ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 533 มีคนหาเรื่อง
ตอนที่ 533 มีคนหาเรื่อง
หลิวโส่วฝู่ได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกก็ตกใจหันหน้าไปมองบิดามารดา เห็นสีหน้าจริงจังของพวกเขาก็แน่ใจในเรื่องนี้ เขาหันไปมองลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยแววตาลุ่มลึกยิ่งขึ้น
ท่านย่าหลิวกลัวบุตรชายจะเหมือนกับสะใภ้ คิดว่าลู่เจียวรู้สถานะเขาจึงได้รับเป็นหลานสาวบุญธรรม พวกเขารีบกล่าวกับบุตรชายว่า
“เริ่มแรกเจียวเจียวไม่รู้ว่าสถานะเจ้า ดังนั้นเจ้าอย่าได้คิดเหลวไหล อีกอย่างนางไม่คิดรับพวกเรา แต่พวกเรากับจื่อเหยียนดึงดันให้นางรับ”
หลิวจื่อเหยียนขมวดคิ้ว กล่าวน้ำเสียงเยียบเย็นว่า “นางเป็นหลานสาวบุญธรรมที่ท่านปู่ท่านย่ารับไว้ พี่สาวที่ข้าให้การยอมรับ ไม่ได้เกี่ยวอันใดกับท่าน อย่าเห็นผู้ใดก็จะคิดว่าคนเข้ามาเพราะสถานะท่าน”
หลิวโส่วฝู่รีบยิ้มให้หลิวจื่อเหยียน “ข้าพูดอะไรหรือ ข้าไม่ได้พูดอะไรสักคำ เจ้าอย่ามองบิดาตนเองไม่ได้เรื่องเช่นนั้นได้หรือไม่”
หลิวจื่อเหยียนแค่นยิ้มหันหลังไปบอกลู่เจียวเซี่ยอวิ๋นจิ่น ยังมีเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้ไปนั่ง
หลิวโส่วฝู่เรียกบิดามารดาตนให้นั่งลง พอทุกคนนั่งคุยกันในห้องโถง เหมือนเรื่องเบาะแว้งก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น
ตอนเที่ยง ตระกูลหลิวจัดงานเลี้ยงต้อนรับครอบครัวลู่เจียว
ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่เองก็ออกมารับรองพวกเขา ไม่รู้ว่าหลิวโส่วฝู่กล่าวอันใดกับนาง ตอนเที่ยงนางออกมาก็ไม่ได้ก่อเรื่องอีก แต่สีหน้ายังคงบึ้งตึง เหมือนหงุดหงิดรำคาญใจอย่างมาก
ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นทั้งครอบครัวแสร้งทำเป็นไม่เห็น พูดคุยสนทนาแต่กับท่านปู่หลิวกับท่านย่าหลิวและหลิวจื่อเหยียน
แต่หลิวโส่วฝู่ยังสั่งให้ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่คารวะสุรากับลู่เจียวและเซี่ยอวิ๋นจิ่นจอกหนึ่ง ถือเป็นการขอขมา
คนเขาช่วยบุตรชายเขาไว้ ปรากฏฮูหยินตนเองกลับไปหาเรื่องคนเขาถึงบ้าน ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ทำไม่ถูกต้อง
ตอนท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่คารวะสุรากับลู่เจียวและเซี่ยอวิ๋นจิ่น ลู่เจียวถือโอกาสหยดยาใส่สุราท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ ยานี้ไม่ใช่ยาพิษอันใด แต่เป็นยาฤทธิ์ร้อนรุ่มทำให้วันหน้าท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่กินของฤทธิ์ร้อนอันใดก็จะเกิดอาการขาดสติได้ เพราะเป็นฮูหยินโส่วฝู่ นางจึงมักจะแสดงอาการโมโหโทโสแล้วก็มีหลิวโส่วฝู่คอยจัดการให้นาง แต่จากนี้หากนางโมโหอีกก็จะก่อให้เกิดอาการขาดสติจนคุมตัวเองไม่อยู่
