ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 546 แก้แค้นเที่ยงคืน
ตอนที่ 546 แก้แค้นเที่ยงคืน
ในห้องรับรอง เซี่ยอวิ๋นจิ่นนิ่งสงบใจลงครู่หนึ่งแล้วก็กล่าวว่า “ใช่ ข้ากลับมาเมืองหลวงแล้ว”
อ๋องฉินได้ฟังเขาก็หลั่งน้ำตาอีกครั้ง “เจ้าหน้าตาเหมือนกับท่านแม่เจ้ามาก”
ในปีนั้นเขาไม่ทันได้เห็นบุตรชายคนนี้ เด็กชายก็ถูกบิดาเขาสั่งให้คนนำออกไปแล้ว
หากเขาเห็นย่อมตัดใจส่งเขาออกไปไม่ได้อย่างแน่นอน
“ลูกพ่อ พวกเราผิดต่อเจ้า”
หากเป็นเมื่อก่อน ไม่แน่ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นอาจโกรธแค้นคนจวนอ๋องฉิน แต่ตอนนี้เขาอารมณ์สงบลงมากแล้ว
เขามองไปยังอ๋องฉินกล่าวว่า “ไม่ได้มีเรื่องอันใดที่ทำผิดหรือไม่ผิด จวนอ๋องฉินตอนนั้นได้แต่ทำเช่นนี้ ข้าไม่ตำหนิพวกท่าน นี่เป็นชะตากรรมจวนอ๋องฉิน และก็ชะตากรรมของข้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ก็ไม่รอให้อ๋องฉินกล่าวอันใด เอ่ยต่อว่า “วันนี้ที่ข้ามา ก็เพราะมีเรื่องมาพบท่าน ท่านกลับไปควรควบคุมอบรมบุตรชายท่านให้ดี”
อ๋องฉินได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็อึ้งไปครู่หนึ่ง พอได้สติก็เอ่ยว่า “พี่ชายเจ้า เขาทำอันใด”
อ๋องฉินกล่าวจบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับเลิกคิ้วอย่างรู้สึกต่อต้าน เอ่ยเย็นเยียบว่า “เขาไม่ใช่พี่ชายข้า ข้าขอกล่าวด้วยความเคารพไว้ ณ ที่นี้ พวกท่านคือพวกท่าน ข้าคือข้า ข้าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับจวนอ๋องฉินแม้แต่น้อย เมื่อก่อนไม่มี วันหน้าก็ไม่มี”
อ๋องฉินได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น ในใจก็เสียใจขึ้นมาอีกครั้ง ขอบตาเขาแดงก่ำมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “ลูกพ่อ เจ้ายังโกรธแค้นพวกเรา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นแววตานิ่งสงบ กล่าวว่า “ข้าไม่โกรธแค้นพวกท่าน การโกรธแค้นพวกท่านเพราะข้าคิดหวังจากพวกท่าน แต่ไรมาข้าไม่เคยคิดหวังอันใดจากพวกท่าน ดังนั้นจึงไม่มีความโกรธแค้น พวกเราเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน”
อ๋องฉินมองเขาแล้วก็ร่ำไห้ขึ้นมาอีกครั้ง
“ลูกพ่อ ล้วนเป็นความผิดของพวกเรา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองอ๋องฉินแล้วปวดหัว สีหน้าอยากจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก อีกฝ่ายต่างจากที่เขาคิดภาพไว้ไม่น้อย เดิมเขาคิดว่าอ๋องฉินเห็นเขากลับมาต้องโมโหมาก ให้เขารีบไสหัวกลับอำเภอชิงเหอไป ปรากฏคนผู้นี้เห็นเขามาเมืองหลวง ไม่เพียงไม่ขับไล่เขากลับอำเภอชิงเหอ แต่ยังเอาแต่ร่ำไห้จนเป็นเช่นนี้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นค่อยๆ กล่าวว่า “เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไป ที่ข้ามาครั้งนี้ก็เพื่อให้ท่านอบรมควบคุมบุตรชายท่านให้ดี”
