ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 424 มองโลกแง่ดีและแข็งแรง
ตอนที่ 424 มองโลกแง่ดีและแข็งแรง
หลี่เหวินปินกล่าวจบก้มหน้ามองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ เดิมเป็นแค่ท่อนไม้แห้งๆ สี่ท่อน ตอนนี้ดูอีกที เป็นสี่หนูน้อยน่ารักและฉลาดเฉลียวว่องไว
พวกเขาเช่นนี้ไม่ได้ทำให้หลี่เหวินปินนึกชอบ มีแต่ทำให้เขายิ่งอิจฉาริษยา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นสายตาริษยาชิงชันของหลี่เหวินปินในนาทีนั้น ก็รู้ว่าเขาริษยาบุตรชายฉลาดเฉลียวทั้งสี่ของเขา
แต่แววตาที่เขาชิงชันริษยาบุตรชายของเขา ทำให้ในใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นนึกโมโหอย่างมาก เขาไม่มีทางปล่อยให้อีกฝ่ายมีชีวิตต่อไปได้อีกอย่างเด็ดขาด
หากเขายังมีชีวิตอยู่ หนามชิ้นนี้ย่อมเป็นดังอสรพิษที่คอยจ้องมองพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเขาต้องตาย
ในใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิด แต่ไม่แสดงออกทางสีหน้า ทว่าแววตายามนี้ไร้ซึ่งความอ่อนโยน
“พวกเขาย่อมโดดเด่นที่สุด บุตรชายข้าจะอ่อนด้อยสามารถได้อย่างไร”
น้ำเสียงเขามีความภาคภูมิใจของผู้เป็นบิดา
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น ก็ยิ่งพยายามฝึกท่ากระโดดหมุนตัวอย่างตั้งใจ ใบหน้าเล็กทั้งสี่มีเหงื่อผุดออกมา แต่ก็ยังคงกัดฟันอดทนฝึก
หลี่เหวินปินได้ฟังคำเซี่ยอวิ๋นจิ่น ในใจยิ่งร้อนดังไฟแผดเผา ยากทนรับไหว
เขาไม่อยากทนดูเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ต่อ หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “อวิ๋นจิ่น สายแล้ว พวกเรากินอาหารเช้าแล้วก็ไปสำนักศึกษากันเถอะ การสอบเซียงซื่อปีหน้าใกล้เข้ามาแล้ว อย่าได้มัวเสียเวลา”
พอหลี่เหวินปินเอ่ย เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็รู้ความ “ท่านพ่อ ท่านไปกินอาหารเช้าก่อน พวกเราฝึกต่ออีกสักครู่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มกล่าวกับลูกทั้งสี่ว่า “สองสามวันนี้พ่อไม่คิดจะไปสำนักศึกษาอ่านตำรา จะอยู่บ้านอ่านตำรา จะได้สอนพวกเจ้าวาดภาพด้วย”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ชะงักกึก หันหน้ามามองอย่างดีใจ
“จริงหรือ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า “อืม”
หลี่เหวินปินร้อนใจทันที “อวิ๋นจิ่น อยู่ดีๆ ทำไมไม่ไปสำนักศึกษาแล้วล่ะ ปีหน้าก็จะสอบเซียงซื่อแล้วแม้ว่าเจ้าจะปัญญาดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งทะนงตนนะ”
มุมปากเซี่ยอวิ๋นจิ่นเผยแววยิ้มเยาะ นี่เป็นห่วงว่าตนเองจะไม่มีโอกาสลงมือกับเขาหรือ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองหลี่เหวินปินด้วยสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน “ก่อนหน้านี้ข้าบอกเจ้าว่าสี่ตระกูลใหญ่จับตาดูข้าอยู่ไม่ใช่หรือ ตอนนี้ข้ากำลังตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นสองสามวันนี้ไม่ไปสำนักศึกษาแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็มองไปยังหลี่เหวินปิน “พี่หลี่ ความสัมพันธ์พวกเราดีกันเช่นนี้ พี่บอกข้าหน่อยว่าตระกูลจางส่งคนมาแอบลอบทำร้ายข้าหรือไม่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นแสดงท่าทางราวกับพี่น้อง สมองหลี่เหวินปินตอนนี้กำลังคิดวุ่นวายสับสนอย่างมาก หากเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ไปสำนักศึกษาอ่านตำรา เขาจะลงมืออย่างไร จางปี้เยียนหญิงผู้นั้นให้เวลาเขาแค่สามวัน หากในสามวันนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ไปสำนักศึกษา เช่นนั้นเขาก็ไม่มีทางลงมือได้แล้วใช่ไหม
เช่นนี้จะอย่างไร ในใจหลี่เหวินปินเริ่มรุ่มร้อนสุดขีด เขามองเซี่ยอวิ๋นจิ่น คิดจะกล่อมอีกครั้ง
“อวิ๋นจิ่น พวกเราไปสำนักศึกษาอ่านตำรากันเถอะ แม้ว่าสี่ตระกูลคิดลงมือกับเจ้า แต่ข้างกายเจ้าไม่ใช่ว่ามีหร่วนไคหรือ หร่วนไคเป็นวิชายุทธ์ สี่ตระกูลคงทำอะไรเจ้าไม่ได้หรอก”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพลันหันหน้าไปจ้องมองหลี่เหวินปิน “พี่หลี่เอาแต่เรียกให้ข้าไปสำนักศึกษาทำไมกัน บ้านข้าก็อ่านตำราได้ แม้ว่าสภาพแวดล้อมสำนักศึกษาจะดี แต่ที่บ้านข้าเองก็ดี ไม่มีคนรบกวน สองสามวันนี้ไม่ไปสำนักศึกษาแล้ว ข้าคิดว่าไม่ส่งผลต่อการศึกษาของข้า”
“พี่หลี่สีหน้าร้อนใจเช่นนี้ทำให้ข้ารู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างไม่ถูกต้องนัก”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็พลันหันไปจ้องมองหลี่เหวินปิน กล่าวต่อว่า “คงไม่ใช่ตระกูลจางบงการพี่หลี่มาล่อข้าออกไปกระมัง”
หลี่เหวินปินสีหน้าแปรเปลี่ยนทันทีรีบกล่าวว่า “อวิ๋นจิ่น เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใดกัน ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร พวกเราเป็นสหายสนิทร่วมชั้นเรียน ข้าจะทำเรื่องไม่ดีอย่างนั้นได้อย่างไรกัน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นจ้องมองหลี่เหวินปินเขม็ง
หลี่เหวินปินเหงื่อแตกตกใจ สุดท้ายเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ปล่อยเขา
“ข้าเชื่อคำพูดพี่หลี่ พี่หลี่เป็นบัณฑิตร่ำเรียนหนังสือ คนร่ำเรียนมาย่อมรู้มารยาท รู้อับอาย จะไปร่วมมือกับสี่ตระกูลทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร คนเลวเช่นพวกเขา พวกเราไม่ควรคบค้า เชื่อว่าพี่หลี่เองก็คิดเหมือนข้า”
ตอนนี้หลี่เหวินปินจะกล่าวอันใดได้ ได้แต่รีบพยักหน้า “ใช่ ใช่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็มองไปยังหลี่เหวินปิน “พี่หลี่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ต้องไปสำนักศึกษาดีกว่า พักอยู่บ้านตระกูลเซี่ยรักษาตัวสักสองวันดี ใบหน้าพี่มีบาดแผล หากไปสำนักศึกษา บรรดาสหายร่วมชั้นเรียนถามขึ้นมา พี่จะตอบยาก”
พอหลี่เหวินปินคิดแล้วก็เห็นด้วย ตอนนี้ได้แต่ปล่อยเช่นนี้ไปก่อน ดูว่าจะหาโอกาสจัดการเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้หรือไม่ หากเขาไปจากบ้านตระกูลเซี่ย เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ออกไป เขาก็ย่อมไม่อาจลงมือกับเขาภายในสามวันนี้ได้
