ตัวของผมในต่างโลก.... แม่งบ้า!!! - บทที่ 2 ตอนที่ 72 ส่งท้ายความสุข เผชิญหน้ากับนรก (4)
- Home
- ตัวของผมในต่างโลก.... แม่งบ้า!!!
- บทที่ 2 ตอนที่ 72 ส่งท้ายความสุข เผชิญหน้ากับนรก (4)
ตัดมาทางพวกของราชาที่อยู่ในกราซ่าร์
“ สถานการณ์ล่ะอีครอส? ”ราชุระ(ราชา
” อ่า พลเมืองปลอดภัยทั้งหมด โชคดีที่เด็กนั่นช่วยลากสัตว์ประหลาดตัวนั้นออกไปให้ เลยง่ายต่อการที่จะปกป้องประชาชน “อีครอส(ดยุคอาเธน่อน)
” ด้านบาเรียเราก็กางออกไปเท่าที่จะทำได้แล้ว และเมื่อได้รวมกับเขตแดนป้องกันที่แข็งแกร่งของท่านเฉินแล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรที่สามารถเข้ามาในกราซ่าร์ได้ นอกเสียจากเธอคนนั้น(ซาตาน) “อีครอส
ตอนนี้ทุกคนที่ยังมีสติอยู่ได้ช่วยกันกางอาณาเขตปกป้องกราซ่าร์แห่งนี้ไว้ ที่ซึ่งเป็นสถานที่ที่รวมทุกคนเอาไว้ในที่เดียว อละหัวหอกในการสร้างบาเรีย ล้อมรอบกราซ่าร์นี้ไว้เลยก็คือกษัตริย์อย่างราชุระ
เขาสั่งให้ดยุคอาเธน่อน และคนอื่นๆที่ประจำการอยู่ที่นี่ใช้เวทมนตร์ในการกางอาณาเขตขนาดใหญ่ และต้องทำให้มั่นใจด้วยว่ามันจะต้องใหญ่และแข็งแกร่งพอที่จะป้องกันพวกเขาจากความพินาศข้างนอกได้ระดับหนึ่ง
โดยสิ่งที่แลกมากับการวางเขตแดนขนาดใหญ่นี้นั้นคือสมบัติระดับราชวงศ์หนึ่งชิ้น
มันคือ กำไลแห่งความรุ่งโรจน์ แรงก์ A++
เป็นอาร์ติแฟกส์ที่ถูกค้นพบโดยตัวราชาเอง แล้วก็ถูกเขาตีบวกขึ้นมาอีกรอบหนึ่งจนมันมีความสามารถในการใช้เป็นเครื่องรางป้องกันที่มีประสิทธิภาพได้
แถมมานายังไหลผานเจ้านี่ได้ดีสุดๆ จึงทำให้เกิดอีกความสามารถของมันเลย ก็คือ การที่มันใช้ทำเป็นแก่นกลางของข่ายเวทมนตร์ได้ยังไงล่ะ
” สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นะราชุระ “เฉินเซียน
” พี่เซียน?, อืม ค่อนข้างแย่เลยล่ะ น่าเสียดายที่คนมีอายุอย่างพวกเราไม่สามารถไปช่วยเด็กๆเหล่านั้นได้เพราะต้องอยู่ปกป้องเหล่าบริวาร “ราชุระ
” แต่ที่เรากู้วิกฤต กลับมาให้เป็นปกติได้ก็ต้องขอขอบคุณท่านอย่างใจจริงเลยครับองค์จักรพรรดิ “ราชุระ
” เหอะ มิได้หรอกน้องรันชาร์ ถือว่าข้าตอบแทนที่คนของเจ้าดูแลธิดาของข้าให้ก็แล้วกัน “เฉินเซียน
” อีกอย่าง ข้าเองก็เป็นแขกรับเขิญ หากมิได้แสดงอะไรหน่อยก็คงเหงาแย่ “เฉินเซียน
” อืม “ราชุระ
ด้านในกราซ่าร์นั้นปกติดีทุกอย่าง ราชุระผู้เป็นกษัตริย์ของประเทศได้ใช้พลังส่วนหนึ่งของตนเองในการกางเขตแดนป้องกันขึ้นมา
เมื่อผนวกรวมเข้ากับค่ายกลของจักพรรดิเฉินแล้ว เจ้าสิ่งนี้จะไม่มีทางถูกทำลายลงมาได้ง่ายๆเลย
“ พวกเราทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากรอให้คนคนนั้น(กอร์)ช่วยพวกเด็กๆให้ปลอดภัย ”เฉินเซียน
“ แรงกดดันจากการปะทะกันข้างนอกมันมากเกินกว่าที่พวกเราจะออกไปได้โดยที่ไม่เป็นอะไรเลย ”เฉินเซียน
แม้แต่ตัวของจักรพรรดิผู้เป็นที่สุดของความแข็งแกร่งในดินแดนทางตะวันออกเองก็ยังหวั่นเกรงกับพลังอันชั่วร้ายของซาตานที่ได้ปกคลุมอาณาจักรนี้อยู่
ตึง!!!