อ๋องฉินพอได้ฟังก็รู้ว่า บุตรชายต้องไปทำอันใดทำให้บุตรชายคนเล็กโมโห
“เขาทำเรื่องอันใด”
สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเย็นเยียบลงทันที กล่าวว่า “ไม่เพียงแต่แทะโลมภรรยาข้า ยังพาคนมาจับตัวนางกลับจวนอ๋องฉิน”
อ๋องฉินได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น สีหน้าพลันย่ำแย่ลงทันที กัดฟันกรอดด่าทอว่า “เจ้าเดรัจฉาน ถึงกับทำเรื่องเช่นนี้ได้ ดูว่าข้ากลับไปจะหักขาเขาทิ้งหรือไม่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นว่าจุดประสงค์ที่มาพบอ๋องฉินบรรลุแล้ว ก็คิดจะกลับ อ๋องฉินรีบส่งเสียงเรียกไว้อย่างตัดใจไม่ได้ “ลูกพ่อ เจ้าจะไปแล้วหรือ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันมามองเขาทีหนึ่ง เตือนสติว่า “ทางที่ดีท่านอย่าได้เรียกข้าว่าลูก ไม่เช่นนั้นอาจนำพาหายนะใหญ่มาถึงตัวได้ อย่าได้ถึงตอนนั้นก็ไร้หนทางเรียกกลับคืนมา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็ดึงประตูก้าวออกไป อ๋องฉินมองตามบุตรชายไปอย่างตัดใจไม่ลง คิดถึงว่าบุตรชายเล็กเพียงนั้นก็ถูกพวกเขาส่งออกไป ในใจเขาเจ็บปวดรวดร้าวจนร่ำไห้ออกมาอีกครั้ง
จนพ่อบ้านที่ยืนอยู่นอกประตูก้าวเข้ามา อ๋องฉินจึงได้หยุดร้องไห้ หันไปมองพ่อบ้านคนเก่าคนแก่ว่า “เขากลับมาแล้ว”
พ่อบ้านเฒ่าปลอบใจว่า “ขอรับ คุณชายน้อยหน้าตาโดดเด่นมาก ท่านอ๋องสบายใจได้แล้ว”
“แต่เขาไม่ยอมรับพวกเรา”
พ่อบ้านเฒ่ายิ้มปลอบใจ “ขอเพียงเขามีชีวิตที่ดี มีชีวิตที่เบิกบานใจก็พอ ไยต้องถือสาว่ายอมรับหรือไม่”
อ๋องฉินพอได้ฟังก็เห็นคล้อยตามเหตุผลนี้ พยักหน้ายิ้ม “ใช่ เจ้าพูดได้มีเหตุผล”
ขอเพียงเขามีชีวิตที่ดี เขาได้พบลูกชายอีกในชาตินี้ก็เพียงพอแล้ว ความจริงหลายปีมานี้สุขภาพเขาก็เริ่มไม่ได้การแล้ว แต่เขายังพยายามฝืนทนไว้ เหมือนกำลังรอเด็กคนนี้กลับมา ตอนนี้ได้พบกันแล้ว เขาดีใจเหลือเกิน รอให้เขาตาย เขาก็มีหน้าไปพบภรรยาที่จากไปแล้ว
“พวกเรากลับกันเถอะ”
อ๋องฉินคิดถึงวาจาสุดท้ายของเซี่ยอวิ๋นจิ่น แววตาอ่อนโยนก่อนหน้านี้ก็พลันจางหายไป กลายเป็นแววตาโมโหเดือดดาล “กลับไปจัดการเจ้าเดรัจฉานนั่น”
ในจวนมีอนุไม่น้อยแล้ว ยังจะคิดจไม่ดีกับสตรีดีงามภายนอกอีก ประเด็นคือถึงกับคิดจับตัวน้องสะใภ้ตนเอง นี่มันตัวบัดซบสมควรตายโดยแท้
อ๋องฉินกลับมาไม่พูดไม่จาก็ให้คนไปจับตัวเซียวถิงมาโบยยกใหญ่
ณ ตระกูลเซี่ย
ลู่เจียวไม่รู้เรื่องพวกนี้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ไม่ได้บอกนางเรื่องพวกนี้
แต่ลู่เจียวกลับไม่ออกจากบ้าน ทุกวันอยู่แต่ในบ้านกับลูกๆ บางครั้งมีคนมาให้นางรักษา นางก็รักษาให้
