ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 440 พวกนางเป็นปรปักษ์กัน
ตอนที่ 440 พวกนางเป็นปรปักษ์กัน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำชับลู่เจียวสองสามคำก็ขึ้นรถม้าไปอ่านตำราที่สำนักศึกษา ลู่เจียวนั่งรถม้าไปโรงบ้านดูที่นา นางตัดสินใจว่าที่นาพันหมู่นี้จะปลูกสมุนไพรระยะยาว เช่นพวกหวงฉีกับตั่งเซินอะไรพวกนี้ แล้วก็ปลูกสมุนไพรระยะเก็บเกี่ยวสั้นเช่นพวกเจวี๋ยหมิงจื่อ ปู่กู่จือ ซูจื่อ เสี่ยงหุยเซียงอะไรพวกนี้
สมุนไพรประเภทรากอายุเก็บเกี่ยวค่อนข้างนาน สมุนไพรประเภทใบดอกผลอายุเก็บเกี่ยวสั้นมาก
ลู่เจียวไปดูโรงนามารอบหนึ่งแล้วก็สั่งการให้เซียวซานรับสองหน้าที่ หนึ่ง รีบหาคนมาช่วยนางดูแลโรงบ้าน สอง จัดหาคนเพาะปลูกสมุนไพร
พอเขาจัดการสองเรื่องนี้เสร็จ ก็ให้ไปรับหน้าที่พ่อบ้านที่บ้านตระกูลเซี่ย เซียวซานรีบรับคำสั่งทันที
ลู่เจียวกำชับเขาว่า “การเพาะปลูกสมุนไพร ให้ปลูกสมุนไพรใบดอกผลก่อน ปลูกสมุนไพรใบดอกผลเสร็จ ค่อยปลูกสมุนไพรประเภทราก ถึงตอนนั้นเจ้าก็มาถามข้า ข้าจะสอนเจ้า”
เซียวซานรับคำนอบน้อม “ขอรับ”
ลู่เจียวคุยกับเขาอีกสองสามคำ ก็พาคนไปดูสภาพการณ์ในสามโรงผลิต
ในโรงผลิต จ้าวหลิงเฟิงเห็นนางมา ก็รีบเข้าไปยิ้มต้อนรับอย่างกระตือรือร้น
“เจ้าออกมาได้เสียที รีบมาดูเร็ว กิจการโรงหีบน้ำมันกับโรงเวชสำอางดีมาก มีแต่โรงผลิตยาที่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการ เจ้ามีวางแผนอะไรแล้วหรือยัง”
จ้าวหลิงเฟิงถามถึงโรงผลิตยาอย่างห่วงใย ลู่เจียวมองเขากล่าวว่า “โรงผลิตยาทำยากสักหน่อย เดิมข้าคิดว่าแคว้นต้าโจวน่าจะมีสำนักยาหลวงอะไรพวกนี้ ยาที่พวกเราผลิตออกมาก็มอบให้เจ้าหน้าที่ในสำนักยาหลวงทดลองยา รอให้สำนักยาหลวงทดลองเสร็จ พวกเราก็ผลิตได้อย่างเป็นทางการ สำนักยาหลวงเป็นของทางการ ผ่านการรับรองจากสำนักยา ยาเหล่านี้ก็จะไม่มีคนมาหาเรื่องพวกเรา”
“ไม่เช่นนั้นเกิดยาที่พวกเราผลิตออกมาแล้วขายออกไป คนอื่นว่ากินยาเราแล้วล้มป่วย พวกเราก็คงต้องชดใช้ตายเลย”
พอลู่เจียวกล่าว จ้าวหลิงเฟิงได้ฟังก็เลิกคิ้วมองลู่เจียวอย่างตกใจ “สำนักยาหลวง? เจ้าได้ยินสถานที่เช่นนี้มาจากที่ใด”
ลู่เจียวหน้าตานิ่งเฉยเป็นปกติกล่าวมั่วซั่วไปว่า “เคยอ่านจากบันทึก เคยมีราชวงศ์จัดตั้งสถานที่เช่นสำนักยาหลวง”
จ้าวหลิงเฟิงไม่สนใจเรื่องสำนักยาหลวงอะไรพวกนี้อีก เขากำลังกลุ้มว่าหรือยานี่จะผลิตไม่ได้ เช่นนั้นจะหาเงินได้น้อยลงไปเท่าไรกัน
“หรือว่าพวกเราจะผลิตยาไม่ได้แล้ว”
ลู่เจียวพยักหน้า “ผลิตได้สิ ข้ามีแผนระยะต้นแล้ว ยาสั่งผลิต เจ้าว่าได้ไหม”
“ยาสั่งผลิต?”
