ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 429 ทำลายศัตรูหนึ่งพัน ตนเองเสียหายแปดร้อย
ตอนที่ 429 ทำลายศัตรูหนึ่งพัน ตนเองเสียหายแปดร้อย
เซี่ยอวิ๋นจิ่นทนฟังเขาระบายมาตลอดเย็นนี้ก็ฟังจนรำคาญไม่ไหวแล้ว แต่ต้องแสร้งทำเป็นหลงกล ล่อให้หลี่เหวินปินติดกับ เขายังต้องพยายามอดทนเก็บความรำคาญในใจเอาไว้ดื่มเป็นเพื่อนคนผู้นี้ต่อ
ยากจะทนไหวแล้วจริงๆ แต่เพื่อกำจัดหลี่เหวินปิน เขาต้องอดทน
แม้ว่าเจียวเจียววางยาหลี่เหวินปินแล้ว แต่เขาเห็นชัดว่าหากไม่ฆ่าเขา เขาก็จะไม่เลิกรา หากเขาไม่จับอีกฝ่ายเข้าคุก คนผู้นี้ย่อมไม่เลิกราเป็นแน่
เขาไม่มีเวลามาเล่นลอบสังหารกับอีกฝ่ายทุกวันหรอกนะ เขาอยู่เป็นเพื่อนภรรยาเขาไม่ดีกว่าหรือ เป็นเพื่อนบุตรชายไม่ดีกว่าหรือ มาเป็นเพื่อนคนชั่วเช่นนี้ทำไมกัน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งคิดก็ยิ่งอัดอั้น สุดท้ายก็ก้มหน้าลงทำทีหลับไป
อย่างไรคืนนี้พวกเขาทั้งสองคนก็ดื่มไปไม่น้อยแล้ว เขาแกล้งทำเมาก็แล้วกัน
พอหลี่เหวินปินเห็นเขาเช่นนี้ก็หยุดพล่ามต่อ จากนั้นก็ยื่นมือไปผลักเซี่ยอวิ๋นจิ่น
“อวิ๋นจิ่น เจ้าเป็นอะไรหรือ ตื่นๆ”
คนแกล้งหลับจะตื่นได้อย่างไร
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่เพียงแต่ไม่ขยับ แม้แต่เสียงหายใจก็ยังเป็นจังหวะ เหมือนว่าหลับไปแล้วจริงๆ
พอหลี่เหวินปินเห็นดังนี้ก็ดีใจมาก นี่คือโอกาสลงมือที่ดีที่สุดของเขาแล้ว
เขารีบควักยาสลบออกมาทันที นี่คือยาที่จางปี้เยียนให้คนส่งมาให้เขาก่อนหน้านี้
เขาตัดสินใจจะใช้ยาสลบกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นก่อน จากนั้นก็แทงเขาทีหนึ่ง แล้วค่อยกรอกยาสลบให้ตนเอง เช่นนี้ก็ทำเป็นว่าทั้งสองคนโดนยาสลบ สร้างสถานการณ์ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นถูกคนลอบสังหาร
ตอนนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นมีความแค้นกับสี่ตระกูลใหญ่ สี่ตระกูลใหญ่ส่งคนมาสังหารเขา ก็สมเหตุสมผล
หลี่เหวินปินครุ่นคิดแล้วก็รีบควักยาสลบออกมา จากนั้นก็โปรยยาสลบในอากาศ เขากินยาป้องกันไว้ก่อนแล้ว
พริบตาถัดมา เขาก็ผลักเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างแรง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นถูกเขาผลักก็เอียงตัวล้มลงกับพื้น แม้เป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ยังคงนิ่งไม่ขยับ
หลี่เหวินปินจึงได้วางใจ เขาค่อยๆ ลุกเดินไปข้างกายเซี่ยอวิ๋นจิ่น ยกเท้าเตะไปทีหนึ่ง
“เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ๊ยเซี่ยอวิ๋นจิ่น แม้หลับฝันเจ้าก็คงคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะมาตายด้วยน้ำมือข้า”
“แต่นี่เป็นชะตาชีวิตของเจ้าเอง ผู้ใดให้เจ้าเป็นที่หมายปองของจางปี้เยียน หญิงผู้นั้นเอาแต่ชมเจ้าต่อหน้าข้าตลอดเวลา เจ้าหน้าตาดี มีความสามารถ บอกว่าข้าสู้เจ้าไม่ได้ นางไม่ได้คิดแต่งกับข้าเลย”
“เจ้ารู้ไหม ข้าได้ยินคำพูดพวกนี้แล้วปวดใจเพียงใด ท่านพ่อข้าตาย ท่านแม่เป็นหม้าย ท่านแม่ข้าเลี้ยงดูข้ามาคนเดียว ข้าต้องเชิดหน้าชูตาเหนือผู้คน ปรากฏว่าตระกูลจางไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา เอาแต่รังเกียจข้า แม้แต่คนรับใช้ก็รังเกียจข้า”
