ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 499 มีแผนในใจ
ตอนที่ 499 มีแผนในใจ
ลู่เจียวหันไปมองซูต้าไห่ ซูต้าไห่ไม่กล้ามองลู่เจียว ก้มหน้ารับคำในลำคอ “ข้าเองก็เห็น”
ซูต้าไห่กล่าวจบ สวีโต้วก็ด่าทอขึ้นมาทันที “ซูต้าไห่ เจ้าช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่บุตรชายตนเองก็ให้ร้ายได้ลงคอ เจ้ามันไม่ใช่คน เจ้าต้องถูกกรรมตามสนอง เจ้าต้องไม่ได้ตายดี”
สวีโต้วด่าจบก็หันไปมองซูเหลียงเฉิน ซูเหลียงเฉินอายุสิบเจ็ด ยามนี้ตกใจจนเอาแต่นิ่งอึ้ง มองบิดาตนเองอย่างไร้ปฏิกิริยาอย่างสิ้นเชิง
สวีโต้วตะโกนใส่เขาว่า “เหลียงเฉิน รีบบอกพี่ลู่เจียวว่า เจ้าไม่ได้ฆ่าอาสะใภ้เจ้า เจ้าถูกใส่ร้าย พี่ลู่เจียวต้องหาทางช่วยเจ้าได้”
ซูเหลียงเฉินหันไปมองลู่เจียว ส่งเสียงอู้อี้กล่าวว่า “ข้าไม่ได้ฆ่านาง ข้าไม่ได้ฆ่านาง พวกเขาเป็นคนฆ่า”
ก่อนหน้านี้สวีโต้วถามซูเหลียงเฉิน ซูเหลียงเฉินเอาแต่เงียบ เพราะในใจเขา ซูต้าไห่ก็คือบิดาเขา หากเขายืนยันกล่าวหาว่าเป็นบิดา ย่อมไร้ความกตัญญู แต่ตอนนี้ซูต้าไห่บอกว่าเขาฆ่าเฉินเจาตี้ ทำให้ซูเหลียงเฉินทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
หลิวเซียงได้ฟังซูเหลียงเฉิน ก็โมโหตะโกนดังว่า “ไม่ใช่พวกเรา เป็นเขา เป็นเขาฆ่า ไม่เชื่อ เจ้าถามท่านแม่กับน้องรอง พวกเขาก็เห็น?”
พวกนายอำเภอหูมองไปยังยายเฒ่าซูกับน้องชายซูต้าไห่ ยายเฒ่าซูคิดจะพูดแต่น้องชายซูต้าไห่คว้าตัวนางไว้ ไม่ให้นางพูด
ลู่เจียวขี้เกียจจะดูครอบครัวพวกเขาแสดงละคร นางหันไปมองเฉินเจาตี้บนพื้น จากนั้นก็กวักมือให้นายอำเภอหูกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพมาดู
เจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพผู้นี้ก็คือคนก่อนนี้ที่ที่ว่าการอำเภอตามตัวมาพิสูจน์ศพ ที่แท้เป็นคนฆ่าหมู อายุมากแล้ว ฆ่าหมูไม่ไหว จึงเปลี่ยนมาทำอาชีพเจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพที่ที่ว่าการอำเภอ น่าเสียดายความสามารถไม่มี แม้แต่ปริมาณเลือดออกเท่าไรก็ตรวจไม่ออก
ลู่เจียวชี้ไปที่บาดแผลตรงท้ายทอยเฉินเจาตี้ บอกนายอำเภอหูกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพว่า “เห็นบาดแผลนางไหม บาดแผลใหญ่เพียงนี้ แต่เลือดไปไหนหมด หรือว่าเลือดแค่นี้ทำให้คนถึงตายได้”
พอลู่เจียวกล่าว นายอำเภอหูกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพก็ได้สติทันที พยักหน้าตาม “ไม่ผิด เลือดหายไปแล้ว พวกเขาเช็ดคราบเลือดทิ้ง”
