ตัวของผมในต่างโลก.... แม่งบ้า!!! - บทที่ 3 ตอนที่ 76 หนีซอมบี้กันดีกว่า
ผมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอันหนาวเหน็บ ราวกับว่ารอบๆตัวผมได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นดินแดนเยือกแข็งยังไงยังงั้น
” … ฮ่ะ ?! “
เมื่อผมได้ลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่เห็นและสัมผัสได้เลย ก็คือกระท่อมนี้ ที่ได้ถูกน้ำแข็งเข้าปกคลุมไปแล้ว..
เมื่อคืน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
” ลุกขึ้น เราต้องไปแล้ว “เกเบรียล
เกเบรียลยื่นมือของเธอมาให้ผม ผมคว้ามือของเธอเอาไว้แล้วค่อยดึงตัวเองขึ้นมา.. คือ มือของผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างนุ่มเลยแฮะ
ไม่ค่อยเหมือนที่คิดสักเท่าไร
” เกิดอะไรขึ้น? “
” เมื่อคืนมีเรื่องนิดหน่อย “เกเบรียล
เธอแบกกระเป๋าที่มีสัมภาระอยู่และ และน้ำหนักค่อนข้างมากไว้ด้วยตัวคนเดียว เหมือนว่าเกเบรียลจะกลับมาเป็นคนเดิมแล้วนะ จากที่เมื่อวานเธอดูไม่ค่อยเป็นตัวเองเท่าไหร่
” …อะไรเนี่ย… ”
ภาพที่ผมเห็นหลังจากที่ออกจากกระท่อมมาเลยก็คือ ภาพของซอมบี้นับไม่ถ้วนที่กำลังโถมเข้าใส่กระท่อมเล็กๆหลังนี่ ทว่าพวกมันนั้น กลับอยู่ในก้อนน้ำแข็ง ที่แทบจะไม่มีวันละลาย
ซึ่งรัศมีของแดนน้ำแข็งนี้นั้นกว้างมาก เอาที่ตาเห็น มันกินพื้นที่ไปราวๆ 500 เมตรรอบตัวของซอมบี้ตัวหนึ่งได้เลย
” คุณแฟนท่อม.. เมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ “
ผมจับมือของเกเบรียลไว้แน่น เธอเองก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังปล่อยให้ผมจับมือของเธอต่อไปอีกต่างหาก
” มีดูมวอร์คเกอร์ตัวนึงหลงมาน่ะ “แฟนธ่อม
ไม่น่าเชื่อว่าซอมบี้ตัวหนึ่งจะสามารถทำให้สภาพแวดล้อมกลายเป็นแบบนี้ได้ แต่ไม่เชื่อกก็ต้องเชื่อล่ะ เพราะข้างหน้าคุณแฟนธ่อมคือตัวการของหายนะแห่งน้ำแข็งนี่ ที่ได้ถูกจัดการไปแล้ว
” คุณไม่บาดเจ็บอะไรใช่ไหม คุณแฟนธ่อม? “
” ไม่ต้องห่วงหัวหน้าหรอก ห่วงตัวเองเถอะ เห็นแบบนี้แต่เขาเป็นถึงอดีตหน่วยปราบปรามพิเศษที่จัดการเจ้าพวกนี้โดยเฉพาะเลยนะ “เกเบรียล
” ยกย่องกันเกินไปแล้ว แล้วนี่เก็บของกันเสร็จรึยัง? จะได้ออกไปกันเลย ก่อนที่พวกมันจะแห่กันมาอีก “แฟนธ่อม
” เสร็จแล้วค่ะ “เกเบรียล
” หรอ งั้นก็กลับแคมป์กันเถอะ “แฟนธ่อม
คุณแฟนธ่อมหยิบบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน ก่อนจะใช้ไฟแช็คเก่าๆอันนึงจุดไฟ แล้วคาบมันไว้ในปาก
” จากที่นี่ถึงแคมป์ที่ว่าเนี่ย ไกลมากไหมครับ? “
” ไม่ไกลหรอก ก็ราวๆสัก 50 กิโลเมตรน่ะ เราจะเดินไป.. น่าจะใช้เวลาสักพักใหญ่ๆเลยแหละกว่สจะถึง “แฟนธ่อม
50 กิโลเนี่ยนะไม่ไกล..
