ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 606 เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี
ตอนที่ 606 เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี
หลินต้าด้านหลังขับรถม้าตามมาติดๆ ปิดท้ายด้วยรถม้าที่เช่ามาสองคัน บนรถม้ามีเฝิงจือ ฮวาเสิ่น หลิ่วอัน ยายเฒ่าชิวและเด็กชายสี่คน
ก่อนหน้านี้ลู่เจียวคิดว่ารถม้าที่บ้านไม่พอใช้ ตัดสินใจว่าจะหาซื้ออีกสองคันที่เมืองหนิงโจว วันหน้าไปไหนมาไหนก็จะได้สะดวก วันหน้าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่เติบโตขึ้นก็จะได้ใช้รถม้าคนละคัน
ขบวนยิ่งใหญ่เดินทางเข้าเมือง เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เลิกม่านออกมองไปด้านนอก ยามนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ท้องฟ้ามืดมิดปกคลุมไปทั่ว แต่เสียงตะโกนร้องเรียกลูกค้ายังคงครึกครื้นไปทั่วทั้งเมือง ผู้คนสองข้างทางรายล้อมเลือกชมสินค้าและต่อรองราคากับพ่อค้าริมทางอยู่ตลอดเวลา
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เคยไปเมืองหลวงมาแล้ว จึงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับความครึกครื้นของเมืองหนิงโจวมากนัก แต่ก็ยังคงเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา
“ที่เมืองนี้มีคนมากกว่าบ้านเรา แตกต่างจากเมืองหลวงไม่มาก”
“คนมากก็วุ่นวายมาก คงไม่มีคนมาหาเรื่องท่านพ่อกับท่านแม่อีกนะ”
เอ้อร์เป่าคิดถึงว่าพอพวกเขาเข้าเมืองหลวง ก็มักมีคนมาหาเรื่องท่านแม่ ดังนั้นจึงเป็นห่วงอย่างมาก
ซานเป่าพลันหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวทันที ถามขึ้นว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ คงไม่มีคนเลวมาหาเรื่องพวกเราอีกกระมัง”
ลู่เจียวยิ้มบางพลางส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่ว่าเวลาใดล้วนมีคนเลว แต่ตอนนี้ท่านพ่อเจ้าเป็นขุนนางแล้ว คนธรรมดาไม่กล้ามาหาเรื่องเขาแล้ว แม้เป็นจือฝู่เมืองหนิงโจวก็ไม่กล้าหาเรื่องเขาต่อหน้าผู้คน ดังนั้นพวกเจ้าอย่าได้เป็นห่วง”
ซานเป่าพลันยิ้ม “ใช่แล้ว ท่านพ่อข้าตอนนี้เป็นขุนนางแล้ว ดังนั้นไม่กลัวผู้ใดแล้ว”
ซื่อเป่ายิ้มตาหยีกล่าวว่า “หากมีคนมาหาเรื่องพวกเรา ท่านพ่อก็จะจัดการเขา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ยิ้มละไมเอ่ยว่า “ได้ หากมีคนมาหาเรื่องพวกเรา พ่อจะต้องลงมือจัดการเขา”
เมื่อก่อนเขาเป็นแค่บัณฑิต ดังนั้นไร้หนทางลงมือรับมือคนพวกนั้น ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว แม้เขาเป็นแค่ถงจือระดับหก แต่หากมีคนกล้ามาหาเรื่องเขา เขาก็จะไม่เกรงใจ
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รีบยิ้มให้ลู่เจียว ทั้งครอบครัวแย้มยิ้มเบิกบานใจ มองทิวทัศน์ด้านนอก หากไม่เหนือความคาดหมาย มาเมืองหนิงโจวครั้งนี้ พวกเขาน่าจะอยู่ที่นี่ไปอีกหลายปี