หลี่เหวินปินกล่าวจนสุดท้ายใบหน้าก็บิดเบี้ยว ทั้งตัวเกร็งแน่นไปหมด
ในที่สุดเซี่ยอวิ๋นจิ่นบนพื้นก็ได้รู้แล้วว่าทำไมหลี่เหวินปินต้องฆ่าเขา เขารู้สึกว่าคนผู้นี้โรคจิตมาก ภรรยาเขาว่าเขา เกี่ยวอะไรกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วย
ทำไมเจ้าไม่ไปจัดการจางปี้เยียน แม้นางเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลจาง นางก็ยังเป็นภรรยาเจ้า หากเจ้าโวยวายออกไป คนที่เสียหน้าก็คือตระกูลจางและจางปี้เยียน เจ้านี่เยี่ยมมาก ไม่โทษตระกูลจางและจางปี้เยียน มาโทษเขา ยังทำร้ายเขาถึงสองครั้ง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นแทบจะทนไม่ไหวกระโดดขึ้นมาตบหน้าคนผู้นี้สักสามฉาด
แต่เพื่อจับอีกฝ่าย เขายังต้องทนต่อไป
หลี่เหวินปินเห็นว่าดึกมากแล้ว จึงไม่ด่าทอต่อแล้ว เขาควักมีดสั้นออกมาอย่างรวดเร็ว แทงใส่หน้าอกเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างแรง
ไม่คิดว่ามีดสั้นเพิ่งจะจ่อถึงหน้าอกเซี่ยอวิ๋นจิ่น เซี่ยอวิ๋นจิ่นที่นอนอยู่ที่พื้นพลันหลบมีดสั้นในมือเขาได้อย่างว่องไว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือไปดึงหลี่เหวินปินได้ทันที พลางตะโกนดังว่า “ใครก็ได้ มานี่เร็ว มีคนคิดฆ่าข้า”
นอกประตู มีเงาร่างมากมายกรูกันเข้ามา คนที่นำมาก็คือมือปราบจ้าว มือปราบอำเภอชิงเหอ
มือปราบจ้าวพุ่งเข้าจับตัวหลี่เหวินปิน เขาทั้งถีบทั้งเตะใส่หลี่เหวินปิน จนหลี่เหวินปินคว่ำฟุบกับพื้น ก่อนจะก้าวเข้ามากดตัวหลี่เหวินปินเอาไว้
คนรับใช้ตระกูลเซี่ยพุ่งมาข้างกายเซี่ยอวิ๋นจิ่นส่งเสียงถามดังว่า “คุณชาย ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นส่ายหน้าลุกขึ้น
ยามนี้หลี่เหวินปินเข้าใจแล้วว่า เขาหลงกลเซี่ยอวิ๋นจิ่นเข้าแล้ว ก่อนหน้านี้เขาเสนอให้คนรับใช้ตระกูลเซี่ยออกไป พวกเขาจะได้คุยกัน เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบเห็นด้วยทันที
ที่แท้เซี่ยอวิ๋นจิ่นรอจับเขาอยู่ที่นี่
“เซี่ยอวิ๋นจิ่น เจ้า…เจ้าวางแผนจับข้าใช่หรือไม่”
สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นย่ำแย่อย่างมาก ดูเย็นเยียบราวกับน้ำค้างแข็ง รอบกายเปล่งรัศมีเย็นยะเยือกดุดันอย่างที่สุด
เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน “หลี่เหวินปิน เจ้าทำร้ายข้ามาสองครั้งแล้ว หรือว่าข้ายังจะปล่อยให้เจ้าทำร้ายข้าได้อีกครั้ง เจ้าคิดว่าตนเองฉลาดกว่าจริงหรือ ผู้อื่นล้วนโง่เง่าอย่างนั้นหรือ”
หลี่เหวินปินอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะแสร้งทำทีร้องไห้ “อวิ๋นจิ่น ข้าไม่รู้ว่าเจ้าทำอะไร ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไร ข้าจะทำร้ายเจ้าได้อย่างไร”
เขากล่าวจบก็ยกมือกุมศีรษะตนเอง ทำทีโงนเงน “ข้าไม่รู้ว่าทำไมคืนนี้อยู่ๆ ข้าจึงแทงเจ้า อาจเพราะข้าดื่มจนเมาแล้วเห็นเจ้ามีความสุข ดังนั้นจึงริษยาจนขาดความยั้งคิดขึ้นมาก็เป็นได้”
“อวิ๋นจิ่น เจ้าปล่อยข้าไปเถอะนะ ข้าขอร้อง เจ้าปล่อยข้าไปสักครั้งเถอะนะ”
