ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 442: ของขวัญที่ไม่คาดคิด (2)
ขณะที่คาร์เตอร์กําลังวุ่นอยู่กับการชื่นชมถ้วยรางวัล โรเอลกับอ
ลิเซียก็วางแผนที่จะส่งข้อความไปหาคริสอย่างรวดเร็ว ทั
้
งคู่สามารถ
ช่วยเธอได้มากที่สุดแค่นี้ส่วนเรื่องที่ว่าคาร์เตอร์จะเข้ากับคริสได้หรือไม่
นั
้
นก็ขึ้
นอยู่กับตัวของเจ้าหล่อนเอง
โรเอลพึมพําอธิษฐานให้กับอาจารย์สาวของตัวเอง
ทั
้
งสามคนยังคงคุยกันต่อไปจนดึกดื่นก่อนจะออกจากห้อง
หลังจากนั
้
นไม่กี่วัน โรเอลก็ได้บอกให้คาร์เตอร์ทราบถึง
ความก้าวหน้าในปัจจุบันเรื่องพลังเหนือธรรมชาติของตน ซึ่งนั่
นทําให้ผู้
เป็นพ่อประหลาดใจเป็นอย่างมาก
“เจ้าไปถึงจุดคอขวดของระดับแก่นแท้4 แล้วงั
้
นเหรอ? แน่ใจแล้ว
ใช่ไหม?”
“ใช่ครับ ผมแน่ใจ ผมสัมผัสได้ถึงความอิ่
มตัวของพลังเวทย์ในตัว
เมื่อเร็วๆ นี้โดยเฉพาะอย่างยิ่
งหลังจากงานประลองศึกชิงถ้วย”
โรเอลตอบ
คําพูดเหล่านั
้
นทําให้คาร์เตอร์เชื่อมั่
น ความรู้สึกอิ่
มตัวของพลัง
เวทย์เป็นสัญญาณว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติกําลังใกล้จะไปถึง
ระดับแก่นแท้3 แล้ว ซึ่งเขาเองก็เคยผ่านช่วงนั้
นมาแล้วเช่นกัน แต่ถึง
กระนั
้
น ความคืบหน้าของโรเอลก็ยังดูจะเร็วเกินไป
ตลอดเวลาที่ผ่านมาคาร์เตอร์เชื่อว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วของโร
เอลเกิดจากการปลุกพลังทางสายเลือดที่ตื่นขึ้นมาช้ากว่าคนอื่นๆ เขา
คิดว่าความพยายามที่สั่
งสมมาตลอดของโรเอลทําให้เจ้าตัวพุ่งไป
ข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว และทําให้โรเอลสามารถพัฒนาพลังเหนือ
ธรรมชาติไปได้ในอัตราที่ไม่เคยมีมาก่อน
แต่ถึงกระนั
้
น การไปถึงคอขวดของระดับแก่นแท้4 ภายในเวลาไม่
ถึงสองปีก็ยังเหนือจินตนาการเกินไป ราวกับว่ากําลังทําลายสามัญ
สํานึกของโลก
ในตอนแรกคาร์เตอร์คิดว่าโรเอลสามารถชนะศึกชิงถ้วยมาได้
เนื่องจากคาถาเวทโบราณที่ช่วยเพิ่
มพลังของเขาไปถึงระดับแก่นแท้3
ได้ชั่
วคราว อย่างไรก็ตามจากสภาพการณ์แล้ว โรเอลค่อนข้างจะ
เหนือกว่าที่เขาคาดไว้แม้ว่าจะไม่มีคาถาโบราณดังกล่าว
นี่ทําให้คาร์เตอร์มองที่โรเอลด้วยสายตาที่ขัดแย้งกัน
ตามกฎของทวีปเซีย พลังอันยิงใหญ่นั ่ ้
นต้องแลกมาด้วยราคาที่
มหาศาล โรเอลคงจะต้องผ่านอันตรายมานับไม่ถ้วนเพื่อให้ได้การ
เติบโตอันรวดเร็วนี้ทว่าเด็กคนนี้กลับไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กับเขามาก่อน
เลย
คาร์เตอร์ตระหนักว่าเขาไม่เคยอยู่เคียงข้างเพื่อลูกชายเลย และ
นั่
นทําให้เขารู้สึกผิดเหลือเกิน
ความล้มเหลวในการดูแลโรเอลในวัยเด็กทําให้เขากลายทรราชตัว
น้อย และทําให้คาร์เตอร์สาบานกับตัวเองว่าจะทําให้ดีขึ
้
น แต่แม้ว่าจะ
ผ่านไปแล้วหลายปีเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป ไม่เคยอยู่เคียงข้างลูกชาย