บ้านที่ซื้อในเมืองหนิงโจวขนาดใกล้กับที่อำเภอชิงเหอ มีสองลาน สวนดอกไม้ บ่อปลา ด้านหลังยังมีลานกว้างว่างเปล่า ตอนนั้นพอพ่อบ้านเซียวเห็นก็ถูกใจทันที คิดว่าตอนใต้เท้ากับฮูหยินเข้าอยู่ ก็จะจัดการด้านหลังให้เป็นที่ฝึกยุทธของคุณชายน้อยทั้งสี่
ลู่เจียวเห็นก็พอใจมาก เอ่ยชมพ่อบ้านเซียวไม่ขาดปากว่าทำงานเป็น ที่แยบยลที่สุดก็คือบ้านสองลานสองชุดเรือน เรือนด้านหลังยังแบ่งออกเป็นตะวันออกและตะวันตก ตรงกลางมีประตูฉุยฮวาเหมินเล็กๆตะวันออกเป็นเรือนหลัก ตะวันตกเป็นเรือนรอง
รูปแบบของสองเรือนเหมือนกัน ล้วนมีสามห้อง ห้องกลางและห้องข้างที่เรียกว่าเซียงฝัง แต่เรือนตะวันออกสี่ห้อง เซียงฝังอยู่ทางตะวันออกฝั่งติดกำแพง เรือนตะวันตกสี่ห้อง เซียงฝังอยู่ทางตะวันตก
ลู่เจียวเห็นบ้านก็ตัดสินใจให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่อยู่เรือนตะวันตกเป็นส่วนตัว นางอยู่แยกกับพวกเขา แต่ก็ห่างกันไม่ไกล การเลี้ยงดูอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้จะทำให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยตนเองได้ โตอีกหน่อย ก็จะให้พวกเขาสี่คนย้ายไปเรือนด้านหน้า
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาโตแล้ว ไม่ควรเอาแต่อยู่ร่วมห้องกับท่านพ่อและท่านแม่ ตามหลักแล้วควรไปอยู่เรือนด้านหน้า ปรากฏท่านแม่ให้พวกเขาอยู่เรือนตะวันตกของเรือนด้านหลัง เช่นนี้แม้ห่างจากบิดา แต่ใกล้มารดา และยังถือว่าแยกอยู่กับพวกเขา
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ดีใจมาก กล่าวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นและลู่เจียวอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ วันหน้าเรือนหลังฝั่งตะวันตกก็คือเรือนของพวกเราแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวยิ้มพลางพยักหน้า “ใช่แล้ว นั่นเป็นเรือนพวกเจ้า วันหน้าพวกเจ้าต้อนรับเพื่อนๆ ก็จะได้ต้อนรับที่เรือนตนเอง อีกอย่างวันหน้าพวกเจ้าจะมีห้อง ก็คือห้องตะวันตกสามห้อง ห้องกลางหนึ่งห้องเป็นห้องรับแขกไว้ต้อนรับเพื่อนๆ ห้องทางซ้ายและขวาสองห้องเป็นห้องหนังสือ วันหน้าพวกเจ้าทั้งสองคนใช้ห้องหนังสือร่วมกัน”
ลู่เจียวกล่าวจบ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รีบพยักหน้าอย่างดีใจ จากนั้นก็หันหลังไปพาสหายประจำตัวพวกเขาสี่คนวิ่งออกไปยังเรือนตนเอง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังกับลู่เจียวยิ้มมองพวกเขาไป พอพวกเขาไปกันแล้ว ทั้งสองคนจึงได้จูงมือกันไปที่ห้องกลางของเรือนตะวันออก ลู่เจียวเดินไปกล่าวไปว่า “วันหน้าห้องนอนในเรือนตะวันออกก็เป็นห้องของพวกเรา ตรงกลางไว้ต้อนรับแขก ทางตะวันตกเป็นห้องหนังสือให้เจ้าทำงาน ส่วนทางตะวันออกมีสองห้องเป็นห้องเก็บของ สองห้องให้เฝิงจือกับหร่วนจู๋อยู่”
“ได้ เจ้าจัดการไปได้เลย”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มกล่าว ความจริงเขารู้ว่าบ้านพวกเขาหลายอย่างใส่ไว้ในห้วงอากาศของเจียวเจียว ของที่วางอยู่ด้านนอกล้วนเป็นของที่ใช้บ่อยทั่วไป
