ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 1009 คลุ้มคลั่ง
ตอนที่ 1009 คลุ้มคลั่ง
สามคนไล่ตามกันขึ้นเขารวดเร็ว พริบตาซั่งกวนเฮ่อก็แบกซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนขึ้นเขามาได้ระยะหนึ่ง เซียวเหวินอวี๋ไล่ตามมาด้านหลัง ยามนี้ซั่งกวนเฮ่อไม่วิ่งต่อ เพราะด้านหลังของเขาไม่ไกลนักเป็นหน้าผา คิดหนีก็ไร้หนทางหนีแล้ว
เขาได้แต่ชะงักงันหันไปมองเซียวเหวินอวี๋
“เหอะๆ ฮ่องเต้แคว้นต้าโจวถึงกับตามมาช่วยน้องสาวเราด้วยตนเอง เราก็อยากรู้ว่าเหตุใดเป็นถึงฮ่องเต้จึงคิดทำเช่นนี้”
เขากล่าวจบหันไปมองซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนที่แบกไว้บนบ่าทีหนึ่ง ยิ้มกล่าวว่า “คงไม่ใช่เพราะต้องตาน้องสาวเรากระมัง”
เซียวเหวินอวี๋เห็นซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนสีหน้าซีดขาว ในใจก็โมโหแทบคลั่ง สีหน้าเย็นเยียบดุดันอย่างที่สุด “ซั่งกวนเฮ่อ เจ้าถูกฮ่องเต้ซีเหลียงปลดเป็นสามัญชนแล้ว เจ้าเป็นกบฏซีเหลียง อย่าเอาแต่เรียกตนเองว่าเรา”
ซั่งกวนเฮ่อสีหน้าดุดัน มองเซียวเหวินอวี๋ ครู่หนึ่งก็หัวเราะดังลั่น “เราคิดยึดครองซีเหลียงกลับคืนมาเป็นเรื่องง่ายดายยิ่ง แต่ตอนนี้เราแลกเปลี่ยนกับเจ้าได้ เจ้ามานี่ โดดลงไป เราก็จะปล่อยน้องแปด ดีหรือไม่”
ซั่งกวนเฮ่อกล่าวจบ สีหน้าซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนย่ำแย่อย่างยิ่ง นางกะพริบตาที่คลอไปด้วยน้ำตามองเซียวเหวินอวี๋ บอกให้เขาอย่าได้ตกหลุมพรางแผนการชั่วของคนผู้นี้ เขาไม่มีทางปล่อยนาง
เซียวเหวินอวี๋ไม่ทันได้พูดอะไร ซั่งกวนเฮ่อก็เอ่ยขึ้นว่า “หากเจ้าไม่มา เราก็จะสังหารนาง”
เขากล่าวจบก็วางซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนลง ยื่นมือขึ้นบีบลำคอซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนแทน หากเซียวเหวินอวี๋ก้าวเข้ามา เขาก็จะสังหารซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน
เซียวเหวินอวี๋กลับไม่หลงกลเขา มองซั่งกวนเฮ่อด้วยสีหน้าเย็นเยียบเอ่ยว่า “เจ้าคิดว่าเราไร้สมองหรือ หากเราโดดลงไป เจ้าไม่ปล่อยนาง เราไม่ตายเสียเปล่าหรือ เจ้าคลายจุดให้นาง ปล่อยนางไป เราจะแลกกับนางเอง”
“เหอะๆ เจ้าคิดว่าเราโง่หรือ ปล่อยนางไป พวกเจ้าสองคนก็ร่วมมือกันจัดการเรา เราจะยังรอดชีวิตไปได้หรือ”
สถานการณ์พลันตึงเครียด
ลูกน้องเซียวเหวินอวี๋ทะยานมาถึงรวดเร็ว รีบตะโกนเรียก “ฝ่าบาท”
ซั่งกวนเฮ่อเห็นสถานการณ์ไม่เป็นผลดีต่อเขา เขาถูกล้อมไว้แล้ว หากคิดจะหนีไปได้อย่างราบรื่นย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นควรโดดหน้าผาหาทางรอดสำคัญกว่า
ซั่งกวนเฮ่อคิดแล้วก็คว้าตัวซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไปทางหน้าผาด้านหลัง
เซียวเหวินอวี๋ไม่ทันได้คิดอันใดก็ไล่ตามไปทันที เห็นซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนถูกซั่งกวนเฮ่อคว้าตัวกระโดดลงหน้าผา เขาก็รีบกระโจนตามลงไป
ลูกน้องที่ไล่ตามมาด้านหลังตกใจนิ่งอึ้ง ส่งเสียงตะโกนเรียกดังขึ้นทันที “ฝ่าบาท”
