ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 440: พ่อเห็นลูกสาวดีกว่า (2)
อลิเซียเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคําพูดอันไม่คาดฝันเหล่านั้
น เธอรู้ว่า
โรเอลพยายามจะสื่อถึงอะไร แต่คําพูดพวกนั
้
นก็ชวนให้นึกถึงคํา
สารภาพที่เธอไม่สามารถหยุดหัวใจไม่ให้เต้นแรงได้อยู่ดี
โรเอลไม่เห็นปฏิกิริยาของอลิเซียจากจุดที่เขายืนอยู่ แต่คาร์เตอร์ม
องเห็นได้ชัดเจนเหมือนในตอนกลางวัน ด้วยรอยยิ้
มที่เบิกบาน ในที่สุด
เขาก็สามารถวางก้อนหินที่ทับทรวงอกของเขาลงไปได้
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่คนส่วนใหญ่ในคฤหาสน์ของ
ตระกูลแอสคาร์ดกังวลว่าโรเอลจะยอมจํานนต่อสิ่
งล่อใจและขับไล่เด็ก
สาวผมสีเงิน ซึ่งเขาเติบโตขึ
้
นมาด้วยทิ้
งไป ตรงกันข้ามกับคาร์เตอร์คน
ที่เขากังวลไม่ใช่โรเอล แต่เป็นอลิเซีย
มีคนกล่าวไว้บ่อยครั้
งว่าพ่อจะเข้าใจลูกชายของตัวเองได้ดีที่สุด
แต่สุภาษิตนี้ใช้ไม่ได้กับตระกูลแอสคาร์ด เพราะโรเอลนั้
นหัวทึบในเรื่อง
ความรัก คาร์เตอร์จึงไม่สามารถให้คําแนะนําที่มีความหมายแก่โรเอล
ได้แม้เขาจะตระหนักดีถึงสถานการณ์ของอลิเซียก็ตาม
อลิเซียเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่คาร์
เตอร์เคยพบตลอดชีวิตของเขา เหนือกว่าจินตนาการที่บ้าคลั่
งที่สุดของ
เขา แม้แต่ฝ่าบาทนอร่า หนึ่งในตระกูลเซไซต์ที่มีความสามารถมาก
ที่สุดก็ยังเทียบเธอไม่ได้ยิ่
งไปกว่านั้
น เธอมีหน้าตาสะสวยตั
้
งแต่ยังเป็น
เด็ก และเธอยิ่
งสวยขึ
้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
พูดตามตรง โรเอลก็ไม่ได้บกพร่องในสองแง่มุมนี้เช่นกัน แต่บางที
อาจเป็นเพราะว่าพ่อมักจะชอบลูกสาวมากกว่า คาร์เตอร์จึงคิดว่าอ
ลิเซียโดดเด่นกว่ามาก อันที่จริงเขากําลังมีปัญหาในการทําความเข้าใจ
ว่าโรเอลที่ ‘ธรรมดาสุดๆ’ เอาชนะใจเด็กสาวมากมายได้อย่างไร
“ท่านพ่อ หนูสัญญาว่าความรู้สึกระหว่างหนูกับท่านพี่จะไม่มีวัน
เปลี่ยนแปลงค่ะ! เราจะทํางานอย่างหนักเพื่อตระกูลแอสคาร์ดด้วยกัน
ดังนั
้
นโปรดวางใจ!”
