ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง - เล่มที่ 11 บทที่ 308 ไม่ได้อะไรกลับมา
เสี่ยวฉีรีบก้มหน้างุด “ข้าน้อยโง่เขลา”
หลินชิงเวยไม่อ้อมค้อม ถามอย่างตรงไปตรงมา “เซียวเยี่ยนไปที่ใด?”
“ข้าน้อยไม่ทราบขอรับ”
“เงยหน้าขึ้นมา” เสี่ยวฉีถูกบังคับให้เงยหน้า หลินชิงเวยก้าวเข้ามายืนเบื้องหน้าเขา พูดช้าๆ ชัดๆ ทีละคำ “หากเป็นลูกผู้ชายจริง มองตาข้าแล้วบอกว่ากับข้าว่าเจ้าไม่รู้ หืม?”
เสี่ยวฉีขยับลูกกระเดือก เนิ่นนานผ่านไปแล้วก้มหน้าลงอีก “ข้าน้อยไม่ทราบจริงๆ ขอรับ”
หลินชิงเวยหรี่ตาลง “พวกเจ้าต่างรู้ดีว่าเขาไปที่ใดใช่หรือไม่ ฝ่าบาทรู้ เจ้าก็รู้เช่นกัน แต่ไม่ยินยอมที่จะบอกกล่าวกับข้า ข้าถามเจ้าบริเวณใกล้เคียงเมืองจิงโจวมีสิ่งใดหรือไม่?” นางไม่มีวันลืมสีหน้าที่ปรากฏบนใบหน้าของเซียวเยี่ยน เมื่อเขาลืมตัวยามยืนอยู่บนภูเขาสูง
เสี่ยวฉียังคงยืนยันเสียงแข็ง “นั่นเป็นเรื่องของท่านอ๋อง ท่านอ๋องไปที่ใด ทำสิ่งใด ไม่มีเหตุผลต้องรายงานกับข้าน้อย ข้าน้อยไม่มีสิทธิ์จะไปก้าวก่ายหรือถามไถ่ อีกทั้งตัวข้าน้อยอยู่เมืองหลวง ไม่ทราบจริงๆ ว่าท่านอ๋องไปทำอะไรขอรับ”
หลินชิงเวยกระชากคอเสื้อเสี่ยวฉี แนบใบหน้าเข้าใกล้ใบหน้าของเสี่ยวฉี ถามเสียงเย็นว่า “เช่นนั้นเจ้าไม่กังวลเลยหรือไร?”
แววตาของเสี่ยวฉีไหววูบ
หลินชิงเวยปล่อยเขากะทันหัน “ดูท่าแล้วเจ้าไม่กังวลใจจริงๆ เขาไม่ได้ไปทำเรื่องเสี่ยงอันตรายอะไรใช่หรือไม่?”
เสี่ยวฉีไม่ตอบ
“ไสหัวไปซะ” หลินชิงเวยหันกายก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดเข้าไปในเรือนแล้วพูดอีกว่า “ในเมื่อเจ้าไม่ยอมพูด เช่นนั้นข้าจะรอเขากลับมาพูดเอง”
เสี่ยวฉีมองตามเงาร่างด้านหลังของหลินชิงเวยไปตลอดกระทั่งนางเข้าเรือนปิดประตู จึงเพิ่งได้สติคืนมา เขาหายใจเข้าลึกๆ สองครั้ง เงาร่างด้านหลังนั้นให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง แต่เมื่อพิจารณาให้ละเอียดอีกครั้งกลับเด็ดขาดกว่ายามปกติ
นี่เป็นเรื่องระหว่างนางและท่านอ๋อง
ก่อนหน้านี้เมื่อเซียวฉีเห็นหลินชิงเวยถูกเซียวจิ่นเรียกตัวเข้าถวายตัว เขายังรู้สึกโมโห ยังรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมแทนท่านอ๋องของตน แต่บัดนี้เล่า บัดนี้เสี่ยวฉีไม่รู้ว่าเขาควรพูดอะไร
หลินชิงเวยเดินทางไกลนับพันลี้ไปยังหนานเจียงเพื่อตามหาท่านอ๋องโดยไม่คำนึงถึงอันตรายใดๆ เมื่อเดินทางไป นางไปเพียงลำพัง เมื่อกลับมา นางก็เดินทางกลับมาเพียงลำพังเช่นกัน
มีเรื่องราวมากมาย มิใช่เขาที่เป็นเพียงข้ารับใช้จะตัดสินใจได้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เสี่ยวฉีจึงหันกายจากไป
ยังไม่ทันถึงกลางดึก คนจากตำหนักซีเฟยมาเยือนอย่างเร่งรีบ หลินชิงเวยถูกปลุกให้ตื่น ได้ยินนางกำนัลพูดว่า “แย่แล้วเจ้าค่ะเหนียงเหนียง ซีเฟยป่วยหนักเจ้าค่ะ!”
