ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 422: ผู้กําหนดชะตากรรม (1)
ถนนและตรอกซอกซอยของเลนสเตอร์ไม่เคยร้างคนเท่านี้มาก่อน
ตั๋วสําหรับสนามแข่งหมดภายในไม่กี่วินาทีทําให้ผู้คนต้องซื้อตั๋วที่
จุดออกอากาศอื่นแทน โรงเดิมพันและโรงเหล้าแน่นยิงกว่าปลาซาร์ดีน ่
ในกระป๋องเสียอีก
ในมวลอากาศสามารถสัมผัสได้ถึงไอแห่งความตึงเครียด ทุกคนดู
เหมือนกําลังกลั้นหายใจในขณะที่รอรอบชิงชนะเลิศเริ่
มต้นอย่างใจจด
ใจจ่อ
ดนตรีบรรเลงที่สนามแข่งของเลนสเตอร์ให้การต้อนรับดาวเด่น
ของวันนี้ด้วยการประโคมอย่างยิ่งใหญ่ ราชรถสี่คันเข้ามาในสนาม
พร้อมกับเสียงเพลงอันไพเราะและเสียงโห่ร้องจากผู้ชม
เซลิน่า เคิร์ต บริตตานี่ จูเลียน่า และคนอื่นๆ เฝ้าดูราชรถด้วย
ท่าทางเคร่งเครียดจากที่นั่งของผู้เข้าแข่งขัน ในส่วนของคณาจารย์อลิ
เซียกําหมัดแน่นด้วยความเป็นกังวล ส่วนคริสนั้นก็อดที่จะสูบยาสูบ
ไม่ได้
พอลกับเกอรัลนั่งท่ามกลางสมาชิกของฝ่ายกุหลาบน�าเงิน ขณะที่
พวกเขานําสมาชิกด้วยเสียงเชียร์ดังก้อง ถัดจากพวกเขา ชาร์ล็อตและ
สมาชิกของฝ่ายกุหลาบแดงตัดสินใจที่จะไม่ทํานายผลการประลอง แต่
รอชมมันด้วยตาตัวเอง
เริ่มด้วยการต่อสู้ของลิเลียนและเทเรซา
คราวนี้ทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีโชค พื้นที่ที่เลือกเป็นพื้นที่ป่าธรรมดา
และผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่ฝูงชนคาดหวัง
ด้วยพื้นที่ในการเคลื่อนย้ายที่มากขึ้
น ลิเลียนจึงสามารถปรับใช้
กองทัพของตัวเองในสนามอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการตอบโต้
เทเรซาจึงเคลื่อนที่ไปรอบๆ สนามด้วยชั้นเชิงที่แยบยล ร่ายเวทอันน่า
สะพรึงกลัวเป็นระยะๆ
เพียงแต่ว่ากองทัพของลิเลียนนั้นมีมากเกินกว่าจะรับมือได้ด้วยตัว
คนเดียว ในขณะที่เทเรซากําลังยุ่งอยู่กับการจัดกลุ่มอัศวิน หน่วยรบ
จอมเวทก็ร่ายคาถาเวทเป็นวงกว้างยุติการต่อสู้ด้วยพลังทําลายล้างอันมหาศาล
ฝูงชนอาจคาดการณ์ถึงผลลัพธ์ได้แต่การต่อสู้ก็ยังคงตื่นเต้นเป็นที่
น่าจับตามอง มันกระตุ้นความสนใจของทุกคน และนักสู้ทั้งสองก็ได้รับ
เสียงปรบมือดังก้องจากผู้ชม เมื่อพวกเขาถูกเคลื่อนย้ายออกจาก
สนามแข่ง
ผู้ชมชาวออสทีนรู้สึกเบิกบานใจที่ได้ชนะอาณาจักรแห่งภาคีอัศวิน
เพนเดอร์หลังจากความพ่ายแพ้อันน่าสะพรึงกลัวครั้งก่อน และฝูงชนก็
ตั้งหน้าตั้งตารอการต่อสู้ครั้งต่อไป