ในใจลู่เจียวครุ่นคิด แต่สีหน้ายังคงไม่แปรเปลี่ยน ดื่มสุรากับท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ไปจอกหนึ่ง แม้ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่เอ่ยเสียดสีนาง นางก็ไม่กล่าวอะไร
แต่เจ้าหนูน้อยทั้งสี่โมโหมาก คิดจะเอ่ยโต้แต่ถูกลู่เจียวรั้งไว้
ทั้งครอบครัวกินเสร็จก็ออกจากจวนตระกูลหลิวขึ้นรถม้า
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป โมโหกล่าวว่า “ท่านแม่ วันหน้าพวกเราอย่ามาตระกูลหลิวอีก หญิงผู้นั้นชั่วร้ายมาก พวกเราอย่าได้มาบ้านพวกเขาอีก”
“ตกลง”
ลู่เจียวรับปาก ครั้งนี้ให้เกียรติหลิวโส่วฝู่ ครั้งหน้าไม่ต้องมาอีก คิดถึงว่าหลิวโส่วฝู่เองก็คงไม่กล้าเชิญพวกเขามาอีก
รถม้าขับออกจากจวนตระกูลหลิว ลู่เจียวสั่งการโจวเส้ากงให้ส่งนางไปจวนอู่กั๋วกงก่อน นางต้องไปฝังเข็มให้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ ส่งนางแล้วค่อยส่งเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลูกๆ กลับ แล้วค่อยมารับนางก็พอ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบกล่าวว่า “พวกเรารออยู่บนรถม้า รอเจ้าอยู่ข้างนอกก็พอ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็ถามเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ “พวกเรารอท่านแม่อยู่ข้างนอก ดีหรือไม่”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รีบยิ้มตาหยีพยักหน้าเห็นด้วย ”ตกลง”
ลู่เจียวตามใจพวกเขา สั่งการโจวเส้ากงขับรถม้าตรงไปจวนอู่กั๋วกง
พอถึงจวนอู่กั๋วกง ลู่เจียวก็พาเฝิงจือกับหร่วนจู๋สองคนลงจากรถม้า ทั้งสามคนเดินเข้าไปในจวนอู่กั๋วกง
ด้านในประตูจวนอู่กั๋วกง ชิวเยว่หัวหน้าสาวใช้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กำลังรอลู่เจียวอยู่ พอเห็นนางมา ก็รีบเข้าไปต้อนรับลู่เจียวนอบน้อม
“ลู่เหนียงจื่อมาแล้ว เชิญตามข้ามา ท่านหญิงเรากำลังรอท่านอยู่”
“ได้”
ทุกคนตรงไปเรือนกลางของจวนอู่กั๋วกง ตลอดทางมา ลู่เจียวถามอาการท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่
ชิวเยว่กระตือรือร้นมาก กล่าวว่า “ตั้งแต่เมื่อวานถึงวันนี้ ท่านหญิงไม่ได้กินอาหารไม่ดี แล้วก็กินยาไป วันนี้ตื่นมาจิตใจเบิกบานดีขึ้นไม่น้อย ไม่ได้โมโหจะกัดคนอีก ลู่เหนียงจื่อเก่งกาจจริง”
ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “เพียงเพราะว่าไม่มีคนใส่ใจในรายละเอียดเท่านั้น”
กล่าวจบนางก็ไม่กล่าวอันใดต่อ และก็ไม่ได้ถามเรื่องภายในจวนอู่กั๋วกงอีก
ชิวเยว่มองแล้วก็ให้ความเคารพนิสัยลู่เจียวมาก คนส่วนใหญ่ล้วนอดไม่ได้ที่จะสืบความจากนางว่าเมื่อวานต่อจากนั้นเกิดอันใดขึ้น แต่ลู่เหนียงจื่อผู้นี้กลับรู้ตนเอง ไม่ถามต่อสักคำ
ชิวเยว่เผยรอยยิ้มจริงใจ ถามขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “รักษาเช่นนี้ต่อไป ท่านหญิงเราจะหายดีได้หรือไม่”
