ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 427: ช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ (2)
อาการบาดเจ็บของโรเอลส่วนใหญ่หายดีแล้วหลังการรักษาฉุกเฉิน แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเติมเต็มเลือดที่สูญเสียไปของเขา รวมถึงทําให้ พลังเวทที่หมดลงถูกเติมเต็มในทันที แอนโตนิโอสังเกตเห็นผิวซีดๆ ของ โรเอลจึงร่ายคาถาเวทรักษาสามคาถาใส่เขา ซึ่งก็ช่วยได้เล็กน้อย
หลังจากนั้น แอนโตนิโอก็หันเข้าหาฝูงชนและเริ่มกล่าวสุนทรพจน์
“งานประลองศึกชิงถ้วย เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นสําหรับเยาวชนใน ทวีปเซียของเรา เป็นเวทีสําหรับเยาวชนในการแสดงความสามารถและ พิสูจน์คุณค่าของตัวเอง ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เห็นงานประลองที่น่า ตื่นเต้นนี้พร้อมกับพวกเจ้าที่เหลือ”
“ข้าแน่ใจว่าพวกเจ้าส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับข้า เมื่อข้าบอกว่างาน ประลองนี้แตกต่างจากปีที่แล้ว เนื่องจากการพิจารณาหลายประการ คณะกรรมการจัดงานจึงตัดสินใจลดการจํากัดอายุและอนุญาตให้ นักเรียนชั้นปีที่ 1 มีส่วนร่วม เรากังวลอย่างมากในตอนแรกที่ตัดสินใจ เช่นนี้ แต่ตอนนี้ข้าสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่าพวกเราคิดถูกแล้ว”
“การผ่อนผันข้อจํากัดได้ยกระดับมาตรฐานของงานประลอง ทํา ให้เกิดจุดสูงสุดใหม่สําหรับศึกชิงถ้วย วันนี้ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้
มอบถ้วยรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศงานประลอง ศึกชิงถ้วยที่อายุน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์”
“ขอประกาศว่า แชมป์งานประลองศึกชิงถ้วย ครั้งที่ 56 นี้ คือ… โร เอล แอสคาร์ด!”
“โอ้วววว!”
ในที่สุดสนามประลองที่เงียบงันก็กระหึ่มดังด้วยเสียงเชียร์สนั่น ทันทีที่แอนโตนิโอกล่าวจบ พวกที่มาจากฝ่ายกุหลาบน�าเงินแทบจะอด กลั้นความตื่นเต้นไว้ไม่ได้ แม้แต่คริสเองก็ลุกขึ้นยืน
ต่อหน้าต่อตาทุกคน แอนโตนิโอหยิบถ้วยรางวัลทองคําที่มีอัญมณี ฝังอยู่ มันส่องประกายระยิบระยับภายใต้แสงแดด มันไม่ใช่อุปกรณ์เวท แต่แทบจะไม่มีอะไรในโลกที่สามารถแข่งขันกับมันในแง่ของมูลค่าได้
“เจ้าได้แสดงให้เราเห็นถึงความเฉลียวฉลาด ความกล้าหาญ และ ความดื้อรั้นอันแน่วแน่ในการต่อสู้ นี่คือคุณสมบัติที่พวกเราต้องการ นําเสนอผ่านงานประลองศึกชิงถ้วย และเป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเรา ยังคงจัดงานประลองนี้ต่อไป รับมันไป นี่เป็นของเจ้า”
แอนโตนิโอกล่าวขณะที่เขามอบถ้วยรางวัลในมือให้กับโรเอลด้วย รอยยิ้ม
ขณะเดียวกันแขกผู้มีเกียรติจากจักรวรรดิเซนต์เมซิท จักรวรรดิออ สทีน สมาคมพ่อค้าโรซ่า อาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ และ อาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนลก็เดินขึ้นไปบนเวที พวกเขามอบ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันสูงส่งกิตติมศักดิ์จากอาณาจักรของตนให้กับ โรเอล
มันเป็นประเพณีที่ทั้งห้าอาณาจักรจะมอบตําแหน่งให้ผู้ชนะเลิศ งานประลองศึกชิงถ้วยเป็นของขวัญเฉลิมฉลอง แม้จะเป็นเพียง ตําแหน่งบารอนกิตติมศักดิ์ แต่ก็เป็นตัวแทนการยอมรับจากอาณาจักร เหล่านั้น
ด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันสูงส่งจากห้าอาณาจักรที่ติดอยู่ที่ หน้าอก โรเอลก้าวไปข้างหน้าในขณะที่แอนโตนิโอและคนอื่นๆ ถอย กลับ บนเวทีสูงสุดของสนามประลอง โรเอลมองดูฝูงชนและยิ้มให้กับ ใบหน้าที่คุ้นเคยตรงหน้า
จากนั้นเด็กหนุ่มก็ยกถ้วยรางวัลขึ้นสูง ทําให้เกิดเสียงอึกทึกอื้ออึง จากฝูงชนในทันที ผู้คนนับหมื่นเริ่มกู่ร้องชื่อโรเอลพร้อมกัน
“โรเอล! โรเอล! โรเอล!”