ยังไม่ทันขาดคำ คลื่นจากการปะทะกันของไอ้บี๋และซาตานก็ได้ซัดมากระทบกับเขตแดนจนสั่นสะเทือนอีกครั้ง การต่อสู้ของทั้งสองคนนั้นราวกับผู้แข็งแกร่งอย่างยิ่งยวดสองคนในอดีตมาพบกัน
สร้างความชิบหายให้กับรอบข้างของพวกเขา ไม่เว้นแม้แต่พวกพ้องของตนเอง และสถานที่ที่ผู้แข็งแกร่งทั้งสองได้ปะทะกันก็จะกลายเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์เท่านั้น
แม้ว่าเรื่องนั้นจะน่าเจ็บใจ สำหรับกษัตริย์ที่ต้องเสียประเทศของตนไปสักหน่อย ก็ยังดีกว่าที่จะให้พวกเขาทำลายที่นี่จนไม่เหลืออะไรเลยล่ะนะ
แล้วถึงแม้ว่าความเสียหายมันจะหนักหนาสาหัสถึงปานนั้นจริง ที่นี่ก็ยังมีสุดยอดจอมเวทสายรักษาที่สามารถคืนสภาพทุกสรรพสิ่งให้กลับเป็นดังเดิมได้อยู่..
“ แม้ว่าอาณาจักรของข้าจะต้องล่มสลาย.. ข้าก็ต้องปกป้องประชาชนไว้.. ”ราชุระ
“ ถึงแม้ว่าข้าอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากองค์หญิงของอารุฟานก็ตาม.. ”ราชุระ
“ พูดถึงวิเวียน แห่งเจเนซิสรึ? ”เฉินเซียน
“ ครับ วิเวียนแห่งเจเนซิสผู้ที่เป็นถึงจอมเวทระดับกึ่ง 11 มีสกิลหนึ่งที่เรียกว่า เวลา เป็นสกิลระดับสูงเลย ”ราชุระ
“ ข้าพอจะเข้าใจจุดประสงค์ของเจ้าแล้วล่ะ …แต่เอาเถอะ แค่ธิดาข้าไม่เป็นอะไรก็พอ ”เฉินเซียน
“ ถ้ามีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นมาจริงๆ.. เห็นทีข้าคงต้องลงมือด้วยตัวเอง ”เฉินเซียน
จากนั้นสิ่งที่พวกเขาทั้งสองคนทำได้ก็คือการรอ รอให้ทุกอย่างมันจบลง ด้วยมือของคนรุ่นใหม่เอง เพื่อเป็นการประเมินอนาคตของประเทศ และเพื่อฝึกฝนพวกเขาต่อสถานการณ์ที่อาจจะถึงตายโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้น นี่คือโอกาสอันดีที่พวกเด็กๆของอ็อคตาเซียจะได้แสดงศักยภาพของตนออกมาอย่างเต็มที่
…
[ เมเดียร์ ]
ไม่ต่างจากทางด้านของหมอนั่น ตอนนี้พวกเราประเคนสกิลที่มีใส่เจ้าตัวประหลาดนี่ไปหมดแล้ว ไม่มันก็ยังไม่ยอมตายสักที.. จนตอนนี้บ้านเมืองโดยรอบมีเพียงแค่ซากปรักหักพังมันก็ยังยืนยิ้มหน้าตาเฉย
“ พวกแกฆ่าข้าไม่ได้หรอก ”มอนเดรย์
“ อวดดีชะมัด ”
ยังไงซะก็เหลืออีกตั้ง 3 นาทีกว่าสกิลเซเลสเชียล บีอิ้งจะหมด ฉันควรรีบๆจบการต่อสู้ที่น่ารำคาญนี่ให้เร็วที่สุด ไม่งั้นจะเป็นทางฝั่งของพวกเราเองที่จะแย่