” เดินเองได้ไหม? หรือต้องให้อุ้ม? “เกเบรียล
เธอถามผมอย่างเป็นห่วง แม้น้ำเสียงและท่าทางจะไม่ใช่เลยก็ตามที
” ไม่เป็นไร ตอนนี้น่าจะเดินได้ปกติแล้วล่ะ “
ทันทีที่ได้ตื่นขึ้นมาก็พบว่า ร่างกายของผมฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจนกลับมาเป็นปกติเมื่อถึงเช้า แม้จะเป็นแบบนั้น ผมก็ต้องสูญเสียกำลังส่วนมากของผมไปพร้อมกับแขนซ้ายเช่นกัน
หลังจากนั้น เราก็เริ่มเคลื่อนไหวในทันที
ซึ่ง เหมือนว่าทางที่เรากำลังไปคือทิศเหนือล่ะ ผมไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง แต่ทิศเหนือนี้คงต้องพิเศษแน่ๆเลยล่ะ
” เรากำลังจะไปที่ไหนหรอครับ “
” ค่ายของผู้รอดชีวิต เอ่อ.. ชื่อว่าอะไรนะ? “แฟนธ่อม
” โฮปค่ะ “เกเบรียล
” เออ โฮป โทษทีนะ พออายุมากขึ้นแล้วความจำมันก็สั้นลงเยอะเลยน่ะ “แฟนธ่อม
เขาพูดทั้งรอยยิ้ม
แต่พอเขาพูดแล้วผมก็สงสัย ว่าคุณแฟนธ่อมแก่ขนาดนั่นเลยหรอ? ดูจากหน้าตาของเขา เขาก็ยังอยู่ในวัยเก๋าอยู่นี่นา
” ขอถามได้ไหมครับ คุณอายุเท่าไหร่หรอ?”
ผมได้ถามคุณแฟนธ่อมออกไปด้วยความสงสัย ขณะที่เรากำลังอยู่ในป่ารกทึบ
” 48 น่ะ “แฟนธ่อม
” แล้วทำไมเราถึงเข้ามาในป่ากันอ่ะครับ ในเมื่อพวกมันจับคลื่นสัญญาณได้? เราก็น่าจะหนีไม่พ้นหนิ? “
” ป่าบนโลกเราพิเศษนะ “แฟนธ่อม
” ครับ? “
พิเศษหรอ พิเศษยังไงอ่ะ
ถามไป ผมก็สงสัยไป ยิ่งนึก ก็ยิ่งคิดไม่ออก
ตกลงแล้วมันพิเศษยังไงวะ??
” ก็ตั้งแต่ที่โลกนี้เกิดเหตุการณ์ SANITY BURST ป่าบนโลกเราก็สามารถปล่อยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาเองได้น่ะ “แฟนธ่อม
” เป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าแบบพิเศษที่จะจำกัดลักษณะพิเศษของผู้ใช้พลังจิตเอาไว้ มันจะรบกวนโครงข่ายประสาทของพวกเรา ทำให้เราปล่อยสนามไฟฟ้าที่เป็นตัวกลางทำให้เกิดพลังพิเศษได้ยากน่ะ “แฟนธ่อม
ผู้คนบนโลกนี้.. ปล่อยสนามไฟฟ้าออกมาได้หรอ?? โคตรจะอีหยังวะเลยแฮะ
” นั่นรวมถึงพวกซอมบี้ก็ด้วย คลื่นความถี่ที่ใช้ในการหาตัวผู้รอดชีวิตของพวกมันจะถูกสนามแม่เหล็กรบกวน ทำให้ระบุตัวได้ยาก เพราะฉะนั้นภายในป่าจึงเป็นจุดยุทธศาตร์หลักในการตั้งค่ายพักอาศัยเลย แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ที่นี่หรอกนะ “แฟนธ่อม
เหมือนว่าพื้นที่ภายในป่านี้จะกว้างขวางมาก ขนาดที่ว่าเราเดินกันมา 5 ชั่วโมงแล้วก็ยังไม่พบทางออกจากป่าสักที
แล้วยิ่งเราเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายมันก็เริ่มที่จะถูกสนามแรงโน้มถ่วงที่รุนแรงกดทับลงมาจนแทบขยับตัวไม่ได้ ทำให้ผมเดินต่อไปอย่างยากลำบาก
กลับกัน คุณแฟนธ่อมและเกเบรียลยังดูสบายๆอยู่เลย
” เกเบรียล ช่วยเขาหน่อย “แฟนธ่อม
” เห้อ.. ได้ค่ะ หัวหน้า “เกเบรียล
เธอถอนหายใจ ก่อนจะหันหลังกลับมาพยายามจะช่วยผมให้เดินสะดวกขึ้น แต่ผมนั้นไม่ต้องการ ผมยกมือขึ้น บอกเธอเป็นนัยๆว่าไม่เป็นไร แค่นี้จิ๊บๆ
ฟู่ว-
ผมหายใจออก
สูด*~
และหายใจเข้า
ฮึบ!