คนถูกเรียกชื่อรู้สึกหัวใจเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นตื้นตัน เขาโบก มือให้กับฝูงชนเพื่อตอบสนองต่อเสียงเชียร์
ชาร์ล็อต ลิเลียน และเพื่อนสนิทของโรเอล ทุกคนมองมาที่เขาด้วย รอยยิ้มที่จริงใจ
ผู้ท้าทายหลายร้อยคนเงยหน้าขึ้นและปรบมือให้เขา เมื่อดูการ ต่อสู้ด้วยตัวเองแล้ว พวกเขาก็รู้ว่าโรเอลได้พิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรกับ ตําแหน่งแชมป์ และพวกเขาภูมิใจที่ได้ต่อสู้ในงานประลองเดียวกับเด็ก อัจฉริยะคนนี้
นี่เป็นวันที่โรเอล แอสคาร์ดเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งทวีปเซีย การขึ้นสู่ ตําแหน่งที่โดดเด่นของเขาเป็นจุดเริ่มต้นของคนรุ่นใหม่
…
พิธีมอบรางวัลสิ้นสุดลง และในไม่ช้าก็ถึงเวลาที่งานเฉลิมฉลองก็ เริ่มต้นขึ้น ฝ่ายบริหารของเมืองเลนสเตอร์ ประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าจะจัดงานเฉลิมฉลองเป็นเวลาสามวัน เพื่อรําลึกถึงงานประลองครั้ง ประวัติศาสตร์นี้
คนส่วนใหญ่ยังคงมีความตื่นเต้นตกค้างจากงานประลอง เมื่อพวก เขาไปที่ร้านอาหารและร้านเหล้า ฝ่ายบริหารของเลนสเตอร์ใช้โอกาสนี้ เพื่อจัดโปรโมชั่นทุกประเภท ซึ่งทําให้บรรยากาศคึกคักยิ่งขึ้น สามารถ ได้ยินเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะได้ทั่วทั้งเมือง และถนนยังคงสว่าง ไสวแม้ในยามดึก
หลังจากพิธีมอบรางวัล ผลข้างเคียงของโรเอลก็เริ่มเกิดขึ้นทีละ อย่าง เขาปฏิเสธคําเชิญนับไม่ถ้วนที่เข้ามาและยืนกรานที่จะมุ่งหน้า กลับไปที่คฤหาสน์สีกรมท่า เมื่อตัวถึงเตียงก็ทรุดลงนอนแผ่อย่าง รวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้การเฉลิมฉลองของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าจึงถูก เลื่อนออกไป
คฤหาสน์สีกรมท่า ค่อนข้างคึกคักหลังจากนั้นไม่นาน ตัวแทน หลายคนจากแผนก ฝ่าย และสมาคมนักวิชาการต่างทยอยกันเข้ามา ถ้าไม่ใช่เพราะว่าโรเอลเป็นขุนนางชั้นสูงของจักรวรรดิเซนต์เมซิท อาณาจักรอื่นคงส่งทูตมาหาเขาแล้ว
มันวุ่นวายมาก
เนื่องจากสภาพที่ย�าแย่ของโรเอล คฤหาสน์สีกรมท่าจึงห้ามแขก ทุกคนเข้าพบเจ้าตัวโดยเด็ดขาด พอลและเกอรัลผลัดกันดูแลคฤหาสน์ กับสมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ โดยหยุดนักเรียนกว่ายี่สิบคนจากการแทรกซึม เข้าไปในคฤหาสน์
มีเพียงสองคนที่พวกเขาไม่อาจปฏิเสธได้ นั่นก็อลิเซียและชาร์ล็อต
เมื่อดูการต่อสู้แล้วทั้งสองคนก็รู้ว่าตอนนี้โรเอลอยู่ในสถานะเช่นไร ช่างน่าประทับใจไม่แพ้ทีมแพทย์ของศึกชิงถ้วย พวกเธอสามารถรักษา ผลข้างเคียงที่เกิดจากศิลามงกุฎและพรของเปตราได้
นี่เป็นเหตุผลที่โรเอลยืนยันว่าจะกลับมาที่คฤหาสน์สีกรมท่า
เด็กสาวทั้งสองเริ่มทําการรักษาฉุกเฉินอย่างฉับไว การเติมพลัง ชีวิตของอลิเซียทําให้สภาพของโรเอลดีขึ้น ในขณะที่วิญญาณสีทอง ของชาร์ล็อตช่วยแก้อาการหนาวสั่น
โชคดีที่การรักษามาถึงทันท่วงที แต่ถึงกระนั้น โรเอลก็ยังอยู่ใน สภาพที่อ่อนแอเนื่องจากเสียเลือดมากเกินไปและพลังเวทที่หมดเกลี้ยง แม้แต่คริสผู้เคร่งครัดก็ยังตกใจเมื่อเห็นสภาพที่อีกฝ่ายเป็นอยู่และ ยืนยันว่าเขาจะต้องนอนบนเตียงไปอีกอย่างน้อยๆ ก็สองวัน
โรเอลไม่ได้ใส่ใจกับสภาพของตัวเองมากนัก เนื่องจากนี่ไม่ใช่ครั้ง แรกที่เขาอยู่ในสภาพเช่นนี้ แต่แรงกดดันอย่างมหาศาลจากคนรอบข้าง ก็ทําให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องนอนบนเตียงอย่างเชื่อฟัง
