้อย่างไร คิดถึงพวกเราหรือ”
ซื่อเป่ายักคิ้วแสดงท่าทางว่าท่านแม่คิดถึงพวกเขา
ลู่เจียวนึกขำยกมือขึ้นดีดหน้าผากเขาทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่ตอนนี้นับวันยิ่งเฉลียวฉลาดซุกซน ไม่ได้มีท่าทางอ่อนแอไม่มั่นใจเช่นเมื่อก่อนแม้แต่น้อย
ซื่อเป่าแสร้งทำเป็นเจ็บส่งเสียงร้องโอดโอยได้ครู่หนึ่ง ก็วิ่งไปข้างกายลู่เจียว ยื่นมือไปลูบท้องนาง ถามว่า “ท่านแม่ น้องสาวว่านอนสอนง่ายหรือไม่ เอาเรื่องท่านแม่หรือไม่”
ต้าเป่า เอ้อร์เป่า ซานเป่าหันขวับไปจ้องมองท้องลู่เจียวพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าตั้งความหวังกับลูกในท้องนางอย่างมาก
ลู่เจียวรู้สึกปวดหัวบ้างแล้ว เหตุใดจึงแน่ใจว่าในท้องนางเป็นเด็กผู้หญิงกัน
“วันนี้แม่มาเพราะมีเรื่องคุยกับพวกเจ้า”
สี่พี่น้องได้ฟังก็รีบวางท่าทางตั้งใจ มองลู่เจียวจริงจัง “ท่านแม่ มีเรื่องอันใด”
“แม่กับท่านพ่อเจ้าจะเข้าเมืองหลวง”