“ตกลง รบกวนเจ้าแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นแววตาเย็นเยียบ ยกมือตบบ่าหลี่เหวินปินทีหนึ่ง “พี่กับข้าเกรงใจอะไรกัน ก่อนหน้านี้ตอนข้านอนอัมพาตอยู่บนเตียง พี่ยังมาเยี่ยมข้า ตอนนั้นข้าก็เห็นพี่เป็นดังพี่น้องแล้ว”
หลี่เหวินปินแค่นหัวเราะ ข้าอยากไปเยี่ยมเจ้าก็เพื่อดูท่าทางหมดอาลัยของเจ้าต่างหาก
แต่สีหน้าเขายังคงแสดงท่าทางตื้นตัน “เช่นนั้นวันหน้าข้าก็เห็นอวิ๋นจิ่นเป็นดังพี่น้องแล้ว”
ขณะที่ทั้งสองคนพูดกันไป เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ฝึกเสร็จ หลี่หนานเทียนกำหนดให้ฝึกท่ากระโดดหมุนตัว ทุกวัน เจ้าหนูน้อยทั้งสี่วิ่งเหงื่อแตกเข้ามา “ท่านพ่อ พวกเราจะไปอาบน้ำที่เรือนด้านหลังแล้ว ท่านแม่ก็น่าจะตื่นแล้ว”
“อืม พวกเจ้าไปเถอะ”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่หันหลังวิ่งออกไปกับสหายประจำตัวพวกเขาอีกสี่คน บอกสหายประจำตัวพวกเขาทั้งสี่คนว่า “พวกเจ้าก็กลับไปอาบน้ำกินข้าวเถอะ”
“ขอรับ คุณชายน้อย”
เด็กสองกลุ่มแยกกันไป เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็คุยกับหลี่เหวินปินต่อพลางเดินไปที่ห้องโถงเรือนด้านหน้า
หลี่เหวินปินกินอาหารเช้าแล้วก็กลับห้องไปพัก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไปหาลู่เจียวที่เรือนด้านหลัง ลู่เจียวกำลังกินอาหารเช้ากับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่อยู่ นางสอบถามลูกๆ เรื่องการฝึกเช้านี้
“ท่านพ่อก็ไปฝึกกับพวกเราด้วย พวกเราไม่อยากให้ท่านพ่อผิดหวัง ดังนั้นจึงพยายามฝึกให้ดี ไม่ได้แอบขี้เกียจกันเลย”
ต้าเป่าอยากทำให้ท่านพ่อภูมิใจในตัวลูกๆ มาตลอด ดังนั้นเขากลัวท่านพ่อจะผิดหวังในตัวเขา ตอนเซี่ยอวิ๋นจิ่นอยู่ เขาจึงพยายามเต็มที่ ไม่อยากทำให้ท่านพ่อผิดหวัง
เอ้อร์เป่าเดิมชอบฝึกอยู่แล้ว ก็ยิ่งฝึกอย่างตั้งใจ
ซานเป่ากับซื่อเป่าจดจำคำพูดลู่เจียวได้ว่า ฝึกวิชายุทธ์จะได้ปีนเขาเก็บสมุนไพร ฝึกวิชายุทธ์จะทำให้สุขภาพดี หาเงินมาเลี้ยงท่านแม่กับน้องสาวได้ดี
“ท่านแม่วางใจ วันหน้าพวกเราจะพยายามฝึกวิชายุทธ์ให้มาก”
ลู่เจียวดูแล้วก็พอใจ นางมองออกว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่ว่าชอบหรือไม่ชอบวิชายุทธ์ ก็ตัดสินใจว่าจะพยายามฝึกแล้ว
เรื่องนี้เป็นเรื่องน่ายินดี
“อืม วันนี้ลำบากพวกเจ้าแล้ว กินให้เยอะๆ หน่อย”
ของกินบนโต๊ะเต็มไปหมด มีทั้งนมแพะ ไข่ไก่ โจ๊ก และซาลาเปาไส้ต่างๆ ยังมีผักดองแกล้มอีกด้วย
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ทุกวันเติมสารอาหารที่กำหนด ไม่เลือกกินแม้แต่น้อย
เรื่องนี้ทำให้สุขภาพพวกเขาดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อก่อนตอนลู่เจียวเพิ่งมาถึง พวกเขาตัวเพิ่งเลยหัวเข่านางมาได้ไม่เท่าไร ตอนนี้ถึงหน้าขาแล้ว อีกไม่นานก็จะถึงเอว
แน่นอนว่า ในการนี้มีสาเหตุจากน้ำพุจิตวิญญาณของลู่เจียวอยู่ด้วย หากเลี้ยงดูต่อไปเช่นนี้และไม่เหนือความคาดหมาย ร่างกายพวกเขาก็จะสูงไม่น้อยกว่าบิดาพวกเขา