ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 643 รอดื่มสุรามงคล
ตอนที่ 643 รอดื่มสุรามงคล
จ้าวหลิงเฟิงมองลู่เจียวกล่าวว่า “เถียนฮวนหาคู่ได้แล้ว นางกำลังจะหมั้นหมายแล้ว”
ลู่เจียวตกใจ “อา ไหนนางว่าหาคู่ไม่สำเร็จ”
กล่าวจบก็คิดถึงว่า ในเมื่อเถียนฮวนตกลงแต่งงาน แสดงให้เห็นว่านางถูกใจคนผู้นี้
ลู่เจียวก็ดีใจมาก จากนั้นก็หันมาคิดถึงเรื่องที่จ้าวหลิงเฟิงเพิ่งจะพูด
นางหันหน้าไปมองจ้าวหลิงเฟิง “เถียนฮวนแต่งงาน เกี่ยวอันใดกับเจ้า”
จ้าวหลิงเฟิงมองลู่เจียวด้วยอารมณ์อึมครึม กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ข้าไม่รู้เลยว่าตนเองชอบนาง คิดว่าตนเองรังเกียจนาง ดังนั้นทุกครั้งที่พบนางจึงได้พูดจาปากคอเราะราย แต่พอได้ยินว่านางจะแต่งกับผู้อื่น ในใจข้ารู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก ต่อมาข้าจึงได้คิดเข้าใจว่าข้าเองชอบนาง ดังนั้นจึงได้มีสัญชาตญาณพูดจาเราะราย เพื่อดึงดูดความสนใจของนาง เมื่อวานตอนค่ำข้าทนไม่ไหววิ่งไปบอกกับนาง ข้าแต่งกับนางได้ ปรากฏนางปฏิเสธข้าทันที บอกว่าข้าไม่ใช่คนที่นางต้องการ”
ดังนั้นเขาไม่ได้นอนทั้งคืน ครู่หนึ่งก็ทำใจไม่ได้ ครู่หนึ่งก็ปวดใจ พอคิดถึงว่าหญิงผู้นั้นจะแต่งกับผู้อื่น เขาก็หลับตาไม่ลง
จ้าวหลิงเฟิงรู้ว่านิสัยตนเองไม่ใช่คนทำอะไรด้วยอารมณ์ เขาถึงกับเคยคิดว่าชาตินี้ตนเองอาจจะไม่มีวันแต่งภรรยาอีก
แต่ตอนนี้เถียนฮวนกลับทำให้เขาเกิดความคิดอยากแต่งงาน แต่หญิงผู้นี้กลับปฏิเสธเขา บอกว่าเขาไม่ใช่คนที่นางอยากแต่งด้วย
จ้าวหลิงเฟิงรู้ว่าหากตนเองพลาดจากเถียนฮวนไป วันหน้าเกรงว่าคงยากจะพานพบคนที่ตนเองอยากแต่งอีก
ดังนั้นพอฟ้าสาง เขาก็รีบมาเมืองหนิงโจว คิดขอความคิดเห็นลู่เจียว
ลู่เจียวมองเขาเป็นนานอย่างรู้สึกเอือมระอา เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าไม่ใช่ว่าเคยแต่งภรรยามาแล้วหรือ เหตุใดแม้แต่คนที่ตนชอบก็ไม่รู้ตัว หากรู้ตัวเร็ว เจ้ายังอาจพูดจากับฮวนฮวนมากอีกหน่อย เอาอกเอาใจนาง ไม่แน่อาจเปลี่ยนภาพลักษณ์เจ้าในความคิดนางได้ ตอนนี้เจ้าล่วงเกินนางไปแล้ว เจ้ามาบอกว่าเจ้าชอบนาง นางจะยอมรับเจ้าได้อย่างไร”