ซั่งกวนเฮ่อที่กระโดดลงหน้าผาไป มองเซียวเหวินอวี๋ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ฮ่องเต้แคว้นต้าโจว สมองเสื่อมหรือ เพื่อผู้หญิงคนเดียว มีค่าพอหรือ
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเองก็มองเซียวเหวินอวี๋อย่างตกใจ เขาไม่ต้องการชีวิตแล้วหรือ
สามคนกระโดดลงหน้าผาตามกันลงไป เซียวเหวินอวี๋ฟาดฝ่ามือใส่ซั่งกวนเฮ่อเพื่อช่วยซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน ซั่งกวนเฮ่อผลักซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนออกมารับอย่างไม่แม้แต่จะคิด
เซียวเหวินอวี๋รีบชะงักทันที เห็นซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนถูกซั่งกวนเฮ่อผลักออกมา เขาก็ยื่นมือไปคว้ามือซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไว้ได้อย่างรวดเร็ว
สีหน้าซั่งกวนเฮ่อดำทะมึน ฟาดฝ่ามือใส่เซียวเหวินอวี๋ทีหนึ่ง
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเห็นฝ่ามือนี้กำลังจะฟาดโดนตัวเซียวเหวินอวี๋ นางก็ทุ่มเทกำลังทั้งหมดกระแทกมือซั่งกวนเฮ่อออก
ผู้ชายสองคนสีหน้าแปรเปลี่ยนพร้อมกัน
เซียวเหวินอวี๋เป็นห่วง ซั่งกวนเฮ่อกลับโมโห ตวาดด่าทันที “นังชั้นต่ำ เจ้าไม่ใช่หยิ่งยโสไม่เห็นผู้ชายอยู่ในสายตาหรือ ตอนนี้ดีเลย ถึงกับทำเพื่อปกป้องผู้ชาย หากเป็นเช่นนี้ก็ไปตายซะ”
เขากล่าวจบก็ฟาดฝ่ามือที่ยังเงื้อค้างอยู่ใส่ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน ฝ่ามือนี้แม้ไม่ทำให้บาดเจ็บสาหัสก็อาจถึงตายได้
เซียวเหวินอวี๋สีหน้าแปรเปลี่ยน ทุ่มเทกำลังทั้งหมดคว้าตัวซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน ทิ้งร่างร่วงลงไปอย่างรวดเร็ว เขากอดซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไว้แน่นเพื่อปกป้องนาง สองร่างหมุนวนร่วงลงไป ซั่งกวนเฮ่อฟาดฝ่ามือใส่ลงกลางหลังเซียวเหวินอวี๋เต็มแรงเช่นนั้น เขาไม่อาจทานรับกำลังภายในหนักหน่วงเช่นนี้ได้ กระอักโลหิตออกมาทันที สีหน้าพลันซีดเผือด ร่วงลงไปอย่างรวดเร็วเพราะพลังฝ่ามือซั่งกวนเฮ่อ
แม้ว่าเซียวเหวินอวี๋โดนไปหนึ่งฝ่ามือ แต่ยังทนรับไหว เขากอดร่างซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเอาไว้ก่อนจะยกมือหนึ่งคลายจุดให้ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนจึงได้เอ่ยอย่างเป็นห่วงว่า “ฝ่าบาท ทรงเป็นอันใดไหมเพคะ”
เซียวเหวินอวี๋พยายามฝืนส่ายหน้า “ไม่เป็นอันใด เจ้าอย่าได้เป็นห่วง”
เขากล่าวจบก็ร่วงลงหน้าผาต่อไป ไม่นานทั้งสองคนก็คว้าเถาวัลย์ริมหน้าผาไว้ได้ ห้อยตัวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสะบัดทิ้งตัวไปยังยอดเขาหนึ่ง
เพราะเซียวเหวินอวี๋ได้รับบาดเจ็บ ทำให้พอใช้กำลังภายในก็สลบไปทันที ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนส่งเสียงเรียกเขาอย่างร้อนใจ “ฝ่าบาท ทรงเป็นอันใดไหมเพคะ พี่สี่”
น่าเสียดายเซียวเหวินอวี๋ไร้ปฏิกิริยาตอบรับ หลังซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนตกใจในคราแรกแล้ว ก็รีบเข้าประคองเขาเข้าไปในถ้ำ นางทำเช่นนี้เพื่อป้องกันซั่งกวนเฮ่อกลับมา ตอนนี้เซียวเหวินอวี๋ได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยฝีมือนางไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของซั่งกวนเฮ่อได้ เซียวเหวินอวี๋ทุ่มเทเพื่อช่วยนางเพียงนี้ นางไม่อาจตกอยู่ในมือซั่งกวนเฮ่อได้อีก