หลินชิงเวยไม่อาจไม่ลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมมุ่งหน้าไปยังตำหนักของซีเฟย คิดไม่ถึงว่าทันทีที่ก้าวออกจากประตู ซินหรูตื่นแล้วเช่นกันและกำลังเดินออกจากห้องพอดี ทว่าท่วงท่ากระฉับกระเฉงแต่งกายเรียบร้อย นางเอ่ยขึ้นว่า “พี่สาว ข้าไปพร้อมกับท่านเจ้าค่ะ!”
ประจวบเหมาะกับนางไม่ได้ทดสอบซินหรูเป็นเวลาระยะหนึ่ง ไม่รู้ว่าระหว่างนี้ นางแอบเกียจคร้านหรือไม่ หลินชิงเวยจึงกล่าวว่า “หยิบล่วมยา”
ซินหรูยินดียิ่งยวด นางพยักหน้าแรงๆ “อื้อ!”
เมื่อไปถึงตำหนักซีจิ่งของซีเฟย ภายในตำหนักซีจิ่งวุ่นวายอย่างยิ่ง มีหมอหลวงเฝ้าอยู่ในตำหนักบรรทม นางกำลังทั้งหมดด้านนอกตำหนักไม่กล้าอิดออด กระทั่งเซียวจิ่นก็มาถึงแล้ว
หลินชิงเวยเพิ่งมาถึง เซียวจิ่นก็มาถึงเช่นกัน
หมอหลวงของสำนักหมอหลวงเชื่อและศรัทธาในวิชาแพทย์ของหลินชิงเวย เมื่อเห็นนางมาแล้วทุกคนล้วนพรูลมหายใจโล่งอกและพร้อมใจกันหลีกทางให้นางเดินเข้าไป
ซีเฟยนอนนิ่งอยู่บนเตียง ทันทีที่เห็นก็รู้ว่าสีหน้าผิดปกติ สาวใช้ข้างกายนางลวี่ถานกัดริมฝีปากร้องไห้จนดวงตาแดงก่ำ นางสะอึกสะอื้นและถลึงตาใส่หลินชิงเวยด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
สีหน้าของซีเฟยซีดขาว ริมฝีปากแตกแห้งเป็นขุย นางอยู่ในสภาพหมดสติ หลับลึกและอ่อนแอยิ่งยวด แต่นางกลับตัวร้อนไม่ลด ส่งผลให้ทรวงอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรงทั้งๆ ที่ไม่ได้สติ หลินชิงเวยจับชีพจรของนางและได้ยินหมอหลวงเอ่ยขึ้นว่า “เจาอี๋เหนียงเหนียง ท่านตรวจดูเถิดว่าสถานการณ์ของซีเฟยเป็นอย่างไรกันแน่? อาการของโรคดูเหมือนต้องลมเย็นทว่าก็ไม่เหมือนต้องลมเย็น สองวันก่อนซีเฟยรู้สึกไม่ค่อยสบายจึงกินยารักษาอาการต้องลมเย็นแต่ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย กลับทำให้อาการป่วยทรุดลง!”
เสียงขานดังขึ้นจากข้างนอกในเวลานี้เอง “ฝ่าบาทเสด็จ—“
หลินชิงเวยขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความหนักใจ อดที่จะมองซีเฟยอีกครั้งไม่ได้ นางไปเยือนตำหนักฉางเหยี่ยน ในเมื่อพูดจาเปิดใจกับนางแล้วเหตุใดจึงต้องเจตนาล้มป่วยด้วย ต่อให้แสร้งล้มป่วยก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาแรงเช่นนี้!