เพื่อตอบสนองต่อ ‘คําสารภาพ’ ของโรเอล อลิเซียได้รวบรวมความ
กล้าและพูดจาเหมือนภรรยาด้วยแก้มที่แดงก�า คําพูดเหล่านั
้
นคลาย
ความกังวลของคาร์เตอร์ขณะที่เขามองทั้
งสองคนด้วยรอยยิ้
มอัน
อบอุ่น
หลังจากพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาทั
้
งสามก็
ขึ
้นรถม้าไป และทหารก็พาพวกเขาไปยังคฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ด
เมื่อไปถึงที่หมาย คาร์เตอร์จึงปลดพวกเขาออกจากหน้าที่อย่าง
เป็นทางการ และทหารก็โห่ร้องเชียร์อย่างล้นหลาม พวกเขารีบแยก
ย้ายและดื่มด�ากับการหยุดพักที่รอคอยมานาน
…
เป็นเวลานานแล้วที่ช้อนส้อมสามคู่ไม่ได้ปรากฏอยู่บนโต๊ะอาหาร
ของคฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ด คาร์เตอร์นั่
งเก้าอี้หลักที่ท้ายโต๊ะ ขณะที่
โรเอลและอลิเซียนั่
งทางด้านขวา
ผ่านมานานแล้วเช่นกัน ที่การป้อนอาหารของพวกเขาหยุดลง แต่
จากนิสัยทั
้
งสองคนยังคงนั่
งติดกันแทนที่จะนั่
งตรงข้ามกัน โรเอลนั้
น
หนักแน่นเมื่อพูดถึงรายละเอียดชีวิตประจําวันในแต่ละวัน และอลิเซียก็
ไม่ได้คิดที่จะเตือนเขา
คนรับใช้คอยสนับสนุนความรู้สึกของพวกเขาเสมอ และคาร์เตอร์
ก็โล่งใจมากกว่าเมื่อเห็นว่าตําแหน่งของพวกเขาไม่เปลี่ยนไปจาก
เมื่อก่อน
ด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี้ทําให้บรรยากาศอบอุ่นขึ
้นก่อนที่
จะเสิร์ฟอาหารค�า
โรเอลสังเกตเห็นรอยยิ้
มอันสดใสรอบตัวเขา แต่เขาคิดว่ามันเป็น
เพียงปฏิกิริยาตามธรรมชาติที่เกิดขึ้
นจากบรรยากาศอันสนุกสนาน
ในทางกลับกัน อลิเซียก็เข้าใจความหมายเบื้องหลังรอยยิ้
มของคาร์
เตอร์ซึ่งทําให้ใบหน้าของเธอแดงขึ
้
นอีกครั
้
ง
เพื่อความโล่งใจของเธอ คาร์เตอร์ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้แต่หันไปหาโร
เอลเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ
“ข้าได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้างแล้วก็จริง แต่มันก็ยังพบว่า
มันยากที่จะเชื่อ จนกระทั่
งข้าได้รับจดหมายจากอาจารย์ของเจ้า ใน
ที่สุดข้าก็มั่
นใจแล้วว่าเจ้าชนะงานประลองศึกชิงถ้วย ข้าได้ยินมาว่างาน
ประลองในปีนี้เข้มข้นเป็นพิเศษใช่ไหม?”
“ใช่ครับ พวกเราต้องเจอกับนักเรียนที่ย้ายมาจากอาณาจักรแห่ง
ภาคีอัศวินเพนเดอร์ที่มาเข้าร่วมงานประลองด้วย ดังนั
้
นงานประลอง
เลยเข้มข้นขึ
้
นมาก”
“อาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์? คาดไม่ถึงจริงๆ”
ด้วยความประหลาดใจกับข่าวนี้มือของคาร์เตอร์พลันลูบกราม
ล่างอย่างครุ่นคิด จากนั
้
นเขาก็ยิมอย่างพึงพอใจให้โรเอล ้
และชมเชย
เด็กหนุ่มอย่างภาคภูมิใจ
“ไม่ว่าในสถานการณ์ใดเจ้าก็ทําได้ดีมาก เจ้าได้นําขวัญกําลังใจมา
สู่เขตการปกครองแอสคาร์ดและจักรวรรดิเซนต์เมซิทในช่วงเวลาพิเศษ
นี้ข้าภูมิใจในตัวเจ้า”
“ท่าพ่อก็ชมเกินไปครับ ผมก็แค่โชคดี”
“เจ้าไม่จําเป็นต้องถ่อมตัวตอนอยู่ที่บ้าน อย่าทําเหมือนว่าข้าเป็น
คนนอกสิ… ข้ารู้ดีว่าคนจากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ไม่ใช่คู่
ต่อสู้ที่สามารถเอาชนะได้ด้วยโชคอย่างเดียวหรอกนะ”
คาร์เตอร์กล่าวขณะที่เขาส่ายหัวอย่างโหยหา
โรเอลกะพริบตาปริบด้วยความประหลาดใจ
หา? นี่หมายความว่าพ่อของฉันมีความเกี่ยวข้องกับอาณาจักรแห่ง
ภาคีอัศวินเพนเดอร์งั
้
นเหรอ? แต่อาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์
พยายามรักษาระยะห่างจากฉันตามคําทํานายไม่ใช่เหรอ?
