ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 439: พ่อเห็นลูกสาวดีกว่า (1)
การกลับมาของคาร์เตอร์เป็นเรื่องใหญ่สําหรับโรเอลและตระกูล
แอสคาร์ด
กองทัพของจักรวรรดิเซนต์เมซิทได้ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ นับตั
้
งแต่
ที่พวกกลายพันธุ์ปรากฏตัวขึ้นที่ชายแดนตะวันออกเมื่อสองสามปีก่อน
ทําให้ภารกิจทางการทหารเพิมขึ ่ ้
น และมีการเกณฑ์ทหารหลายครั้
งใน
เมืองหลวงศักดิ์
สิทธิ
์
จนถึงตอนนี้
สิ่
งเหล่านี้จึงเพิ่
มภาระให้แก่หน่วยขนส่งเสบียงของกองทัพอย่าง
มาก ซึ่งส่งผลให้ผู้บัญชาการหน่วยอย่างคาร์เตอร์แอสคาร์ดมีภาระงาน
เพิ่
มขึ
้นตามไปด้วย
การมองข้ามความสําคัญของหน่วยขนส่งเสบียงเป็นเรื่องง่าย
เพียงคิดว่าพวกเขาเป็นแค่บุคลากรในแนวหลังที่ไม่สําคัญ แต่พวกเขาก็
มีบทบาทสําคัญมากๆ ในการตัดสินผลลัพธ์ของสงคราม กองทัพ
สามารถปกป้องป้อมปราการได้เป็นเดือนๆ แม้ว่าศัตรูจะมีจํานวน
มากกว่า แต่ทันทีที่ห่วงโซ่เสบียงของเหล่าทหารถูกตัดขาด กองทัพก็จะ
ล่มสลายพ่ายแพ้ลงภายในเวลาไม่กี่วัน
การสู้รบในสงครามทําให้พละกําลังของคนคนหนึ่งหมดลงอย่าง
รวดเร็ว และในทวีปเซียมีทรัพยากรเพิมเติมที่เรียกว่า ่ ‘พลังเวท’ อยู่ด้วย
ซึ่งหากไม่ได้รับการเติมเต็ม กองทัพจะอ่อนแอลงอย่างมากหลังจากการ
ต่อสู้มาทั
้
งวัน ที่แย่ไปกว่านั้
น ทหารก็อาจเสียขวัญกําลังใจ
ขวัญกําลังใจเป็นสิ่
งที่มองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้แต่ผู้บัญชาการ
ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักในเรื่องความสามารถในการปลุก
เจตจํานงการต่อสู้ของทหาร มีหลายวิธีในการสร้างขวัญกําลังใจ ไม่ว่า
จะเป็นการปลูกฝังความภาคภูมิใจผ่านการชนะการต่อสู้หลายครั้
ง หรือ
หล่อเลี้ยงความภักดีผ่านความสนิทสนมกันหลายปีแม้แต่การเสนอ
รางวัลก็สามารถจูงใจทหารได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงการรักษาขวัญกําลังใจ เสบียงทางการ
ทหารก็มีความจําเป็นเช่นกัน
ขวัญกําลังใจของกองทัพจะสูงได้อย่างไรถ้าทุกคนอดอยาก
กองทัพที่มีระเบียบวินัยสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยเจตจํานงในการ
ต่อสู้และความดื้อรั้
น แต่ในกรณีที่แย่กว่านั้
น มันอาจนําไปสู่การละทิ้
ง
หน้าที่หรือการกบฏได้เลย
ตัวอย่างในสงครามจากทั้
งสองโลกที่โรเอลรับรู้มา ไม่มีกองทัพใดที่
สามารถรักษาขวัญกําลังใจของตัวเองไว้ได้หากปราศจากการเติม
เสบียง แม้แต่ในสงครามเพื่ออิสรภาพของเมืองโรซ่า ทหารที่อดอยากก็
แทบจะไม่สามารถยืนหยัดได้จนบรรพบุรุษของตระกูลโซโรฟยาต้อง
ตัดแขนตัวเองเพื่อให้พวกเขาได้มีกิน
ในฐานะผู้นําของตระกูลทหาร คาร์เตอร์เองก็เข้าใจถึงความสําคัญ
ของการขนส่งเสบียง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่า ทําไมเขาจึงจริงจังกับงานของ
ตัวเองมาก ชายหนุ่มมักจะติดตามขบวนรถเพื่อดูแลการขนส่งเสบียง
เป็นการส่วนตัว ปริมาณงานของเขานั
