ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 567 ร่างกายเขามีปัญหาหรือ
ตอนที่ 567 ร่างกายเขามีปัญหาหรือ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นหญิงผู้นี้แสดงเองต่อบทเอง ก็รู้สึกเพียงแค่รังเกียจอย่างน่าประหลาด จากนั้นเขาก็คิดถึงว่าหญิงผู้นี้เดิมเป็นคู่หมั้นอ๋องฉินเซียวถิง ตอนนี้เขารู้สึกว่าความจริงหญิงผู้นี้เหมาะสมกับอ๋องฉินเซียวถิง มาก หรือเขาควรส่งทั้งสองคนไปกองไว้รวมกันดี
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเพิ่งคิดจบในใจพลันเจ็บราวถูกทิ่มแทง หน้ามืดวิงเวียน แทบจะทรงตัวไม่อยู่
หลินหรูเยว่เห็นแล้วก็ดีใจมาก รีบเข้าไปคิดประคองเซี่ยอวิ๋นจิ่น แต่พอเห็นสีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นดำทะมึนก็หดมือกลับ เขาพยายามยืนให้มั่น
เขาเงยหน้ามองหลินหรูเยว่ตรงข้ามอย่างไม่อยากจะเชื่อ หญิงผู้นี้ทำอันใดกับข้า ทำไมเขาจึงได้เจ็บที่หัวใจและหน้ามืดวิงเวียน นี่มันเรื่องอันใดกัน
“เจ้าเพิ่งจะทำอันใดกับข้า”
หลินหรูเยว่มีสีหน้าไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “หมายความเช่นไร”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นสายตาเย็นเยียบบอกไม่ถูก กัดฟันกล่าวว่า “เจ้าเพิ่งจะทำอันใดกับข้า”
หลินหรูเยว่ตกใจกับแววตาเย็นเยียบเซี่ยอวิ๋นจิ่น ผงะถอยหลังไปหลายก้าว แต่กลับไม่ยอมรับคำพูดเซี่ยอวิ๋นจิ่น
นางส่ายหน้างุนงง กล่าวว่า “ข้า ข้าเปล่าทำอันใดเจ้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นจ้องมองนางเย็นเยียบ “ดีที่สุดเจ้าก็อย่าให้ข้าสืบพบอันใด หากข้าสืบได้ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
เขาเพิ่งกล่าวจบก็ได้ยินเสียงหร่วนไคดังมา “คุณชาย ข้าหาดอกไห่ถังสี่ฤดูพบแล้ว คุณชายรีบมาดูว่าใช่หรือไม่”
ตอนเซี่ยอวิ๋นจิ่นก้าวเดินไปข้างหน้าผ่านหลินหรูเยว่ไป เขาหันหน้าไปมองหลินหรูเยว่ด้วยแววตาดุดันก่อนจะเดินจากไป
หลินหรูเยว่ถูกเขาทำเอาตัวแข็งค้างไม่กล้าขยับ จนกระทั่งเซี่ยอวิ๋นจิ่นเดินจากไป นางจึงได้โล่งอก
ยามนี้นางอดครุ่นคิดเรื่องเซี่ยอวิ๋นจิ่นขึ้นมาไม่ได้ ดูออกว่าเขาไม่ชอบนาง และเหมือนจะรังเกียจนางเสียด้วยซ้ำ หากเป็นเช่นนี้ นางยังจะแต่งกับเขาหรือ
หลินหรูเยว่เพิ่งคิดจบ ก็รู้สึกทำใจยอมรับไม่ได้ หรือว่าสตรีเช่นนางไม่คู่ควรกับเขา แม้ว่าเขาหน้าตาไม่เลวและเป็นจ้วงหยวนแคว้นต้าโจว แต่ชาติกำเนิดไม่ดีอันใด หากเขาแต่งกับนาง มีบิดานางคอยช่วย เขาก็จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงได้รวดเร็ว เช่นนี้ไม่ดีหรือ
แม้ว่าลู่เจียวหญิงผู้นั้นหน้าตาไม่เลว แต่สถานะชาติกำเนิดไม่ดีอย่างมาก นางช่วยอันใดเขาได้
หลินหรูเยว่ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่ยอมแพ้ สาเหตุหลักที่สำคัญที่สุดก็คือนางตอนนี้อายุไม่น้อยแล้ว ไม่มีทางแต่งกับคนดีๆ ได้ อย่าว่าแต่ชนชั้นสูงศักดิ์ในเมืองหลวง แม้แต่จิ้นซื่อปีนี้ก็แต่งงานมีภรรยามีอนุกันไปหมดแล้ว คนที่ยังไม่แต่งงานเช่นหลิวจื่อเหยียน บุตรชายหลิวโส่วฝู่ ไม่เพียงแต่อายุน้อยกว่านาง แต่ยังมีมารดาเลี้ยงเช่นนั้น ดังนั้นดูท่านางก็คงมองได้แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นแล้ว