โรเอลผู้งุนงงมองไปที่อลิเซียที่ดูสับสนพอๆ กันกับสถานการณ์นี้
เขาจึงไตร่ตรองเรื่องนี้ก่อนจะถามด้วยน�าเสียงปกติ
“ท่านพ่อ ท่านรู้จักขุนนางของอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์
งั
้
นหรือครับ?”
“ใช่ ก็มีบ้าง”
“น่าแปลก… เท่าที่ผมรู้ท่านพ่อไม่เคยไปอาณาจักรแห่งภาคีอัศวิน
เพนเดอร์เลยไม่ใช่หรือครับ แล้วท่านพ่อไปรู้จักพวกเขาได้อย่างไรกัน?”
“ข้าไม่เคยไปเยือนอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์มาก่อนก็จริง
แต่ขุนนางจากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์สามารถเข้ามาที่นี่ได้
นี่”
คาร์เตอร์หัวเราะเบาๆ ก่อนอธิบายว่าเขารู้จักขุนนางจาก
อาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ได้อย่างไร
แต่ละอาณาจักรจะได้รับมอบหมายให้ดูแลชายแดนตะวันออกที่
แตกต่างกัน เงื่อนไขอาจแตกต่างกันอย่างมากเมื่อพรมแดนทาง
ตะวันออกแผ่ขยายออกไปในระยะไกล แต่ส่วนใหญ่อาศัยการทํา
สงครามป้อมปราการเพื่อรักษาพื้นที่ ป้อมปราการทาร์กของจักรวรรดิ
เซนต์เมซิทไม่เคยถูกพวกกลายพันธุ์บุกรุกตั้
งแต่มีการก่อสร้าง ทําให้
เป็นแบบอย่างสําหรับผู้อื่น
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อพวก
กลายพันธุ์ปรากฏตัว อาณาจักรส่วนใหญ่ก็ได้เริ่
มส่งกองทัพของพวก
เขาไปปกป้องชายแดนตะวันออก คาร์เตอร์ได้พบกับขุนนางของ
อาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ที่นั่
น
“เทคโนโลยีการสร้างป้อมปราการของอาณาจักรแห่งภาคีอัศวิน
เพนเดอร์นั้
นล้าหลังเราไปมาก แต่พวกเขาส่วนใหญ่มีความสามารถทาง
สายเลือดที่ทรงพลัง สิ่
งที่ทําให้ข้าประทับใจที่สุดก็คือนักรบคลั่
งที่มี
ร่างกายเหมือนสัตว์เดรัจฉาน ดาบคมของเขาสามารถฉีกผ่านคาถาเวท
ป้องกันได้อย่างง่ายดาย ทําให้เขาเป็นศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวสําหรับจอม
เวททั่
วไป โชคดีมากที่ข้าได้เตรียมรับมือเอาไว้แล้ว จนในที่สุดข้าก็
สามารถเอาชนะเขาได้อย่างหวุดหวิด”
“…”
เมื่อคาร์เตอร์นึกถึงการต่อสู้กันเองระหว่างกองทัพ สีหน้าของโร
เอลก็ดูแปลกพิลึก
สัตว์อสูรดุร้ายที่ฉีกคาถาเวทป้องกันได้อย่างง่ายดาย… นั่
นมัน
ตระกูลของเซลิน่าไม่ใช่เหรอ? พูดได้อีกอย่างก็คือ ตอนที่ฉันกําลังแกล้ง
เซลิน่าในศึกชิงถ้วย พ่อของฉันก็บดขยี้พ่อของเธอที่ชายแดนตะวันออก
สินะ
…น่าสงสารชะมัด
โรเอลรู้สึกผิดเมื่อคิดได้ว่าเขาทําให้เซลิน่าน�าตาไหลโดยไม่ตั้
งใจ
ขณะล้อเลียนเจ้าตัว อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเขาก็นึกถึงประเด็นที่สําคัญ
กว่า
“ท่านพ่อ ท่านผ่านเมืองหลวงศักดิ์
สิทธิมาหรือเปล่าครับ ์
? มีข่าว
เกี่ยวกับนอร่าบ้างไหม?”