ในตอนที่ลูกชายต้องการเขาจริงๆ
คาร์เตอร์มีข้อแก้ตัวมากมายสําหรับตัวเขาเอง เช่น หน้าที่ของตน
ในฐานะขุนนางและผลงานอันยิ่
งใหญ่ที่ทําเพื่อมนุษยชาติแต่ไม่ต้อง
สงสัยเลยว่าเขาได้ล้มเหลวไปแล้วในฐานะพ่อ
มาร์ควิสนึกไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้
น หากโรเอลที่ยังไม่โตเต็มที่
ไม่สามารถเรียนรู้ที่จะจัดการเรื่องต่างๆ เหล่านี้ด้วยตัวเอง ถ้ามีอะไร
เกิดขึ
้
นกับโรเอลจริงๆ ละก็เขาคงจะจมอยู่กับความเสียใจไปชั่
วชีวิตแน่
ส่วนผสมของความรู้สึกผิดและความภาคภูมิใจที่คาร์เตอร์มีต่อลูก
ชาย ทําให้เขาถอนหายใจเบาๆ ออกมา
คาร์เตอร์รีบสลัดความคิดพวกนั้
นออกจากหัว และเริ่
มเล่า
ประสบการณ์ของตนให้โรเอลพร้อมที่จะก้าวไปสู่ระดับแก่นแท้3
ข้อมูลเชิงลึกของเขาทําให้โรเอลมีความเข้าใจที่ลึกซึ้
งยิ่
งขึ
้นเกี่ยวกับ
พลังเหนือธรรมชาติ
แม้ว่าโรเอลจะเอาชนะผู้เหนือธรรมชาติระดับสูงมาหลายต่อหลาย
ครั
้
งแล้ว แต่นั่
นไม่ได้หมายความว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าคนพวกนั้
น
ความสําเร็จส่วนใหญ่ของโรเอลประสบความสําเร็จในสถานะผู้เฝ้ามอง
ซึ่งเทพเจ้าโบราณไม่ได้ถูกจํากัดด้วยความแข็งแกร่งของตัวโรเอล ทําให้
เขาแข็งแกร่งกว่าปกติมาก
แม้ว่าโรเอลจะสามารถเพิ่
มพลังเป็นระดับแก่นแท้3 ได้ด้วยพร
ของเปตรา แต่นั่
นเป็นการปรับปรุงเชิงปริมาณ ไม่ใช่เชิงคุณภาพ นั่
นคือ
เหตุผลที่เขากังวลในการต่อสู้ช่วงท้ายกับวิลเฮลมินาในรอบชิงชนะเลิศ
ของศึกชิงถ้วย เด็กหนุ่มรู้ว่าตนเองยังอ่อนแอกว่าผู้มีพลังเหนือ
ธรรมชาติระดับแก่นแท้3 จริงๆ มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่
งในแง่ของ
ความเข้าใจที่มีต่อพลังเหนือธรรมชาติ
นั่
นคือเหตุผลที่เขาต้องการขอคําแนะนําจากผู้เหนือธรรมชาติ
ระดับสูงที่มีประสบการณ์และคาร์เตอร์ในฐานะผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ
ระดับแก่นแท้2 ผู้มีประสบการณ์ก็สามารถเติมเต็มส่วนนี้ได้จากการ
อธิบายของคาร์เตอร์ทําให้โรเอลรับรู้ถึงช่องว่างระหว่างตนกับคนพ่อ
คําว่า ‘ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้2’ มีความหมาย
เทียบเท่ากับ ‘ผู้มีอํานาจ’ ในทวีปเซีย
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้2 ถือเป็นตัวตนระดับสูง
แม้กระทั่
งในอาณาจักรสําคัญๆ เช่น จักรวรรดิเซนต์เมซิทและจักรวรรดิ
ออสทีน แต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงในยุคของพวกเขา
ผู้รอดชีวิตจากการต่อสู้นับไม่ถ้วน ทักษะและการควบคุมพลังเวทของ
พวกเขาได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องด้วยเวลาและประสบการณ์ที่
สั่
งสมมา และนั่
นเป็นสิงที่โรเอลพยายามดิ ่ ้
นรนเพื่อให้ไปถึง
นี่ทําให้โรเอลเริ่