สรุปก็คือหลินหรูเยว่รู้สึกว่าตนเองต้องแต่งกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นให้ได้ เช่นนั้นนางก็ต้องหาทางกำจัดลู่เจียวทิ้ง
แม้ในใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นเจ็บปวด แต่ความเจ็บปวดนี้ก็คงผ่านพ้นไป จากนั้นเขาก็จะลืมหญิงผู้นั้นเอง
หลินหรูเยว่คิดไปก็เดินออกจากสวนดอกไม้ไป
เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังหาดอกไห่ถังสี่ฤดูพบอย่างรวดเร็ว แต่แม้ว่าหาดอกไห่ถังสี่ฤดูพบ สีหน้าเขาก็ไม่ได้มีรอยยิ้มยินดีแม้สักนิด
หร่วนไคกับถงอี้อดถามเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้ว่า “คุณชาย เป็นอะไรหรือ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นส่ายหน้า “ไม่เป็นอะไร”
เขาระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ร่างกายตนเองก็ดีๆ อยู่แท้ๆ ไม่ได้มีอันใดผิดปกติแม้สักนิด แต่ก่อนหน้านี้เขารู้สึกเจ็บที่หัวใจจริงๆ และยังหน้ามืดวิงเวียนแทบจะล้มลงกับพื้น แต่ตอนนี้สังเกตให้ดีก็พบว่าไม่มีอาการสักนิด
นี่เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่
เซี่ยอวิ๋นจิ่นหาดอกไห่ถังสี่ฤดูพบแล้วก็กลับเข้ามาในงานเลี้ยง กู้ฉางเฟิงกับหลิวจื่อเหยียนสองคนเก็บดอกไม้กลับมาก่อนหน้านี้แล้ว ยามนี้กำลังนำดอกไม้มอบให้คนอ๋องจิ้นที่เป็นประธานและอ๋องเยียนกับคนอื่นๆ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเข้ามาพร้อมนำดอกไม้มอบให้อ๋องจิ้นกับอ๋องเยียน
อ๋องจิ้นสั่งให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไปเด็ดดอกไห่ถังสี่ฤดู เดิมคิดสร้างความลำบากใจให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้ถึงกับหาดอกไห่ถังสี่ฤดูพบ
อ๋องจิ้นยิ้มเพียงแค่ใบหน้า มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “จ้วงหยวนเป็นผู้มีความสามารถดังคาด ไม่เพียงแต่ความสามารถสูง แม้แต่ดอกไม้ก็รู้จัก วันหน้าย่อมต้องเป็นเสาหลักแห่งแคว้นต้าโจวเรา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นตอบอย่างไม่รู้สึกต้อยต่ำว่า “ขอบพระทัยวาจามงคลของท่านอ๋อง”
อ๋องจิ้นส่งสายตาเย็นเยียบให้เขา ขมวดคิ้วโบกมือให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นนั่งลง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันหลังเดินไปนั่งที่ตนเอง อ๋องจิ้นมองตามหลังเขา แล้วก็มองไปยังหลิวโส่วฝู่ จากนั้นก็มองไปยังอ๋องเยียน แอบคาดเดาในใจว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นคนของหลิวโส่วฝู่ หรือว่าคนขององค์ชายห้ากัน
แต่เห็นว่างานเลี้ยงผ่านมาพอสมควรแล้ว พวกอ๋องจิ้นก็ขี้เกียจจะอยู่ต่อ ท่านอ๋องหลายคนและชนชั้นสูงศักดิ์ก็เริ่มพากันลุกขึ้น
ซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อพาจิ้นซื่อที่สอบได้มาส่งท่านอ๋องกับชนชั้นสูงศักดิ์กลับ พอคนเหล่านี้ไปแล้ว บรรยากาศในงานก็เริ่มครึกครื้นกันขึ้นมา
“มา มา พี่เซี่ย พวกเราดื่มสุรากันอีก”
“การเต้นรำนี่ไม่เลว เต้นอีกๆ”
“อาจารย์ พวกเราคารวะท่านหนึ่งจอก”