แต่ว่าไอ้การฟื้นฟูฉันพลันของไอ้นี่มันก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย.. แบบว่าพอมันไม่ตายแล้ว รู้สึกสะใจสุดๆ เหมือนได้ระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ออกไปหมดเลยล่ะ
“ วิกตอเรีย ไปสมทบกับคนอื่นซะ ไอ้เวรตัวนี้ชั้นจะเล่นกับมันเอง ”
“ ไหวหรอคะ เมดี้? ”วี
“ ไหวชิว~ ”
“ เอางั้นก็ได้ค่ะ ”วี
พอวิตอเรียได้ออกไปจากที่นี่ระยะหนึ่งแล้ว ฉันก็เริ่มร่ายบทสวดบางอย่างทันที
” เบก์กอร์ เบก์กินน์ เบก์อิมม์ – นอก์กรีร์ “
ถ้อยคำพวกนั้นที่ฉันได้พูดออกมาคือภาษาโบราณทางเวทมนตร์ แปลได้ประมาณว่า
แด่อสูร แด่ผู้หิวกระหาย แด่ผู้ไม่ตาย – ตรึง
เป็นบทเวทโบราณวรรคนึงที่มีระดับเทียบเท่ากับพลังของจอมเวทขั้น 8 หรือสูงกว่าในปัจจุบัน
โดยเวทนี้จะกล่าวถึงการบูชายัญ เมื่อได้ร่ายออกมาแล้ว ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของเวทมนตร์จะถูกตรึงโดยตรวนแห่งกรรมในทันใด
แม้แต่วิญญาณก็มิอาจจะขัดขืนได้เลย
” !!! “มอนเดรย์
ถึงมันจะถูกตรึงร่างเอาไว้ มันก็ยังไม่ได้แสดงสีหน้าที่ดูตกใจอะไรขนาดนั้นออกมาเลย
” คาถาตรึงวิญญาณรึ.. ใช้ได้ “มอนเดรย์
” แต่ก็ได้เท่านั่นแหละ, หมดเวลาเล่นสนุกแล้วนังหนู “มอนเดรย์
เคล้ง!!
ขยี้โซ่กรรมด้วยแรงกายเพียวๆเลยเรอะ!?
ไอ้เจ้าบ้านี่.. มันแกร่งถึงขนาดนี้เลย? ดูท่า.. พลังระดับจอมเวทมนตร์ดำขั้นกึ่ง 11 จะไม่ใช่เล่นๆซะแล้วสิ
” มนตร์อสูร “มอนเดรย์
MAGIC X – มนตร์อสูร
” หลอมร่าง ผสานวิญญาณ!! “มอนเดรย์
รูปร่างของมันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จากที่คราแรกมีลักษณะคล้ายคลึงกับมนุษย์ พอหมอนี่ได้ใช้เวทมนตร์จองตัวเอง ตัวของมันใหญ่ขึ้นประมาณสามถึงสี่เท่าได้
บนตัวของมันมีเกล็ดสีดำงอกขึ้นมาเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลาน แถมหน้าตายังอุบาทว์ขึ้นเป็น กองเลยแน่ะ
แต่แลกมากับหน้าตาที่อัปลักษณ์ แรงกดดันที่ส่งออกมาจากตัวของมันมากกว่าเดิมอย่างเทียบไม่ติด เป็นเหมือนดั่งสัญชาตญาณของสัตว์ป่าดุร้ายที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อของตน
โฮกกกกกก!!!!!
ฉันไม่ปล่อยให้เวลาที่เหลืออยู่สูญเปล่า รีบใช้เวทมนตร์เพื่อเพิ่มศักยภาพของตัวเองเพื่อที่ตะเข้าไปจัดการมันในทันที
ANCIAN SPELL – บลูก์ดอสส์ (ปลูกฝัง)
เวทบทนี้สามารถปลูกฝังคุณสมบัติพิเศษหนึ่งอย่างได้ชั่วคราว และสิ่งที่ฉันเลือกคือ..