มเข้าใจถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของคาร์เตอร์
ผ่านการให้ความรู้จากเจ้าตัว
คาร์เตอร์นั้
นอาจจะแข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆ ในหมู่ผู้มีพลังเหนือ
ธรรมชาติระดับแก่นแท้2 เลยก็ว่าได้ทําให้เขากลายเป็นผู้บัญชาการ
หน่วยกองทหารจอมเวทของจักรวรรดิเซนต์เมซิท และเอาชนะผู้นํา
ของตระกูลเบสจากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ได้ในระหว่างศึก
กระชับมิตร
ต่อให้โรเอลใช้พรของเปตราเขาก็คงไม่อาจเทียบคาร์เตอร์ได้ด้วย
ช่องว่างในระดับแก่นแท้ที่ต่างกันเกินไป เด็กหนุ่มอาจจะพอมีโอกาส
ชนะได้บ้าง หากต้องสู้กับนักวิชาการระดับแก่นแท้2 แต่กับนักสู้รุ่นเก๋า
เช่นคาร์เตอร์แล้ว แค่เอาชีวิตรอดให้ได้ก็ยังลําบาก
หลังจากเรียนรู้จากข้อมูลเชิงลึกจากคาร์เตอร์มาหลายวัน ในที่สุด
โรเอลก็ค้นพบแนวทางของตนเอง เขาขลุกตัวอยู่ในห้องสมุดเพื่อนั่
ง
อ่านบันทึกทางประวัติศาสตร์อีกครั
้
ง พลางรอคอยการมาถึงของคริส
อย่างอดทน
นี่เป็นครั้
งแรกที่คาร์เตอร์และคริสได้พบกันหลังจากผ่านไปยี่สิบปี
ดังนั
้
นจึงมีความน่าอึดอัดใจเกิดขึ
้
นบ้างระหว่างชายหญิงสองคน
นอกจากนี้คริสยังไม่มีหัวด้านความรักด้วย จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
อะไรเลย ถ้าเธอจะพูดติดอ่างต่อหน้าคาร์เตอร์
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่โรเอลจะไม่รู้สึกกังวลใจ เขาจึงได้เอาเรื่องนี้
ไปพูดคุยกับอลิเซีย และพกวเขาก็ตกลงที่จะเข้าไปช่วยเธอเมื่อใดก็
ตามที่บทสนทนาดูอึดอัดเกินไป
ทว่าก่อนที่คริสจะมาถึงเขตการปกครองแอสคาร์ด ขบวนรถที่เต็ม
ไปด้วยสินค้าก็มาถึงเสียก่อน
…
ภายในห้องรับรองของคฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ด พวกคนใช้กําลัง
ยุ่งอยู่กับการขนส่งกล่องอันสวยงาม ซึ่งบรรจุสมบัติล�าค่าไปยังห้อง
รับรองพลางเปิดกล่องทีละกล่องอย่างเบามือเพื่อตรวจสอบสินค้า
ไม่นานมานี้ขบวนรถจากคฤหาสน์วงกตในเมืองหลวงศักดิ์
สิทธิ
์
ได้
มาถึงเขตการปกครองแอสคาร์ด และนําสมบัติล�าค่ามากมายจากเหล่า
ขุนนางทั่
วจักรวรรดิเซนต์เมซิทมาให้จุดประสงค์เบื้องหลังของขวัญ
ของพวกเขานั
้
นง่ายมาก นั่
นก็เพื่อแสดงความยินดีกับโรเอลที่ชนะเลิศ
งานประลองศึกชิงถ้วย
ชัยชนะของโรเอลนั้
นเกิดขึ
้นอย่างกะทันหันมากจนพวกขุนนางไม่
สามารถเตรียมการล่วงหน้าได้โชคดีที่นี่ไม่ใช่ครั้
งแรกที่พวกเขาต้อง
เผชิญสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาจึงมีวิธีการรับมือ
พวกเขาจะแสดงความยินดีก่อนส่งของขวัญตามมาในภายหลัง
หรือก็คือ จดหมายแสดงความยินดีก่อนหน้านี้เป็นตั๋
วหนี้พวกเขา
ล้วนเป็นขุนนาง ดังนั
้
นไม่ทางที่พวกเขาจะสัญญาเปล่าๆ แน่ไม่ว่าจะ
เพราะทิฐิในฐานะขุนนาง หรือเพราะเพื่อรักษาความน่าเชื่อถือ พวกเขา
มักจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้มอบของขวัญให้กับโรเอลตามที่
สัญญากันไว้
ในฐานะผู้รับของขวัญ โรเอลเองก็มีความรับผิดชอบของตัวเอง
เช่นกัน เขาจะต้องเขียนจดหมายตอบกลับเมื่อได้รับของขวัญ แต่
นอกเหนือจากนั
้
น เขายังต้องประเมินมูลค่าของของขวัญและจดบันทึก
เอาไว้
โรเอลจะต้องทําให้แน่ใจว่าตนเองจะตอบแทนด้วยของขวัญที่
เทียบเท่าหรือมีมูลค่าสูงกว่าเล็กน้อยเมื่อมีโอกาสที่อีกฝ่ายสมควรจะ
ได้รับของขวัญ เช่นในวันเกิดของพวกเขา
ไม่สําคัญหรอกว่าคนคนหนึ่งจะมีฐานะทางการเงินหรือไม่ มันเป็น
วิธีของเหล่าขุนนางที่จะแต่งตัวให้ดูดีแม้ว่าพวกเขาจะต้องเป็นหนี้ก็
ตาม เนื่องจากโรเอลเพิ่
งเป็นอันดับหนึ่งในรุ่นน้อง พวกเขาจึงจะต้องส่ง
สิ่
งที่คู่ควรกับรูปร่างของโรเอล
“ตระกูลมาร์ควิสฟาสต์พรมหนังหมีทองคําที่ไม่เคลือบสีมูลค่า
โดยประมาณ 3,500 เหรียญทอง”
“ตระกูลมาร์ควิสไวส์แจกันดอกไม้เจ็ดสีแห่งความสงบ อุปกรณ์
เวทที่ทําให้ดอกไม้ใดๆ ในนั้
นจะบานสะพรั่
งอย่างถาวร และกลิ่
นหอมที่
เล็ดลอดออกมาช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับได้มูลค่าโดยประมาณ
4,000 เหรียญทอง”
“ตระกูลดยุกลูซีน ‘ป่าแห่งสิบสองกวาง’ เครื่องประดับตกแต่งหนึ่ง
ในผลงานชิ้
นเอกของจิตรกรชื่อดัง เวย์กิ้
น มูลค่าโดยประมาณ 5,000
เหรียญทอง”
…
โรเอลนั่
งบนโซฟาเพลิดเพลินไปกับชา ขณะฟังคําอธิบายของแอน
นาเกี่ยวกับสมบัติแต่ละชิ้
น อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงกล่องไม้เล็กๆ ที่มี
ตราเครื่องหมายของตระกูลเซไซต์เสียงของแอนนาก็หยุดลงทันที
“นายน้อย นี่มัน…”
สาวใช้ตกตะลึงอยู่หลายวินาทีก่อนที่จะนํากล่องไม้ขึ้นไปหาโรเอ
ลอย่างระมัดระวัง
เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติโรเอลจึงวางถ้วยน�าชาลงก่อนจะ
มองเข้าไปใกล้ๆ ภายในกล่องสลักอันสวยงาม ซึ่งแสดงถึงตํานานของ
โบสถ์แห่งหนึ่ง และตรงกลางของงานศิลปะอันสวยงามนั
้
นมีแหวนที่มี
ตราสัญลักษณ์ตระกูลเซไซต์วางอยู่บนผ้าซาตินสีแดงอันล�าค่า
“นี่มัน…!”
ดวงตาสีทองของโรเอลหรี่ลงในขณะที่เขามองเห็นแหวนวงนั้
น เขา
ดึงกล่องเข้ามาใกล้ๆ เพื่อดูมัน ทําให้ใบหน้าของเขากลับยิ่
งดู
เคร่งเครียด
แหวนที่มีตราประทับของตระกูลขุนนางเป็นสัญลักษณ์เฉพาะ
สมาชิกหลักของตระกูลเท่านั
้
นที่จะมีคุณสมบัติในการพกพามัน ทําให้
มันมีความสําคัญมากขึ
้นไปอีกเมื่อเป็นของราชวงศ์หลักของอาณาจักร
อย่างตระกูลเซไซต์นี่คือประเภทของของขวัญที่ผู้รับจะต้องปฏิเสธ
อย่างนอบน้อม แม้ว่าตระกูลเซไซต์จะเป็นคนมอบมันให้พวกเขา
พูดอีกอย่างก็คือ… พระสังฆราชจอห์นต้องการให้ฉันไปเยี่ยมท่าน
งั
้
นเหรอ?
โรเอลขมวดคิ้
วพลางใช้เวลาคิดสองสามวินาทีก่อนที่จะเดินไปยัง
ห้องของคาร์เตอร์