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพลันรู้สึกว่าห้วงอากาศนี้มีประโยชน์จริงๆ แม้ว่ามีคนมาค้นหาของในบ้านเขาก็หาของมีค่าอันใดไม่พบ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงว่าห้วงอากาศที่ตัวลู่เจียว ก็ค่อยๆ คิดถึงน้ำพุจิตวิญญาณ เขาพลันคิดถึงความเป็นไปได้หนึ่ง จึงเอ่ยถามลู่เจียวว่า “เจียวเจียว น้ำพุจิตวิญญาณเจ้าให้คนดื่มแล้วร่างกายแข็งแรง ยังซ่อมแซมเส้นประสาทชีพจรของร่างกายได้ เช่นนั้นเจ้านำมาปลูกข้าวเจ้าและข้าวสาลีได้หรือไม่ ข้าวเจ้ากับข้าวสาลีตอนนี้ผลผลิตต่ำมาก หลังราษฎรจ่ายภาษีแล้ว แม้แต่ท้องก็กินกันไม่อิ่ม หากฝนฟ้ามากเกินไปหน่อย ผลผลิตก็ยิ่งต่ำ หลังจากจ่ายภาษีแล้วก็แทบไม่เหลืออันใด”
ลู่เจียวเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่คิดเพื่อราษฎรก็ค่อยๆ แย้มยิ้มหัวเราะเบาๆ ในที่สุดว่าที่ใต้เท้าโส่วฝู่ก็ไม่ได้มีจิตใจอาฆาตแค้นแล้ว เช่นนี้ดีมาก
“เรื่องนี้ทำได้ หากใช้น้ำพุจิตวิญญาณเพาะเลี้ยงเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้ากับข้าวสาลี น่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี นำเมล็ดพันธุ์นี้ไปปลูก ผลผลิตที่ได้น่าจะมากขึ้น แต่เมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้ากับข้าวสาลีพวกนี้ นอกจากอาศัยเมล็ดพันธุ์แล้ว ยังต้องอาศัยดินอุดมสมบูรณ์ด้วย พื้นดินขาดสารอาหาร แม้เมล็ดพันธุ์ดีก็ลดผลผลิตข้าวเจ้าและข้าวสาลีลงไปมาก”
ลู่เจียวกล่าวถึงตรงนี้ พลันคิดถึงว่าในห้วงอากาศยังมีหนังสือทางการเกษตรไม่น้อย ตอนนั้นนางเห็นชั้นหนังสือในบ้านไม้ไผ่ว่างเปล่า จึงได้ซื้อหนังสือมาไม่น้อย แน่นอนว่าที่มากที่สุดก็คือตำราการแพทย์ แต่ก็มีหนังสืออื่นอยู่บ้าง
แต่นางสนใจเพียงแค่หนังสือการแพทย์ ไม่ได้สนใจหนังสืออื่น ดังนั้นปกติจึงไม่ได้อ่านหนังสือเหล่านั้น
ลู่เจียวครุ่นคิดหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “อวิ๋นจิ่น ห้วงอากาศข้าคล้ายมีหนังสือเกี่ยวกับการเกษตร เจ้าต้องการจะอ่านหรือไม่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นดีใจขึ้นมาทันที เขารู้ว่าที่ที่ลู่เจียวจากมานั้นไม่เหมือนที่เช่นพวกเขา หนังสือการเกษตรจากที่ของพวกนางต้องเป็นหนังสือที่ยอดเยี่ยมอย่างที่สุด หากเขาได้อ่าน ไม่แน่อาจหาวิธีทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาได้ก็เป็นได้ จากนั้นก็ค่อยหาเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้าและข้าวสาลีที่ดี ราษฎรแคว้นต้าโจวก็จะไม่กลัดกลุ้มเรื่องอาหารการกินกันอีกแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งคิดก็ยิ่งดีใจ มองลู่เจียวอย่างตื่นเต้น กล่าวว่า “เจียวเจียว ในห้วงอากาศเจ้ามีหนังสือไม่น้อยหรือ”
ลู่เจียวพยักหน้า “หนังสือหลากหลายประเภท เช่นการเกษตร การก่อสร้าง และยังมีหนังสือสืบคดีอะไรพวกนี้ สรุปมีหนังสือทุกแบบทุกประเภท”