ทั้งๆ ที่กระจ่างแจ้งดีว่าวิชาแพทย์ของหลินชิงเวยนั้นล้ำเลิศ หากซีเฟยคิดจะให้ร้ายเรื่องการใช้ยา ย่อมไม่ส่งผลดีกลับไปเป็นแน่
ชายอาภรณ์สีเหลืองขมิ้นเดินผ่านเข้าประตูมา เซียวจิ่นสาวเท้าก้าวเข้ามา บรรดาหมอหลวงและเหล่านางกำนัลในตำหนักบรรทมต่างพากันคุกเข่าลง
เซียวจิ่นยืนอยู่ข้างกายหลินชิงเวย เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”
หลินชิงเวยเปิดเปลือกตาและดูลิ้นของซีเฟย ซินหรูเตรียมเข็มเงินพร้อมแล้ว หลินชิงเวยรับเข็มเงินเพื่อฝังเข็มขับพิษให้ซีเฟย
คิดไม่ถึงว่าซินหรูและนางจะทำงานร่วมกันอย่างรู้อกรู้ใจกันเช่นนี้ เข็มเงินแต่ละเล่มถูกซินหรูฆ่าเชื้อกับเปลวไฟแล้วส่งถึงมือของหลินชิงเวย หลินชิงเวยให้คนปลดอาภรณ์ของซีเฟยออกแล้วฝังเข็มลงตามจุดชีพจรทั่วทั้งร่างกาย
ดูเหมือนซีเฟยจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง นางขมวดคิ้วเพราะความเจ็บปวด หน้าผากซีดขาวนั้นปรากฏให้เห็นเม็ดเหงื่อละเอียดที่ผุดขึ้นมา
เข็มเงินขับพิษส่วนหนึ่งในร่างกายออกมาจากร่างกายซีเฟยผ่านการขับเหงื่อ อาการตัวร้อนของนางจึงไม่บรรเทาลง ทว่านางมีท่าทางอ่อนเพลียและไม่ได้สติ
เซียวจิ่นถาม “นางป่วยเป็นอะไร?” ตลอดเวลาเซียวจิ่นดูหลินชิงเวยทำการรักษาเงียบๆ เขาไม่ได้ส่งเสียงรบกวน หมอหลวงทั้งหมดจนปัญญาไม่อาจไม่เชิญหลินชิงเวยมาด้วยตนเอง เซียวจิ่นรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเห็นหลินชิงเวยเก็บเข็มเงินคืนมา เขาจึงส่งเสียงถามไถ่
หลินชิงเวยไม่ได้พูดจา ซินหรูเอ่ยขึ้นว่า “ฝ่าบาท อาการของซีเฟยมิใช่ล้มป่วยเพคะ ชัดเจนยิ่งนักว่าต้องพิษ เมื่อสักครู่พี่สาวฝังเข็มเพื่อขับพิษผ่านทางเหงื่อแทนนางเพคะ”
หลินชิงเวยเลิกคิ้ว นางมองซินหรูแวบหนึ่ง ในแววตาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
นางชีน้อยคนนี้เรียนรู้ได้ไม่เลวเลย
ซินหรูยืดอก แสดงท่าทีภูมิใจในตนเองเล็กๆ อย่างยากที่จะปิดบัง
เซียวจิ่นกลับพูดเสียงเย็น “เป็นผู้ใดวางยาพิษ?” เขาหันหน้ามามองลวี่ถานที่อยู่ด้านข้างด้วยสายตาคมปลาบ “เจ้าเป็นนางกำนัลคนสนิทข้างกายซีเฟย ซีเฟยต้องพิษเจ้าย่อมไม่พ้นผิด! จงสารภาพความจริงออกมาว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่!”
ร่างของลวี่ถานสั่นเทิ้ม นางรีบคุกเข่าลงบนพื้นน้ำตาไหลพราก นางพูดตะกุกตะกักทั้งใบหน้าขาวเผือด “บ่าวไม่ได้วางยาพิษเหนียงเหนียงเพคะ บ่าวไม่ได้วางยาพิษ ขอฝ่าบาทโปรดตรวจสอบด้วยเพคะ!” หยุดไปครู่หนึ่ง นางพูดอึกอักอีกว่า “เหนียงเหนียงเริ่มไม่สบายตั้งแต่สองวันก่อนเพคะ ตั้งแต่…ตั้งแต่นางกลับมาจากตำหนักฉางเหยี่ยนก็ไอไม่หยุดเพคะ บ่าวคิดว่ามีสาเหตุจากลมเย็น จึงเชิญหมอหลวงมาตรวจชีพจรและได้จัดยารักษาอาการต้องลมเย็น คิดไม่ถึงว่ากลับทำให้อาการหนักขึ้น…”
เซียวจิ่นไม่ยอมรับหรือปฏิเสธต่อคำพูดทั้งหมดของลวี่ถาน แววตาที่มักอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ยามนี้เต็มไปด้วยความเย็นชาที่ทำให้คนคาดเดาไม่ถูก
ลวี่ถานโขกศีรษะสะอึกสะอื้นพูดไม่เป็นคำ “บ่าวติดตามซีเฟยเหนียงเหนียงตั้งแต่ยังเล็กเพคะ ซีเฟยเหนียงเหนียงมีจิตใจโอบอ้อมอารี ไปตำหนักฉางเหยี่ยนเพื่อเยี่ยมเยียนหลินเจาอี๋ ทว่ากลับคิดไม่ถึงว่าจะต้องมารับเคราะห์กรรมเช่นนี้ บ่าวขอร้องฝ่าบาท จะต้องคืนความเป็นธรรมให้ซีเฟยเหนียงเหนียงนะเพคะ!”