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนประคองเซียวเหวินอวี๋เข้าไปในถ้ำให้เขานั่งลง สองมือประคองหลังเซียวเหวิน อวี๋เอาไว้ เซียวเหวินอวี๋ได้รับบาดเจ็บภายใน นางตัดสินใจใช้กำลังภายในของนางรักษาเขาก่อน อีกสักครู่ค่อยป้อนยารักษากำลังภายในให้เขา รักษาสองวิธีพร้อมกัน
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนรักษาให้เซียวเหวินอวี๋ได้ราวครึ่งชั่วยาม ก็ป้อนยาเม็ดให้เซียวเหวินอวี๋ นางยังออกไปหาสมุนไพรรักษาอาการบาดเจ็บภายนอกมาพันบาดแผลให้เซียวเหวินอวี๋
ในถ้ำเงียบสงัดอย่างมาก แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านใบไม้ลงมาส่องสว่างภายในถ้ำ เซียวเหวินอวี๋ลืมตาขึ้นก็เห็นสตรีงามสง่าผู้หนึ่ง กำลังนั่งย่างไก่อยู่ในถ้ำ อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอบอวลของอาหาร เขารู้สึกเลือนรางไม่แน่ใจในคราแรก ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด แต่ค่อยๆ คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ จากนั้นก็มองไปยังสตรีที่กำลังพลิกย่างไก่ไปมา ชั่วขณะนั้นพลันราวกับเป็นห้วงเวลาเงียบสงบงดงาม คิดอยากให้เวลาหยุดอยู่ตรงนี้
แต่เพราะเขาจ้องมอง ทำให้ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนรู้ตัวทันทีว่าเขาตื่นแล้ว นางหันมายิ้มสดใสอ่อนหวาน รอยยิ้มอ่อนโยนอย่างไม่อาจบรรยาย
“พี่สี่ ตื่นแล้วหรือ”
นางพูดพลางเดินไปนั่งลงข้างกายเขา “พี่สี่รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บหรือไม่”
เซียวเหวินอวี๋จับความรู้สึกครู่หนึ่งก็พบว่าอาการบาดเจ็บภายในถึงกับหายดีขึ้นไม่น้อย เลิกคิ้วมองซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนอย่างแปลกใจ “เหมือนไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่คิด”
“อย่างนั้นก็ดี ก่อนหน้านี้ข้าใช้กำลังภายในรักษาให้พี่สี่ และยังป้อนยารักษาอาการบาดเจ็บให้พี่สี่ด้วย ตามหลักก็จะน่าจะไม่เป็นอันใดแล้ว”
นางกล่าวจบ ก็คิดถึงว่าเขาเสี่ยงภัยช่วยนาง สีหน้าก็อดเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“พี่สี่ พี่สี่ลืมสถานะตนเองแล้วหรือ ในฐานะฮ่องเต้แคว้นต้าโจว วันหน้าอย่าได้เสี่ยงภัยเช่นนี้อีก”
เซียวเหวินอวี๋นิ่งอึ้ง เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนเองจะคลุ้มคลั่งเช่นนี้ แต่ต่อหน้าซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนที่กำลังประสบภัยอันตราย เขาไม่ทันได้คิดอันใดทั้งสิ้น คิดเพียงแต่ว่าไม่อาจมองดูนางตายไปเช่นนี้ได้
ตอนนี้เห็นซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนอบรมเขา เขารู้ว่านางห่วงใยเขา ในใจอ่อนยวบลงอย่างไม่รู้ตัว ปากก็ยิ่งเอ่ยวาจาอ่อนโยนเชื่อฟัง
“ได้ วันหน้าข้าจะไม่เสี่ยงภัยเช่นนี้อีก”
“อืม พี่สี่หิวหรือไม่ ข้าย่างไก่ไว้ พวกเรามากินกันสักหน่อยดีกว่า”
“ตกลง”
——————————————–