ก่อนจะระเบิดพลังจิตออกมาคลุมร่างกายของตัวเองเอาไว้ และด้วยการที่ผมอยู่ในสภาวะนี้ นั่นทำให้แรงโร้มถ่วงที่มากขึ้นจากเดิมอย่างเทียบไม่ติดนั้น ไร้ผลไปเลย
” โว้ว เก่งนี่ ใช้พลังจิตได้ซะด้วย “แฟนธ่อม
” มานี่, ไปกันต่อเร็ว “เกเบรียล
เกเบรียลกระชากผมเข้าไปหาตัวเธอ ก่อนที่หล่อนจะเป็นคนจับมือผมแล้วเดินนำผมไปข้างหน้า ซึ่ง.. พอมองจากมุมนี้แล้ว
เกเบรียลนี่เท่ไม่เบาเลยนะเนี่ย
” จุดหมายของวันนี้คือต้นไทรกลางป่า รอบๆต้นไม้นั่นปลอดภัยเอาเรื่องอยู่ “แฟนธ่อม
” จะไปทันหรอคะ นี่ก็บ่ายแล้วด้วย “เกเบรียล
” ต้นไม้ที่ว่าอยู่ไม่ไกลหรอก น่าจะถึงราวๆบ่ายสาม ยังพอมีเวลาให้ตั้งแคมป์นะ “แฟนธ่อม
” เอ่อ.. มันจะปลอดภัยจากซอมบี้จริงๆหรอครับ.. “
” อ้า ก็ถ้าไอ้ซอมบี้นั่นไม่ได้อยู่ในระดับดูมวอร์คเกอร์ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก อีกอย่าง พวกมันไม่ได้มีสติปัญญามากพอที่จะดึงเอาพลังจิตมาคลุมร่างได้แบบเรา เลยถูกแรงโน้มถ่วงที่แปรปรวนของที่นี่กดเอาไว้จนขยับไม่ได้น่ะ “แฟนธ่อม
” แล้วยิ่งเป็นกลางป่าแล้วด้วย ยิ่งปลอดภัยเข้าไปใหญ่ เพราะงั้นสบายใจเถอะ คืนนี้เราสบายแล้ว “แฟนธ่อม
” อย่างที่หัวหน้าว่า เราเลยต้องรีบกันหน่อยไง เข้าใจใช่ไหม? “เกเบรียล
” อืม เข้าใจ “
ผมตอบกลับเธอไป แม้ว่าจะไม่เข้าใจอยู่บ้างก็ตาม
ขณะที่เรากำลังเดินไปตามทางที่มีคนทำเอาไว้ ผมที่เงี่ยหูฟังเสียงจากธรรมชาติก็ได้ยินเสียงอันแปลกประหลาดที่ผสมปนเปมาตามสายลม
เป็นเสียงคำรามที่ไม่เหมือนกับสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ พลังเสียงของมันดังกุก้อง สนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งป่า
โฮกก!!!