หลี่เหวินปินร้องไห้ขอร้อง “อวิ๋นจิ่น ข้ายังมีมารดาหม้าย ขอร้องเจ้าปล่อยข้าไปเถอะนะ ข้าก็แค่นึกริษยาขึ้นมาเท่านั้น จึงได้เลอะเลือนไปชั่วครู่ เจ้าปล่อยข้าไปเถอะนะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นแค่นยิ้มมองหลี่เหวินปิน “เจ้าไปขอร้องที่ศาลแล้วกัน”
เขากล่าวจบมองไปยังมือปราบจ้าว “มือปราบจ้าวนำเขาไปที่ว่าการอำเภอสอบสวนก่อน ข้าจัดการบาดแผลก่อน ท่านทิ้งมือปราบไว้ที่นี่สองคน รอยมีดบนแขนข้าก็คือหลักฐาน พยานหลักฐานพร้อม ท่านให้มือปราบสองนายเฝ้าไว้ อย่าได้หาว่าข้าเปลี่ยนแปลงหลักฐาน”
มือปราบจ้าวรีบรับคำ ทิ้งสองมือปราบไว้ ส่วนเขาจับตัวหลี่เหวินปินออกไป
ทุกคนเพิ่งออกไป ลู่เจียวก็พาเฝิงจือกับหร่วนจู๋รีบเดินเข้าประตูมาอย่างรวดเร็ว
พอหลี่เหวินปินเห็นลู่เจียว ก็ราวกับเห็นดาวช่วยชีวิต ตะโกนดังว่า “ลู่เหนียงจื่อ ข้าขอร้อง เจ้าปล่อยข้าไปเถอะนะ ข้าก็แค่อยู่ๆ เลอะเลือนขึ้นมาเท่านั้น จึงได้ทำเรื่องเช่นนี้ได้”
ลู่เจียวจ้องมองเขาอย่างดุดัน กล่าวน้ำเสียงเสียดสีว่า “ช่างลบหลู่เกียรติบัณฑิตเสียจริง”
หลี่เหวินปินสะอึกค้างไปทันที สีหน้าเขาบิดเบี้ยว กัดฟันถลึงตาใส่ลู่เจียว ด่าทอว่า “เจ้าคิดว่าเจ้าคือตัวอะไร นังชั้นต่ำที่ปีนขึ้นเตียงผู้ชาย ยังมีหน้ามาว่าข้า”
ในห้องโถง เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินหลี่เหวินปินด่าทอลู่เจียว ก็รีบก้าวออกมาส่งสายตาดูแคลนมองเขา “เจ้ามันเลวตั้งแต่ในกระดูก ดังนั้นจึงได้ชั่วร้ายเช่นนี้”
มือปราบจ้าวควักผ้าเช็ดเหงื่อออกจากแขนเสื้อยัดปากเขาทันที
ลู่เจียวหันเดินไปข้างเซี่ยอวิ๋นจิ่น ถลึงตาใส่เขา “ผู้ใดใช้ให้เจ้าได้รับบาดเจ็บกัน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้รับบาดเจ็บ เห็นชัดว่าจงใจเพื่อเป็นหลักฐานความผิดมัดตัวหลี่เหวินปิน หากไม่บาดเจ็บ แม้มือปราบจ้าวจับหลี่เหวินปินไป โทษความผิดก็ไม่หนักมาก
แต่ตอนนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้รับบาดเจ็บ ก็คือหลักฐานสำคัญในการพยายามฆ่าคนจนทำให้บาดเจ็บ
ลู่เจียวรู้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นจงใจได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจึงถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ
ตัวร้ายทำงานก็ทำงานแบบตัวร้ายจริงๆ แม้แต่วิธีการทำลายศัตรูหนึ่งพัน ตนเองเสียหายแปดร้อย ก็ยังนำมาใช้
“เข้ามา ข้าพันแผลให้เจ้า อีกสักครู่ต้องไปเป็นพยานที่ที่ว่าการอำเภออีก”
แขนเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่ถูกมีดสั้นแทงยังคงมีโลหิตไหลซึม ลู่เจียวต้องรีบจัดการบาดแผลและพันแผลให้เขา
ทั้งสองคนเข้าไปในห้องโถงด้วยกัน สองมือปราบตามพวกเขาเข้าไปด้วย
ลู่เจียวให้เฝิงจือเอาล่วมยาออกมา เริ่มทำแผลให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นสีหน้าไม่พอใจของลู่เจียวก็รีบเสียงอ่อยรับรองว่า “วันหน้าข้าไม่ทำเรื่องเหลวไหลอีกแล้ว เจ้าเชื่อข้านะ?”
ลู่เจียวแค่นหัวเราะ “ทุกครั้งเจ้ารับผิดเร็วดีนะ ทำผิดก็เร็วเช่นกัน หรือคิดว่าข้าไม่มีวิธีจัดการเจ้ากัน”