ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1685 ได้คืบจะเอาศอก
แสงดาวที่ลอยออกมาจากในแขนเสื้อสั่วหมิงจางกลุ่มนั้น กำลังห่อหุ้มน้ำทะเลจากหุบเหวทะเลมารนพยมโลกก่อนหน้าไว้
ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอได้คุยแผนการกับสั่วหมิงจางมาแล้ว ดังนั้นสั่วหมิงจางจึงเตรียมตัวแต่แรก
ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องให้สั่วหมิงจางแบ่งแยกสมาธิ น้ำทะเลที่เขาเก็บไว้ก่อนหน้าก็จัดการไว้แล้วเสร็จ พร้อมกับที่เยี่ยนจ้าวเกอสั่ง แสงดาวก็ลอยออกมาพร้อมกับห่อหุ้มน้ำทะเลทันที
แสงดาวตกลงตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ ชายหนุ่มมือหนึ่งยังทาบบนกลางหลังเฟิงอวิ๋นเซิง อีกมือหนึ่งล้วงเข้าไปในแสงดาว
แสงไหลเวียน ดูมืดจางอยู่บ้าง จากนั้นน้ำทะเลสีดำสนิทก็ลอยออกมาจากด้านใน
ลายมือที่ก่อนหน้าเยี่ยนจ้าวเกอเขียนไว้กลางอากาศแล้วเหลืออยู่ ยามนี้เหมือนกับห้วยลึก น้ำทะเลเทเข้าไปด้านใน เติมเต็มความว่างเปล่า กอปรเป็นเครือข่ายสายน้ำที่ตัดขวางเกาะเกี่ยวหลายสาย
ยันต์อาคมผืนนี้ตอนนี้ต่างเปลี่ยนเป็นมืดสนิททั้งหมด ราวกับหยกหมึก เปล่งแสงที่ทั้งบริสุทธิ์และใสแจ๋ว
มารจิตแรกเริ่มเห็นดังนั้น คิ้วขมวดมุ่นกว่าเดิม
มันนึกถึงพิธีผสมฟ้าขับไล่มาร พิธีกรรมพิเศษที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยโผล่มาก่อน เป็นเยี่ยนจ้าวเกอสร้างขึ้นด้วยตัวเอง
พิธีผสมฟ้าขับไล่มารในตอนนั้นหลักๆ เล็งผลที่มันมารจิต แต่ว่าขณะนั้นมารจิตแรกเริ่มอาการบาดเจ็บยังไม่หายดี ไม่กล้าเคลื่อนไหวมากเกินไป
ปัจจุบันมันกลับสู่ขอบเขตสุงสุด ผลของพิธีผสมฟ้าขับไล่มารกลายเป็นจำกัด
ดังนั้นแม้จะทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีพิธีพิเศษนี้ วันนี้มารจิตแรกเริ่มก็ไม่ใส่ใจ
ทว่าเรื่องนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในในของมารเฒ่าตลอด
มันเชื่อมโยงผ่านพิธีผสมฟ้าขับไล่มารได้อย่างง่ายดายว่า เยี่ยนจ้าวเกอจะมีของใหม่อย่างอื่นหรือไม่?
ห่างจากตอนนั้นสองร้อยปีแล้ว มันมารจิตแรกเริ่มอาการบาดเจ็บหายดีเป็นปลิดทิ้ง แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่เป็นอาทิตย์จันทราดวงใหม่[1] เกรงว่าจะเปลี่ยนแปลงมากยิ่งกว่า
พอสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอเป็นครั้งแรก มารจิตแรกเริ่มก็ศึกษาสัมผัสยันต์อัดขระหลายสายที่หลอมรวมกับน้ำทะเลจากเหวมารนั้น พลันสัมผัสได้ถึงจุดที่ลี้ลับอัศจรรย์หลายส่วนด้านใน
มันต้องการหยุดยั้ง แต่กลับแบ่งสมาธิไม่ได้
สั่วหมิงจางที่อยู่ตรงหน้ากดดันเข้ามาทีละก้าวๆ ด้วยผลจากคัมภีร์ตัดนภา ต้องการลากมารเฒ่าออกจากภาพลวงตามาสู่ความจริง
พลังอันน่าสะพรึงและยิ่งใหญ่เหมือนกับทะเลคลั่งถั่งโถม คลื่นเทียมฟ้าซัดใส่มารจิตแรกเริ่มทีละลูกๆ