ท่ามกลางสายตาของทุกคน เด็กหนุ่มผมดําและอัศวินเกราะเต็ม
ตัวได้เดินขึ้นไปบนสนามเป็นที่เรียบร้อย เสียงเชียร์ดังสนั่นจากกอง
เชียร์ของทั้งสองฝ่ายในทันทีเอาชนะแม้กระทั่งเสียงของผู้ตัดสิน ผู้
ตัดสินไม่มีทางเลือกนอกจากโบกมือเพื่อพยายามทําให้ฝูงชนสงบลง
โรเอลดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับความโกลาหลครั้งใหญ่
รอบตัวเขา เขาสบตากับวิลเลียมและพูดคําที่ทําให้อีกฝ่ายประหลาดใจ
“เลิกจองหอง แล้วทุ่มสุดตัวซะ นี่คืองานประลองครั้งเดียวในชีวิต
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราไม่ควรจะทําอะไรให้เสียใจในภายหลัง”
หลังจากพูดคํานั้นแล้ว โรเอลก็หันมองไปทางอัฒจันทร์ผู้ชม เขาไม่
รู้ว่าการสนทนาของเขากับเทเรซาทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน
ความคิดของวิลเลียมหรือไม่ แต่ตอนนี้พวกเขายืนอยู่ที่เวทีแห่งการ
ประลองอันทรงเกียรติด้วยสายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้องมายังพวกตน มัน
เป็นเพียงมารยาทพื้นฐานสําหรับคนทั้งคู่ที่จะนําทุกสิงทุกอย่างที่มี ่
ออกมา ไม่ว่าจะเป็นผู้สนับสนุนหรือคู่ต่อสู้
วิลเลียมเองก็เห็นด้วยเช่นกัน
“…ฉันจะทุ่มสุดตัว”
“งั้นเรามาตัดสินทุกอย่างในการต่อสู้ครั้งนี้กันเถอะ”
โรเอลประกาศด้วยความไม่ย่อท้อ
จิตวิญญาณการต่อสู้ของวิลเลียมเองก็ลุกโชนเช่นกัน
เมื่อผู้ชมสงบลงในที่สุด คณะกรรมการจัดงานก็เริ่มประกาศกฎ
กติกาอีกครั้ง
รอบชิงชนะเลิศของศึกชิงถ้วยเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดในงาน
ประลองมาโดยตลอด จึงไม่แปลกที่จะมีการบาดเจ็บขึ้นมา เพื่อเป็นการ
ป้องกันไว้ก่อน คณะกรรมการจัดงานได้ตัดสินใจเพิ่มขอบเขตขีดจํากัด
อุปกรณ์เวททดแทนจากห้าเป็นสิบเท่า
หลังจากอธิบายอย่างรวดเร็ว ลูกบอลคริสตัลที่วางอยู่ตรงกลาง
สนามก็สว่างขึ้
นอีกครั้ง ผู้ชมนับไม่ถ้วนพบว่าตัวเองต่างกลั้นหายใจด้วย
ความลุ้นระทึก
คราวนี้ไม่ใช่ผู้ตัดสิน แต่เป็นชายชราที่ทุกคนเคารพนับถือมารับ
หน้าที่เลือกสนามประลอง แอนโตนิโอเดินลงมาจากที่นั่งวีไอพีพร้อม
เสื้อคลุม และก้าวเข้าสู่สนาม เขายิ้มให้โรเอลและวิลเลียมก่อนจะวางมือบนลูกบอลคริสตัล
“ข้าจะทําการสุ่มเลือกสนามประลองด้วยตัวเอง”
เขากล่าว
ทิวทัศน์ในลูกบอลคริสตัลฉายออกไปด้านนอกและเปลี่ยนไปอย่าง
รวดเร็ว ในที่สุดมันก็หยุดที่ภูมิประเทศ ภูเขาสีแดงเข้ม
“ทุ่งที่ 32 ภูเขาเกรียม”
“โอ้ว!!!”