การเพิ่มมวล
มันอาจจะฟังดูธรรมดาไปสักหน่อย แต่เมื่อรวมเข้ากับความเร็วเหนือแสงของฉัน เมื่อฉันเพิ่มมวลของหมัดแบบฉับพลัน มันก็จะกลายเป็นการโจมตีเจาะเกราะแบบรุนแรงเลยทีเดียว
อีกทั้งยังมีหนึ่งสกิลของฉันที่เร่งพลังให้เกินขีดจำกัดได้ ฉะนั้น.. พลังนี้แหละ ขี้โกงง
” หึ “
” โฮกกกก!!! “มอนเดรย์
หลังจากที่ได้ลองเชิงกันมาครู่หนึ่ง แล้วฉันก็เปิดฉากวิ่งเข้าไปซัดมันในทันใด…
…
[ กอร์ ]
หลังจากที่กอร์ได้ช่วยพวกเด็กนักเรียนแถบนั้นหมดแล้ว เขาก็ต้องมาเผชิญหน้ากับโจทก์เก่า
” ไม่ได้พบกันนานเลยนะ กอร์ ” ?
รูปร่างเป็นชายวัยกลางคนที่ไว้เคราเล็กน้อย ตั้งแต่ช่วงลำตัวไปจนถึงขาของมันไม่ได้มีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่เลย อีกทั้งรอบด้านของมันมีสายระยางที่ปลายแหลมเป็นเหล็กแหลมคมตวัดไปมาอยู่
และพวกมันนั้นล้วนงอกออกมาจากหลังของมันทั้งสิ้น
” ข้าเคยถอนรากถอนโคนพวกแกไปหมดแล้วนะ.. ทำไมยังมีเหลือมาจนถึงตอนนี้ได้เนี่ย? “กอร์
” เพราะแกพลาดที่จะกำจัดข้าไปคนนึงไงไอ้อสูรโง่ ” ?
กอร์สัมผัสได้ถึงพลังที่น่าเหลือเชื่อของมัน ไอสังหารที่ปล่อยออกมามีมากพอที่พอจะทำให้กอร์ขนลุกได้บ้าง
” ก่อร่างสร้างฐานมาจนถึงตอนนี้ ตลอดสามพันปีที่ผ่านมา ในที่สุดแกก็บรรลุเดรัชฉานแล้ว? “กอร์
” เดรัชฉานเป็นแค่บันไดขั้นแรกเท่านั้น หลังจากนี้จะไม่มีใครหยุดข้าได้ ” ?
เดรัชฉาน คือชื่อเรียกของระดับพลังเฉพาะของลัทธิมอนเทียส เป็นระดับที่อยู่สูงที่สุดในหมู่สัตว์ปนะหลาด
โดยขั้นพลังของลัทธิจะแบ่งจากต่ำไปสูงได้เป็น สัตว์ร้าย,สัตว์นรก, และเดรัชฉาน
โดยเจ้ามอนเดรย์ที่สู้กับเมดี้อยู่ถูกจัดว่าเป็นประเภท สัตว์นรก ตามพลังและความแข็งแกร่งของมันเอง
และไอ้เวรตัวนี้ที่เผชิญหน้าอยู่กับกอร์ มันเป็นวัตถุโบราณที่มีความแข็งแกร่งถึงข่น เดรัชฉาน เรียกได้ว่าอันตรายที่สุดเลยก็ว่าได้
เพราะบนโลกนี้ยุคปัจจุบัน แทบจะไม่มีใครเลยที่พลังแตะไปจนถึงระดับจอมเวทขั้น 12 ได้ นอกจากตอนนี้ที่มีวิกตอเรียอยู่คนนึง อีกคนก็อาจจะเป็นจือหนานหรือไม่ก็พ่อของเธอตอนเอาจริงก็ได้?
” ตีมัวร์ ถ้าให้เทียบระดับแล้ว แกน่าจะอยู่ประมาณจอมเวทขั้นที่ 12 แล้วสิ? เหอะพลังแค่นี้คิดจะงัดกับข้ารึ? “กอร์
ฝุบ-
!!?
ฟูมมม!!!!