มารจิตแรกเริ่มได้แต่มองดูยันต์อาคมสีดำสนิทหลายสาย ลอยเข้าไปในหุบเหวเหนือศีรษะเฟิงอวิ๋นเซิงด้วยการควบคุมของเยี่ยนจ้าวเกออย่างต่อเนื่อง
หมอกเลือดยังคงแผลงฤทธิ์ เหมือนจริงเหมือนลวง ยากตัดทิ้ง ยากทำลายให้ดับสูญ
ทว่าเมฆมงคลสีดำบนศีรษะมารจิตกลับสั่นไหวอย่างรุนแรง เริ่มพลิกตัว
เมฆดำกระเพื่อม เข้มข้นมากขึ้น ขยายใหญ่มากขึ้น แต่ค่อยๆ สับสนและสูญเสียการควบคุม แม้แต่พวกเนี่ยจิงเสินกับมารเงาในนพยมโลก ก็ยังสัมผัสได้ว่าพิธีกรรมไม่มั่นคง เกาะกุมไม่ได้
การเปลี่ยนแปลงที่มาอย่างกะทันหันนี้ กลับส่งผลต่อหมอกเลือดที่ยื่นออกมาจากในเมฆดำ
เหมือนกับตึกหอถูกโยกคลอนรากฐาน เปลี่ยนเป็นล่องลอย เริ่มไม่มั่นคงโดยอัตโนมัติ
หุบเหวทะเลมารนพยมโลกซึ่งที่แล้วมาเงียบสงัด ถึงแม้ผิวนอกยังคงผนึกแข็ง ไม่เกิดระลอกคลื่น ทว่าด้านในคล้ายกับค่อยๆ เริ่มมีคลื่นใต้น้ำไหลเชี่ยว
ระหว่างเสาสิบสองต้นในเหวลึก เนี่ยจิงเสิงขมวดคิ้วมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ทันใดนั้น เขาเหมือนกับกลายเป็นใจกลางคลื่นใต้น้ำ คลื่นหลายสายบีบอัดเขาพร้อมกัน
ฉากที่ทำให้เขาตกใจบังเกิดขึ้นแล้ว
หุบเหวของเฟิงอวิ๋นเซิงเหมือนกับข้ามเมฆดำหมอกเลือด ข้ามขอบเขตความจริงความลวง สัมผัสกับประกายกระบี่ที่ผนึกรวมหุบตัวเป็นจุดเดียวนั้นของเขา
สองสิ่งพอปะทะกัน ยันต์อาคมสีดำสนิทหลายสายถึงกับข้ามมาถึงที่นี่ วนรอบตัวเนี่ยจิงเสิน ทำให้เนี่ยจิงเสินเกิดความเลอะเลือนชั่วพริบตาหนึ่ง
มารเงาที่อยู่ด้านข้างสัมผัสความไม่ถูกต้องได้อย่างฉับพลัน ส่งพลังกระแทกใส่
เนี่ยจิงเสินแค่นเสี่ยง ร่างโซเซถอยหลัง หลบยันต์อาคมสีดำ
เสาที่เป็นสัญลักษณ์ของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม ตอนนี้รูปร่างเริ่มเปลี่ยนเป็นแจ่มชัดมีรายละเอียดอีกรอบ มิได้ลี้ลับเหมือนเมื่อครู่ คุณสมบัติพิฆาติและความเหี้ยมโหดลดลง
ในนพยมโลกย่อมมีจอมมารตนอื่นช่วยเหลือ ขณะเดียวกันก็มีจอมารตนอื่นออกมาจากนพยมโลก ต้องการมายังชายฝั่งยมโลกผืนนี้เช่นกัน
แทบจะเป็นในเวลาเดียวกัน ในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดด้านนอกชายฝั่งยมโลก มีกลิ่นอายแข็งแกร่งหลายสายสะท้อนขึ้นมา เป็นคนในสำนักเต๋าที่เตรียมตัวอยู่แต่แรก
ศึกใหญ่ของสองฝ่ายพร้อมปะทุขึ้นทันทีที่สัมผัส ระเบิดโดยสมบูรณ์ได้ทุกเวลา
บนชายฝั่งยมโลก มารจิตแรกเริ่มขมวดคิ้วเช่นกัน ส่ายหน้าถอนใจ “พวกท่านสามีภรรยาฝีมือดีนัก ดูเหมือนวันนี้ต้องหยุดเท่านี้แล้ว”
มันตาเป็นประกายเล็กน้อย เมฆมงคลสีดำบนศีรษะเริ่มหายไป หมอกเลือดนั้นกลายเป็นแหนลอยไร้ราก ค่อยๆ สูญสลาย
แต่ว่าวิถีมารถอยแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงกลับไม่ถอย