” !? “
มันทำเอาผมถึงกับสะดุ้ง แล้วหันไปตามเสียงนั้นเลย
” มันคืออะไรน่ะ? “
” ซอมบี้ “เกเบรียล
” พูดไม่ทันขาดคำ “แฟนธ่อม
” คงตามกลิ่นเรามาสินะ “
” เอ้า! เร่งฝีเท้ากันหน่อย!! “แฟนธ่อม
” ดูมวอร์คเกอร์หรอคะ? “เกเบรียล
” ไม่หรอก น่าจะเป็นฝูงชาร์จเจอร์มากกว่า ยังดีที่เราอยู่ในป่า พวกมันตามเราไม่ทันแน่ “แฟนธ่อม
ว่าจบ พวกเราก็เร่งความเร็วกันมากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้พวกซอมบี้มันตามทัน ยิ่งเป็นพวกนิยมการวิ่งแบบพวกชาร์จเจอร์แล้วด้วย
ยิ่งต้องวิ่งเลยล่ะ
” จำเป็นต้องวิ่งเลยหรอครับ!! “
แล้วตอนนี้ผมก็กำลังวิ่งตามพวกเขาอย่างเอาเป็นเอาตายโดยที่ไร้แขนล่ะ อีกทั้งผมยังตามหลังเกเบรียลอยู่ประมาณ 20 เมตรล่ะ ส่วนคุณแฟนธ่อมก็ไม่ได้ไปไหนไกล เขาอยู่ห่างจากผมแค่ 30 เมตรเอง
พวกเขาจะวิ่งเร็วอะไรขนาดนี้ล่ะเนี่ย
” แน่นอน!! ชาร์จเจอร์มันจะไม่หยุดจนกว่าจะได้เหยื่อหรือเหยื่อหายไปหรอกนะ!! “แฟนธ่อม
” นายเองก็วิ่งเร็วๆสิ! ช้าชะมัด!! “เกเบรียล
” โธ่เอ้ยย!! นี่ให้คนที่พึ่งหายเจ็บ แถมยังเสียแขนมาพึ่งพาตัวเองเนี่ยนะ!! “
” พูดมากชะมัด!! “เกเบรียล
” แล้วจะมาหาเรื่องกันก่อนทำไมเล่า!! “
” หยุดคุยกันแล้วตั้งหน้าตั่งตาหนีก่อนเถอะ แม่งตามมาทันแล้ว!! “แฟนธ่อม
แฮร่!!
ฮรากก!!!
กรรร!!
ไม่กี่อึดใจเดียว พวกมันก็แห่กันมาโดยไม่สนว่าแรงโน้มถ่วงในป่านี่จะมีมากขนาดไหนกันเลย ตอนนี้.. ผมกำลังวิ่งหนีตายอยู่ล่ะ!!
แถมโคตรแม่งยังตามหลังมาติดๆอีกตะหากก!! น่ากลัวโว้ยยย!!!
” โธ่เว้ย!! “เกเบรียล
เกเบรียลชะลอความเร็วจนผมตามทัน เธอโอบร่างของผมไว้ แล้วแบกขึ้นบ่า
” เอ๋!!? “
ก่อนจะดีดตัวพุ่งไปข้างหน้าอย่ารวดเร็ว
” แล้วคุณแฟนธ่อมล่ะ!? “
” ไม่ต้องห่วงหัวหน้าหรอก!! “เกเบรียล
ผมมองตามคุณแฟนธ่อมขณะที่ตัวเองอยู่กลางอากาศ เขาดูไม่ค่อยจะร้อนเนื้อร้อนตัวอะไรเลย แถมยังหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกต่างหาก
ฟู่ว~
” เฮ้อ วุ่นวายวุ้ย เพราะงี้ไงถึงไม่อยากออกมานอกค่ายสักเท่าไหร่ “แฟนธ่อม
ร่างของเขากลายเป็นเพียงร่างเงาสีดำ ก่อนจะพุ่งตัวออกไปไกลกว่าที่เกเบรียลทำได้ซะอีก
คงเป็นเพราะพลังนี้แหละ ที่ทำให้เขาได้ชื่อว่าแฟนธ่อม
ก่อนที่เขาจะกลับมาเป็นร่างเดิมในเวลาต่อมา
” นี่คุณทำแบบนี้ได้ด้วยหรอครับ!? “
” อ่า เป็นการพุ่งระยะสั้นๆน่ะ ตอนนี้ติดคูลดาวน์อยู่ ประมาณ 0.5 วิ “แฟนธ่อม
มีการติดคูลดาวน์ด้วยแฮะ
” เหนื่อยไหมครับ? “
” ไม่ “แฟนธ่อม
ผมถามเขา ขณะที่ผมถูกแบกโดยสตรีสุดแกร่งนามว่าเกเบรียล นี่ขนาดหล่อนแบกผมที่มีน้ำหนักอยู่พอตัว แล้วความเร็วยังไม่ตกลงเลยเนี่ย จะแกร่งเกินไปแล้ว!