ผู้ชมส่วนใหญ่ต่างโห่ร้องด้วยความยินดีที่ภูมิประเทศของสนาม
ประลองไม่มีจุดเสียเปรียบอะไรที่ใหญ่โตสําหรับฝ่ายตนโรเอลเริ่มนึกถึงลักษณะทางกายภาพของภูเขาเกรียม
ภูเขาเกรียมขึ้นชื่อเรื่องสภาพอากาศร้อนและดินสีแดง ที่ดินแถบนี้
เป็นหมันปลูกอะไรไม่ขึ้น ซึ่งการขาดความเขียวขจีนี้ย่อมหมายความว่า
สถานที่สําหรับหลบซ่อนมีจํากัด คล้ายกันกับสนามระหว่างโรเอล
กับเคิร์ต …นั่นก็คือมีที่ว่างเพียงน้อยนิดให้ใช้ซุ่มโจมตี
มีก้อนหินกระจัดกระจายอยู่เป็นระยะๆ ทั่วบริเวณที่สามารถใช้
เป็นที่กําบังได้แต่แน่นอนว่าก้อนหินเหล่านั้นไม่สามารถหวังที่จะ
ป้องกันพลังอันแหลมคมจากหัวใจแห่งดาบของวิลเลียมได้การ
พยายามซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินเหล่านั้นรังแต่จะขัดขวางการมองเห็น
ของเขาเอง ทําให้เขาจัดการกับการโจมตีของวิลเลียมได้ยากขึ้น
ที่น่าแปลกก็คือ ตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดคือการเผชิญหน้ากันซึ่งๆ
หน้า
โรเอลหรี่ตาลงขณะที่ทั้งเขาและคู่ต่อสู้ถูกส่งไปยังสนามประลอง
…
สนามประลองนั้นแดงเดือดจนดูเหมือนมีเพลิงกําลังลุกไหม้ซึ่ง
เหมาะที่จะเป็นสนามของพวกเขาอย่างยิ่งเพราะสิ่งนั้นได้สะท้อน
ความรู้สึกในใจของทั้งสองแทนแล้ว
เจตจํานงการต่อสู้ของนักสู้ทั้งสองได้ปะทุขึ้นอย่างเงียบๆ
วิลเลียมมีความขัดแย้งกันระหว่างค่านิยมที่ปลูกฝังในตัวเธอกับ
ความต้องการของตนเองซ�าแล้วซ�าเล่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเธอ
ก็อยากจะแสวงหาคําตอบจากโรเอล ส่วนฝั่งโรเอลนั้นตัดสินใจที่จะตัด
โซ่ตรวนของอีกฝ่ายด้วยความเชื่อของตัวเองว่า ‘ตัวเรานี่แหละที่ควร
เป็นผู้กําหนดชะตากรรมของตัวเอง’
ประเพณีที่เคร่งครัดของยุคเก่าควรถูกละทิ้ง และผู้ที่ถูก
พันธนาการไว้ควรได้รับการปลดปล่อย ทุกอย่างควรเริ่มต้นจาก
ช่วงเวลานี้
ทั้งสองจ้องมองกันจากแดนไกลอันไหม้เกรียม ไม่มีใครเคลื่อนไหว
สักก้าว แต่พลังเวทของพวกเขากลับพุ่งออกมาเหมือนคลื่นยักษ์และบด
เบียดเสียดสีกันอยู่ที่กลางสนามพอดี
แม้จะเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่จะเห็นว่าวิลเลียมแสดงสีหน้าอย่างไร
ในเมื่อเจ้าตัวสวมชุดเกราะตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า แต่การมีอยู่ของวิลเลียม
นั้นทําให้รู้สึกสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
นี่คงเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘จิตแห่งดาบ’ ที่เราเคยอ่านเจอในนิยายใน
ชาติที่แล้วสินะ
นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ซึ่งมันก็น่ากลัว
จับใจ เขารู้สึกเหมือนมีกิโยตินปรากฏอยู่เหนือคอของตน แรงกดดัน
ของอีกฝ่ายรุนแรงเสียจนโรเอลรู้สึกเจ็บปวดไปทั้
งทั่วสรรพางค์กาย
นี่แสดงให้เห็นว่าวิลเลียมได้ขัดเกลาหัวใจแห่งดาบไปได้ไกลแค่ไหน
แล้ว
เราจะปล่อยให้เขาชักดาบไม่ได้
ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นในใจของโรเอล เมื่อเจ้าตัวสัมผัสได้ถึง
บรรยากาศที่อันตรายมาจากคนอีกฝั่ง เด็กหนุ่มใช้พลังเวททันทีเพื่อ
เรียกสหายเทพเจ้า
“อาร์เทเชีย!”