คืนนั้น ลิเลียนแอบมาเยี่ยมโรเอล เด็กสาวเข้าห้องนอนของเขาได้ สําเร็จโดยไม่มีปัญหาใดๆ ซึ่งต้องขอบคุณความช่วยเหลือของพอล
คริสลากอลิเซียไปกับเธอเพื่อให้แน่ใจว่าโรเอลจะได้รับการ พักผ่อนที่ดี เธอรู้เพียงเล็กน้อยว่านักเรียนคนหนึ่งของเธอจะใช้ ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อแอบมาเยี่ยมเขา
ลิเลียนไม่ได้อยู่นานมากเท่าไหร่เพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของ โรเอล ในช่วงเวลานี้เธอพยายามช่วยอีกฝ่ายผ่านการสั่นพ้องทาง สายเลือดของพวกเขา ซึ่งก็ได้ผลที่ค่อนข้างดี
โรเอลคิดว่ามันตลกดีที่แพทย์หญิงสามคนมาเยี่ยมบ้านภายใน เวลาเพียงครึ่งวัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าฝีมือของพวกเธอนั้นยอดเยี่ยม จริงๆ เช้าวันที่สองอาการเขาดีขึ้นมาก บางทีอาจจะดีกว่าวิลเลียมเลย ด้วยซ�า
ตามแหล่งข่าวของเกอรัล วิลเลียมเองก็ทรุดตัวลงเช่นกัน เมื่อเธอ กลับไปที่คฤหาสน์แห่งเกราะ ทีมแพทย์เฉพาะทางจากอาณาจักรแห่ง ภาคีอัศวินเพนเดอร์กําลังดําเนินการรักษาเธออย่างครอบคลุม
เธอไม่ได้รับบาดเจ็บมากนักจากการต่อสู้ แต่เธอต้องทนทุกข์กับ ผลข้างเคียงจากคาถาเวทอันทรงพลังที่เคยใช้ในตอนนั้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการแปลงร่างเป็นมังกร
ในแง่หนึ่ง ทั้งสองคนก็อยู่ในสภาพที่ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไร
ขณะที่โรเอลและวิลเลียมกําลังพักผ่อน ทั้งคฤหาสน์สีกรมท่าและ คฤหาสน์แห่งเกราะก็ถูกปิดผนึก ดังนั้นจึงไม่มีการสื่อสารใดๆ ระหว่าง กัน เพียงสองวันต่อมาจดหมายของเทเรซาก็ส่งมาหาโรเอลผ่านทาง เกอรัล
ในจดหมาย เทเรซากล่าวว่าวิลเลียมฟื้ นตัวเต็มที่แล้วและสามารถ เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองในคืนสุดท้ายได้ ซึ่งสถาบันการศึกษาเซนต์เฟร ย่า กําลังจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะในศึกชิงถ้วย เด็กสาวเดินไปถามถึง อาการของโรเอลและบอกความปรารถนาดีของเธอ
เด็กหนุ่มถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากอ่านจดหมาย อันที่ จริงเขาค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับวิลเลียมหลังจากการสู้รบของพวกเขา สัมผัสแห่งธารน�าแข็งเป็นคาถาที่มีประสิทธิภาพมากจนไม่มีใครรอด ชีวิตจากการแช่แข็งได้มาจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่เขาแน่ใจว่าจะดึงพลัง เวทน�าแข็งทุกหยดสุดท้ายออกทันทีที่การต่อสู้สิ้นสุดลง แต่เขาก็ไม่ แน่ใจว่ามันจะมีผลข้างเคียงหรือไม่
ด้วยใจที่สงบ โรเอลจึงรีบเขียนจดหมายตอบกลับโดยระบุว่าเขา เองก็หายดีแล้ว ขณะที่เขากําลังเขียนจดหมาย ก็มีคําถามสองสาม คําถามผุดขึ้นในหัว
วิลเลียมน่าจะเข้าใจว่าคําทํานายที่สามถูกลบล้างแล้ว ฉะนั้นตอนนี้ เธอก็น่าจะสูญเสียเป้าหมายหลักไป แผนการต่อไปของเธอจะเป็น
อย่างไร? ไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องอยู่ที่สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าอีก ต่อไปแล้ว …แบบนี้เธอจะกลับไปที่อาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ เลยรึเปล่า ?
ขณะที่โรเอลกําลังครุ่นคิด เขาก็ได้ยินเสียง ‘กริ๊ง’ อันคุ้นเคยจาก ระบบ