นายอำเภอหูกล่าวจบหันไปมองซูต้าไห่กับหลิวเซียง ถามว่า “พวกเจ้าทำความสะอาดพื้นใช่หรือไม่ ดังนั้นคราบเลือดจึงได้น้อยเช่นนี้”
“รีบสารภาพมาให้กระจ่าง หากยังไม่สารภาพ ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปเด็ดขาด”
หลิวเซียงรีบร้องตะโกนว่าโดนใส่ความ “ใต้เท้านายอำเภอ พวกเราไม่ได้เช็ดคราบเลือด ซูเหลียงเฉินคิดทำลายศพ จึงได้เช็ดคราบเลือดทิ้ง เดิมเขาวางแผนลากเฉินเจาตี้ออกไปฝัง แต่มาถูกพวกเราพบเข้า เลือดนั่นไม่ใช่พวกเราเป็นคนเช็ด”
นายอำเภอหูได้ฟังหลิวเซียงก็หันไปมองลู่เจียวอย่างสงสัย
ลู่เจียวปวดหัว สมองนายอำเภอหูนี่จริงๆ เลย นางแสนไร้วาจาจะกล่าว
ลู่เจียวไม่มองหลิวเซียง หันเดินไปเรือนบุปผาตรงข้าม ตอนนางเดินไปเรือนบุปผาตรงข้าม หลิวเซียงก็มีสีหน้าแปรเปลี่ยนทันที ไม่ได้การแล้ว นางส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญว่าถูกใส่ความขึ้นมาทันที “สวรรค์ ยังจะมีที่ให้คนรอดชีวิตหรือไม่ เห็นอยู่ว่าเจ้าเดรัจฉาผู้นี้ฆ่าคน ตอนนี้ถึงกับมาใส่ความพวกเรา”
ลู่เจียวได้ฟังเสียงร้องไห้ของนางก็แค่นยิ้มเงยหน้ากล่าวว่า “เจ้ากินปูนร้อนท้องหรือ กลัวถูกข้าค้นพบร่องรอย ดังนั้นคิดฉวยโอกาสร้องไห้คร่ำครวญเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องให้ผ่านพ้นไปหรือ ข้าบอกเจ้านะ เจ้าคิดมากไปแล้ว หุบปากไว้ดีกว่า ถ้ากล้าส่งเสียงร้องส่งผลต่อการสืบคดีของพวกเรา ข้าก็จะให้คนลากออกไปตบปากยี่สิบที”
เสียงร้องไห้คร่ำครวญของหลิวเซียงเงียบกริบลงทันใด มีเพียงสีหน้านางที่ซีดเผือดอย่างมาก ร่างกายก็เริ่มสั่นเทาอย่างยากระงับ
ลู่เจียวไม่ได้สนใจนาง เดินตรงไปที่เรือนบุปผาตรงข้าม ย่อตัวลงตรวจดู จากนั้นก็นางก็ชี้ไปที่ข้างเก้าอี้ที่ถูกเช็ดทำความสะอาด กล่าวว่า “ที่นี่น่าจะเป็นที่คนตายกระแทกตายกระมัง”
แม้ว่านายอำเภอหูไม่ฉลาด แต่อย่างไรก็เป็นนายอำเภอมาหลายปี ลู่เจียวชี้ชัดเช่นนี้ เขาย่อมเข้าใจทันที
เขามองตำแหน่งที่ลู่เจียวยืนอยู่ ก่อนจะมองไปที่จุดนอนตาย จากนั้นก็สีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง
เขาแค่นยิ้มมองไปยังซูต้าไห่กับหลิวเซียงกล่าวว่า “พวกเจ้าว่าซูเหลียงเฉินไล่ตามออกมาจากในห้อง พลั้งมือผลักผู้ตาย เช่นนั้นเหตุใดนางจึงได้ตายอยู่ตรงจุดใกล้ประตู หากนางตายอยู่ตรงนี้ ซูเหลียงเฉินไล่ตามออกมาผลักนางตายที่หน้าประตู? อีกอย่าง เห็นชัดว่าคนตายตายตรงนี้ ทำไมถูกลากเปลี่ยนตำแหน่ง”
นายอำเภอหูกล่าวจบ หลิวเซียงก็ตัวสั่นเทาไม่หยุด สีหน้าขาวยิ่งกว่ากระดาษ พูดจาออกมาก็ไร้ลำดับสับสนไปหมด