หุบเหวบนศีรษะเฟิงอวิ๋นเซิงเริ่มขยาย กลับครอบคลุมใส่ศีรษะมารจิตแรกเริ่ม หนำซ้ำยังรวมหมอกเลือดและเมฆดำนั้น ทำให้มันไม่อาจหายไปในทันที
เสาที่เป็นสัญลักษณ์ของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรมในเสาสิบองต้นกลางทะเลเหว ถึงขั้นเริ่มสั่นไหวเบาๆ
สั่วหมิงจางจับมารจิตแรกเริ่มไว้มั่น ไม่มอบโอกาสถอยหนีให้
แสงหลายสายสาดส่องสี่ทิศ สั่วหมิงจางใช้พลังอย่างต่อเนื่อง อานุภาพหลงเหลือกระแทกชายฝั่งยมโลกผืนนี้ให้เริ่มพังทลาย ความสกปรกมัวซัวถดถอยไม่หยุด เคลื่อนสู่ความว่างเปล่าอันรกร้าง
สำนักเต๋าได้คืบจะเอาศอก รุกไล่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เหล่ามารนพยมโลกถอยร่นติดต่อกัน
ความว่างเปล่าเริ่มเปิด จอมมารที่น่ากลัวหลายตัวปรากฏตัว ลงมือทันที
อีกด้านหนึ่ง ผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าก็เริ่มแสดงร่างในความว่างเปล่า กำลังจะลงมาถึง
เวลานี้เอง ในสายตาของเฟิงอวิ๋นเซิงที่จ้องมองทะเลเหวนพยมโลก บนเสาต้นหนึ่งในเสาสิบสองต้น พลันปรากฏคันฉ่องสีดำสนิทใบหนึ่ง
คันฉ่องพอปรากฏ ทะเลเหวก็มั่นคงในทันใด แรงกดดันที่แข็งแกร่งม้วนเข้าหาหุบเหวของเฟิงอวิ๋นเซิง
‘บรรพมาร จอมมารไร้พันธนา!’ เยี่ยนจ้าวเกอเห็นคันฉ่องสีดำสนิทคันนั้นแล้วเช่นกัน
ขณะเดียวกัน เหนือความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด มีแสงทองเลือนราง ควันสีเหลืองกว้างใหญ่ไพศาลแผ่พุ่ง เหมือนกับมาถึงด้านบนนพยมโลก ความแหลมคมอันเหี้ยมโหดที่ชั่วร้ายสุดขีดซ่อนแฝงไม่เปิดเผย
เฟิงอวิ๋นเซิงพ่นลมยาวๆ หุบเหวบนศีรษะสลาย ปล่อยหมอกเลือดเมฆดำบนศีรษะ ตัดการเชื่อมต่อกับนพยมโลกโดยสมบูรณ์
คันฉ่องสีดำในนพยมโลกก็ไม่มีการคเลื่อนไหวอื่นเช่นกัน ปล่อยให้เฟิงอวิ๋นเซิงถอยไป
ขณะเดียวกัน ฝุ่นสีเหลืองและแสงสีทองยิ่งใหญ่ไพศาลด้านนอกความว่างเปล่าเหนือนพยมโลก ก็หายไปไม่เห็นอีก สาบสูญสู่ความว่างเปล่าโดยสมบูรณ์
กลับเป็นมารจิตแรกเริ่มคิดไป แต่สั่วหมิงจางยังคงไม่ปล่อย กดดันให้มารเฒ่าตนนั้นเปลี่ยนจากปลอมเป็นจริง มิอาจไม่รับหมัดเขา จึงค่อยเป็นอิสระ
จอมมารตนอื่นๆ พากันขึ้นหน้ารับตัวมารจิตแรกเริ่ม ถอยไปหานพยมโลก
“หวังว่าจะมีเวลาสู้กันอีก” สั่วหมิงจางมองมารจิตแรกเริ่มอย่างเย็นชา
มารเฒ่าตนนั้นกระอักกระไอหลายรอบ “อาจจะมีโอกาส”
มันหันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอแวบหนึ่ง “เทวกษัตริย์น้อยมักทำให้คนตกตะลึงจริงๆ มีแต่สิ่งที่พวกเราคิดไม่ถึง ไม่มีสิ่งที่ท่านทำไม่ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอถอนมือออกจากกลางหลังเฟิงอวิ๋นเซิง “ขอบคุณที่ชมเชย ถึงข้าจะคิดว่ายังไม่ถึงระดับนั้น แต่ในเมื่อท่านกล่าวแบบนี้ ข้าย่อมพยายามขึ้นอีก”
………………..
[1] อาทิตย์จันทราดวงใหม่ หมายถึง พัฒนาอย่างรวดเร็วจนต่างไปจากเดิม