ในงานเลี้ยง ก่อนหน้านี้ทุกคนดื่มสุราไปเล็กน้อย ความกล้าก็มากกว่าปกติ กอปรกับไม่มีองค์ชายกับชนชั้นสูงศักดิ์คอยข่ม แต่ละคนก็ปล่อยตัวตามสบาย บางคนเริ่มคารวะสุรากันไปมา บางคนก็ชื่นชมการแสดงระบำกันไป บางคนก็ร้องไห้อย่างซาบซึ้ง บางคนก็ห่วงว่าตนเองจะถูกส่งไปประจำที่ใด ถงจิ้นซื่อก็เป็นห่วงตนเองจะถูกส่งไปประจำงานสอนที่สำนักศึกษาใด
ทุกคนในที่นี้ต่างคิดกันไปต่างๆ นานา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเงียบงันไปเล็กน้อย หลิวจื่อเหยียนสังเกตว่าตั้งแต่เขากลับจากสวนดอกไม้มาก็มีท่าทางเหม่อลอย จึงนึกเป็นห่วง ถือโอกาสตอนผู้อื่นไม่ทันสังเกต ยกสุราเข้าไปหาเซี่ยอวิ๋นจิ่น ถามอย่างห่วงใยว่า “พี่เขยเป็นอะไรหรือ เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันไปมองหลิวจื่อเหยียน เขาย่อมไม่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้หลิวจื่อเหยียนฟัง เพียงแต่ยิ้มกล่าวว่า “ไม่มีอันใด ก็แค่ดื่มมากไปหน่อย รับฤทธิ์สุราไม่ไหว จึงมานั่งพักที่นี่สักพัก”
หลิวจื่อเหยียนได้ฟังเขาก็รีบกล่าวว่า “เช่นนั้นพี่อย่าได้ดื่มอีกเลย จะได้ไม่กลับไปโดนพี่เจียวว่า”
พอหลิวจื่อเหยียนเอ่ย เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็คิดถึงวิชาการแพทย์ของลู่เจียว เขาตัดสินใจกลับไปให้เจียวเจียวตรวจให้เขาสักหน่อย ดูว่าร่างกายเขามีปัญหาตรงไหน หลินหรูเยว่วางยาเขาหรือไม่
วิชาการแพทย์เจียวเจียวร้ายกาจมาก หากหญิงผู้นั้นวางยาบางอย่างใส่เขา เจียวเจียวต้องตรวจออกอย่างแน่นอน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดเช่นนี้แล้วก็ไม่มัวแต่คิดเรื่องนี้อีก เขากับหลิวจื่อเหยียนยกสุราไปคารวะซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อ ขอบคุณในบุญคุณที่ทั้งสองให้ความเมตตา
งานเลี้ยงดำเนินมาจนถึงเที่ยงคืนก็จบลง มีคนไม่น้อยดื่มจนเมาแล้ว ซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อในฐานะคนจัดงานเลี้ยงฉยงหลินไม่ได้เมา สั่งการให้ส่งคนเมากลับไปโรงเตี๊ยม
แม้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นดูแล้วดื่มไปมาก แต่ความเป็นจริงบ้วนสุราส่วนใหญ่ทิ้งในแขนเสื้อ ทว่าก็ดื่มคารวะซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อไปไม่น้อย เขาไม่ได้แสร้งทำเป็นดื่ม แต่ดื่มจริง ดังนั้นยามนี้เขาเริ่มเมาเล็กน้อยแล้ว แต่สมองยังคงกระจ่าง ยังรู้จักประสานมืออำลาซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพาคนรับใช้มา ดังนั้นซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อไม่ได้ให้คนส่งเขากลับ เพียงสั่งการหร่วนไคกับถงอี้ให้ดูแลเซี่ยอวิ๋นจิ่นให้ดี
ตอนเซี่ยอวิ๋นจิ่นนั่งรถม้ากลับถึงตระกูลเซี่ย คนในบ้านก็หลับกันหมดแล้ว
เดิมเซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดไปพักผ่อนที่เรือนด้านหน้า แต่เพราะก่อนหน้านี้ตนเองเหมือนมีอาการผิดปกติ เขากลัวเกิดเหตุไม่คาดคิด ดังนั้นจึงไปหาลู่เจียวที่ห้อง
ยามนี้ลู่เจียวนอนแล้ว พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นเข้ามาก็ไม่ได้ทำให้นางตกใจตื่น นางยังคงหลับสนิท เซี่ยอวิ๋นจิ่นไปล้างหน้าอาบน้ำง่ายๆ แล้วก็กลับมาลงนอนเคียงข้างนาง นางจึงได้ลืมตาสะลึมสะลือขึ้นมอง
“เจ้ากลับมาแล้วหรือ”