จ้าวหลิงเฟิงแสดงท่าทางไม่เข้าใจคำนี้ ลู่เจียวอธิบายว่า “ก็คือพวกเราผลิตยาตามที่ผู้อื่นต้องการ คนมาสั่งยาพวกเราก็ย่อมเชื่อถือพวกเรา ย่อมไม่มาเอาเรื่องพวกเรา เช่น ในกองทัพก็สั่งผลิตยาห้ามเลือด ยาแก้หวัด ยาแก้อักเสบอะไรพวกนี้ ขอเพียงมีคนสั่ง พวกเราก็ผลิต แต่สัญญาต้องเขียนชัดเจนว่า สองฝ่ายร่วมมือ ล้วนเป็นความยินยอมพร้อมใจ”
พอลู่เจียวกล่าวจบ จ้าวหลิงเฟิงก็ยิ้มตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที “เยี่ยม กองทัพย่อมต้องการยา หากประสิทธิภาพของยาพวกเราดี พวกเขาย่อมแย่งกันสั่งผลิต แค่ในกองทัพ พวกเราก็หาเงินได้ไม่น้อยแล้ว ยังมีคนมีเงินในเมืองหลวงอีก พวกเราผลิตยาเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ยังผลิตยาที่ทำให้ผิวพรรณงาม”
จ้าวหลิงเฟิงกล่าวจบก็คิดตบไหล่ลู่เจียวด้วยสัญชาตญาณ ลู่เจียวผงะถอยหลังหลบ
จ้าวหลิงเฟิงหัวเราะดังลั่น แววตาเต็มไปด้วยความเลื่อมใสมองลู่เจียว “สมองเจ้าปราดเปรื่องจริง”
ลู่เจียวยิ้มตาหยีมองเขา “ไม่ใช่ข้าคิด ท่านพี่ข้าเป็นคนคิด”
จ้าวหลิงเฟิงชะงักกึก ท่าทางไม่ค่อยชอบใจ ไม่อยากจะชมเซี่ยอวิ๋นจิ่น แต่ก็ต้องยอมรับว่าสมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นปราดเปรื่องจริง คนผู้นี้ชาติกำเนิดต่ำต้อย หากชาติกำเนิดเขาสูงส่งจะต้องเป็นบุคคลทำประโยชน์ให้แคว้นต้าโจวได้อย่างดีเป็นแน่
น่าเสียดาย น่าเสียดาย
จ้าวหลิงเฟิงครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยชมสักคำว่า “เซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นคนเก่งที่หาได้ยากจริง วันหน้าต้องสร้างคุณูปการให้แคว้นต้าโจวเป็นแน่”
ลู่เจียวได้ฟังจ้าวหลิงเฟิงก็คิดถึงว่าเรื่องราวในนิยายว่า เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับหย่งหนิงโหวเหมือนไม่ค่อยถูกกัน แม้ไม่อาจกล่าวว่าทั้งสองคนเป็นปรปักษ์กัน แต่ก็ไม่อาจกล่าวว่าเป็นพวกเดียวกัน เอะอะก็ขัดคอกัน
ตอนนี้มองดูว่าคุยกันได้ ไม่รู้ว่าวันหน้าจะเหมือนกับในนิยายหรือไม่
ขณะลู่เจียวกำลังคิดอยู่ จ้าวหลิงเฟิงก็กล่าวว่า “เช่นนั้น เจ้ากลับไปก่อน อย่าลืมทำยาออกมาดูก่อน ถึงตอนนั้นข้าจะฝากคนเอาเข้าไปลองใช้ในกองทัพ หากใช้ได้ พวกเขาย่อมต้องสั่งพวกเราผลิตเป็นแน่”
“ตกลง”
ลู่เจียวรับคำ จ้าวหลิงเฟิงก็พานางไปเดินวนดูรอบสามโรงผลิต