” ควรจะถามชั้นสิ ไม่ใช่หัวหน้า.. “เกเบรียล
อย่างที่เธอพูด ผมควรจะแสดงความเป็นห่วงต่อเธอที่อุตส่าแบกผมมาซะไกล แต่ก็นะ ขอเอาคืนเรื่องที่ว่าผมช้าก็แล้วกัน
” ค้าบ เหนื่อยไหมคับคุณเกเบรียล “
” ตอแหลซะไม่มี “เกเบรียล
” อ้าวเฮ้ย!? แล้วจะให้พูดทำมะเขืออะไรฟะ!!”
” ค่า ค่า~ แค่อยากได้ยินค่า~ “เกเบรียล
” สนิทกันเร็วดีนะ “แฟนธ่อม
” ” ไม่ใช่สักหน่อย/ไม่ได้สนิทค่ะ !!! ” “
” ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า “แฟนธ่อม
ยิ่งคุยกับหล่อนมากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งคิดถึงพวกเพื่อนๆ อย่างเมเดียร์ จือหนาน วิกตอเรีย แล้วก็คนอื่นๆ และที่สำคัญมันทำให้ผม.. คิดถึงลูซี่ มากยิ่งขึ้นเท่านั่น
นิสัยของพวกเธอเหมือนกันอย่างกับแกะ ยกเว้นเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกน่ะนะ บอกตามตรง ว่ายัยเกเบรียลนี่น่ะ โคตรจะขี้บ่นเลย เหมือนลูซี่เป๊ะ
” ชิ นิสัยน่าโมโหเหมือนตอนที่เจอลูซิเฟอร์ครั้งแรกเลยยัยนี่ “
ทันทีที่ผมพูดถึงลูซี่ หูเธอก็ถึงกับผึ่งมาทางนี้อย่างไว
” อะไรนะ!? แกรู้จักพี่ใหญ่ด้วยหรอ!? “เกเบรียล
” เออสิ! ยัยนั่นทำชั้นเกือบตายมารอบนึงแล้วนะ!! “
” ฮ่าฮ่าฮ่า!! สมน้ำหน้า!! “เกเบรียล
ตอนแรกก็เท่อยู่หรอกนะสำหรับยัยคนนี้ แต่พอเริ่มรู้จักกันมากขึ้น.. ยัยนี่แม่ง น่าหงุดหงิดชะมัด!
” แล้วก็, ลงไปวิ่งเองได้แล้วย่ะ!! ฮึบ!! “เกเบรียล
“ว- เหวอ!!!? “
เกเบรียลโยนผมไปข้างหน้า ด้วยพละกำลังที่มีมากมายมหาศาล บวกกับองศาที่พอเหมาะ นั่นทำให้ผมลอยปลิวไปไกลลิบเลย
เชี่ยเอ้ยย!!
ตุบ!!
” เจ็บวุ้ย.. “
ก่อนที่ผมจะลงจอดด้วยการเอาหน้าทิ่มพื้น มันทั้งเจ็บและน่าคับแค้นใจ แต่ผมก็ทำอะไรกับมันไม่ได้ แถมตอนจะลุก ก็ยังทรงลำบากอีกต่างหาก
นี่หล่อนจะไม่ใจดีกับคนที่ไม่มีแขนคนนี้เลยใช่ไหมเนี่ย?