้
นสูงกว่าผู้บัญชาการแนวหน้า
บางคนเสียด้วยซ�า
นั่
นคือเหตุผลที่คาร์เตอร์ไม่อยู่บ้านบ่อยครั้
งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เมื่อเหล่าคนรับใช้ทราบเรื่องการกลับมาของคาร์เตอร์บรรยากาศ
สนุกสนานครึกครื้นก็ได้แพร่ไปทั่
วคฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ด การที่
เจ้านายจากไปเป็นเวลานานทําให้คฤหาสน์นั้
นเย็นชาและว่างเปล่า
และนั่
นทําให้พวกเขาค่อนข้างไม่สบายใจ แม้แต่พ่อครัวก็ตกงานมา
เกือบหกเดือนแล้ว
เช่นเดียวกับสมาชิกในครอบครัวของบุคลากรทางทหาร ความคิด
ที่จะได้เจอพ่อของตัวเองอีกครั้
ง ทําให้หัวใจของโรเอลเต็มไปด้วย
ความสุข แม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องของนอร่าก็ตาม
ภายใต้คําสั่
งของแอนนา คฤหาสน์ของตระกูลแอสคาร์ดจึงได้รับ
การทําความสะอาดและบํารุงรักษาอย่างรวดเร็ว เฟอร์นิเจอร์ราวจับ
และวัตถุที่มีแนวโน้มจะเป็นตําหนิง่ายทั้
งหมดได้รับการตรวจสอบและ
ซ่อมแซม โบราณวัตถุถูกนําออกจากห้องเก็บของและวางไว้ตาม
ทางเดิน พรมแดงสดใสถูกคลี่ออกไปจนถึงท้องถนน
โรเอลเริ่
มวางแผนงานเฉลิมฉลองให้กับเขตการปกครองแอสคาร์ด
อีกทั
้
งเจ้าหน้าที่ธุรการหลายคนยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าของคาร์
เตอร์ดังนั
้
นพวกเขาจึงพร้อมสนับสนุนงานเฉลิมฉลอง
แม้ว่าคาร์เตอร์จะไม่มีทักษะในการบริหารจัดการเขตการปกครอง
เท่ากับโรเอล แต่ชายหนุ่มก็มีวิธีการช่วยเหลือผู้คนในแบบของเขา คาร์
เตอร์ได้สร้างเขตการปกครองแอสคาร์ดในฐานะฐานทัพทางการทหาร
รวมถึงยังทํางานอย่างหนักเพื่อรักษาระดับความปลอดภัยและความ
มั่
นคงในระดับสูง ซึ่งทําให้ผู้คนสามารถอยู่อย่างสงบสุข เมื่อทราบเช่นนี้
ผู้คนต่างก็เคารพคาร์เตอร์เป็นอย่างมากเช่นกัน
ยิ่
งไปกว่านั้
น คาร์เตอร์ไม่ได้กลับมาเพียงลําพัง เขาได้นําทหาร
มากกว่าหนึ่งพันคนจากเขตการปกครองแอสคาร์ดกลับมาด้วย เพื่อที่
เหล่าทหารจะได้กลับมาพบกับคนที่พวกเขารัก ดุลพินิจของคาร์เตอร์
ทําให้เจ้าตัวได้รับความชื่นชมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่
งจาก
สมาชิกในครอบครัวของบรรดาทหารเหล่านั
้
น
สามวันหลังจากการกลับมาของโรเอล ในที่สุดคาร์เตอร์ก็มาถึงเขต
การปกครองแอสคาร์ดพร้อมกับหน่วยภาคีอัศวินลําดับที่สามของเขต
การปกครองแอสคาร์ด ตามปกติแล้วเมืองในยามเย็นมักจะค่อยๆ เงียบ
ลง ทว่าวันนี้ถนนหนทางกลับมีชีวิตชีวาขึ้
นด้วยท่วงทํานองแห่งชัยชนะ
การร้องเพลง และการเต้นรํา พลเรือนรออยู่ตามถนนด้วยรอยยิ้
ม รอ
คอยการกลับมาของวีรบุรุษ
เมื่อภาคีอัศวินที่สามเข้าสู่ประตูเมือง ฝูงชนก็ส่งเสียงเชียร์อย่าง
ตื่นเต้น ภรรยาตะโกนชื่อสามีขณะที่ลูกๆ โบกมือให้บิดา ฝูงชนยังคง
หนาแน่นมากขึ
้นเรื่อยๆ ในเมือง จนถึงจัตุรัสกลางเมืองที่โรเอลและอลิ
เซียรออยู่
โรเอลสวมชุดสูทคมกริบ และเขายืนตัวตรงด้วยรอยยิ้
มที่อ่อนโยน