คนงานในโรงหีบน้ำมันกับโรงเวชสำอางกำลังยุ่งกับงานกันทุกคน เพราะคนงานกับเครื่องจักรน้อยทำให้ผลิตน้ำมันได้ไม่มาก แต่สบู่ที่โรงเวชสำอางผลิตได้มาก
ตอนลู่เจียวไปตรวจดูในโรงผลิต บรรดาคนงานและคนคุมกำลังทำงานง่วนจนเหงื่อแตก แต่แม้ว่ากำลังยุ่ง แต่สีหน้าทุกคนก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นสบู่หอมกรุ่นสีสวยผลิตจากมือตนเอง ในใจก็รู้สึกพึงพอใจยากบรรยาย
พอเห็นลู่เจียว แต่ละคนก็ทักทายอย่างตื่นเต้น “เจ้านาย ท่านดู สบู่ที่พวกเราทำเป็นอย่างไรบ้าง ไม่มีปัญหากระมัง”
บรรดาคนงานต่างรู้ว่าสามโรงผลิตเป็นของลู่เจียวและนางยังเป็นรองประธานสมาคมการค้า
แม้ว่าลู่เจียวเป็นหญิง แต่คนในโรงผลิตพูดถึงนางก็เปี่ยมไปด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ สามโรงผลิตพวกเขามีเจ้าของสองคน คนหนึ่งเป็นประธานสมาคมการค้าชิงเหอ อีกคนเป็นรองประธานสมาคม ร้ายกาจมาก
ลู่เจียวก้มลงไปตรวจดูสบู่ เพราะควบคุมการผลิตเข้มงวดทำให้สบู่สีสวย กลิ่นหอมเข้มข้น หีบห่อก็ทำได้ประณีตงาม สินค้าเช่นนี้ส่งไปเมืองหลวง มิน่าจึงขายดี
“ไม่เลว พยายามกันต่อไป รอปีใหม่ก็จะแบ่งส่วนแบ่งพิเศษให้ทุกคน”
พอลู่เจียวกล่าว บรรดาคนงานในโรงผลิตก็ตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่ ส่งเสียงเฮดัง “ขอบคุณท่านเจ้าของโรงงาน ขอบคุณท่านเจ้าของโรงงาน”
ลู่เจียวคุยกับบรรดาคนงานได้ครู่ หนึ่งก็ออกจากโรงผลิต
จ้าวหลิงเฟิงกำชับเฉิงเสียงให้ควบคุมดูแลให้เข้มงวด สินค้าพวกนี้ต้องส่งไปยังชนชั้นสูงในเมืองหลวง อย่าได้เกิดเหตุผิดพลาด พวกเขาจะต้องให้ทุกคนเอ่ยยกย่องชื่นชมแบบปากต่อปากให้ได้
เฉิงเสียงรับคำทันที แสดงการรับรองว่าตนเองจะระวังให้มาก
ด้านหน้า ลู่เจียวกับลู่อันสองพี่น้องเดินไปคุยไปถึงนอกประตู
ลู่เจียวถามเรื่องในโรงผลิตกับลู่อัน “เป็นอย่างไรบ้าง หากทำไม่ไหว ข้าหางานใหม่ให้ได้ เช่นไปช่วยดูแลที่นาพันหมู่ งานนั้นสบายกว่าที่นี่อยู่บ้าง”
แต่ลู่อันพยักหน้ายืนยัน “น้องเจียววางใจได้ ก่อนหน้านี้พี่ทำงานใช้แรงงานมา ตอนนี้ได้ติดตามพ่อบ้านเฉิง วันหน้าจะต้องยิ่งดีกว่านี้”
ลู่เจียวได้ฟังก็พยักหน้าอย่างดีใจ “อืม ไม่เลว”
นางกล่าวจบหันหน้าไปมองลู่อัน “หากพี่ว่างก็เรียนรู้หนังสือให้มากอีกสักหน่อย”
พี่น้องบ้านตระกูลลู่พอรู้หนังสือ มารดาพวกนางสอนมา แต่รู้หนังสือไม่มาก ดังนั้นลู่เจียวจึงได้กำชับลู่อันให้เรียนรู้หนังสือมากอีกหน่อย รู้อักษรมีประโยชน์มาก