” เอ่อะ เหี้ยละ “
ข้างหน้าผมคือซอมบี้อีกฝูงหนึ่ง
เป็นเรื่องแปลกที่พวกมันจะเข้าในป่าลึกขนาดนี้ได้ แต่ยังไงก็เถอะ พวกมันก็ยังไร้สติและมีหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนเดิม
” เห้ยๆๆ เอาจริงดิ “แฟนธ่อม
แม้แต่คุณแฟนธ่อมเอง ก๋ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีพวกมันดักอยู่ข้างหน้าเราเหมือนกัน
“ ล้อมหน้าล้อมหลังเลยค่ะหัวหน้า!! ”เกเบรียล
“ นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอซอมบี้ฉลาดนี้ใช่ไหมครับคุณแฟนธ่อม! ”
“ เออ มันก็พอมีบางตัวที่ฉลาดขนาดนี้อ่ะนะ ”แฟนธ่อม
“ แล้วเราต้องทำไงต่อไปล่ะเนี่ย!! ”
“ เยอะขนาดนี้คงสู้ไม่ไหวล่ะ- ตอนนี้ได้แต่รอความช่วยเหลือแล้วมั้ง ”แฟนธ่อม
เขาแตะที่บริเวณหูซ้ายของตัวเอง คล้ายว่าเครื่องส่งสัญญาณของเขาอยู่ตรงนั้น ก่อนที่มันจะได้ส่งข้อความไปหาพันธมิตรที่อยู่ใกล้พวกเราที่สุดทันที
” หยิบอาวุธของพวกแกขึ้นมา! เตรียมรับแรงปะทะ!! “แฟนธ่อม
พวกเขาหยิบปืนขึ้นมาคนละกระบอก พวกมันเหมือนกับอาวุธประจำตัวของพวกเขาเวลาที่ต้องออกมาสำรวจข้างนอกนี่
” แล้วผมล่ะ!? “
” เอ้า-! “เกเบรียล
เกเบรียลโยนกล็อกมาให้ผม ..มันเป็นปืนพกขนาดพอดีมือที่.. เหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรในสถานการณ์แบบนี้เลยสักนิด
พวกมันยกโขยงกันมาเป็นร้อย แต่ผมกลับได้กล็อกที่มีกระสุนสำรองไว้ไม่เกินยี่สิบนัด นอดเยี่ยมจริงๆแม่คุณ
” อย่างน้อยก็ขอดาบเบ่มนั้นไม่ได้รึไง! “
” ไม่ให้ย่ะ!! “เกเบรียล
” แล้วมีอย่างอื่นอีกมั้ยอ่ะ!!! “
ขณะที่กำลังเถียงกันอยู่ พวกซอมบี้ก็ยิ่งพากันเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้นเรื่อย ด้วยความเร็วที่ไม่ตกลงเลยสักนิด
” ไหนว่าแรงโน้มถ่วงเอาอยู่ไงครับคุณแฟนธ่อม!! “
ผมหันไปพูดกับคุณแฟนธ่อมขณะที่เกเบรียลกำลังหาอาวุธระยะประชิดดีๆให้
“โทษทีละกัน ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะพากันมาเยอะขนาดนี้ “แฟนธ่อม
เขาก็ยังทำตัวชิลๆเหมือนเดิม
นี่ไม่คิดจะร้อนใจหน่อยรึไงเนี่ยคนๆนี้
” รับไป! ” เกเบรียล
แล้วหล่อนก็โยนมีดเล่มหนึ่งมาให้ผม
” มาเชเต้ได้ใช่ไหม! “เกเบรียล
” ได้! ขอบคุณหลายๆ !! “
ตอนนี้พวกซอมบี้อยู่ในระยะไม่เกิน 30 เมตรจากพวกเรา และยังเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ผมเก็บกล็อกกระบอกนั้นไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหันมาใช้มีดแทน
แม้จะต้องระวังหน่อย แต่ก็ดีกว่าเสียอาวุธที่มีพลังทำลายล้างสูงไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่พวกเราจะเข้าปะทะกับพวกมัน ผมมีอาการเกร็งและมือสั่นนิดหน่อยล่ะ
เป็นเพราะความตื่นเต้น และสยองกับท่าทางของพวกมันมากเกินไปเลยทำอะไรไม่สะดวก
ผมต้องใจเย็นให้มากกว่านี้