“อืม จะหายดีได้ แต่ก็จะกำเริบได้ง่าย ดังนั้นการรักษาที่ดีที่สุดก็คือต้องหาบุตรสาวนางให้พบ”
ลู่เจียวกล่าวจบ สีหน้าชิวเยว่ก็แลดูหนักใจ กล่าวว่า “พวกเราส่งคนออกตามหาเซียงจวิน[1]มาตลอด น่าเสียดายหาไม่พบ”
เมื่อวานองค์หญิงใหญ่สั่งให้คนสืบความทั้งจวนอู่กั๋วกง ปรากฏสืบความเรื่องราวบางอย่างในปีนั้นได้ ในปีนั้นเหลียงฉินเป็นคนบงการให้คนจับตัวเซียงจวินไปจริง และตามที่นางสารภาพ เซียงจวินตายไปแล้ว ถูกนางสั่งคนจับกดน้ำตาย
ตอนนี้ท่านหญิงยังไม่รู้เรื่องนี้ หากรู้เกรงว่า…
ชิวเยว่ไม่กล้าคิดต่อ แน่นอนว่านางไม่บอกความลับนี้ต่อลู่เจียว
ลู่เจียวเองก็ไม่ถามเรื่องจวนอู่กั๋วกง
เพียงแต่ทุกคนยังเดินไม่ถึงเรือนหลัก พลันมีคนออกมาขวางทาง คนที่มาชี้หน้าด่าทอลู่เจียวยกใหญ่ “นังชั้นต่ำ เจ้าเป็นคนทำให้น้าเหลียงถูกจับ หากนางถูกตีตายไป ดูซิว่าข้าจะจัดการเจ้าเยี่ยงไร”
เขากล่าวจบก็ปรี่เข้าใส่ลู่เจียว ยกมือคิดจะบีบคอลู่เจียว
หร่วนจู๋ข้างกายลู่เจียวรีบพุ่งเข้ามายกเท้าถีบใส่ชายตรงหน้า
ชายผู้นั้นถูกถีบกระเด็นลอยออกไปได้ห้าหกก้าว ก่อนจะร่วงลงกระแทกพื้นอย่างแรง จุกจนลุกไม่ขึ้นเป็นนาน
หร่วนจู๋ถีบไปครั้งนี้ทำให้สาวใช้จวนอู่กั๋วกงเห็นความร้ายกาจของนางกระจ่างแล้ว
คนเหล่านี้อยู่ในจวนอู่กั๋วกงย่อมมีโลกทัศน์อยู่บ้าง ดังนั้นหร่วนจู๋ลงมือ พวกนางก็รู้ว่าหญิงผู้นี้ฝีมือร้ายกาจอย่างยิ่ง
คิดไม่ถึงว่าข้างกายลู่เหนียงจื่อที่มาจากบ้านนาผู้นี้ถึงกับมียอดฝีมือร้ายกาจเช่นนี้
ขณะทุกคนกำลังคิดอยู่ คนสองสามคนด้านหน้าก็พุ่งเข้ามาประคองผู้ชายที่ถูกถีบกระเด็นออกไปขึ้นมา
“คุณชายรอง ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ท่านไม่เป็นไรกระมัง รีบลุกขึ้น”
ลู่เจียวขมวดคิ้วมองชายตรงหน้า จากนั้นก็หันไปมองชิวเยว่
ชิวเยว่สีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง ได้แต่กัดฟันกรอด หันไปมองลู่เจียวอธิบายกล่าวว่า “ท่านนี้ก็คือบุตรชายรองของท่านหญิงเรา คุณชายรองจวนอู่กั๋วกง”
ลู่เจียวมองชิวเยว่อย่างตกใจ จากนั้นก็หันไปมองคุณชายรองจวนอู่กั๋วกง
ชายรูปร่างกำยำสูงใหญ่ หน้าตาละม้ายคล้ายกับอู่กั๋วกงมาก
แต่สีหน้าคนผู้นี้เต็มไปด้วยความดุร้าย แววตามีแต่ความโกรธแค้น แทบจะตีนางให้ตาย
แรกเริ่มลู่เจียวยังไม่เข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น แต่พอคิดดูก็เข้าใจ บุตรชายนางผู้นี้เติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของเหลียงฉิน เขาจึงผูกพันกับเหลียงฉินดังมารดา ตอนนี้เหลียงฉินถูกจับ ดังนั้นเขาจึงโมโหโกรธแค้นนาง
[1] “เซียงจวิน” ที่เราเรียกกันในภาษาแมนจูว่า “เก๋อเกอ” ในที่นี้คำว่าเซียงจวินใช้เรียกขานบุตรสาวท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่