พอลู่เจียวกล่าว ใบหน้าจ้าวหลิงเฟิงก็หมองคล้ำอย่างเห็นชัดได้ด้วยตาเปล่า เขามองลู่เจียว กล่าวว่า “แม้ว่าข้าเคยแต่งภรรยามาแล้ว แต่ไม่ใช่หญิงที่ข้าชอบ ข้ากับนางมาอยู่ร่วมกันได้เพราะเหตุบังเอิญ ตั้งแต่นางจากไป ข้าถึงกับตัดสินใจว่าชาตินี้จะไม่แต่งภรรยาอีก ข้าไม่ได้มีความรู้สึกสนใจผู้หญิงใดแล้วจริงๆ”
ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดแต่งลู่เจียว แต่ตอนนั้นน่าจะเป็นเพราะเลื่อมใส ไม่ใช่ความชอบแท้จริงเพียงอย่างเดียว
“แต่เถียนฮวนกลับทำให้ข้าคิดอยากแต่ง ชีวิตข้าน่าเบื่อมาก แต่นางเป็นคนสนุก ข้ารู้ว่าหากข้าได้แต่งกับนาง วันหน้าชีวิตข้าก็น่าจะสนุกสนานมาก ข้าน่าจะเบิกบานใจมาก”
จ้าวหลิงเฟิงกล่าวจบก็มองลู่เจียว กล่าวว่า “เจ้าช่วยข้าคิดหน่อยได้หรือไม่”
เขากล่าวจบก็กลัวลู่เจียวปฏิเสธ รีบกล่าวต่ออีกว่า “เจ้ากับนางสนิทกัน น่าจะรู้ว่านางชอบอันใด ไม่ชอบอันใด และคิดแต่งกับคนเช่นไร”
ลู่เจียวได้ฟังจ้าวหลิงเฟิง ความจริงไม่ค่อยอยากบอก แต่เห็นสีหน้าท่าทางน่าสงสารของจ้าวหลิงเฟิงจึงได้เอ่ยขึ้นว่า “ข้ารู้ว่าฮวนฮวนชอบคนเช่นใด เกรงว่าเจ้าทำไม่ได้ กล่าวตามตรง เจ้าไม่ตรงตามความต้องการของนางนัก”
“นางชอบผู้ชายที่จะมีนางเพียงผู้เดียว ไม่ชอบผู้ชายหลายภรรยามากอนุ นิสัยนางตรงไปตรงมา ไม่นิยมเล่นเล่ห์อุบาย หากในจวนมีหลายภรรยามากอนุ นางตามไม่ทัน หากเจ้าไม่ได้มีความคิดเช่นนี้ ก็อย่าได้แต่งกับนาง นั่นจะเป็นการทำร้ายนาง”
ลู่เจียวกล่าวจบ พลันสำทับอีกว่า “กล่าวอย่างไร เจ้าก็ไม่ใช่คนที่นางต้องการ เพราะในจวนเจ้ามีอนุ นางไม่คิดแต่งกับผู้ชายที่มีอนุ”
จ้าวหลิงเฟิงอึ้งไปทันที เขาคิดไม่ถึงว่าเถียนฮวนไม่ต้องการแต่งกับเขาเพราะเรื่องนี้
เขารีบกล่าวว่า “ข้ารับอนุก็เพราะอวี้หลัว มารดาอวี้หลัวคลอดนางแล้วก็จากไป ข้าไม่กล้าส่งนางให้ท่านแม่ใหญ่ข้าเลี้ยงดู ดังนั้นข้าจึงต้องรับอนุมาดูแลนาง อนุจวนข้าเป็นคนจิตใจดีมาก ดีกับอวี้หลัวมาตลอด ดังนั้นแม้ข้าแต่งภรรยา นางก็จะดีกับภรรยาข้าเหมือนที่ดีกับข้า”