แต่ก็นะ ถือว่าโชคดีที่ผมยังสามารถใช้พลังจิตได้เลยนะเนี่ย ถ้าไม่นับเรื่องที่พลังทั้งหมดที่อยู่บนตัวของผมถูกดีดออกไปจนหมดน่ะนะ
ผมเลยยังสามารถใช้สุดยอดทักษะได้อยู่ล่ะ
ART – ดุจแสงศักดิ์สิทธิ์
แม้บนตัวผมจะไม่เหลือรอยศักดิ์ที่เป็นตัวบ่งบอกถึงพลังของทูตสวรรค์ใดๆเลยก็ตาม
ผมก็ยังสามารถใช้พลังเหล่านั้นผ่านจิตได้อยู่ล่ะ
แม้แต่เกเบรียลเองก็ยังตาค้างกับสิ่งที่ตนเห็น แสงสีทองส่องสว่างออกมาจากมีดเล่มนี้ด้วยทักษะของเผ่าพันธ์เดียวกับเธอเอง
ทำลายล้าง(ระดับต่ำ)
ผมวาดวิถีของมีดออกไปเป็นรูปจันทร์เสี้ยว ก่อนที่เส้นวิถีจะส่องแสงสว่างแล้วล้างบางเหล่าซอมบี้ที่อยู่ในระยะทันที
แต่มันก็ไม่ได้แรงแบบเว่อร์วังเหมือนเมื่อก่อนหรอก ในตอนนี้แค่จัดการซอมบี้ไปได้แถวเดียวก็เหลือแหล่แล้วล่ะสำหรับท่านี้
” เจ๋งดีนี่บี๋ “แฟนธ่อม
” ใช่เวลามาชมไหมครับเนี่ย!! “
“ว่าก็ว่าเถอะ เหลือแขนแค่ข้างเดียวแล้วยังทำได้ขนาดนี้นี่ ถือว่าไม่เลวเลยนะ! “เกเบรียล
” อึ่ก- ขอบคุณ “
ถึงจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่เธอพูดเกี่ยวกับแขนซ้ายนี้ แต่ก็ต้องรับคำชมเธอไว้อย่างเต็มใจล่ะนะ
” สิ้นหวังเลยนะเนี่ย “แฟนธ่อม
ถึงผมจะกวาดพวกมันได้ได้บางส่วน แต่ก็ยังเหลือพวกมันอีกเป็นร้อยที่กำลังมุ่งตรงมาทางนี้
” เกเบรียล เธอบินไม่ได้หรอ!? “
เมื่อผมหันไปถามเธอ เธอก็หลบหน้าผมทันที หากสังเกตดีๆจะเห็นว่ามีเหงื่อไหลออกมามากบริเวณต้นคอ เธอคงกำลังกังวลอยู่แน่ๆ
” ไม่ได้ผลหรอกน่า เกเบรียลเป็นทูตสวรรค์ก็จริง แต่เธอไม่มีปีกแล้วล่ะ “แฟนธ่อม
” ว่ายังไงนะ.. !? “
ทูตสวรรค์ที่ไม่มีปีก หรอ?
คงไม่ใช่ว่าเธอมีปีกตั้งแต่แรก แต่ถูกตัดออกไปมากกว่า.. โดยฝีมือของ ซาตาน หรอ?
ก็ว่า ทำไมพูดถึงเรื่องนั้นเจ้าตัวถึงจิตตกถึงขนาดนั้น แย่ล่ะ รอบตัวผมมีแต่คนไม่เต็มล่ะตอนนี้ คุณแฟนธ่อมอ่ะชิลเกินเหตุ ส่วนเกเบรียลก็ PTSD จะคิดยังไง ผมก็นึกไม่ออกเลยว่าเราจะรอดยังไง
ขอเหอะ ใครก็ได้ มาช่วยเราที!!!
ตู้มม!!!
ตู้มมม!!!
ทันทีที่พวกซอมบี้เข้ามาประชิดตัวเรา ก็ได้มีหอกแสงที่ไหนไม่รู้กระหน่ำพุ่งลงมาจากฟากฟ้าราวกับขีปนาวุธร้ายจากเครื่องอากาศยาน
” ทันเวลาเป๊ะเลยแฮะ “แฟนธ่อม
” คุณแฟนธ่อม.. คุณตามใครมากันแน่เนี่ย “
ผมเงยหน้าขึ้นไปมองบนฟ้า และข้างบนนั้นมีกลุ่มคนติดปีกนางฟ้าสีทองบินอยู่ และคนที่เป็นดูจะเป็นหัวหน้านั้นมีปีกถึง 3 คู่ในครอบครอง
นั่นอะไรน่ะ?
” หนึ่งในอดีตเพื่อนร่วมงานล่ะนะ “แฟนธ่อม
หลังจากนั้นพวกเจาก็ค่อนๆร่อนตัวลงมาจนถึงพื้น และกำจัดซอมบี้ที่เหลือทั้งหมดทิ้งในพริบตา
และสิ่งที่ผมได้เห็น จะมีแค่แสงสว่างระยิบระยัย อันเลือนลางก็เท่านั้น
เสร็จเรื่องแล้ว หัวหน้าของพวกเขาก็ได้มายืนอยู่ต่อหน้าพวกเรา.. และผมก็ไปหลบอยู่หลังเกเบรียลล่ะ
และจริงๆแล้ว.. คนที่เผชิญหน้ากับพวกเขามีแค่คุณแฟนธ่อมอ่ะนะ
” มาได้ทันเวลาพอดีเลยล่ะ แองเจลิก้า “แฟนธ่อม
… ภาษาอังกฤษ?