“ข้าเป็นคนแรกรึเปล่า วีรบุรุษของข้า? นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลง
ที่ดีเลยนะ เพราะว่าปกติแล้วข้าจะชอบได้โผล่มาแค่ตอนใกล้จะจบ …
แม้ว่าการเรียกมาตั้งแต่เนิ่นเช่นนี้จะสร้างปัญหาให้ทีหลังก็เถอะ”
แม่มดผมขาวตอบรับคําเรียกของโรเอลด้วยรอยยิ้
มร่าเริง จากนั้นดวงตาสีแดงของเจ้าตัวก็ประเมินดูศัตรูไม่ช้าอาร์เทเชียก็เริ่มเคลื่อนไหว
ทันทีที่ราชินีแม่มดยกมือขึ้น สภาพแวดล้อมก็เริ่มปั่นป่วน
อาร์เทเชียก่อพลังเวททรงกลมขึ้นในมือและบีบอัดมันอย่างแน่น
หนา มันเป็นการกระทําที่ธรรมดาที่สุด แต่พลังเวทที่แท้จริงของเธอนั้
นยิ่งใหญ่มากเสียจนทําให้เกิดพายุหมุนรอบๆ ตัวเธอได้มันเป็น
ความสามารถที่เหนือชั้
นซึ่งทําให้เจ้าตัวได้รับเสียงเชียร์จากฝูงชนใน
สนามแข่งอย่างล้นหลาม
แม้จะมีเสียงเชียร์จากฝูงชน แต่อาร์เทเชียก็ยังไม่ยอมปล่อยคาถา
ในมืออกไปง่ายๆ อันที่จริง นี่ไม่ใช่อะไรมากไปกว่าขั้นตอนแรกในการ
เตรียมการของเจ้าตัว
ขณะที่ราชินีแม่มดค่อยๆ ยกพลังเวทอัดก้อนที่ทําให้ตาพร่ามัวขึ้น
อย่างช้าๆ ทันใดนั้
นก็เกิดการย้อนกลับขึ้น!
แสงอันมืดบอดถอยกลับเข้าไปในก้อนพลังเวท ในขณะที่ความมืด
ที่ซ่อนอยู่ที่แกนกลางของมันเข้าครอบงําและเริ่
มขยายออกไปด้านนอก
ความมืดนี้กลายเป็นการทําลายล้าง และมันก็ได้ขู่คํารามคนในชุด
เกราะที่อยู่ในรัศมีของมัน
ความมืดที่บังเกิดใหม่นําพาความหวาดกลัวและความตายมาสู่โลก
มันทั้งเข้าใจยากและยังทําให้เกิดความประหวั่
นพรั่นพรึง บรรดาผู้ที่
มองดูมันจึงถูกข่มขวัญอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง จากปรากฏการณ์อัน
เลวร้ายนี้แม้แต่ผู้ชมที่สนามแข่งก็ยังอ้าปากค้างด้วยความตื่นตกใจ
ทว่าคนในชุดเกราะที่ยืนอยู่ต่อหน้าความมืดนั้นไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
เลย ราวกับว่าเขาผล็อยหลับไปแล้วอย่างไรอย่างนั้
น
ไม่ใช่เพราะวิลเลียมเลือกที่จะยอมแพ้ทว่าเธออยู่ท่ามกลางการขัด
เกลาหัวใจแห่งดาบ
หัวใจแห่งดาบคืออะไร?
มันเป็นการสําแดงเจตจํานงของตน …ดาบที่สร้างขึ้นโดยเจตนาของตน
วิลเลียมใช้เจตจํานงแห่งการเผาไหม้ของตัวเองเป็นเตาหลอม เพื่อ
ปรับเจตจํานงของดาบให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ในจิตใต้สํานึกของวิลเลียม เธอได้ยินแต่เสียงของค้อนที่ฟาดฟัน
ดาบ คําพูดที่โรเอลพูดในคืนนั้นแวบเข้ามาในหัวของเธอ ทําให้อารมณ์
และจิตใจที่บ้าคลั่งของเธอก็ค่อยๆ สงบลง
วิลเลียมยืนยันอีกครั้งถึงเจตจํานงที่จะปกป้อง และหัวใจแห่งดาบก็
สะท้อนความรู้สึกนั้นออกมา เมื่ออยู่ภายใต้อิทธิพลของหัวใจแห่งดาบ
บรรยากาศของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างมาก