ออร่าของกอร์พุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า เกิดเป็นเสาพลังงานสีดำม่วงที่ความเข้มข้นของมันแทบจะทำให้ชั้นบรรยากาศพังทลายลงมา รังสีสังหารมุ่งเป้าไปที่ศัตรูของเขาเพียงผู้เดียว
” ไปฝึกมาใหม่ไป!!! “กอร์
เพียงแค่การระเบิดออร่าออกมารอบตัวของเขา ก็สามารถทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินระดับ 8.7 ริกเตอร์ได้เลย บ้านเมืองโดยรอบต่างก็ถล่มลงมาจนหมด เหลือเพียงแค่ซากปรักหักพังเท่านั้น
ถึงกระนั้นตีมัวร์ก็ยังคงไม่หวั่นไหว และยังยิ้มอยู่ได้โดยที่ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรมันเลย
” เหมือนกับเมื่อ 3 พันปีก่อนไม่มีผิด “ตีมัวร์
[ มอนเทียส – ตีมัวร์ ผู้นำลำดับที่ 1 ขั้นเดรัจฉาน(จอมเวทขั้น 12) ]
” แต่ดูเหมือนว่าพลังของแกจะหายไปส่วนนึงรึเปล่านะไอ้อสูร “ตีมัวร์
” ตัวแกที่มีพลังไม่เต็มร้อยเนี่ย จะเอาอะไรมาชนะข้าวะ!!!! ” ตีมัวร์
” เฟียนน์ก้า!!! “ตีมัวร์
GREAT ANCIAN MAGIC – FIANNCA
” เฟียนน์ก้า!!!! “กอร์
GREAT ANCIAN MAGIC – FIANNCA
เฟียนน์ก้า เวทเขตแดนระดับสูงสุด เป็นหนึ่งในบทเวทโบราณที่มีพลานุภาพสูงที่สุด การเปิดใช้เฟียนน์ก้านั้น ผู้ที่ร่ายจะต้องมีความเข้าใจในตนเองอยู่ในระดับตรัสรู้จึงจะมีประสิทธิภาะสูงที่สุด
ผู้ที่ใช้ได้จะเป็นจอมเวทที่ระดับสูงกว่า 12 ขึ้นไปทุกคน เพราะเป็นเรื่องยากที่จอมเวทระดับต่ำจะเปิดใช้งานเขตแดนที่ซับซ้อนล่ะนะ
และถึงแม้ว่ากอร์จะไม่ใช่จอมเวท แต่เขาก็มีความรู้ทางด้านนี้อยู่มากเลยทีเดียว
” เปิด!! นครแห่งสัตว์ร้าย!!! “ตีมัวร์
” เปิด!! สุสานเพลิงสงคราม!!! “กอร์
การเปิดใช้เขตแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งตนของทั้งสองคน ทำให้เขตแดนต้องทับซ้อนกันจนแยกออกจากกันในที่สุด
จนกระทั่งส่วนหนึ่งในอาณาจักรนี้ ก็ได้กลายเป็นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ซึ่งเป็นสถานที่ไว้ใช้ต่อสู้ในที่สุด
…
..
.
[ บี๋ ]
ตึง!!
เคล้ง-!
เคล้ง-!! ขวับ-
ตึง!! ตึง!!!
ตึงง!!!!
ทั้งผมและซาตานต่างก็ออกท่าใส่กันไม่ยั้ง โดยที่ไม่มีใครยอมใคร ซึ่งการปะทะกันแต่ละครั้งของเรานั้นรุนแรงพอที่จะทำให้อากาศสั่นไหว ไม่เว้นแม้กระทั่งการปัดป้องการโจมตี หรือการแพรี่
ทุกๆการฟาด ฟัน แทงที่ปล่อยออกไป ถูกซาตานปัดและแพรี่พร้อมสวนกลับมันได้ทั้งหมด
ทำให้ตอนนี้บนตัวของผมนั้น มีแต่แผลเป็นและรอยข่วนของซาตานเต็มไปหมด
” โอ๋ที่รัก~ ยิ่งแผลเป็นเยอะยิ่งดูดีนะ~ “ซาตาน
” … “
” เย็นชากันดีจัง น่ารักอ่ะ~ “ซาตาน
ยิ่งฟังก็ยิ่งฉงน ยิ่งมองหน้าหล่อนผมก็ยิ่งกลัว เธอเลียริมฝีปากอย่างเซ้ะซี่(?) พร้อมๆกับหายไปจากสายตาผมอย่างไร้วี่แวว
!!?
ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งข้างหลังผม แล้วเข้าโอบกอดร่างของผมอย่างอ่อนโยน มือปีศาจที่แข็งกระด้างของหล่อนค่อยๆลูบไล้ร่างของผมจากหน้าท้อง มายันใบหน้า
ก่อนที่ซาตานจะกัดกระชากคอของผมอย่างแรง
สวบ!!
” อ๊าากกก!!! “
” อร่อยจัง ~ <3″ซาตาน
ความเร็วแม่งเป็นของปีศาจจริงๆ!!
ซาตานทำให้ร่างกายของผมหยุดนิ่ง ก่อนที่หล่อนจะเริ่มชิม ร่างกายนี้ทันที..
ตัดจบตอน