หวังว่าสกิลแปลภาษาอัตโนมัติของผมจะทำงานนะ
” … รุ่นพี่ยังทำตัวอิสระเหมือนเคยเลยนะคะ คุณก็รู้ว่าข้างนอกมันอันตรายขนาดไหน อย่างคุณจะออกมานานมากๆไม่ได้นะคะ”แองเจลิก้า
ผู้หญิงคนนั้น..ออร่าภายนอกของเธอเหมือนกับลูซี่เลยแฮะ เป็นคนที่มีออร่าสูงส่งตั่งแต่แรกที่ได้พบเลย เธอมีผมเรียบตรงสีทองระยิบระยับและดวงตาสีฟ้าเหมือนกับขอบฟ้าแห่งท้องทะเล
เรียกได้ว่าเป็นคนที่สวยคนหนึ่งเลย
แต่ตาของเธอออกจะคม และน่ากลัวไปหน่อย.. ทว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยนี่ที่ผมได้เจอคนที่มีสายตาคมกริบแบบนี้น่ะ
” ฮ่าฮ่า ขอโทษละกัน อ้อ จริงสิ นี่คือผู้รอดชีวิตคนใหม่ที่เจอมาระหว่างทาง “แฟนธ่อม
แล้วคุณแฟนธ่อมก็หันมาทางผม ตามด้วยสายตาที่ตกตะลึงของเธอ
” รุ่นพี่.. ไม่ใช่ว่า?.. “แองเจลิก้า
” ใช่เลยแองจี้ เขาหน้าตาเหมือนฉันเมื่อก่อนเด๊ะ “แฟนธ่อม
” จริงด้วย.. ” แองจี้
” อย่าจ้องมากได้มั้ยครับ.. น่ากลัวนะ “
” ขนาดตอนกวนก็ยังเหมือน “แองจี้
ห๊ะ? เหมือนเป๊ะขนาดนั้นเลยหรอ?
” แนะนำตัวสิ “เกเบรียล
” อ๊ะ!? ตอนนี้เลยหรอ? .. ก- ก็ได้ ผมบี๋คับ “
เกเบรียลมองหน้าผมด้วยสายตาที่น่ากลัว ราวกับว่าหล่อนกำลังข่มขู่ผมอยู่เลย..
” อะแฮ่ม ชั้นแองเจลิก้า ครอสฟิลด์ หัวหน้าหน่วยลาดตระเวน “แองจี้
[ PARADISER – แองเจลิก้า ]
” ชั้นชอบคุณแฟนธ่อม “แองเจลิก้า
ทันทีที่พูดถึงชื่อคุณแฟนธ่อม เธอก็ยิ้มขึ้นอย่างสดใสทันทีเลย เอ… แล้วเธอจะบอกผมทำไมหว่า
” ..เอาอีกแล้ว.. ” ลูกน้อง1
” หัวหน้าผู้คลั่งรักกำลังจะล้างสมองเด็กใหม่ล่ะ “ลูกน้อง2
ผมเงยหน้าขึ้นมามองเกเบรียล ซึ่ง… แววตาเธอก็ไม่ต่างจากผมตอนนี้เลย แบบว่า.. นี่ตูควรจะพูดอะไรดีเนี่ย
” แนะนำตัวกันเสร็จรึยัง? จะกลับค่ายกันเลยไหม? “แฟนธ่อม
” ค่ะ!! เดี๋ยวฉันพากลับนะคะรุ่นพี่!! “แองจี้
” ไม่ต้องรีบนักก็ได้ ฮ่าฮ่า “แฟนธ่อม
… ว้าว ดูท่าทางนั่นสิ
เหมือนว่าจะชอบแสดงออกด้วยนะนั่น เปิดตัวมาซะเท่ ดันมาตกมาตายตอนจบซะนี่
” หวังว่าเราจะเข้ากันได้นะ เกเบรียล “
” แต่ชั้นคิดว่าเราอาจจะญาติดีกันไม่ได้เลยมากกว่า.. “เกเบรียล
” เอ้า ไหงงั้น? “
” ชั้นเหม็นขี้หน้าแก “เกเบรียล
” … เหมือนกัน “
ส่วนทางผม ผมกำลังจะวางมวยกับเกเบรียลล่ะ..
ฮ่าฮ่าฮ่า
แล้วก็
ตัดจบตอน