วันเวลาของทั้งครอบครัวผ่านไปอย่างสงบสุขเช่นนี้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวต่างโล่งอก ทั้งสองคนล้วนคิดว่าเรื่องซื่อจื่อจวนอ๋องฉินคงผ่านพ้นไปแล้ว
ไม่คิดว่าคืนนั้นจะเกิดเรื่อง
เที่ยงคืนยามสาม ทั้งครอบครัวกำลังหลับสนิท พลันได้ยินเสียงหลี่หนานเทียนที่เฝ้ายามตะโกนดังขึ้น “ไม่ได้การแล้ว มีคนยิงธนูวางเพลิง”
เพราะตระกูลเซี่ยพื้นที่เล็ก ดังนั้นพอตะโกนดัง ทั้งครอบครัวก็ตื่นตกใจกันหมด ทุกคนต่างลุกขึ้น ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นย่อมตื่นตกใจเช่นกัน ทั้งสองคนสบตากันแล้วก็เอ่ยว่า “คงไม่ใช่ซื่อจื่อจวนอ๋องฉินมาแก้แค้นพวกเรากระมัง”
สองคนเพิ่งกล่าวจบ นอกห้องพลันมีแสงเพลิงสว่างวาบขึ้น หร่วนจู๋ด้านนอกทุบประตูดัง “คุณชาย เหนียงจื่อ ตื่นเร็ว โจรชั่วยิงธนูเพลิง ลูกธนูยังอาบน้ำมันถงไว้ ในบ้านไฟไหม้แล้ว”
ลู่เจียวกับสีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้าแปรเปลี่ยน ทั้งสองคนรีบลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย สั่งการออกไปยังหร่วนจู๋ว่า “รีบไปพาคุณชายน้อยออกมา”
“เจ้าค่ะ เหนียงจื่อ”
เดิมหร่วนจู๋ยังกลัวบรรดาเจ้านายจะนอนหลับสนิท แต่ตอนเคาะประตูได้ยินคุณชายกับเหนียงจื่อไม่เป็นไร ก็รีบไปพาคุณชายน้อยออกมา
พอลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยก็ออกนอกประตูมา เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ถูกหร่วนจู๋พาออกมาแล้ว
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เห็นท่านพ่อกับท่านแม่ไม่เป็นอันใดก็พากันโล่งอก ตอนนี้พวกเขาเผชิญเรื่องราวมากมาย ก็ย่อมสงบจิตใจนิ่งได้มาก ไม่ได้ตกใจหรือหวาดกลัวจนร้องไห้เหมือนเมื่อก่อน
ต้าเป่ารีบถามว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ มีคนเลวมาทำร้ายพวกเราหรือ”
เจ้าหนูที่เหลืออีกสามคนก็หันไปมองลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นพร้อมกัน
สองคนพยักหน้าเล็กน้อย ปลอบใจกล่าวว่า “พวกเจ้าอย่าได้กลัวไป ไม่เป็นอันใดหรอก”
สองคนกล่าวจบ หันหน้าไปสั่งการ “พวกเราถอยออกไปกันก่อน อีกอย่าง ไปจับตัวคนยิงธนูวางเพลิงมาให้ได้”
บ้านตระกูลเซี่ยไม่ใหญ่มาก น้ำมันถงติดไฟง่าย ตอนนี้ทั้งบ้านไหม้ไปหมด พวกเขาไม่ถอยออกมาก็มีแต่รอความตาย ตอนนี้คิดดับไฟ คนก็ไม่พอ ดังนั้นได้แต่ถอยออกมาก่อน จากนั้นก็ค่อยหาทางดับไฟ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นสั่งให้ทุกคนถอยมารวมตัวกันอยู่ด้านนอก ผู้ใดจะรู้ว่านอกประตูตระกูลเซี่ย จะมีคนมาล้อมไว้ พอเห็นพวกเขาออกมา คนที่มาล้อมไว้ก็ลงมือกับพวกเขา
ดีที่บ้านพวกเขามีคนเป็นวิชายุทธ์กันมาก ดังนั้นอีกฝ่ายจึงขวางทางพวกเขาไว้ไม่ได้ แม้เป็นเช่นนี้ พอพวกเขาทั้งครอบครัวฝ่าออกมาได้ บ้านด้านหลังก็เป็นทะเลเพลิงไปหมดแล้ว