จ้าวหลิงเฟิงไม่ได้ผูกพันทางใจอันใดกับอนุในจวน เดิมรับไว้ก็เพื่อดูแลบุตรสาวตนเอง แต่หญิงผู้นั้นดูแลใส่ใจบุตรสาวตนอย่างดีมาก บุตรสาวเขาเองก็ผูกพันกับนางไม่น้อย หากเขาขับไล่อนุไป บุตรสาวย่อมต้องไม่ยินยอม
ลู่เจียวได้ฟังจ้าวหลิงเฟิงก็อดเสียดสีไม่ได้ “พวกเจ้าผู้ชายนี่น่ากลัวจริง เอะอะก็บอกว่าหญิงจิตใจดีงาม นางดีกับบุตรสาวเจ้า ไม่ได้แปลว่านางจะดีกับภรรยาเจ้า นางดีกับบุตรสาวเจ้าก็เพราะต้องการแสดงต่อหน้าเจ้า ให้เจ้าดีกับนาง นี่เป็นการกระทำที่หวังผล เข้าใจหรือไม่”
“เหตุใดนางต้องดีกับภรรยาเจ้า คนเราเกิดเป็นหญิงล้วนมีใจละโมบและปรารถนา หรือว่านางไม่คิดครอบครองเจ้าไว้คนเดียว เอาละ เจ้าเองอย่าทำร้ายฮวนฮวนเลย ข้าไม่อยากให้ฮวนฮวนกลายเป็นเหมือนพี่อวี้เหยาข้า หากไม่ใช่ข้าพบได้ทันเวลา นางอุ่นเตียงนั่นก็ทำนางตายไปแล้ว”
ลู่เจียวกล่าวจบก็ไม่คิดออกหัวคิดให้จ้าวหลิงเฟิงอีก ผู้ชายนี่นะ หากเป็นเรื่องผู้หญิงล้วนมักคิดเองเออเอง
จ้าวหลิงเฟิงถูกลู่เจียวศอกกลับก็พูดไม่ออก เขาคิดแล้วก็เข้าใจได้ว่าลู่เจียวกล่าวได้ถูกต้อง
แต่คิดถึงว่าเถียนฮวนจะแต่งกับผู้อื่น เขาก็ยากจะทำใจได้ ดังนั้นจ้าวหลิงเฟิงตัดสินใจส่งอนุตนออกไปจากจวน
“ข้าตัดสินใจแล้ว กลับไปก็จะส่งอนุออกจากจวน จากนั้นก็ไปตระกูลเถียนหาเถียนฮวน บอกนางว่าข้าจะมีนางเพียงคนเดียว วันหน้าจะไม่รับอนุอีก”
จ้าวหลิงเฟิงตัดสินใจได้แล้วก็ลุกขึ้นยืนเตรียมจะกลับ
ลู่เจียวรีบเรียกเขาไว้ “ข้าผลิตยาแก้อักเสบได้แล้ว เจ้าส่งคนนำไปมอบให้อ๋องเยียน”
แม้ว่าอ๋องเยียนส่งองครักษ์มาอารักขาเซี่ยอวิ๋นจิ่น แต่ของสำคัญเช่นยาเพนิซิลลิน วีนี้ไม่อาจมอบให้พวกเขาไปได้ ลู่เจียวไม่มีทางมอบให้พวกเขา เพราะนางยังไม่เชื่อใจพวกเขา
จ้าวหลิงเฟิงได้ยินลู่เจียวก็คิดถึงเรื่องยาแก้อักเสบขึ้นมา ยามนี้ก็ตื่นเต้นยินดีขึ้นมาทันที “เจ้าผลิตยาแก้อักเสบออกมาได้แล้วหรือ”
“อืม เจ้าส่งคนนำเข้าเมืองหลวงมอบให้อ๋องเยียน ยานี้จะผ่านมืออ๋องเยียนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย หลังผ่านการทดลองแล้ว ย่อมต้องแพร่ไปทั่วแคว้นต้าโจว ผลประโยชน์ตกกับราษฎรและแผ่นดิน ยังสะดวกต่อการใช้งานของคนในกองทัพ”