“ไม่ใช่ข้า ข้าไม่ใช่ ข้าไม่ได้ฆ่านาง ข้าไม่ได้ฆ่าคน ไม่ได้ฆ่านาง”
ซูต้าไห่เงียบงันลงทันที ยายเฒ่าซูกลับตะโกนดังขึ้น “ไม่ใช่บุตรชายข้ากับหลิวเซียงฆ่า แต่เป็นเจ้าเดรัจฉานนี่ เขาเป็นคนฆ่า”
สวีโต้วตวาดใส่ทันที “เจ้าหุบปาก เห็นชัดว่าซูต้าไห่กับหลิวเซียงร่วมมือกันฆ่าเฉินเจาตี้แล้วโยนความผิดให้บุตรชายข้า พวกเขาสมควรตาย”
ยายเฒ่าซูยังคิดด่าทอ ลู่เจียวตวาดใส่อย่างไม่พอใจ “หุบปาก”
ยายเฒ่าซูถูกลู่เจียวตวาดใส่ก็หุบปากทันที
ลู่เจียวยกมือชี้ไปยังทุกคนในห้อง สุดท้ายมองจ้องน้องชายซูต้าไห่ “ตอนนี้ให้โอกาสพวกเจ้า รีบสารภาพว่าคนฆ่าเฉินเจาตี้คือผู้ใด หากไม่สารภาพ ยังปกป้องคนผิด หากสืบความได้ โทษปกป้องคนผิดก็เข้าคุกเช่นกัน ยังส่งไปใช้แรงงานชายแดน”
ลู่เจียวเพิ่งกล่าวจบ ผู้อื่นไม่ได้พูดอันใด มีแต่น้องชายซูต้าไห่แย่งเอ่ยขึ้นก่อนว่า “พวกเขา พวกเขาร่วมมือกันฆ่าภรรยาข้า”
น้องชายซูต้าไห่กล่าวจบ ก็พุ่งไปที่เฉินเจาตี้ ร้องไห้เสียงดัง “เจาตี้ เจ้าตายอนาถจริง เกรงว่าเจ้าตายไปแล้วก็ยังคิดไม่ถึงว่าจะตายด้วยน้ำมือพี่ใหญ่กับอนุของเขากระมัง”
แม้ว่าน้องชายซูต้าไห่ร้องไห้ แต่ในใจไม่ได้เสียใจแม้แต่น้อย เพราะระยะนี้เฉินเจาตี้ล่อลวงมีสัมพันธ์กับพี่ใหญ่เขา ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา พอเขาพูด นางก็แค่นเสียงเยาะใส่ว่า ‘มีความสามารถก็ไปบอกพี่ใหญ่เจ้าเอง หากเจ้ากล้าพูด รับรองว่าพี่ใหญ่เจ้าได้ไล่เจ้าออกจากบ้านตระกูลซูแน่’
น้องชายซูต้าไห่คิดถึงความเป็นไปได้นี้ ก็ได้แต่อดทนกันฟันยอมทนรับไป เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินเจาตี้สุดท้ายจะตายด้วยน้ำมือซูต้าไห่กับหลิวเซียง
นี่ช่างดีจริง ตอนนี้พี่ใหญ่กับหลิวเซียงถูกจับ ทุกอย่างในบ้านตระกูลซูก็จะตกเป็นของเขาคนเดียวแล้ว
น้องชายซูต้าไห่ร้องไห้ไปก็คิดวางแผนครอบครองสมบัติพี่ชายตนเองไป
ซูต้าไห่ได้ฟังน้องชายกล่าวเช่นนี้ ก็อึ้งไปทันที จากนั้นเขาก็หันไปมองมารดาตนเอง พบว่ามารดาตนก็ไม่พูดอันใดต่ออีก
ซูต้าไห่อดแค่นเยาะตนเองขึ้นมาไม่ได้ เดิมเขาก็เป็นทำการค้า สมองก็ฉับไวอยู่มาก น้องชายออกมาชี้ว่าเป็นเขาเพราะในใจคิดอันใด เขาจะไม่รู้หรือ
น่าขัน หลายปีมานี้เขากลับเลี้ยงดูคนไร้ความกตัญญูเช่นนี้เอาไว้ เขาตาบอดเสียจริง
ซูต้าไห่หันไปมองสวีโต้ว สวีโต้วมองเขาด้วยแววตาเย็นชาราวกับคนแปลกหน้า
ซูต้าไห่กวาดตามองไปรอบห้อง พบว่าในห้องไม่มีคนเห็นใจเขาสักคน ทุกคนล้วนมองเขาด้วยสายตาดูแคลน ราวกับเขาไม่ใช่คน