ขณะรอการมาถึงของพ่อ ในทางกลับกัน อลิเซียสวมชุดสีดําตัดกับผิว
ขาวของเธออย่างสวยงาม
อนุสัญญากําหนดว่าพี่น้องควรยืนเคียงข้างกัน แต่อลิเซียยืนกราน
ที่จะยืนในสถานที่ที่มักสงวนไว้สําหรับภรรยาของเขา โรเอลพยายาม
เกลี้ยกล่อมเธอให้ล้มเลิกความคิดนั้
น แต่เธอก็ดื้อรั้
นเหลือเกิน
นี่ไม่ใช่ครั้
งแรกที่เกิดเรื่องแบบนั้
นขึ
้
น และโรเอลคิดว่าเหตุผลที่อยู่
เบื้องหลังเป็นเพราะอลิเซียรู้สึกว่าเธอมีฐานะที่ต�ากว่าในตระกูลแอส
คาร์ดในฐานะลูกบุญธรรม และกังวลว่าความคิดนี้อาจนําไปสู่ปัญหา
การเห็นคุณค่าในตัวเอง เขาถึงกับพยายามปรึกษาเธอในสมัยที่พวกเขา
ยังเด็ก แต่เธอก็ไม่ยอมเปลี่ยนใจไม่ว่าเขาพูดอะไร และในที่สุดเขาก็ชิน
กับมันไปเอง
แน่นอนว่าอลิเซียมีความคิดอื่นอยู่ในใจ แต่เธอก็เลือกที่จะไม่บอก
โรเอล …อย่างน้อยๆ ก็ในตอนนี้
ตามแบบฉบับของขบวนพาเหรดทหาร ภาคีอัศวินที่สามเดินข้าม
ถนนไม่ช้าไม่เร็วเพื่ออวดท่าทีโรเอลรู้ว่างานนี้จะต้องใช้เวลาพอสมควร
ดังนั
้
นเขาจึงอดทนยืนรออย่างสง่างาม
เป็นเวลาครึ่งชั่
วโมง กว่าภาคีอัศวินจะมาถึงจัตุรัสกลางเมืองได้ใน
ที่สุด
ทหารที่อยู่แถวหน้าของขบวนแยกออกเป็นสองรูปแบบอย่าง
รวดเร็วตามทั้
งสองด้านของจัตุรัสกลางเมือง ก่อนที่คาร์เตอร์จะเดิน
ออกมาจากรถม้าและแสดงตัว
แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่รูปลักษณ์ของคาร์เตอร์นั้
นแทบ
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม นิสัยของเขานั
้
นเฉียบคมกว่า
เมื่อก่อนมาก อาจเป็นเพราะว่าชายหนุ่มมีส่วนร่วมในสงคราม ทําให้เขา
มีบรรยากาศน่าเกรงขามขึ
้
นมา
อย่างไรก็ตาม คนที่ลงจากรถไม่ใช่ผู้บัญชาการหน่วยขนส่งเสบียง
ของจักรวรรดิเซนต์เมซิท แต่เป็นพ่อที่เพิ่
งกลับบ้านมาหาลูกๆ ทั
้
งสอง
คน บรรยากาศที่น่ากลัวของคาร์เตอร์หายไปในทันทีการแสดงออกของ
เขาจากแข็งก็ดูจะอ่อนลงด้วยรอยยิ้
มของคนเป็นพ่อ
โรเอลและอลิเซียรุดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและทักทายบิดาของ
ตัวเองด้วยความเคารพ
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับท่านพ่อ”
“พวกเราดีใจมากที่ท่านกลับมาค่ะ ท่านพ่อ”
“ข้ากลับมาแล้ว ขอโทษที่ให้รอนะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ท่านพ่อ มันเป็นหน้าที่ของเราในฐานะลูกของท่านอยู่แล้ว ที่
จะต้องรอต้อนรับในตอนที่ท่านกลับมาจากสนามรบค่ะ”
โรเอลและอลิเซียโค้งคํานับอย่างสง่างาม แสดงถึงความมีเกียรติ
ของพวกเขา การเคลื่อนไหวของพวกเขางดงามมากจนผู้ชมอดไม่ได้ที่
จะสูดลมหายใจด้วยความตกตะลึง ซึ่งคาร์เตอร์เองก็พยักหน้าด้วย
รอยยิ
้
มเห็นด้วย
“พวกเจ้าสองคนเติบโตขึ
้
นมาก ถึงความสัมพันธ์ของพวกเจ้าดูจะ
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยก็เถอะ”
“ตามปกติครับ อลิเซียช่วยผมไว้มากในช่วงที่ท่านพ่อไม่อยู่ เธอจะ
เป็นสมาชิกครอบครัวที่ผมรักเสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้
น”
“!”