จ้าวหลิงเฟิงรีบพยักหน้า “ได้ ข้าจะรีบส่งคนไปส่งให้ถึงมือท่านอ๋อง”
ลู่เจียวพยักหน้า ส่งยาให้จ้าวหลิงเฟิง จ้าวหลิงเฟิงรับยาแล้วก็จะออกไป พอเดินถึงประตูก็พลันคิดถึงอันใดขึ้นมาได้ หันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “รอไว้ข้าแต่งเถียนฮวน จะเชิญเจ้ากับใต้เท้าเซี่ยไปดื่มสุรามงคล”
ลู่เจียวมองเขาด้วยสีหน้าไร้วาจาจะกล่าว นี่มันอันใดกัน เหตุใดกลายเป็นเจ้าจะแต่งกับเถียนฮวนแล้ว นางยังไม่ได้ตกลงแต่งกับเจ้าสักคำ
แต่ลู่เจียวไม่ทันได้พูดอะไร จ้าวหลิงเฟิงก็ก้าวออกไปอย่างมุ่งมั่น ตรงออกจากจวนตระกูลเซี่ยกลับอำเภอชิงเหอ
ลู่เจียวส่งมอบยาไปแล้วก็อารมณ์ผ่อนคลายลงทันที ระยะหลายวันนี้อยู่แต่ในห้องวิจัย ผลิตเพนิซิลลิน วี จนไม่ได้ออกไปนอกบ้าน วันนี้อากาศไม่เลว ออกไปเดินเล่นนอกบ้านสักหน่อย จะได้แวะไปดูร้านขนส่งสินค้าเหนือใต้ด้วย
หันถงเปิดร้านขนส่งสินค้าเหนือใต้ที่เมืองหนิงโจวแล้ว ลู่เจียวยังไม่มีเวลาไปเยี่ยมชม วันนี้ถือโอกาสมีเวลาว่าง ไปเดินเล่นสักหน่อย
“พ่อบ้านเซียว ให้คนเตรียมรถม้า ข้าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย”
พ่อบ้านเซียวได้ฟังคำสั่ง ก็รีบไปตามหลินต้าให้เอารถออก ตอนนี้ตระกูลเซี่ยมีรถม้าสี่คัน เรียกใช้ได้ตลอด
ลู่เจียวพาเฝิงจือกับหร่วนจู๋ พร้อมกับหลิ่วอันไปด้วย
หลิ่วอันได้รับอิทธิพลจากเฝิงจือ ตอนนี้กิริยาท่าทางเป็นแบบเฝิงจือ แม้ว่าอายุยังน้อย แต่ก็มีกิริยาท่าทางที่ดูดี ลู่เจียวมองแล้วก็พอใจมาก คิดอยากอบรมหลิ่วอันให้ดี ดังนั้นจึงได้พาหลิ่วอันไปด้วย
ในเรือนด้านหลัง นอกจากพวกนาง ยังมีสาวใช้อีกสี่คนที่ก่อนหน้านี้ซื้อเข้าจวนมา แต่ถึงตอนนี้ทั้งสี่ยังเป็นสาวใช้ใช้แรงงานระดับสาม ยายเฒ่าชิวคิดว่าจะปรับปรุงนิสัยของพวกนางก่อน ดูว่าพวกนางใช้งานได้หรือไม่ หากใช้งานได้ ถึงตอนนั้นก็เลื่อนสองคนขึ้นมาทำงานระดับสอง
ลู่เจียวปล่อยให้นางจัดการไป
ทุกคนขึ้นรถม้าไปร้านขนส่งสินค้าเหนือใต้ รถม้าผ่านที่ว่าการเมืองหนิงโจว พบว่าถนนหน้าประตูที่ทำการมีคนมามุงกันแน่นขนัด รอชมเรื่องสนุกอยู่หน้าประตูที่ทำการ